โมโรไน 10:26–34

“จงมาหาพระคริสต์”

เราถูกส่งมาแผ่นดินโลกเพื่อเรียนรู้และเติบโตเพื่อเราจะได้รับชีวิตนิรันดร์ พระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์เพื่อช่วยเรา และทรงเรียกศาสดาพยากรณ์เพื่อสอนและเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ ในข้อท้ายๆ ของพระคัมภีร์มอรมอน โมโรไนเชื้อเชิญให้ทุกคนติดตามพระผู้ช่วยให้รอด บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่าน “มาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์” (โมโรไน 10:32)

จุดประสงค์ของพระคัมภีร์มอรมอน

ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าจึงประทานพระคัมภีร์มอรมอนแก่เรา?

วันนี้ท่านจะได้ศึกษาข้อท้ายๆ ของพระคัมภีร์มอรมอน ขณะศึกษา ให้นึกถึงจุดประสงค์และพรของพระคัมภีร์มอรมอน

ใน ปกในของพระคัมภีร์มอรมอน โมโรไนประกาศว่าพระคัมภีร์มอรมอนเขียนขึ้นเพื่อให้เรามั่นใจว่า “พระเยซูคือพระคริสต์” คำว่า “พระคริสต์” “ซึ่งเป็นภาษากรีกมีความหมายเดียวกันกับ พระเมสสิยาห์ ความหมายของคำนี้คือองค์ศาสดาพยากรณ์ผู้ได้รับการเจิม, องค์ปุโรหิต, กษัตริย์, และพระผู้ปลดปล่อย” (คู่มือพระคัมภีร์, “พระเมสสิยาห์” scriptures.ChurchofJesusChrist.org)

• การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างความเชื่อของท่านในพระเยซูคริสต์อย่างไร?

• การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้ท่านทำตามพระเยซูคริสต์อย่างไร?

• ท่านรู้สึกอย่างไรในขณะนี้ที่ท่านพยายามติดตามพระองค์?

คำเชื้อเชิญสุดท้ายของโมโรไน

หลังจากสอนเกี่ยวกับของประทานแห่งพระวิญญาณและเตือนถึงผลของความไม่เชื่อแล้ว โมโรไนพูดถึงพระคัมภีร์มอรมอน

อ่าน โมโรไน 10:27–29 โดยมองหาสิ่งที่โมโรไนพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้น

• ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับการพบโมโรไนที่บัลลังก์พิพากษา?

จากนั้นโมโรไนกล่าวกระตุ้นหรือคำเชื้อเชิญครั้งสุดท้าย

อ่าน โมโรไน 10:30–34 โดยมองหาสิ่งที่โมโรไนเชื้อเชิญให้เราทำและพรที่สัญญาไว้

ศึกษาคำเชื้อเชิญอย่างน้อยสองครั้งและคำสัญญาสองครั้งจาก โมโรไน 10:30–34 แผนภูมิต่อไปนี้ช่วยได้ อาจเป็นประโยชน์ที่จะเขียนรายการพระคัมภีร์เพิ่มเติมและสิ่งช่วยศึกษาในพระคัมภีร์ถัดจากวลีเฉพาะของ โมโรไน 10:30–34 ท่านอาจศึกษาคำเชื้อเชิญหรือคำสัญญาอื่นๆ ที่พบใน โมโรไน 10:30–34 ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในแผนภูมิด้วย

สิ่งที่เราต้องทำ (คำเชื้อเชิญของโมโรไน)

สิ่งที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญา

สิ่งที่เราต้องทำ (คำเชื้อเชิญของโมโรไน) ยึดมั่นในของประทานที่ดีไว้ทุกอย่าง (ดู โมโรไน 7:19; หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:7) หลีกเลี่ยงการขอของประทานที่ชั่วและสิ่งไม่สะอาด (ดู 2 นีไฟ 4:27–28; มอรมอน 9:28) ปฏิเสธตนจากความไม่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทุกอย่าง (ดู งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 16:25–29; โมไซยาห์ 3:19) รักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง ความนึกคิด และพละกำลังของเรา (ดู มัทธิว 22:36–38; ออมไน 1:26)

สิ่งที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญา พระคุณของพระองค์เพียงพอและทำให้เราดีพร้อมได้ (ดู 2 นีไฟ 10:24; 25:23; อีเธอร์ 12:27; คู่มือพระคัมภีร์, “พระคุณ,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org) เราจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และรับการปลดบาปของเรา (ดู 3 นีไฟ 27:20; หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:41; คู่มือพระคัมภีร์, “ทำ (ชำระ) ให้บริสุทธิ์ (การ),”scriptures.ChurchofJesusChrist.org) เราจะบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน (ดู เลวีนิติ 19:2; หลักคำสอนและพันธสัญญา 87:8; คู่มือพระคัมภีร์, “บริสุทธิ์, ศักดิ์สิทธิ์,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org)

1. ตอบคำถามต่อไปนี้:

   • คำเชื้อเชิญหรือคำสัญญาใดมีความหมายต่อท่านมากที่สุด เพราะเหตุใด?

   • การทำตามคำเชื้อเชิญเหล่านี้จะช่วยให้ท่านมาหาพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร?

   • เราเรียนรู้หลักธรรมอะไรได้บ้างจาก โมโรไน 10:30–34?

