10 ตุลาคม

ฉันจะเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเจ้าอย่างเต็มที่มากขึ้นได้อย่างไร?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 111–114

หารือกัน

นำโดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานโควรัมหรือฝ่ายประธานชั้นเรียน ประมาณ 10–20 นาที

ในช่วงต้นของการประชุม ให้ท่อง สาระสำคัญโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน หรือ สาระสำคัญเยาวชนหญิง พร้อมกัน นอกจากจะหารือเกี่ยวกับกิจธุระจำเพาะของโควรัมหรือชั้นเรียนแล้ว ท่านอาจต้องการพูดถึงความประทับใจและสาระสำคัญจากการประชุมใหญ่สามัญด้วย คำถามต่อไปนี้อาจช่วยได้

• สาระสำคัญหรือข่าวสารใดสะดุดใจท่าน?

• เรารู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำอะไรเพราะสิ่งที่เราเรียนรู้หรือรู้สึก?

• โควรัมหรือชั้นเรียนของเราจำเป็นต้องทำอะไรเพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำที่เราได้ยินในการประชุมใหญ่สามัญ?

ตอนจบบทเรียนให้ทำดังต่อไปนี้เมื่อเห็นเหมาะสม:

• เป็นพยานถึงหลักธรรมที่สอน

• เตือนความจำสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนเกี่ยวกับแผนและคำเชื้อเชิญที่ทำไว้ระหว่างการประชุม

สอนหลักคำสอน

นำโดยผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน ประมาณ 25–35 นาที

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

เพื่อเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์อย่างเต็มที่มากขึ้น เราต้องวางใจพระองค์และเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์—แม้เมื่อความท้าทายยากๆ ทดสอบการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเรา ในปี 1837 สมาชิกศาสนจักรบางคน รวมทั้งสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองบางคนสูญเสียประจักษ์พยานของตนและหันมาต่อต้านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ เวลานั้นโธมัส บี. มาร์ช เป็นประธานโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขณะที่ท่านกับครอบครัวอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 112 สัปดาห์นี้ ท่านอาจจะสังเกตคำแนะนำที่พระเจ้าประทานให้เพื่อช่วยโธมัส บี. มาร์ชเพิ่มพลังการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเขา (ดู ข้อ 10–26 เป็นพิเศษ) คำแนะนำนี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น?

ท่านจะช่วยให้สมาชิกโควรัมและสมาชิกชั้นเรียนได้รับสัญญาของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่า “พวกเขาจะเปลี่ยนใจเลื่อมใส, และเราจะรักษาพวกเขา” ได้อย่างไร? (หลักคำสอนและพันธสัญญา 112:13) ท่านจะแบ่งปันประสบการณ์อะไรได้บ้าง? ขณะไตร่ตรองคำถามเหล่านี้ ท่านอาจจะทบทวนข่าวสารของประธานบอนนี่ เอช. คอร์ดอนเรื่อง “จงวางใจในพระเจ้าและอย่าพึ่งพา” (เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 6–9) และ “การเปลี่ยนใจเลื่อมใส” ใน แน่วแน่ต่อศรัทธา ([2004], 42–46)

พระคัมภีร์เป็นขุมพลังขณะที่เรามุ่งมั่นเปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างเต็มที่มากขึ้น

เรียนรู้ด้วยกัน

สมาชิกในโควรัมหรือชั้นเรียนของท่านรู้หรือไม่ว่าเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร? พวกเขารู้วิธีเปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างเต็มที่มากขึ้นหรือไม่? เชื้อเชิญให้พวกเขาไตร่ตรองคำถามเหล่านี้ขณะพวกเขาทบทวน หลักคำสอนและพันธสัญญา 112:10–26 เราจะยังเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์แม้ในสภาวการณ์ท้าทายได้อย่างไร? ท่านอาจจะใช้กิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นช่วยโควรัมหรือชั้นเรียนของท่านเพิ่มพลังการเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา

