2019
พบความสงบในพายุของการเสพติด
กุมภาพันธ์ 2019


พบความสงบในพายุของการเสพติด

การเสพติดเป็นเฮอร์ริเคนที่โหมกระหน่ำทั้งผู้เสพและคนที่พวกเขารักไม่หยุดหย่อน

woman in boat near lighthouse

ภาพประกอบจาก Getty Images

คืนที่พี่ชายของดิฉันเสพเฮโรอีนเกินขนาดเป็นคืนที่ดิฉันจะไม่มีวันลืม ดิฉันยังคงจำรายละเอียดทั้งหมดได้ เสียงตัวเขากระแทกพื้นดังโครม เสียงตะโกนของพ่อแม่ ความหวาดผวา ความสับสน และความสิ้นหวังที่รู้สึกเมื่อดิฉันรู้ตัวว่าเราเพิ่งเริ่มต่อสู้กับการเสพติดที่ดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น

เมื่อพี่ชายไม่ตอบสนอง ดิฉันจึงประหลาดใจมาก แม้มีความยุ่งเหยิงรอบตัว แต่พลังภายในที่เหนือธรรมชาติมีอำนาจเหนือดิฉันจนดิฉันสามารถช่วยพ่อแม่ดูแลพี่ชายให้มีอาการคงที่ได้ ดิฉันจับมือสีเทาแข็งเกร็งของเขาและพูดกับเขาช้าๆ ขณะเขาจ้องกลับด้วยดวงตาเหม่อลอย ถึงแม้ดิฉันไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น แต่ดิฉันสงบอย่างประหลาดขณะรอให้เขาได้สติคืนมา ดิฉันทราบในภายหลังว่าความสงบที่เกิดขึ้นตอนนั้นเป็นเดชานุภาพการค้ำจุนของพระเจ้า

หลังจากเขามีอาการคงที่และถูกส่งไปบำบัดที่โรงพยาบาล ความเป็นจริงของสถานการณ์ทำให้ดิฉันตกตะลึง พลังที่สวรรค์ส่งมาชั่วครู่นั้นค่อยๆ หมดไป และดิฉันทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความทุกข์ระทม ใจดิฉันสลาย ดิฉันเจ็บหน้าอกขณะนอนขดตัวอยู่บนเตียง และหายใจไม่ออก ดิฉันไม่สามารถส่งเสียงร้องไห้ออกมาตามอารมณ์ได้ “ชีวิตฉันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร” ดิฉันคิด “เขาไม่มีวันเอาชนะได้หรอก! ฉันทำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว!”

ในขณะที่ดิฉันทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความเศร้าใจ ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกแรงที่มองไม่เห็นยกขึ้นไปในอากาศ—แรงลมที่ทุ่มดิฉันลงไปบนพื้นต่ำสุดที่มืดและเย็นเยียบ—สภาพที่ไม่เพียงสงวนไว้สำหรับคนติดยาเท่านั้นแต่สำหรับคนที่รักพวกเขาด้วย สภาพที่ดิฉันคุ้นเคยเหลือเกิน

เฮอร์ริเคนที่โหมกระหน่ำไม่หยุดหย่อน

ท่านแทบทนไม่ไหวขณะเฝ้าดูคนที่ท่านรักต่อสู้กับการเสพติด การเสพติดป้อนคำโป้ปด การปกปิด การหลอกลวง และการหักหลัง ซึ่งก่อให้เกิดการต่อต้าน ความอับอาย และความไม่ไว้วางใจ—ทั้งหมดนี้ทำลายความสัมพันธ์กับผู้อื่นและทำให้เราแต่ละคนสงสัยการเข้าใจความจริงของเรา ดิฉันไม่สามารถบอกท่านได้ว่าดิฉันกับพ่อแม่พี่น้องต้องเผชิญกับความเจ็บปวดสุดขีดทางอารมณ์กี่ครั้งของคำถามที่ว่า “จะเป็นอย่างไรถ้า” และ “ถ้าเพียง”