หลักธรรมข้อหนึ่งที่เราเรียนรู้คือ เมื่อเรามาหาพระเยซูคริสต์ เราจะได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์

“จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์”

ท่านอาจต้องการรับชมวีดิทัศน์ “มาหาพระคริสต์: เพลงสาระสำคัญประจำปี 2014” (4:48) ที่ ChurchofJesusChrist.org ไตร่ตรองว่าพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดช่วยท่านอย่างไรในยามลำบาก

Come unto Christ: 2014 Theme Song

2. ตอบคำถามต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งข้อ:

   • พระเยซูคริสต์ทรงทำอะไรเพื่อเราจะได้รับสัญญาใน โมโรไน 10:30–34 และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์?

   • ท่านเห็นพระคุณ (ความช่วยเหลือหรือพลังจากสวรรค์) ของพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์กำลังเกิดผลในชีวิตท่านอย่างไร?

นึกถึงบางสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อมาหาพระคริสต์และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ ถ้าท่านไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร การไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้อาจช่วยได้ หากมีบางอย่างที่ท่านรู้สึกว่าทำได้ตอนนี้ ให้ทำทันที หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาเยาวชนของท่านอาจช่วยให้ท่านมาหาพระคริสต์อยู่แล้ว ท่านอาจทำตามเป้าหมายนั้นต่อไป

• ในชีวิตฉัน มีความไม่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องใดบ้างที่ฉันต้องปฏิเสธตน (เช่น อิทธิพลของสื่อหรือนิสัยที่ไม่ดี) หรือไม่?

• ฉันจะรักพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นด้วยสุดพลัง ความนึกคิด และพละกำลังของฉันอย่างไร?

• การทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ฉันเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์อย่างไร?

ทางเลือก: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?

ฉันจะได้รับพรอย่างไรเมื่อยอมรับคำเชื้อเชิญให้มาหาพระคริสต์?

เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

กองไฟแห่งศรัทธาของเรา

พระดำรัสเชื้อเชิญจากพระผู้เป็นเจ้าเปี่ยมด้วยความรักและความเป็นไปได้เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็น “ทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต” [ยอห์น 14:6] ถึงท่านที่รู้สึกแบกภาระหนัก พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ “มาหาเรา” และถึงผู้ที่มาหาพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก” [มัทธิว 11:28] “จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ … รักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกำลังของท่าน, เมื่อนั้นพระคุณของพระองค์จึงเพียงพอสำหรับท่าน, เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” [โมโรไน 10:32]

ในการรับรองว่า “โดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” เป็นทั้งคำปลอบโยน สันติสุข และคำสัญญาว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระเจ้าแม้สิ่งต่างๆ ไม่เป็นดังหวัง ดังที่คาดหวัง หรือสมควรได้รับ โดยไม่ใช่ความผิดของเรา แม้หลังจากเราทำสุดความสามารถแล้ว (เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง, “กองไฟแห่งศรัทธาของเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 42)

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

“แท้จริงแล้ว, จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ … ,” โมโรไนวิงวอน “รักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกำลังของท่าน, เมื่อนั้น … โดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” [โมโรไน 10:32; เน้นตัวเอน] ความหวังเดียวของเราสำหรับความดีพร้อมที่แท้จริงคือการได้รับของประทานแห่งความดีพร้อมนั้นจากสวรรค์—เราไม่สามารถ “ได้มา” ด้วยตนเอง ดังนั้นพระคุณของพระคริสต์เสนอให้เราไม่ได้เป็นเพียงความรอดจากโทมนัสและบาปรวมทั้งความตายเท่านั้นแต่ยังเป็นความรอดจากการวิพากษ์วิจารณ์ตนเองตลอดเวลาด้วย (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม—ในที่สุด,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 41)

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

จำไว้ว่าพลังแห่งการชดใช้หรือพระคุณของพระคริสต์ไม่เพียงนำเอาความรู้สึกผิดจากบาปและความผิดพลาดออกไปเท่านั้น แต่ยังชำระเราให้บริสุทธิ์และทำให้เราเป็นสัตภาวะศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถอยู่ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าได้เช่นกัน (ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “การเลือกและการผูกมัดตนเอง,” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก, 12 มกราคม 2020], broadcasts.ChurchofJesusChrist.org)

โมโรไน 10:34 การพิพากษาครั้งสุดท้ายจะเป็นอย่างไร?

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟฝ่ายประธานสูงสุดในขณะนั้นสอนว่า:

O How Great the Plan of Our God!

วันพิพากษาจะเป็นวันแห่งความเมตตาและความรัก—วันที่ใจชอกช้ำจะได้รับการเยียวยา เมื่อน้ำตาแห่งความโศกเศร้าจะแทนที่ด้วยน้ำตาแห่งความสำนึกคุณ เมื่อทุกสิ่งจะได้รับการทำให้ถูกต้อง

ใช่ จะรู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้งเพราะบาป ใช่ จะมีความเสียใจและปวดร้าวเพราะความผิดพลาด ความโง่เขลา และความดื้อรั้นของเราที่ทำให้เราพลาดโอกาสที่จะมีอนาคตที่ดีว่านี้มาก

แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเราจะไม่เพียงพึงพอใจกับการพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่เราจะประหลาดใจและตื้นตันใจด้วย เนื่องจากพระคุณ พระเมตตา พระกรุณา และความรักอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงมีต่อเรา บุตรธิดาของพระองค์ ถ้าความปรารถนาและงานของเราดี ถ้าเรามีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์ เมื่อนั้นเราสามารถตั้งตารอสิ่งที่โมโรไนเรียกว่า “บัลลังก์พิพากษาอันน่าพึงใจของพระเยโฮวาห์ผู้ยิ่งใหญ่, พระผู้พิพากษานิรันดร์” [โมโรไน 10:34] (ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “โอ้แผนของพระผู้เป็นเจ้าของเราสำคัญยิ่งเพียงใด!,” เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 21)