ห้ามพลาดการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนี้
มันเป็นเรื่องของเวลา
จากคำปราศรัยการให้ข้อคิดทางวิญญาณเรื่อง “จงนิ่งเสียและรู้เถิดว่าเราคือพระเจ้า” ให้กับนักศึกษาที่ Ensign College ในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 อ่าน บทความเต็ม ที่ ensign.edu
วิธีใช้เวลาของท่านและสิ่งที่ท่านใช้เวลากับมันเป็นเรื่องสำคัญมาก
ตั้งแต่สมัยของอาดัมกับเอวาจนถึงสมัยของโจเซฟกับเอ็มมา สมิธ โลกค่อยๆ เปลี่ยนจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง ผู้คนชอบแสงสว่างล้นเหลือตามธรรมชาติในท้องฟ้าโดยไม่มีไฟถนน ไฟหน้ารถ และมลพิษทางแสง แต่ในเมืองยุคปัจจุบัน แทบมองไม่เห็นท้องฟ้ายามราตรีเหมือนที่อับราฮัม โมเสส นางรูธ เอลีซาเบธ พระเยซู และวิสุทธิชนยุคสุดท้ายรุ่นแรกเห็น
คนในอดีตชอบความเงียบตามธรรมชาติเช่นกัน แต่ปัจจุบัน เสียงจากรถยนต์ เครื่องบิน และดนตรีกลบโลกธรรมชาติจนหมดสิ้น แม้แต่ในป่าไกลโพ้นก็ยังถูกเสียงเครื่องบินบนฟ้าทำลายความเงียบอยู่บ่อยครั้ง
และคนสมัยก่อนประสบความเงียบสงัดอย่างที่เรานึกภาพไม่ออก ทุกวันนี้แม้แต่ตอนที่เราอยู่ลำพัง เรายังได้ยินเสียงอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์แล็บท็อป และโทรทัศน์ โลกที่เราอยู่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลินและหมกมุ่นอยู่กับมัน
ท่านมีเวลาไหม?
ในฐานะอัครสาวก ข้าพเจ้าถามท่านว่า ท่านมีเวลาเงียบๆ ส่วนตัวบ้างหรือไม่? ข้าพเจ้าสงสัยว่าคนสมัยก่อนมีโอกาสเห็น รู้สึก และประสบการประทับของพระวิญญาณมากกว่าเราตอนนี้หรือไม่ ถ้าชีวิตท่านไม่มีเวลาอยู่เงียบๆ ท่านจะเริ่มหาเวลานั้นวันนี้หรือไม่?
สำคัญที่ต้องนิ่ง ฟัง และทำตามพระวิญญาณ ทุกคนต้องมีเวลาตรึกตรองและไตร่ตรอง แม้แต่พระผู้ช่วยให้รอดของโลกยังหาเวลาทำเช่นนั้นในระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจมรรตัยของพระองค์ “และเมื่อทรงให้ฝูงชนไปหมดแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาตามลำพังเพื่ออธิษฐาน เวลาก็ดึกมาก พระองค์ยังประทับที่นั่นแต่ลำพัง” (มัทธิว 14:23)
เราทุกคนต้องมีเวลาถามตัวเราเองหรือมีการสัมภาษณ์ตัวเราเองเป็นประจำ เรามักยุ่งอยู่กับงานและโลกเสียงดังมากจนยากจะได้ยินพระดำรัสจากสวรรค์ว่า “จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่าเราคือพระเจ้า” (สดุดี 46:10; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:16 ด้วย) เราต้องมีความมั่นใจนี้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่เป็นพร แต่สามารถทำให้เราเขวจนไม่ได้ยิน “เสียงสงบแผ่วเบา” ได้เช่นกัน อุปกรณ์เหล่านั้นต้องเป็นทาสรับใช้เรา ไม่ใช่เป็นนายเรา ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนดึกท่านแบ่งปันความคิดที่สร้างแรงบันดาลใจจากการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนี้บนสื่อสังคม สมาร์ทโฟนของท่านเป็นทาสรับใช้ ถ้าท่านท่องอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย—โดยเฉพาะถ้าท่านมองหาเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม—สมาร์ทโฟนของท่านเป็นนายท่าน
จงจดจำสิ่งที่เอลียาห์เรียนรู้: “พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในลมนั้น … พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในแผ่นดินไหวนั้น … พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในไฟนั้น” แต่พระเจ้าตรัสด้วย “เสียงเบาๆ” (1 พงศ์กษัตริย์ 19:11–12)
ท่านใช้เวลาอย่างไร?
