การเรียกในวอร์ดหรือสาขา
การเสพติด

“การเสพติด” แหล่งช่วยให้คำปรึกษา (2020)

“การเสพติด” แหล่งช่วยให้คำปรึกษา

การเสพติด

3:35

การเสพติดคือการติดสารหรือพฤติกรรมที่เป็นอันตรายโดยไม่สามารถหยุดยั้งได้ การเสพติดทุกชนิดหมายถึงการยอมให้ตนเองติดสารหรือพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง การเสพติดสามารถนำไปสู่ความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่หลักในที่ทำงาน โรงเรียน หรือที่บ้าน ทั้งยังสามารถนำไปสู่การหลอกหลวงและการหาข้อแก้ตัวให้กับการเลือกที่ไม่ดีด้วย หลายคนที่มีปัญหากับการเสพติดรู้สึกหมดหวังและสิ้นหวังอย่างรุนแรง

พยายามเข้าใจ

การสนทนาเรื่องการเสพติดทำได้ยาก และคนอาจรู้สึกอ่อนแอหรืออับอาย ขณะท่านพูดคุยกับบุคคล จงขอบคุณที่พวกเขากล้าติดต่อขอความช่วยเหลือ พยายามแสดงความรักและความเห็นใจเฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงทำ

พิจารณาการถามคำถามทำนองนี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอนหรือพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์เพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจการเสพติดของบุคคลนั้นดีขึ้นและเล็งเห็นความต้องการของเขา

  • บอกผมทีครับว่าเกิดอะไรขึ้น

  • ปัญหานี้เริ่มต้นอย่างไร?

  • อะไรเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดในการเอาชนะการเสพติดนี้?

  • คุณพยายามทำอะไรไปแล้วบ้างเพื่อเอาชนะความท้าทายนี้? อะไรช่วยมาจนถึงตอนนี้?

  • พระเจ้าจะทรงช่วยให้คุณเอาชนะการเสพติดของคุณได้อย่างไร?

  • มีใครทราบเรื่องนี้อีกบ้างและพวกเขาให้การช่วยเหลือคุณแบบใด?

ช่วยเหลือบุคคล

ขณะท่านช่วยบุคคลเอาชนะความท้าทายนี้ ให้พิจารณาการใช้คำแนะนำบางข้อต่อไปนี้ พึงแสดงความรักและความห่วงใยเสมอขณะที่ท่านทำงานด้วยกัน

ช่วยบุคคลวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขสถานการณ์ซึ่งเขายอมต่อการล่อลวงได้ง่าย ทบทวนแผนเป็นประจำ

สอนหลักคำสอนเรื่องสิทธิ์เสรีและช่วยให้เขาเข้าใจว่าการเสพติดไม่เปลี่ยนอัตลักษณ์นิรันดร์ของเรา

  • สอนว่าการเสพติดทุกอย่างเอาชนะได้โดยผ่านพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์เพราะการชดใช้ของพระองค์

  • ช่วยให้บุคคลเข้าใจว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถทำให้คนบางคนเอาชนะความท้าทายได้อย่างไร

  • ช่วยให้บุคคลเข้าใจว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถทำให้คนบางคนเอาชนะความท้าทายได้อย่างไร

  • ช่วยให้บุคคลเห็น อัตลักษณ์ ของตนในฐานะบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าและรับรู้ข้อดี พรสวรรค์ และความสามารถของตน

ช่วยบุคคลแยกแยะสถานการณ์ธรรมดาที่สุดที่เพิ่มการล่อลวง (เช่นสถานการณ์ที่ยั่วยุให้เกิดความคิดและความอยากเสพ)

  • สำรวจความรู้สึกเบื้องหลังสถานการณ์เหล่านั้น (ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกเบื่อ เหงา โกรธ เครียด หรือเหนื่อย)

  • พิจารณาว่าแต่ละสถานการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อใด และอย่างไร

เชิญสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน โปรแกรมบำบัดการเสพติด (ARP) ในท้องที่หรือการประชุมบำบัดการเสพติด 12 ขั้นตอนอื่น

กระตุ้นให้บุคคลเปิดเผยตรงไปตรงมากับคู่สมรส พ่อแม่ หรือสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ เกี่ยวกับการเสพติดของตน

ช่วยเหลือสมาชิกในการขอความช่วยเหลือจากคนที่เขาไว้ใจ

สนับสนุนครอบครัว

การเสพติดส่งผลต่อสมาชิกครอบครัวเช่นเดียวกับบุคคล ขณะที่ท่านพูดคุยกับสมาชิกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ พึงแสดงความรักและความเห็นใจเฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงทำ พิจารณาผลกระทบต่อคู่สมรสหรือครอบครัวของบุคคลและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

เริ่มโดยช่วยให้สมาชิกครอบครัวรู้สึกว่ามีคนรักและฟังพวกเขา ท่านอาจจะพูดว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากจะผ่านไปได้ คุณรู้สึกอย่างไร?”

สำรวจความกลัว ความกังวล การโทษตัวเอง หรือการขาดความไว้ใจที่อาจมี

เชิญชวนคู่สมรสหรือสมาชิกครอบครัวให้ศึกษาหลักธรรมใน Support Guide: Help for Spouses and Family of Those in Recovery

เชิญสมาชิกครอบครัวเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน โปรแกรมบำบัดการเสพติด คู่สมรสและครอบครัว หรือกลุ่มสนับสนุนคล้ายกัน

ช่วยให้สมาชิกครอบครัวเข้าใจว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงช่วยพวกเขาเยียวยาเป็นส่วนตัวได้อย่างไร โดยไม่คำนึงว่าคนที่พวกเขารักเอาชนะการเสพติดได้หรือไม่ (ดู แอลมา 7:11; มัทธิว 11:28–30)

ใช้แหล่งช่วยของวอร์ดและสเตค

พิจารณาการขอให้ผู้นำวอร์ดหรือคนอื่นที่ไว้ใจได้ให้การสนับสนุน การชี้แนะ และความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขออนุญาตบุคคลก่อนสนทนาสถานการณ์กับผู้อื่น

อธิการอาจทำงานกับบุคคลเพื่อหาคนที่ไว้ใจได้มาเป็นพี่เลี้ยงให้แก่บุคคลนั้นแล้วกระตุ้นให้คนทั้งสองตั้งเป้าหมายและวางแผนทำงานด้วยกัน

  • พี่เลี้ยงควรเป็นคนที่บุคคลนั้นอยู่ด้วยแล้วสบายใจและตามหลักแล้วเป็นคนที่เคยเอาชนะปัญหาเดียวกันมาแล้ว

  • หากบุคคลเป็นผู้เยาว์ อธิการควรให้บิดามารดามีส่วนหาพี่เลี้ยงด้วย

เข้าไปที่เว็บไซต์โปรแกรมบำบัดการเสพติด (addictionrecovery.ChurchofJesusChrist.org) เพื่อหาการประชุมในท้องที่ให้บุคคลเข้าร่วม หากไม่มี ท่านอาจติดต่อประธานสเตคเพื่อขอให้เริ่มการประชุมดังกล่าว

หาแหล่งช่วยในท้องที่ซึ่งให้บริการสอดคล้องกับหลักธรรมพระกิตติคุณ

  • แหล่งช่วยอาจได้แก่ที่ปรึกษามืออาชีพ โปรแกรมการรักษา และหน่วยงานรัฐบาล

  • บุคคลอาจต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์เพิ่มเติมด้วย ท่านอาจรับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อระบุระดับการดูแลที่เหมาะสม