ดิจิทัลเท่านั้น
การทำให้หลักคำสอนและพันธสัญญาเกี่ยวข้องกับท่านโดยตรง
การศึกษา จงตามเรามา ในปีนี้จะช่วยให้เราตระหนักว่าพระคัมภีร์เข้าถึงเราได้มากเพียงใด
ในปีนี้เราจะศึกษาหลักคำสอนและพันธสัญญาในบทเรียน จงตามเรามา ของเรา หลักคำสอนและพันธสัญญาสอนเกี่ยวกับหลักคำสอนของพระกิตติคุณ พรของการรักษาพระบัญญัติ การแสวงหาและรับการเปิดเผยส่วนตัว อันที่จริง ส่วนใหญ่ของพระคัมภีร์ถือเป็นการเปิดเผยโดยตรงจากพระเจ้า และเป็นพยานอันทรงพลังที่พระองค์จะตรัสกับท่านได้เช่นกัน
ท่านทำให้การศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวของท่านมีพลังมากยิ่งขึ้นเมื่อท่านตระหนักว่าสิ่งที่มีความสำคัญต่อท่านก็มีความสำคัญต่อพระเจ้าเช่นกัน พระองค์ทรงทุ่มเททุกด้านในชีวิตท่านไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา ความสัมพันธ์ การปฏิบัติศาสนกิจ หรือสวัสดิภาพโดยทั่วไปของท่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา “ประกอบด้วยคำเชื้อเชิญผู้คนทั้งปวงทุกแห่งหนให้ฟังสุรเสียงของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ซึ่งตรัสกับพวกเขาเพื่อความผาสุกในทางโลกและความรอดอันเป็นนิจของพวกเขา” (คำนำของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา)
เมื่อพูดเช่นนั้น หากในบางครั้งท่านมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเกี่ยวกับหลักคำสอนและพันธสัญญา นี่คือเคล็ดลับบางประการที่จะทำให้การศึกษาของท่านเกี่ยวข้องกับท่านโดยตรงและมีความหมายมากขึ้น:
1. สวดอ้อนวอนล่วงหน้าและศึกษาโดยมีจุดประสงค์
คำแรกของภาคที่ 1 คือ จงสดับฟังเถิด ซึ่งเป็นพระดำรัสเชื้อเชิญของพระเจ้าให้ฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจถ้อยคำของพระองค์ พระเจ้าทรงกระตือรือร้นที่ท่านจะฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์เพราะพระองค์เข้าพระทัยความต้องการของท่านและทรงทราบว่าจะช่วยเหลือท่านอย่างไร เมื่อท่านเริ่มต้นการศึกษาด้วยการสวดอ้อนวอน ท่านสามารถอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไวต่อการกระตุ้นเตือนมากขึ้น และมุ่งให้ความสำคัญในการเจาะลึกถึงความหมายของข้อต่างๆ
เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “ตลอดทุกยุคทุกสมัย พระบิดาบนสวรรค์ทรงดลใจชายหญิงที่ทรงเลือกไว้ให้พบทางออกของปัญหายุ่งยากที่สุดในชีวิตโดยผ่านการนำทางของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงดลใจผู้รับใช้ที่ได้รับมอบอำนาจให้บันทึกทางออกเหล่านั้นไว้เป็นคู่มืออย่างหนึ่งสำหรับบุตรธิดาของพระองค์ซึ่งมีศรัทธาในแผนแห่งความสุขและในพระบุตรที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสต์”1 หนึ่งในหนังสือเหล่านั้นคือหลักคำสอนและพันธสัญญา ขณะที่ท่านเตรียมรับการเปิดเผยส่วนตัวด้วยการพิจารณาสิ่งที่ต้องศึกษาและวิธีการอย่างถี่ถ้วน ท่านแสดงให้พระเจ้าเห็นความเต็มใจของท่านที่จะทำงานเคียงข้างพระองค์เพื่อขอการนำทาง
