ผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์
1. ประสบการณ์ผู้สอนศาสนาของท่าน


“1. ประสบการณ์ผู้สอนศาสนาของท่าน,” มาตรฐานผู้สอนศาสนาสำหรับสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์—งานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ (2021)

“1. ประสบการณ์ผู้สอนศาสนาของท่าน,” มาตรฐานผู้สอนศาสนาสำหรับสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์—งานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์

พระคริสต์กับชาวประมง โดย เจ. เคิร์ค ริชาร์ดส์

1

ประสบการณ์ผู้สอนศาสนาของท่าน

1.0

บทนำ

จริงๆ แล้วงานเผยแผ่ของท่านไม่ได้เริ่มต้นในวันที่ท่านรับการวางมือมอบหน้าที่ และจะไม่สิ้นสุดในวันที่ท่านพ้นจากหน้าที่ งานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์เป็นมากกว่าการเพียงสวมเครื่องแบบตอนเช้าแล้วถอดออกเมื่อหมดวัน

ประสบการณ์งานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ของท่านแสดงให้เห็นคำมั่นสัญญาของท่านที่ถวายแด่พระเยซูคริสต์และความปรารถนาของท่านที่จะรับใช้ผู้อื่นในพระนามของพระองค์ ตั้งแต่วันรับบัพติศมา ท่านได้อยู่บนเส้นทางพันธสัญญาที่นำไปสู่ความสุข ปีติ และสันติสุขนิรันดร์ ประสบการณ์งานเผยแผ่ของท่านสามารถเปลี่ยนแปลงท่านได้ และท่านควรนำการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นติดตัวไปตลอดชีวิตที่เหลือ

จากมุมมองนิรันดร์ งานเผยแผ่ของท่านเป็นมากกว่ากล่องทำเครื่องหมายที่เอาไว้ขีดลงไปว่าทำแล้ว นี่คือวิธีที่จะช่วยท่านเสาะแสวงการเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ไปตลอดชีวิต ประธานแมเรียน จี. รอมนีย์กล่าวว่า “การรับใช้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องอดทนบนโลกนี้เพื่อจะได้สิทธิ์อยู่ในอาณาจักรซีเลสเชียล การรับใช้เป็นส่วนประกอบของการสร้างชีวิตอันสูงส่งในอาณาจักรซีเลสเชียล” (“The Celestial Nature of Self-reliance,” Ensign, Nov. 1982, 93)

พระเจ้าตรัสว่า “ฉะนั้น, หากเจ้ามีความปรารถนาจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้า เจ้าก็ได้รับเรียกมายังงาน” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:3) ไม่ว่าท่านจะได้รับมอบหมายแต่แรก หรือเปลี่ยนสถานะมา หรือได้รับการคืนสถานะ ให้เป็นผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์ ท่านมีสิทธิพิเศษที่จะอุทิศช่วงเวลานี้ของชีวิตให้กับการรับใช้พระเจ้าโดยรับใช้ผู้อื่นในพระนามของพระองค์ ในการเรียกนี้ ท่านจะมีโอกาสรับใช้เพื่อจะเป็นพรแก่คนอื่นๆ ชีวิตของท่านเอง ครอบครัวของท่าน ศาสนจักร และองค์กรที่ท่านรับใช้

เราแต่ละคนถูกส่งมาโลกนี้ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ที่ต่างกัน ด้วยพรสวรรค์และความสามารถเฉพาะตัว ท่านสามารถอุทิศตนให้แก่งานของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกได้อย่างมีความหมาย การบำเพ็ญประโยชน์อย่างซื่อสัตย์ของท่านเป็นเครื่องถวายที่พระเจ้าจะทรงรับไว้

จงมีความสุขกับประสบการณ์งานเผยแผ่ของท่านขณะที่ท่านรักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านของท่าน นี่เป็นเวลาให้ชื่นชมยินดีตลอดจนประสบความสุขและสันติอันยั่งยืนผ่านพระเยซูคริสต์

