สถาบัน
รากฐานของการฟื้นฟู (ศาสนา 225)


รากฐานของการฟื้นฟู (ศาสนา 225)

คำถาม

  1. ฉันจะแยกแยะระหว่างความจริงกับความเท็จได้อย่างไร

    คำตอบของท่านควรรวมถึงสิ่งต่อไปนี้

    • บทบาทของพระคัมภีร์ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน และพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการสถาปนาความจริง

    • การศึกษา ศรัทธา และการสวดอ้อนวอนจะช่วยให้ท่านเรียนรู้ความจริงได้อย่างไร

    • วิธีค้นหา ประเมิน และใช้แหล่งช่วยที่พึ่งพาได้ในเรื่องประวัติของศาสนจักรและหลักคำสอนที่ได้รับการเปิดเผย

    • ท่านจะประยุกต์ใช้หลักธรรมที่ท่านเรียนรู้ในการแยกแยะความจริงจากความเท็จได้อย่างไรเมื่อท่านหรือคนที่ท่านรู้จักกำลังเผชิญกับการตัดสินใจ ความท้าทาย หรือปัญหาในปัจจุบัน

  2. เหตุใดจึงสำคัญที่ฉันจะเข้าใจว่า “โจเซฟ … ทำเพื่อความรอดของมนุษย์ในโลกนี้, ยิ่งกว่าคนอื่นใดที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก, ยกเว้นพระเยซูเท่านั้น” (คพ. 135:3)

    คำตอบของท่านควรรวมถึงสิ่งต่อไปนี้

    • บทบาทของนิมิตแรกในการฟื้นฟูพระกิตติคุณและการเริ่มต้นสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา

    • ความจริงที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านโจเซฟ สมิธเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

    • กุญแจฐานะปุโรหิตหรือศาสนพิธีแห่งความรอดที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านโจเซฟ สมิธเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

    • บทบาทของโจเซฟ สมิธในการฟื้นฟูนำท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร

  3. เหตุการณ์สำคัญหรือหลักคำสอนของการฟื้นฟูอย่างหนึ่งต่อไปนี้เป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

    ก) การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน ข) ภาคสำคัญๆ และหลักคำสอนในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา ค) องค์การที่ได้รับการเปิดเผยของศาสนจักร ง) การฟื้นฟูฐานะปุโรหิต จ) พระวิหารและงานพระวิหาร คำตอบของท่านควรรวมถึงสิ่งต่อไปนี้

    • ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือหลักคำสอนนี้จากการที่ท่านมีส่วนร่วมในหลักสูตรนี้

    • เหตุการณ์หรือหลักคำสอนนี้แสดงให้เห็นว่าสวรรค์กำลังเปิดอย่างไร

    • เหตุการณ์หรือหลักคำสอนนี้เป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไรหรือเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อท่านเป็นการส่วนตัว

    • ประจักษ์พยานของท่านถึงสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู

ประเด็นสำคัญของหลักคำสอน

ข้อมูลต่อไปนี้รวบรวมโดยใช้ประเด็นสำคัญในบทเรียนสำหรับหลักสูตรนี้ ตัวเลขในวงเล็บที่ตามหลังคำอ้างอิงบ่งบอกหมายเลขของบทเรียนใน รากฐานของการฟื้นฟู คู่มือครู (2015) ซึ่งสามารถพบข้อความนั้นได้ เปรียบเทียบคำตอบของท่านกับข้อมูลด้านล่าง หากมีประเด็นสำคัญของหลักคำสอนจากการทบทวนนี้ที่ท่านไม่ได้ใส่ไว้ในคำตอบของท่าน ให้พิจารณาแก้ไขคำตอบของท่านก่อนส่ง ท่านไม่จำเป็นต้องคัดลอกข้อมูลนี้ทุกตัวอักษรลงในคำตอบของท่าน เพียงแต่ให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจหลักคำสอนเหล่านี้และถ่ายทอดความเข้าใจนั้น เนื่องจากคำถามข้อ 3 ต้องการคำตอบที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว จึงไม่มีประเด็นสำคัญสำหรับคำถามนั้น

  1. ฉันจะแยกแยะระหว่างความจริงกับความเท็จได้อย่างไร

    บทบาทของพระคัมภีร์ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน และพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการสถาปนาความจริง

    • ในฐานะเป็นพระคัมภีร์ควบคู่กับพระคัมภีร์ไบเบิล “พระคัมภีร์มอรมอนกับหลักคำสอนและพันธสัญญาได้รับการนำออกมาเพื่อความรอดของโลก” (22)

    • “พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยให้เรารู้ได้ว่าสิ่งที่เราอ่านจริงหรือไม่” (10)

    • “ถ้าเราเอาใจใส่ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ เราจะได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากปฏิปักษ์” (9)

    • “เมื่อผู้รับใช้ของพระเจ้าพูดโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คำพูดของพวกเขาถ่ายทอดพระประสงค์ของพระเจ้า” (12)