• แอลมา 32:27–43 จะช่วยให้คนที่ท่านสอนเข้าใจวิธีเพิ่มพลังศรัทธาของตนและเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์อย่างเต็มที่มากขึ้น ท่านอาจจะแบ่งสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนออกเป็นกลุ่มๆ และขอให้แต่ละกลุ่มอ่านข้อเหล่านี้และสนทนาสิ่งที่สอนเกี่ยวกับศรัทธาและการเปลี่ยนใจเลื่อมใส ขอให้แต่ละกลุ่มแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้ ท่านอาจจะกระตุ้นการสนทนาโดยถามคำถามเช่น เหตุใดเมล็ดที่โตเป็นต้นไม้จึงเป็นคำอธิบายที่ดีของการเปลี่ยนใจเลื่อมใส? “ทดลองคำพูด [ของพระผู้เป็นเจ้า]” หมายความว่าอย่างไร? (ข้อ 27) “บำรุงเลี้ยงต้นไม้” หมายความว่าอย่างไร? (ข้อ 41) เราจะบอกได้อย่างไรว่าเมล็ดแห่งการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเรา “พอง, และงอก, และเริ่มเติบโต” ภายในเรา? (ข้อ 30) ให้เวลาสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อบำรุงเลี้ยงการเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์ของพวกเขาเอง

• มีอิทธิพลมากมายในโลกที่ต่อต้านการเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์ของเรา การอ่าน ฮีลามัน 5:12 จะสอนสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนให้รู้วิธีอยู่อย่างเข้มแข็งต่อไปแม้มีการต่อต้าน “สร้างรากฐานของ [ท่าน]” บนศิลาของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร? ท่านอาจมอบหมายให้อ่านข่าวสารของเอ็ลเดอร์ เควนทิน แอล. คุกเรื่อง “รากฐานแห่งศรัทธา” คนละตอน (เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 127–131) และขอให้พวกเขาค้นหาตัวอย่างและคำแนะนำที่ช่วยพวกเขาสร้างรากฐานบนพระผู้ช่วยให้รอด

• ท่านคิดวิธีที่สร้างสรรค์ในการสาธิตหลักธรรมที่ประธาน บอนนี่ เอช. คอร์ดอนสอนไว้ในข่าวสารของเธอเรื่อง “จงวางใจพระเจ้าและอย่าพึ่งพา” ออกหรือไม่? อาทิ ท่านอาจแบ่งโควรัมหรือชั้นเรียนออกเป็นกลุ่มๆ และท้าทายแต่ละกลุ่มให้สร้างโครงสร้างสูงที่สุดบนพื้นเอียงโดยใช้บล็อกไม้หรือวัสดุอื่น แล้วสนทนากันว่านี่เกี่ยวข้องกับข่าวสารของประธานคอร์ดอนอย่างไร จากนั้นให้โควรัมหรือชั้นเรียนค้นคว้าข่าวสารเพื่อหาคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทำชีวิตเราให้มีศูนย์กลางอยู่ที่พระเยซูคริสต์ เราจะแบ่งปันประสบการณ์อะไรได้บ้างเมื่อเราพึ่งพาความเข้าใจของเราเองหรือเมื่อเราวางใจพระผู้ช่วยให้รอด?

ลงมือทำด้วยศรัทธา

กระตุ้นสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนให้ไตร่ตรองและบันทึกสิ่งที่พวกเขาจะทำเพื่อลงมือทำตามการกระตุ้นเตือนที่ได้รับวันนี้ บทเรียนวันนี้เกี่ยวข้องกับเป้าหมายส่วนตัวที่พวกเขาตั้งไว้อย่างไร? สมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนอาจจะแบ่งปันแนวคิดหากพวกเขาประสงค์จะทำเช่นนั้น

แหล่งข้อมูลสนับสนุน

• แอลมา 5 (แอลมาสอนเรื่องการเปลี่ยนใจเลื่อมใส)

• เดวิด เอ. เบดนาร์, “เปลี่ยนใจเลื่อมใสมาสู่พระเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2012, 106–109

• ริชาร์ด เจ. เมนส์, “ปีติของการดำเนินชีวิตที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 27–30

• เบคกี้ เครเวน, “รอบคอบตรงข้ามกับหละหลวม,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 9–11

การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด

พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า “คำสอนของเราไม่ใช่ของเราเอง แต่เป็นของผู้ทรงใช้เรามา” (ยอห์น 7:16) พระองค์ทรงสอนหลักคำสอนที่ทรงเรียนรู้จากพระบิดาของพระองค์ ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านกำลังสอนหลักคำสอนที่แท้จริง? (ดู การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด [2016] หน้า 20–21)