มัทธิว 28; ลูกา 24; ยอห์น 20
พยานของพระผู้ช่วยให้รอดที่ฟื้นคืนพระชนม์
พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อบุคคลและกลุ่มคนมากมายหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ บทเรียนนี้สามารถช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ประจักษ์พยานของท่านว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์ขณะท่านศึกษาประสบการณ์ของพยานบางคนเหล่านี้
การเชื่อโดยปราศจากการมองเห็น
ดูภาพต่อไปนี้ของพระผู้ช่วยให้รอดผู้ฟื้นคืนพระชนม์ซึ่งกำลังเสด็จออกมาจากอุโมงค์ บันทึกในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านถึงสิ่งที่ท่านอาจแบ่งปันกับใครบางคนที่สงสัยว่าเหตุการณ์ที่สำคัญมากนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ท่านอาจแบ่งปันเรื่องราวพระคัมภีร์เรื่องใดบ้างถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดกับเขา?
-
เพราะเหตุใดท่านจึงคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อพระเจ้าที่เราแต่ละคนได้รับประจักษ์พยานของตนเองว่าพระองค์ทรงพระชนม์?
ใคร่ครวญถึงประจักษ์พยานของท่านว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์และท่านจะได้รับพรจากการเสริมสร้างประจักษ์พยานนี้อย่างไร การศึกษาถ้อยคำของผู้ที่รู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์สามารถเสริมสร้างศรัทธาของเราในความเป็นจริงของการทรงพระชนม์ของพระองค์แม้ว่าผู้อื่นรอบตัวเราจะสงสัยก็ตาม ขณะท่านศึกษาในวันนี้ ขอให้ใส่ใจถึงการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ยืนยันความจริงของเรื่องราวเหล่านี้ต่อใจและความคิดของท่าน
พยานในพันธสัญญาใหม่
พยานอื่นๆ ในพระคัมภีร์
พยานในสมัยปัจจุบัน
อีกทางหนึ่งที่สำคัญในการเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์คือการศึกษาประจักษ์พยานของ “พยานพิเศษถึงพระนามของพระคริสต์ในทั่วโลก” สมัยปัจจุบัน (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:23) อัครสาวกที่ได้รับแต่งตั้งในสมัยของเรา
.. ChurchofJesusChrist.org. อ่านข้อความของประธานอายริงก์และเอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์ ผู้เป็นพยานสมัยปัจจุบันสองท่านของพระเยซูคริสต์
ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์ แห่งฝ่ายประธานสูงสุดเป็นพยานดังนี้
ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเจ้าอย่างแน่นอนเสมือนหนึ่งข้าพเจ้าอยู่ที่นั่นในค่ำคืนที่มีสานุศิษย์สองคนอยู่ในบ้านบนถนนไปสู่เอมมาอูส ข้าพเจ้าทราบว่าพระองค์ทรงพระชนม์อย่างแน่นอนเหมือนกับที่โจเซฟ สมิธทราบเมื่อเขาเห็นพระบิดาและพระบุตรในแสงเรืองรองของรุ่งอรุณอันสดใสในป่าที่พอลไมรา
นี่คือศาสนจักรที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์
(เฮนรีย์ บี. อายริงก์ “จงมาหาเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 25)
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเป็นพยานว่า:
ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรผู้ทรงพระชนม์จริงๆ ของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์จริงๆ … ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์จริงๆ จากอุโมงค์ และหลังจากเสด็จขึ้นไปเฝ้าพระบิดาเพื่อทำให้กระบวนการในการฟื้นคืนชีวิตสมบูรณ์ พระองค์ทรงปรากฏหลายครั้งต่อสานุศิษย์หลายร้อยคนในโลกเก่าและในโลกใหม่ ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล พระเมสสิยาห์ ผู้จะเสด็จมาอีกครั้งในรัศมีภาพสุดท้ายเพื่อปกครองบนแผ่นดินโลกในฐานะพระเจ้าเหนือเจ้านายและกษัตริย์เหนือกษัตริย์
(เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวและพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2007, 51)
-
เหตุใดท่านจึงคิดว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงมอบพยานสมัยปัจจุบันแก่เรานอกเหนือจากพยานในสมัยโบราณของพระองค์?