ใช่ว่าทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการเสพติดจะมีประสบการณ์เหมือนกัน แต่ในกรณีของครอบครัวดิฉัน การเสพติดของพี่ชายก่อให้เกิดความไม่เห็นพ้องว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร มีความเห็นแบบอ่อนนอกแข็งในเกี่ยวกับความรู้สึกเจ็บปวดของดิฉันกับพี่สาวเมื่อพ่อแม่สนใจแต่พี่ชายของเรา บางครั้งเราทุกคนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่พูดหรือทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

การเสพติดเป็นเหมือนพายุฝนฟ้าคะนองที่จวนจะเกิด—เมฆหมอกของความไม่แน่นอนและความวิตกกังวลลอยอยู่เหนือศีรษะเรา แม้เราจะเฝ้าระวังตลอดเวลาขณะรอสายฟ้าฟาด แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้นเราก็ไม่ได้เตรียมตัว ทำให้เราตื่นกลัวทุกครั้ง ทุกครั้ง มันเป็นวงจรอุบาทก์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ตอนที่พี่ชายเสพยาเกินขนาด เขาไม่ได้ใช้ยามาสองปีแล้ว เรากำลังเห็นแสงสว่างหลังจากเฝ้าดูเขาต่อสู้กับผลอันโหดร้ายของการเสพติดมานานกว่าสิบปี แต่ทันทีที่เขาเปิดรับความชั่วนั้นอีกครั้ง ทุกอย่างที่เขาสร้างไว้ในสองปีที่ผ่านมาพังครืน

หลังจากเห็นอิสรภาพตรงปลายฟ้าได้ไม่นานพี่ชายก็กลับไปเสพอีก ทำให้เรากลับเข้าไปอยู่ในเฮอร์ริเคนที่รุนแรงซับซ้อนและดูเหมือนหนีไม่พ้นของการเสพติด พายุที่กระหน่ำผู้เสพขณะโหมซัดคนที่พวกเขารัก

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายเรื่องการเสพติดดังนี้ “อาจคิดว่าลองครั้งแรกไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่วงจรอุบาทก์จะตามมา จากการทดลองกลายเป็นนิสัย จากนิสัยกลายเป็นเสพต่อเนื่อง จากการเสพต่อเนื่องกลายเป็นการเสพติด มันจะกำแน่นขึ้นทีละนิด โซ่ตรวนของนิสัยเล็กเกินกว่าจะรู้สึกจนกระทั่งแข็งแรงเกินกว่าจะตัดให้ขาด”1

ความรู้สึกว่าถูกหักหลังอย่างจังบดขยี้ดิฉันกับครอบครัว

แต่สิ่งที่เรามักจะลืมเกี่ยวกับการเสพติดคือเมื่อพี่ชายกลับไปเสพอีกครั้ง เขาไม่ได้เลือกการเสพติดก่อนครอบครัว แต่เขาต้องเผชิญกับการล่อลวงที่แทบทนไม่ไหวทุกวันซึ่งเราไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้

เราสามารถพบพระผู้ช่วยให้รอดตรงจุดต่ำสุด

ขณะนอนอยู่บนเตียง ดิฉันรู้สึกได้ถึงความสับสนวุ่นวายที่คุ้นเคยและกำลังคลานกลับเข้ามาในความคิดดิฉัน ดิฉันสิ้นหวัง ยอมแพ้ เจ็บปวด แม้จะวิงวอนให้พระผู้เป็นเจ้าทรงขจัดความเจ็บปวดในใจดิฉันและประทานความเข้มแข็งให้พี่ชายเอาชนะการทดลองนี้อีกครั้ง แต่ดิฉันมั่นใจว่าดิฉันจะไม่สามารถดึงตนเองขึ้นจากหลุมดำของความหมดหวังได้หลังจากเห็นพี่ชายสูญสิ้นความหวัง

แต่ดิฉันพยายามดึง

ทุกครั้งที่พบตนเองนอนอยู่ในห้วงลึกของความสิ้นหวัง ไม่ว่าจะเกิดจากการเสพติดของพี่ชายหรือเพราะการทดลองอื่นๆ ที่ดิฉันกำลังประสบ ดิฉันจะลุกขึ้น ตั้งลำ และแล่นเรืออีกครั้ง อาจจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่พระคุณและพระเมตตาของพระผู้ช่วยให้รอดน่าอัศจรรย์นักเมื่อดิฉันวางชีวิตไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงทำสิ่งที่สุดวิสัยให้เป็นไปได้ ดังที่อัครสาวกเปาโลสอน “ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” (ฟีลิปปี 4:13)