    การศึกษา ศรัทธา และการสวดอ้อนวอนจะช่วยให้ท่านเรียนรู้ความจริงได้อย่างไร

    • “เมื่อเรารวมศรัทธาไว้ในกระบวนการเรียนรู้ เราย่อมมีคุณสมบัติพร้อมรับความช่วยเหลือจากพระเจ้า” (10)

    • “เราจะพบคำตอบของคำถามสำคัญที่สุดเมื่อเราเชื่อฟังพระบัญญัติ ศึกษาแหล่งข้อมูลที่เหมาะสม—โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต—แสวงหาการนำทางผ่านการสวดอ้อนวอน ใช้ความอดทนและศรัทธา” (10)

    • “เมื่อเราเผชิญกับคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับพระกิตติคุณ เราควรยึดมั่นในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความจริงและวางใจว่าเราจะพบคำตอบผ่านการศึกษาเพิ่มเติมหรือพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปิดเผยคำตอบในอนาคต” (4)

    วิธีค้นหา ประเมิน และใช้แหล่งช่วยที่พึ่งพาได้

    • “เราอาจเตือนสติผู้ถามด้วยความจริงใจว่าข้อมูลในอินเทอร์เน็ตไม่มีตัวกรอง “ความจริง” ข้อมูลบางอย่าง ไม่ว่าจะน่าเชื่อถือเพียงไร ไม่เป็นความจริง” (10; นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “โจเซฟ สมิธ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 29)

    • “เพื่อไม่ให้ถูกข้อมูลเท็จหลอกหรือชักนำให้เข้าใจผิด คนที่แสวงหาความจริงควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับศาสนจักรและประวัติศาสนจักรจากแหล่งที่เชื่อถือได้” (2)

    • “เมื่อเราเริ่มโดยเปรียบเทียบแนวทางปฏิบัติและข้อเสนอสมัยใหม่กับสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับแผนของพระผู้เป็นเจ้าและหลักเหตุผลที่ให้ไว้ในพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าและคำสอนของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต … เรารู้ว่าสิ่งนี้วางเราไว้บนฐานที่ปลอดภัยชั่วนิรันดร์” (10; ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “เขาคอยนับอยู่ในใจ” [ยามค่ำกับเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, 8 ก.พ., 2013], lds.org/broadcasts)

  2. เหตุใดจึงสำคัญสำหรับฉันที่จะเข้าใจว่า “โจเซฟ … ทำเพื่อความรอดของมนุษย์ในโลกนี้, ยิ่งกว่าคนอื่นใดที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก, ยกเว้นพระเยซูเท่านั้น” (คพ. 135:3)

    บทบาทของนิมิตแรกในการฟื้นฟูพระกิตติคุณและการเริ่มต้นสมัยการประทานแห่งความสมบูรณ์ของเวลา

    • “ความจริงนิรันดร์ได้รับการฟื้นฟูบนแผ่นดินโลกเมื่อพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อโจเซฟ สมิธ” (2)

    • “เมื่อเราได้รับประจักษ์พยานว่าโจเซฟ สมิธเห็นพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ เราจะรู้ความจริงของการฟื้นฟูพระกิตติคุณได้เช่นกัน” (2)

    • “โจเซฟ สมิธได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าให้ฟื้นฟูพระกิตติคุณสำหรับสมัยการประทานของเรา” (1)

    ความจริงที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านโจเซฟ สมิธเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

    • “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระสัตภาวะที่ทรงพระชนม์และมีรัศมีภาพ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดจากพระบิดา พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้สร้างโลกนี้และโลกอื่นๆ” (13)

    • “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่แห่งเดียวตลอดทั้งพื้นพิภพ” (6)

    • “ในฐานะบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ เรามีศักยภาพที่จะเป็นเหมือน“พระองค์” (17)

    • “พระเจ้าทรงเปิดเผยพระคัมภีร์เพิ่มเติมที่ยืนยัน อรรถาธิบาย และขยายความรู้เรื่องความจริงของเราผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ” (12)

    กุญแจฐานะปุโรหิตหรือศาสนพิธีแห่งความรอดได้รับการฟื้นฟูผ่านโจเซฟ สมิธและเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

    • โจเซฟ สมิธได้รับ “กุญแจของงานเผยแผ่ศาสนา ครอบครัวนิรันดร์ และงานพระวิหาร” (14)

    • “ก่อนที่แต่ละคนจะได้รับบัพติศมา พวกเขาต้องอ่อนน้อมถ่อมตน กลับใจ เต็มใจรับพระนามของพระเยซูคริสต์ และตั้งใจจะรับใช้พระองค์จนกว่าชีวิตจะหาไม่” (6)

    • “เพื่อบรรลุถึงชั้นสูงสุดของของอาณาจักรซีเลสเชียล เราต้องเข้าสู่พันธสัญญาใหม่และเป็นนิจของการแต่งงาน” (19)