ขอให้ตอบตามตรงว่าท่านใช้เวลาทุกวันมากเท่าใดกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไม่รวมที่ใช้สำหรับงานอาชีพ การเรียน หรืองานของศาสนจักร?
การใช้เหล่านั้นเหมาะสมและเป็นพร แต่เมื่อสมาร์ทโฟนเริ่มแทรกแซงความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนๆ และครอบครัว—ที่สำคัญกว่านั้นคือกับพระผู้เป็นเจ้า—เราต้องเปลี่ยน สำหรับบางท่านจะต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่หลายท่านอาจต้องปรับเปลี่ยนมาก
ข้าพเจ้าเป็นห่วงเช่นกันที่การส่งข้อความและการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมมากเกินไปกำลังเข้ามาแทนที่การพูดคุย ข้าพเจ้าหมายถึงการพูดคุยกันโดยตรงอย่างจริงใจ ข้าพเจ้าหมายถึงการพูดคุยในการสวดอ้อนวอนกับพระบิดาบนสวรรค์ของเรา ข้าพเจ้าหมายถึงการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต
บ่อยเหลือเกินที่คนหนุ่มสาวพบตนเองอยู่ในห้องเดียวกันกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ แต่มัวสื่อสารกับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น พวกเขากำลังพลาดโอกาสสนทนากับคนใกล้ตัว เมื่อท่านเห็นเหตุการณ์นี้ ท่านอาจต้องส่งข้อความถึงพวกเขาเพื่อดึงความสนใจของพวกเขา!
เรื่องสำคัญที่สุดบางเรื่องที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ในชีวิตมาจากการฟังคนที่มีประสบการณ์มาก คนที่อยู่มานานกว่าและเรียนรู้เรื่องสำคัญมากมายที่ข้าพเจ้าจำเป็นต้องรู้ โปรดไขว่คว้าหาโอกาสสนทนาและพูดคุยกับบิดามารดา ลุงป้าน้าอา และปู่ย่าตายายของท่านขณะพวกเขายังอยู่กับท่าน
ท่านเคารพเวลาศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?
ข้าพเจ้ากังวลเช่นกันที่บางท่านเช็คอีเมล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรมหรือส่งข้อความระหว่างการประชุมสำคัญที่สุดในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย นั่นคือ การประชุมศีลระลึกอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ในการประชุมที่สำคัญนี้เราควรจดจ่ออยู่กับพระเจ้าผ่านการสวดอ้อนวอน ร้องเพลงสวด และรับเครื่องหมายแห่งพระวรกายและพระโลหิตของพระองค์
การประชุมศีลระลึกไม่ใช่เวลาเช็คสื่อสังคม ข่าว หรือแต้มการแข่งกีฬา ท่านไม่สามารถเชื่อมต่อกับพระวิญญาณระหว่างอยู่ที่การประชุมศีลระลึกขณะท่านดูหรือส่งข้อความบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของท่าน ท่านจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อทางวิญญาณจึงจะได้แสงสว่างของพระคริสต์ โดยจัดการตั้งแต่ความนึกคิดจนถึงจิตใจให้ความรักและความภักดีลุกโชนเสมอ
ข้าพเจ้าทราบว่าหลายท่านมีพระคัมภีร์และแหล่งข้อมูลอื่นของศาสนจักรในโทรศัพท์และแท็บเล็ต บิดามารดาและผู้นำศาสนจักรบางท่านเป็นห่วงการพัฒนาเรื่องนี้ แต่ข้าพเจ้าไม่ห่วง ศาสนจักรนำความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมาใช้ช่วยผลักดันงานของพระเจ้าไปข้างหน้าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเผยแผ่ศาสนา