ชั่วขณะของความสิ้นหวัง ชั่วขณะที่ดิฉันอยู่ “จุดต่ำสุด” มักจะเกิดขึ้นเมื่อชีวิตราบรื่น เมื่อดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก และจากนั้นจู่ๆ ดิฉันก็ตกลงมา—และ กระแทกพื้นเสียงดัง! ดิฉันนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นอันไร้เมตตาของจุดต่ำสุด จู่ๆ ก็ตกลงมาอย่างไม่คาดคิดและเจ็บปวด แต่น่าแปลก หลังจากใช้เวลาพอสมควรในชีวิตที่นั่นขณะอยู่ท่ามกลางการทดลองต่างๆ ดิฉันได้เรียนรู้ว่าจุดต่ำสุดสามารถเป็นที่ซึ่งสวยงามได้เช่นกัน เพราะเมื่อความมืดสนิทห้อมล้อมตัวท่าน แสงสว่างของพระผู้ช่วยให้รอดยังคงเจิดจ้า เมื่อท่านพบตนเองอยู่ตรงจุดต่ำสุด พึงจดจำคำพูดของเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง “เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะจมดิ่งลงไปลึกกว่าความสว่างอันไม่มีขอบเขตของการชดใช้ของพระคริสต์จะส่องถึง”2

ช่วงที่ดิฉันอยู่จุดต่ำสุดช่วยให้ดิฉันตระหนักมากขึ้นถึงเดชานุภาพการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เมื่อดิฉันทุกข์ใจเรื่องพี่ชายและคิดว่าไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่ดิฉันกำลังประสบ ดิฉันรู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดเข้าพระทัย ดิฉันรู้ว่าพระองค์เข้าพระทัยการเสพติดของพี่ชายอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจได้ ยิ่งดิฉันเกลียดการตกลงไปถึงจุดต่ำสุดอย่างฉับพลันทันทีและน่ากลัวมากเท่าใด ดิฉันยิ่งสำนึกคุณต่อชั่วขณะที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยให้ดิฉันยืนขึ้นทั้งที่ดิฉันไม่มีแรงจะยืน เกี่ยวกับการเสพติดของพี่ชาย พระองค์ทรงเพิ่มพลังให้ดิฉันมีความเห็นใจพี่ชายแทนที่จะตัดสินหรือตำหนิเขา เห็นอกเห็นใจเขาขณะเขาต่อสู้กับสิ่งที่ดิฉันไม่เข้าใจถ่องแท้ ให้อภัยเขาและรักเขาแม้ดิฉันจะเจ็บปวดเพราะการเลือกของเขาหลายครั้งก็ตาม

การสนับสนุนคนที่กำลังเสพติด

ที่จริงแล้วพี่ชายของดิฉันเป็นคนดี เขาอ่อนโยนและน่านับถือ เขาอ่อนน้อมและสุภาพ เขามีไหวพริบและร่าเริงสนุกสนาน เขาเป็นคุณลุงที่น่ารัก เป็นเพื่อนที่ดี และเป็นคนที่ครอบครัวของดิฉันรัก เขาไม่ใช่คนเลวเลย เขาเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า มีค่าเหลือคณา แต่ติดกับดักของซาตานและการเสพติดเพราะเขาทำการเลือกที่ผิดบางอย่าง ดังที่ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดสอน “การไม่เชื่อฟังเล็กน้อยหรือความล้มเหลวเล็กน้อยในการทำตามวิธีปฏิบัติที่ชอบธรรมสามารถดึงเราลงไปสู่ผลลัพธ์ที่มีผู้เตือนเราให้หลีกเลี่ยง”3 แม้พี่ชายของดิฉันจะเลือกผิด แต่เขากับคนที่ต่อสู้กับการเสพติด และครอบครัวของคนเหล่านั้นต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจ

ครอบครัวของดิฉันทนทุกข์อย่างเงียบๆ กับการต่อสู้อย่างยาวนานของพี่ชาย เราอดทนต่อความอับอายที่เรารู้สึกไปเองนานหลายปี การเสพติดเป็นเรื่องต้องห้าม ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่พูดถึง เราคิดว่าการเสพยาไม่น่าจะมีผลต่อครอบครัวที่ดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณและทำตามพระเยซูคริสต์สุดความสามารถ เรากลัวมากว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรถ้าพวกเขาทราบ พ่อแม่ของดิฉันตำหนิตนเองตลอดมาในเรื่องการตัดสินใจของพี่ชาย ดิฉันอยากปกปิดไม่ให้เพื่อนๆ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเราอยากเลี่ยงทุกคำถามเกี่ยวกับพี่ชายของดิฉัน แต่เราไม่รู้ว่าการไม่พูดเรื่องนี้ทำให้สภาวการณ์ของเราเจ็บปวดกว่าที่เป็นอยู่

ตอนนี้ดิฉันเผชิญการเสพติดของพี่ชายต่างจากเดิม และนั่นเป็นคำสำคัญ เผชิญ หลายปีมากที่ดิฉันหลีกเลี่ยงและปกปิดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ดิฉันกับครอบครัวหันหน้ามาเผชิญกับมัน เราขอการสนับสนุนและพยายามสนับสนุนผู้อื่น หลายปีผ่านไป เราพบว่าการเสพติดกระทบหลายครอบครัวในรูปแบบต่างๆ—และไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายหรือปกปิด เราต้องพูดคุยกัน และคนที่เจ็บปวดเพราะสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เรารักหรือคนที่กำลังต่อสู้ ต้องถูกตัดสินน้อยลงและได้รับความช่วยเหลือ ความเห็นใจ ความเข้าใจ และความรักมากขึ้น ไม่ควรมีใครทนทุกข์เพียงลำพัง

การพบความสงบในความวุ่นวาย

woman reaching up in the storm

ถึงแม้ดิฉันสวดอ้อนวอนหลายปีขอให้ทรงนำการเสพติดของพี่ชายออกไป แต่ดิฉันเรียนรู้ว่าเราจะทำลายสิทธิ์เสรีของเขาไม่ได้ เขายังมีสิทธิ์เสรีและทำการเลือกของเขาเอง แม้จะเป็นทาสของการเสพติดก็ตาม ดิฉันกับครอบครัวสามารถอยู่ที่นั่นเพื่อเขาและรักเขา แต่เราจะบังคับให้เขาเปลี่ยนไม่ได้ เขาเป็นคนตัดสินใจ ด้วยเหตุนี้เมื่อเราติดอยู่ในเฮอร์ริเคนอันบ้าคลั่งที่ล้อมรอบพี่ชายของดิฉัน บางครั้งจึงรู้สึกประหนึ่งไม่มีทางออก เรารู้สึกเหมือนหลายคนที่เผชิญการเสพติดคือเราจะไม่มีวันหนีพ้น แต่แน่นอนว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงอยู่ที่นั่นเพื่อประทานอิสรภาพเพียงชั่วคราวให้เราผ่านความรู้สึกสงบ ความผ่อนคลาย และความรู้ที่ว่าสักวันทุกอย่างจะดี

วิธีของพระผู้ช่วยให้รอดในการนำความสงบมาให้ดิฉันไม่เกิดขึ้นทันทีเสมอไปหรือไม่ใช่ปาฏิหาริย์ที่ทำให้อ้าปากค้าง เมื่อดิฉันกำลังเผชิญลมแรงเท่าเฮอร์ริเคนของการเสพติด ดิฉันมักจะนึกถึงเวลาที่พระผู้ช่วยให้รอดบรรทมท่ามกลางพายุขณะแล่นเรือกลางทะเลกาลิลี ในขณะนั้น อัครสาวกของพระองค์อกสั่นขวัญแขวน พวกเขาเลือกให้ความสนใจกับพายุแทนที่จะให้ความสนใจกับพระผู้ช่วยให้รอด กระนั้นพระองค์ก็ทรงอยู่ข้างๆ พวกเขาตลอดเวลา พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งพวกเขาและเสด็จมาช่วยชีวิตพวกเขา—ทั้งที่พวกเขาสงสัยพระองค์ (ดู มาระโก 4:36–41)

