การเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์

การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์

เป็นธรรมดาที่ผู้สอนศาสนาคนใหม่จะประสบความเครียดหรือความไม่สะดวกสบายบ้าง ท่านจะต้องเรียนรู้งานใหม่ พบคนใหม่ๆ และทำงานกับคนอื่นๆ ขณะฝึกทำสิ่งเหล่านี้ จงอดทน ท่านจะฝึกรับรู้พรของการอุทิศชีวิตแด่พระผู้ช่วยให้รอด จำไว้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะสถิตกับท่าน จะทรงช่วยท่านทำการเปลี่ยนผ่านนี้ จะทรงช่วยท่านปรับตัวให้เข้ากับหน้าที่รับผิดชอบใหม่ๆ ของผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์

การปรับตัวให้เข้ากับประสบการณ์ใหม่ๆ

ผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์เป็นเหมือนหลายคนที่เข้าสู่สถานการณ์ใหม่ หลายคนผ่านการปรับอารมณ์หลายขั้นตอนเมื่อพวกเขาเริ่มการรับใช้:

• ความมุ่งหวัง

  • ท่านอาจรู้สึกกระหายความท้าทาย (ดู 1 นีไฟ 3:7)

  • ท่านอาจรู้สึกเข้าใจจุดประสงค์และความภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าเพิ่มขึ้น (ดู 3 นีไฟ 5:13)

  • ท่านอาจรู้สึกมีความสุขและตั้งตารอพบคนใหม่และประสบสถานที่ใหม่ๆ

• การค้นพบสิ่งที่ไม่คาดฝัน

  • ท่านอาจเริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจรับใช้ของท่าน (ดู แอลมา 26:27)

  • ท่านอาจสังเกตเห็นอาการทางร่างกายของความเครียด เช่น นอนหลับไม่สนิท ความอยากอาหารเปลี่ยนไป หรือหงุดหงิด

  • ท่านอาจพบว่าตนเองวิพากษ์วิจารณ์กฎเกณฑ์และความคาดหวังของงานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่คาดคิด ท่านอาจไม่ต้องการทำตามกฎเกณฑ์ทั้งหมด

• “ฉันทำได้”

  • ท่านเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และความคาดหวังของงานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ด้วยความเต็มใจ

  • ท่านเรียนรู้ที่จะมีความอดทน (ดู อิสยาห์ 28:10; โมไซยาห์ 4:27)

  • อาการทางกายของความเครียดจะเริ่มลดลงถ้าท่านมี

• การพึ่งพาตนเองทางอารมณ์

  • ท่านรู้สึกสบายใจกับการทำกิจวัตรประจำวัน

  • ท่านรับรู้จุดแข็งและความก้าวหน้าของตัวท่าน

  • ท่านเข้าใจว่าการใช้ชีวิตทีละก้าวหมายความว่าอย่างไร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 98:12)

  • ท่านมีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้นและปรารถนาจะรับใช้มากขึ้น

สิ่งที่ท่านทำได้ตอนนี้

หาวิธีรับใช้ผู้อื่น งานเผยแผ่ของท่านคือการเรียกให้รับใช้ จดจ่ออยู่กับการมองข้ามความรู้สึกไม่สบายของท่าน ดูแลเอาใจใส่คนที่ต้องการคำพูดอ่อนโยน การกระทำที่เกิดจากจิตกุศล หรือมิตรภาพ

พูดคุยกับคนอื่นๆ เกี่ยวกับการปรับตัวของท่านให้เข้ากับงานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ จัดสรรเวลาพูดคุยหัวข้อต่อไปนี้กับพ่อแม่ ผู้นำฐานะปุโรหิต หรือเพื่อนๆ ที่เป็นอดีตผู้สอนศาสนา:

• พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกร้องให้คนมากมายทำสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถทำได้ ท่านสามารถเรียนรู้อะไรจากตัวอย่างในพระคัมภีร์? ท่านอาจจะศึกษา อพยพ 4:10–12; เยเรมีย์ 1:6–9; แอลมา 17:9–12; แอลมา 26:27; อีเธอร์ 12:23–27; โมเสส 6:31–32.

• เหตุใดการเข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาจึงสำคัญ? เหตุใดการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงสำคัญ? เหตุใดจึงควรออกกำลังกายเป็นประจำ? เหตุใดจึงควรสวดอ้อนวอนเป็นส่วนตัว?

• การเขียนบันทึกส่วนตัวจะช่วยท่านทั้งในช่วงความสำเร็จและความท้าทายได้อย่างไร?

• ท่านจะตอบสนองอย่างไรเมื่อความคิดหรือความรู้สึกกลัดกลุ้มไม่หายไป?

• จดจ่ออยู่กับการกระชับความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์ แสวงหาพระวิญญาณผ่านการสวดอ้อนวอนและการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว ฟังเพลงที่ยกระดับจิตใจ และอ่านปิตุพรของท่าน

• ใจดีกับตนเองและคนอื่นๆ พูดปลอบใจตนเองด้วยคำพูดที่อ่อนโยนตามที่ท่านคิดว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงใช้ จำไว้ว่าความคิดสิ้นหวัง หมดหวัง หรือตำหนิรุนแรงไม่ได้มาจากพระเจ้า

• คาดหวังสิ่งที่ไม่คาดฝัน ประสบการณ์ของท่านในฐานะผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์จะไม่เหมือนประสบการณ์ของผู้อื่น ทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่ท่านวางแผนไว้ พยายามเปิดรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อท่านจะสามารถทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์ให้ลุล่วงได้

จำไว้ว่าพระวิญญาณจะสถิตกับท่านขณะที่ท่านทำการเปลี่ยนผ่านนี้และจะช่วยท่านปรับตัวเข้ากับหน้าที่รับผิดชอบใหม่ๆ ของท่าน

“และผู้ใดที่รับเจ้า, ที่นั่นเราจะอยู่ด้วย, เพราะเราจะไปเบื้องหน้าเจ้า. เราจะอยู่ทางขวามือเจ้าและทางซ้ายเจ้า, และพระวิญญาณของเราจะอยู่ในใจเจ้า, และเหล่าเทพของเราห้อมล้อมเจ้า, เพื่อประคองเจ้าไว้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:88)

สรุป

จำไว้ว่าชีวิตท่านในฐานะผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโชน์จะต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้ แต่พระเจ้าจะประทานรางวัลและอวยพรท่าน พัฒนาเจตคติที่ดี ใช้ศรัทธาในพระเจ้า จงอดทนกับตัวท่านเองและคนอื่นๆ จดจำคำแนะนำที่ประทานแก่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ: “จงรู้ไว้เถิด, ลูกพ่อ, ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์แก่เจ้า, และจะเกิดขึ้นเพื่อความดีของเจ้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 122:7)