19–25 เมษายน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41–44

“กฎของเราในการปกครองศาสนจักรของเรา”

“หากเจ้าจะถาม” พระองค์ทรงสัญญา “เจ้าจะได้รับการเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้” (คพ. 42:61) ท่านสามารถถามคำถามอะไรบ้างจึงจะได้รับการเปิดเผยที่ท่านต้องการ?

บันทึกความประทับใจของท่าน

การเติบโตอย่างรวดเร็วของศาสนจักรในปี 1830 และปี 1831—โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรีบมาเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอของผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่—น่าตื่นเต้นและทำให้วิสุทธิชนมีกำลังใจ แต่มีความท้าทายบางอย่างเช่นกัน ท่านทำให้กลุ่มผู้เชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขานำหลักคำสอนและหลักปฏิบัติจากความเชื่อเดิมมาด้วย? ตัวอย่างเช่น เมื่อโจเซฟ สมิธมาถึงเคิร์ทแลนด์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1831 ท่านพบสมาชิกใหม่ใช้ทรัพย์สินร่วมกันเพื่อพยายามเลียนแบบชาวคริสต์สมัยพันธสัญญาใหม่ (ดู กิจการ 4:32–37 พระเจ้าทรงแก้ไขบางเรื่องที่สำคัญและให้ความกระจ่างเกี่ยวกับหัวข้อนี้และหัวข้ออื่น ส่วนใหญ่ทรงทำผ่านการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 42 ซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่า “กฎของเราในการปกครองศาสนจักรของเรา (ข้อ 59) ในการเปิดเผยนี้ เราเรียนรู้ความจริงที่เป็นรากฐานในการสถาปนาศาสนจักรของพระเจ้าในยุคสุดท้าย รวมทั้งสัญญาสำคัญโดยทำให้เห็นชัดว่ามีให้เรียนรู้เพิ่มเติมเสมอ “หากเจ้าจะถาม, เจ้าจะได้รับการเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61)

ดู วิสุทธิชน, 1:114–119 ด้วย

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41

“คนที่รับกฎของเราและปฏิบัติตาม, คนคนนั้นคือสานุศิษย์ของเรา”

ราวต้นปี 1831 วิสุทธิชนเริ่มไปรวมกันในโอไฮโอ ปรารถนาจะได้รับกฎที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะเปิดเผยที่นั่น (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:32) แต่พระเจ้าทรงสอนก่อนว่าเหล่าสาวกของพระองค์ควร เตรียม รับกฎของพระองค์อย่างไร ท่านพบหลักธรรมอะไรใน ข้อ 1–5 ที่จะช่วยให้วิสุทธิชนได้รับกฎของพระผู้เป็นเจ้า? หลักธรรมเหล่านี้จะช่วยให้ท่านได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากพระองค์อย่างไร?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42

กฎของพระผู้เป็นเจ้าปกครองศาสนจักรของพระองค์และสามารถปกครองชีวิตเรา

วิสุทธิชนถือว่าการเปิดเผยที่พบใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:1–72 เป็นหนึ่งในการเปิดเผยสำคัญที่สุดที่ท่านศาสดาพยากรณ์ได้รับ อยู่ในบรรดาการเปิดเผยที่จะจัดพิมพ์ครั้งแรก ปรากฏในหนังสือพิมพ์โอไฮโอสองฉบับ และรู้กันว่าเป็น “กฎ” พระเจ้าทรงเปิดเผยหลักธรรมหลายข้อในภาคนี้มาก่อนแล้ว แม้ภาคนี้ไม่รวมพระบัญญัติทุกข้อที่พระเจ้าทรงต้องการให้วิสุทธิชนเชื่อฟังไว้ในนั้น แต่มีค่าควรแก่การไตร่ตรองว่าเหตุใดหลักธรรมเหล่านี้จึงสำคัญจนต้องย้ำกับศาสนจักรที่เพิ่งได้รับการฟื้นฟู

อาจจะช่วยได้ถ้าท่านอ่าน ภาค 42 เป็นตอนๆ ดังต่อไปนี้และระบุหลักธรรมที่สอนในแต่ละตอน ขณะที่ท่านอ่าน ให้พิจารณาว่ากฎที่ใช้นำทางศาสนจักรจะช่วยนำทางชีวิตส่วนตัวของท่านได้อย่างไร

ข้อ 4–9, 11–17, 56–58 

ข้อ 18–29 

ข้อ 30–31 

ข้อ 40–42 

ข้อ 43–52 

ดู 3 นีไฟ 15:9 ด้วย

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:30–42

วิสุทธิชน “อุทิศทรัพย์สิน [ของพวกเขา] “เพื่อค้ำจุนคนจนอย่างไร?