1.1

การเชื่อฟัง

สานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์เป็นคนเชื่อฟัง พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่า “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะ [รักษา] บัญญัติของเรา” (ยอห์น 14:15) การรักษาพระบัญญัติหมายความว่าท่านทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอด้วยความเต็มใจและซื่อสัตย์เพราะท่านรักพระองค์ นอกจากนี้การเชื่อฟังยังหมายความว่าท่านรักษาพระบัญญัติด้วย “ความยินดี” (โคโลสี 1:11) และ “ความชื่นชมยินดีและจริงใจ” (กิจการ 2:46)

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์โดยสมบูรณ์ ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำคือพระประสงค์ของพระบิดา จงทำตามพระองค์โดยทำสุดความสามารถเพื่อรักษาพระบัญญัติทั้งหมดของพระองค์และดำเนินชีวิตตามมาตรฐานผู้สอนศาสนา การเป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อฟังหมายความด้วยว่าท่านพยายามเรียนรู้ เติบโต และปรับปรุง แก้ไขความผิดโดยเร็ว จงแสดงให้เห็นว่าท่านซื่อสัตย์และเชื่อฟังโดยรับผิดชอบเป็นส่วนตัวต่อการกระทำของตน

ท่านจะได้รับพรเมื่อท่านทำตามพระบัญญัติและมาตรฐานผู้สอนศาสนา และใช้การตัดสินใจที่ดี โปรดตระหนักว่าแม้เมื่อท่านประพฤติตามพระบัญญัติ ท่านก็อาจประสบความเดือดร้อน ความเจ็บป่วย หรือเรื่องท้าทายได้ (ดู ยอห์น 16:33) พระผู้ช่วยให้รอดทรงประสบมาแล้วทั้งหมด (ดู แอลมา 7:11–12; หลักคำสอนและพันธสัญญา 122:8) พระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน” (ยอห์น 14:18)

พระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่าน จงเลือกประพฤติตามพระบัญญัติเพราะท่านรักพระผู้เป็นเจ้า อย่าพยายามทำข้อตกลงกับพระเจ้าหรือถือเอาการเชื่อฟังของท่านประดุจการทำธุรกรรมเพื่อรับพรที่เจาะจงบางอย่าง

1.2

สิทธิ์เสรี

สิทธิ์เสรี หรือความสามารถในการเลือกที่จะกระทำด้วยตนเอง เป็นของประทานประเสริฐสุดอย่างหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ลูกๆ ของพระองค์ ความก้าวหน้านิรันดร์ของเราขึ้นอยู่กับการใช้ของประทานนี้ เราต้องเลือกว่าจะติดตามพระเยซูคริสต์และคำสอนของพระองค์หรือไม่ สิทธิ์เสรีช่วยให้ท่านเรียนรู้ ก้าวหน้า และติดตามพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยสิ่งนี้ท่านเป็น “อิสระที่จะเลือกเสรีภาพและชีวิตนิรันดร์, โดยผ่านพระผู้เป็นสื่อกลางที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์” (2 นีไฟ 2:27)

ท่านต้องรับผิดชอบการตัดสินใจที่ท่านทำ ท่านเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าผู้มีความเข้มแข็งยิ่ง ท่านมีความสามารถที่จะเลือกความชอบธรรมและความสุขได้ไม่ว่าสภาวการณ์ของท่านจะเป็นเช่นไร

ท่านต้องรับผิดชอบการพัฒนาพรสวรรค์และความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่านเช่นกัน งานเผยแผ่ของท่านเป็นเวลาที่ท่านจะเรียนรู้การชี้แจงต่อพระองค์ว่าท่านทำอะไรกับความสามารถของท่านและท่านใช้เวลาของท่านอย่างไร อย่าเสียเวลาไปกับความเกียจคร้าน จงเต็มใจที่จะทำงานหนัก จงเลือกที่จะเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายและพึ่งพาได้ และทำสิ่งดีมากมายด้วยความสมัครใจของท่าน