ดิฉันได้เรียนรู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะไม่มีวันปล่อยให้ดิฉันจมน้ำ ในชีวิตดิฉันมักจะมีตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของพระเมตตาจากพระเจ้าที่ทรงยอมให้ดิฉันพายเรือฝ่าคลื่นมรสุมชีวิตที่ซัดกระหน่ำดิฉัน พระองค์ทรงช่วยให้ดิฉันสงบนิ่งและไม่ตื่นตระหนกเมื่อพี่ชายต้องการให้ช่วย พระองค์ทรงช่วยดิฉันรวบรวมกำลังให้มากพอจะลุกจากเตียงในวันที่ดิฉันเชื่อว่าตนไม่มีแรงหลงเหลือ และพระองค์ยังคงประทานความสงบให้ดิฉันแม้ดิฉันจะกลัวจนทำอะไรไม่ถูก

มีความหวังอยู่เสมอ

เพราะเราได้ยินเรื่องเศร้าบ่อยครั้งเกี่ยวกับการใช้ยาเกินขนาด พิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการหย่าร้างจำนวนมากเนื่องจากสื่อลามก การเสพติดจึงดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเอาชนะได้ แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เนื่องจากพระผู้ช่วยให้รอด จึงมีความหวังอย่างแท้จริงในทุกสถานการณ์

ถึงแม้ดิฉันไม่รู้ว่าการต่อสู้ของพี่ชายจะจบลงอย่างไร แต่ดิฉันยังหวังแม้ดูเหมือนจะสิ้นหวัง ดิฉันอดอาหาร ดิฉันสวดอ้อนวอนขอความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ และการนำทางแทนที่จะขอให้ทรงนำเอาการเสพติดของเขาออกไปโดยเร็ว ดิฉันยอมรับว่าการเติบโตทางวิญญาณในตัวดิฉันเกิดจากการทดลองนานนับสิบปีนี้ ดิฉันใช้แหล่งช่วยมากเท่าที่ดิฉันจะใช้ได้เพื่อเข้าใจสิ่งที่ยากจะเข้าใจ และดิฉันได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากเพื่อนๆ และผู้นำศาสนจักร

แต่ส่วนใหญ่แล้วดิฉันพึ่งพาพระผู้ช่วยให้รอด เดชานุภาพการเยียวยาและการช่วยให้รอดของพระองค์ การชดใช้ของพระองค์มีอยู่จริง ไม่มีการปลอบโยนใดยิ่งใหญ่กว่าการรู้ว่าพระองค์เข้าพระทัยสิ่งที่ดิฉันกับพี่ชายเผชิญอย่างถ่องแท้ สดุดี 34:18 สอนว่า “พระยาห์เวห์ทรงอยู่ใกล้ผู้ที่ใจแตกสลายและทรงช่วยผู้สิ้นหวัง”

ดิฉันรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ใกล้ดิฉันในช่วงที่ดิฉันใจแตกสลาย และดิฉันรู้ว่าพระองค์จะทรงอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อช่วยให้ดิฉันพบความสุขอีกครั้ง พระองค์ไม่เพียงเฝ้าดูเฮอร์ริเคนจากฝั่งเท่านั้น แต่บ่อยครั้งทรงอยู่บนเรือเพื่อฝ่าคลื่นลมแรงพร้อมกับดิฉัน พระองค์ยังคงทำให้ทะเลป่วนในชีวิตดิฉันสงบลงและทรงยอมให้ดิฉันเติบโตและรู้สึกถึงความสงบที่แท้จริง

อ้างอิง

  1. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “Addiction or Freedom,” Ensign, Nov. 1988, 6.

  2. เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “คนงานในสวนองุ่น,” เลียโฮนา, พ.ค. 2012, 33.

  3. ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “เรื่องเล็กและเรียบง่าย,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 91.