ส่วนสำคัญของกฎที่เปิดเผยไว้ใน ภาค 42 คือส่วนที่รู้กันว่าเป็นกฎแห่งการอุทิศถวายและการพิทักษ์ กฎนี้สอนให้วิสุทธิชนรู้ว่าพวกเขาจะนำ “ทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง” (กิจการของอัครทูต 2:44; 4 นีไฟ 1:3) เหมือนผู้ติดตามพระคริสต์ในสมัยโบราณ โดย “ไม่มีคนจนในบรรดาพวกเขา” (โมเสส 7:18) ได้อย่างไร วิสุทธิชนอุทิศถวายทรัพย์สินของตนโดยถวายแด่พระเจ้าผ่านอธิการ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:30–31)) อธิการคืนสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องมีให้พวกเขา (ดู ข้อ 32)—ปกติจะคืนสิ่งที่พวกเขาอุทิศถวายและมากกว่านั้น สมาชิกบริจาคส่วนที่เหลือเพื่อช่วยคนจน (ดู ข้อ 33–34) กฎนี้เป็นพรใหญ่หลวงแก่วิสุทธิชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่คนที่ทิ้งทุกอย่างเพื่อมาโอไฮโอ วิสุทธิชนจำนวนมากเอื้อเฟื้อในการบริจาคของตน

แม้เราบริจาคต่างออกไปในปัจจุบัน แต่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายยังคงดำเนินชีวิตตามกฎแห่งการอุทิศถวาย ขณะที่ท่านอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:30–42 พึงไตร่ตรองว่าท่านจะอุทิศถวายสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่านเพื่อสร้างอาณาจักรของพระองค์และเป็นพรแก่คนขัดสนได้อย่างไร

ดู ลินดา เค. เบอร์ตัน “เราเป็นแขกแปลกหน้า” เลียโฮนา พ.ค. 2016, 13–15; “The Law,” Revelations in Context, 93–95, history.ChurchofJesusChrist.org ด้วย

พระคริสต์กับเศรษฐีหนุ่ม โดย ไฮน์ริค ฮอฟแมนน์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61, 65–68; 43:1–16

พระผู้เป็นเจ้าประทานการเปิดเผยเพื่อนำทางศาสนจักรของพระองค์

สมมติว่าท่านกำลังสนทนากับสมาชิกใหม่ของศาสนจักรผู้ตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าการเปิดเผยนำทางศาสนจักร ท่านจะใช้ หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:1–16 อธิบายแบบแผนการนำทางศาสนจักรของพระเจ้าผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ให้เขาฟังว่าอย่างไร? ท่านจะใช้ หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61, 65–68 สอนเรื่องการได้รับการเปิดเผยส่วนตัวว่าอย่างไร?

ดู “All Things Must Be Done in Order,” Revelations in Context, 50–53, history.ChurchofJesusChrist.org ด้วย

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์กับครอบครัวและการสังสรรค์ในครอบครัว

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:1–5ตัวอย่างของกฎหมายบ้านเมืองมีอะไรบ้าง และกฎเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเราอย่างไร? กฎหรือพระบัญญัติของพระบิดาบนสวรรค์เป็นพรแก่เราอย่างไร? สมาชิกครอบครัวจะวาดภาพตนเองเชื่อฟังกฎของพระผู้เป็นเจ้า

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:45, 88อะไรจะช่วยให้ครอบครัวท่าน “อยู่ด้วยกันด้วยความรัก”? (ดู โมไซยาห์ 4:14–15 ด้วย) ท่านอาจจะเขียนหรือพูดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับคนในครอบครัวหรือร้องเพลงสวดเพลงหนึ่งเกี่ยวกับความรักในครอบครัว อาทิ “รักที่บ้าน” (เพลงสวด บทเพลงที่ 144)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61ท่านอาจจะอ่านข้อนี้ขณะต่อภาพปริศนา ใช้ภาพปริศนาสอนว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยความลี้ลับของพระองค์อย่างไร—“การเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้” สมาชิกครอบครัวจะแบ่งปันว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยความจริงต่อพวกเขาทีละเล็กทีละน้อยอย่างไร

หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:25อาจมีบางอย่างที่ครอบครัวท่านสามารถใช้สร้างเสียงพายุฝนฟ้าคะนองเพื่อเกริ่นนำการสนทนาเกี่ยวกับ ข้อ 25 สุรเสียงของพระเจ้าเป็น “เสียงของฟ้าคำรนคำราม” อย่างไร? จงค้นคว้าข้อนี้ด้วยกันเพื่อหาวิธีที่พระเจ้าทรงขอให้เรากลับใจ เราจะตอบรับสุรเสียงของพระเจ้ามากขึ้นได้อย่างไร?

ดูแนวคิดเพิ่มเติมสำหรับสอนเด็กได้จาก โครงร่างของสัปดาห์นี้ ใน จงตามเรามา—สำหรับปฐมวัย

เพลงที่แนะนำ: “ฉันจะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ” หนังสือเพลงสำหรับเด็ก, 72; ดู “แนวคิดเพื่อปรับปรุงการศึกษาพระคัมภีร์กับครอบครัวท่าน”

ปรับปรุงการสอนของเรา

บำรุงเลี้ยงบรรยากาศแห่งความรัก วิธีที่สมาชิกครอบครัวรู้สึกและปฏิบัติต่อกันจะมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อวิญญาณในบ้านท่าน ช่วยให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวทำส่วนของตนเพื่อสร้างบ้านที่รักและเคารพกันทั้งนี้เพื่อทุกคนจะรู้สึกปลอดภัยขณะแบ่งปันประสบการณ์ คำถาม และประจักษ์พยาน (ดู การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด, 15)

โจเซฟ สมิธสั่งสอนในนอวู โดย แซม ลอว์เลอร์