การผสมผสานกิจวัตรในการศึกษาของท่านยังช่วยให้ท่านได้รับมุมมองใหม่ๆ อีกด้วย ลองศึกษาตามหัวข้อหรือลำดับเวลาที่ได้รับการเปิดเผย (ดูที่ลำดับเวลาของเนื้อหา) จากนั้นทำเครื่องหมายตรงข้อที่จะช่วยให้ท่านมองเห็นภาพหลักธรรมที่สอนไว้
2. รู้บริบททางประวัติศาสตร์
การรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนการเปิดเผยในหลักคำสอนและพันธสัญญาจะช่วยให้ท่านเข้าใจว่าพระเจ้าทรงสอนอะไรอยู่2 “การเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้รับในคำตอบของการสวดอ้อนวอน, ในเวลาจำเป็น, และออกมาจากสถานการณ์ชีวิตจริงที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่มีชีวิตอยู่จริง. ท่านศาสดาพยากรณ์และผู้ร่วมงานของท่านแสวงหาการนำทางจากพระผู้เป็นเจ้า, และการเปิดเผยเหล่านี้ยืนยันว่าพวกท่านได้รับการนำทางนั้น. ในการเปิดเผยเราเห็นการฟื้นฟูและการเผยพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้ปรากฏและการนำเข้าสู่สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา” (คำนำของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา)
แท็บ “การฟื้นฟูและประวัติศาสนจักร” ในแอปพลิเคชันคลังค้นคว้าพระกิตติคุณจะรวบรวมแหล่งข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ซึ่งนำไปสู่กิจกรรมสำคัญ เช่น ประวัติศาสนจักรและบทความจากหัวข้อพระกิตติคุณ ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประวัติศาสนจักรทั่วโลก การทำความเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์จะช่วยให้ท่านรับรู้ว่าท่านสดับฟังพระองค์อย่างไร
3. ปรับแต่งในแบบของท่าน
หลายภาคในหลักคำสอนและพันธสัญญาอุทิศให้ผู้คนที่พระผู้เป็นเจ้ากำลังตรัสด้วย ขณะที่อ่าน ลองใส่ชื่อท่านแทนที่ชื่อพวกเขาเพื่อเตือนท่านว่าพระเจ้าจะตรัสกับท่านเป็นการส่วนตัวเมื่อท่านต้องการเปรียบพระคัมภีร์กับตัวท่านเอง (ดู 1 นีไฟ 19:23)
และอย่าลืมค้นหาวีรบุรุษจากหลักคำสอนและพันธสัญญาของท่าน! เฉกเช่นนีไฟอาจเป็นวีรบุรุษของท่าน ค้นหาว่าท่านมีความเชื่อมโยงกับใครและใครเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านในหลักคำสอนและพันธสัญญา พระคัมภีร์เล่มนี้มีตัวอย่างของวิสุทธิชนที่หันไปหาพระเจ้าเพื่อขอคำแนะนำและการสนับสนุนทั้งในยามดีและยามร้าย
ฉันได้รับประจักษ์พยานถึงหลักคำสอนและพันธสัญญาเพราะฉันสวดอ้อนวอนและพยายามจดจำข้อความส่วนตัวที่พระเจ้าประทานแก่ฉันในแต่ละภาค ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากศรัทธาของผู้ที่วางรากฐานให้การฟื้นฟูที่ฉันเป็นส่วนหนึ่ง การศึกษาพระคัมภีร์เล่มนี้จะทำให้ท่านรู้ว่าน่าทึ่งเพียงใดที่พระเจ้ายังคงตรัสกับเราเหมือนกับที่พระองค์เคยตรัสกับคนอื่นๆ ในยุคก่อน ท่านจะรู้ว่าพระองค์ทรงรู้จักท่านและสภาวการณ์ส่วนตัวของท่าน พระองค์จะทรงนำทางท่านผ่านความท้าทายที่ไม่เหมือนใครของท่าน ศรัทธาและความวางใจของท่านในพระองค์จะเติบโตต่อไป