การเป็นพยานของท่าน
อ่าน ยอห์น 20:29 โดยมองหาความจริงที่พระเยซูคริสต์ทรงสอนโธมัสเกี่ยวกับการได้รับประจักษ์พยาน
-
ข้อนี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับการพัฒนาประจักษ์พยานของท่านถึงพระเยซูคริสต์?
ความจริงข้อหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดในข้อนี้คือ เราได้รับพรเพราะเราเลือกที่จะเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์แม้เราจะไม่เคยเห็นพระองค์
เสริมพยานส่วนตัวของท่านถึงพระผู้ช่วยให้รอดกับผู้ที่ท่านศึกษาในวันนี้ วิธีหนึ่งในการทำสิ่งนี้ ท่านอาจบันทึกคำตอบของคำถามดังต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน
-
ท่านเห็นหลักฐานอะไรในชีวิตท่านและในชีวิตของคนอื่นๆ ว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์?
-
ท่านเคยรู้สึกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานต่อท่านถึงความมีอยู่จริงของพระเยซูคริสต์เมื่อใด?
-
ท่านจะให้คำแนะนำใดแก่ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าตนจะเชื่อว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์หรือไม่?
เลือกได้: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?
เหตุใดจึงมีบาดแผลจากการตรึงการเขนในพระวรกายที่ฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู?
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเขียนดังนี้:
แม้ว่าอำนาจการฟื้นคืนพระชนม์อาจ—และไม่ต้องสงสัยว่าแน่นอนวันหนึ่งจะ—ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และทำให้บาดแผลหายจากการตรึงกางเขน อย่างไรก็ดี พระคริสต์ทรงเลือกที่จะเก็บบาดแผลเหล่านั้นไว้เพื่อจุดประสงค์อย่างหนึ่ง รวมถึงการปรากฏพระองค์ในวันเวลาสุดท้ายเมื่อพระองค์จะทรงแสดงเครื่องหมายเหล่านั้นและเปิดเผยว่าทรงบาดเจ็บ “ในบ้านของพวกเพื่อน [ของพระองค์]” [เศคาริยาห์ 13:6; หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:52]
บาดแผลที่พระหัตถ์ พระบาท และพระปรัศว์เป็นเครื่องหมายว่าในความเป็นมรรตัย สิ่งที่เจ็บปวดเกิดขึ้นแม้ต่อผู้ที่บริสุทธิ์และดีพร้อม เครื่องหมายที่ว่าความยากลำบาก ไม่ใช่ หลักฐานว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงรักเรา เป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญและเต็มไปด้วยความหวังว่าเป็นพระคริสต์ ผู้ทรงบาดเจ็บ ที่เสด็จมาช่วยชีวิตเรา
(เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, Christ and the New Covenant [1997], 258–259)
ยอห์น 20:17 พระผู้ช่วยให้รอดทรงหมายถึงอะไรเมื่อทรงบอกมารีย์ ชาวมักดาลา “อย่าหน่วงเหนี่ยว [พระองค์] ไว้”?
เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี (1915–1985) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า
พระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์กล่าวว่าพระเยซูคริสต์รับสั่งว่า “อย่าแตะต้องเรา” งานแปลของโจเซฟ สมิธอ่านว่า “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้” งานแปลหลายงานจากภาษากรีกถอดความเป็น “อย่ารั้งเราไว้” หรือ “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้” ผู้แปลบางคนให้ความหมายว่า “อย่ารั้งเราไว้อีกต่อไป” หรือ “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้อีกต่อไป” บ้างก็พูดถึงการเลิกหน่วงเหนี่ยวหรือเลิกรั้งพระองค์ โดยให้ความหมายว่ามารีย์นั้นได้รั้งพระองค์ไว้แล้ว มีเหตุผลน่าเชื่อถือสำหรับสมมุติฐานที่ว่าพระเจ้าผู้ทรงฟื้นคืนทรงสื่อสารกับมารีย์ดังนี้ “ท่านไม่สามารถหน่วงเหนี่ยวเราไว้ที่นี่ เพราะเรากำลังจะขึ้นไปหาพระบิดาของเรา”
(บรูซ อาร์. แมคคองกี, The Mortal Messiah: From Bethlehem to Calvary [1981], 4:264)
.
ChurchofJesusChrist.org
.
.