1.3

จุดประสงค์ของผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์

การปฏิบัติศาสนกิจของพระผู้ช่วยให้รอดเป็นแบบอย่างของพระบัญญัติข้อสำคัญสองข้อคือ “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน” และ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (มัทธิว 22:37, 39) เราแสดงความรักต่อเพื่อนบ้านเมื่อเรารับใช้พวกเขา เมื่อเรารับใช้ผู้อื่น เราแสดงออกว่าเรารักพระผู้เป็นเจ้าด้วย “เมื่อท่านอยู่ในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ของท่าน ท่านก็อยู่ในการรับใช้พระผู้เป็นเจ้าของท่านนั่นเอง” (โมไซยาห์ 2:17)

ฝ่ายประธานสูงสุดมอบจุดประสงค์ของผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์ไว้เพื่อนำทางท่านในการเรียกให้รับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน:

“จุดประสงค์ของเราคือช่วยให้ผู้อื่นมาหาพระคริสต์โดยการรับใช้พวกเขาอย่างที่พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงรับใช้ เรารับใช้ด้วยจิตอาสาในองค์กรการกุศล การปฏิบัติงานของศาสนจักร และภายในชุมชน เราจะปฏิบัติศาสนกิจกับทีละคนในพระนามของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงทำ เพื่อแสดงออกถึงความการุณย์รักของพระองค์”

จงจำไว้ว่า วิธี ที่ท่านรับใช้พระผู้ช่วยให้รอดสำคัญกว่า สถานที่ ซึ่งท่านรับใช้ หรือสิ่งที่ ท่านทำ ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันประกาศว่า: “ตลอดชีวิตของการรับใช้ในศาสนจักรนี้ ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าไม่สำคัญเลยว่าเรารับใช้ ที่ใด สิ่งที่พระเจ้าทรงใส่พระทัยคือ วิธี ที่เรารับใช้” (“การปฏิบัติศาสนกิจด้วยพลังและสิทธิอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 68) การรับใช้ของท่านเป็นไปเพื่อพระอาจารย์ และท่านได้รับเชิญให้รับใช้เหมือนพระองค์!

1.4

จุดมุ่งหมายของผู้สอนศาสนา

นอกจากนี้ ฝ่ายประธานสูงสุดยังได้ให้จุดมุ่งหมายของงานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ไว้ดังต่อไปนี้:

  • ให้โอกาสหญิงสาวและชายหนุ่มทุกคนที่เต็มใจรับใช้พระเจ้าและเพิ่มพูนประจักษ์พยานในพระองค์

  • ช่วยให้ผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์แต่ละคนเตรียมพร้อมสำหรับการรับใช้ตลอดชีวิต

  • จัดให้มีการรับใช้พระเจ้าอันเป็นที่ต้องการและทรงคุณค่าผ่านการบำเพ็ญประโยชน์ในศาสนจักรและองค์กรชุมชน

ขณะท่านรับใช้พระผู้ช่วยให้รอดอย่างซื่อสัตย์ในพระนามของพระองค์และในวิธีของพระองค์ทั้งในช่วงเวลาและหลังงานเผยแผ่ ท่านจะพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ คุณลักษณะหรืออุปนิสัยเหล่านี้จะช่วยให้ท่านบรรลุจุดมุ่งหมายการเป็นผู้สอนศาสนาของท่าน

ท่านมีโอกาสที่จะเสริมสร้างทักษะทางวิญญาณ ทางสังคม ทางกาย และทางปัญญาใหม่ๆ ที่จะเป็นพรและอิทธิพลดีต่อท่านในทุกแง่มุมของชีวิต

1.5

มาตรฐานสำหรับชีวิต

พระผู้เป็นเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ท่านอุทิศตนแด่พระองค์ตลอดชีวิต มาตรฐานงานเผยแผ่ เช่น การศึกษาส่วนตัว การตั้งเป้าหมาย และการใช้เทคโนโลยีอย่างชอบธรรมจะเป็นพรแก่ท่านในงานเผยแผ่และตลอดชีวิตที่เหลือของท่าน

จงยอมให้พระบัญญัติในพระคัมภีร์และมาตรฐานผู้สอนศาสนาเหล่านี้กลายเป็นหลักธรรมนำทางตลอดชีวิตท่าน เมื่อท่านทำตามพระบัญญัติและมาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงชี้นำ อวยพร และนำทางท่านตลอดชีวิต