ตัวอย่างเช่น 98 เปอร์เซ็นต์ของคณะเผยแผ่ทั่วโลกในปัจจุบันมีผู้สอนศาสนาใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน นี่เป็นพรใหญ่หลวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้มากขณะทำงานเพื่อหา สอน และให้บัพติศมา ผู้สอนศาสนาได้รับพรอย่างน่าอัศจรรย์
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในรูปแบบที่น่าสนใจที่สุด ในอดีต อิสราเอลเก็บรักษาถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ไว้บนม้วนหนัง มีช่วงหนึ่งที่ชาวคริสต์ยุคแรกนำโคเด็กซ์ซึ่งเป็นรุ่นแรกของหนังสือปัจจุบันมาใช้
2,000 ปีให้หลัง เราอ่านพระคัมภีร์บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต—อ่านพระคัมภีร์เช่นเดียวกับพระเยซูทรงอ่านเมื่อได้ม้วนหนังสืออิสยาห์มาอ่านในนาซาเร็ธ ท่านเองสามารถ “คลี่ (เลื่อนหน้าจอ)” (ดู ลูกา 4:17) เพื่อหาพระคัมภีร์ได้เหมือนกัน แต่โปรดอย่า “เลื่อนหน้าจอ” ดูสิ่งที่ทำให้เขวระหว่างอยู่ในการประชุมศีลระลึก ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีนั้น ท่านสามารถจดจ่ออยู่กับการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดได้แน่นอนขณะท่านแสวงหาพระวิญญาณของพระเจ้าให้ทรงอวยพรท่านในสัปดาห์ที่จะมาถึง
ขอให้ตั้งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของท่านในโหมดเครื่องบินตลอดช่วงวันอาทิตย์ ท่านจะยังเข้าถึงพระคัมภีร์ คำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญ เพลงสวด และคู่มือต่างๆ ในแอปพลิเคชันคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ แต่ข้อความหรือการแจ้งเตือนอื่นที่ส่งมาจะไม่ทำให้ท่านเขว
ท่านหาเวลาพักพิงได้หรือไม่?
นอกจากหาเวลาตรึกตรองและไตร่ตรองแล้ว เราต้องหาสถานที่ซึ่งพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญากล่าวว่าจะเป็น “การคุ้มภัย, และ … ที่พักพิงจากพายุ” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 115:6)
เราจำเป็นต้องมีเวลาพิเศษและสถานที่พักพิงซึ่งเราสามารถปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อจะสามารถเชื่อมต่อกับพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าได้
สถานที่เชื่อมต่อกับพระวิญญาณได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งอยู่ในพระวิหาร—พระนิเวศน์ของพระเจ้า นี่หมายถึงอาคารศาสนจักรที่อุทิศแล้วของเราด้วย รวมทั้งห้องเรียนเซมินารีและสถาบันด้วย เราจะพบที่พักพิงในบ้านหรืออะพาร์ตเมนต์ของเราได้เมื่อเราเลือกปิดทุกอย่าง อยู่นิ่ง และรู้เรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
เพื่อช่วยให้เราค้นพบโลกที่อาดัมกับเอวา อับราฮัมกับซาราห์ และโยเซฟกับมารีย์พบพระผู้เป็นเจ้า และช่วยให้เราพบสถานที่ให้รู้สึกและได้ยินสุรเสียงของพระเจ้าวันนี้ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านไปพระวิหาร เราตั้งตารอเวลาเวลาที่จะเปิดพระวิหารได้อีกครั้งเพื่อทำศาสนพิธีแทนคนตายทั้งหมด ทันทีที่เปิดพระวิหาร ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านไปบ่อยเท่าที่จะบ่อยได้ ปิดสมาร์ทโฟนของท่านและเก็บไว้ก่อนเข้าไปบริเวณพระวิหาร
ในศาสนพิธีทั้งหมดในพระนิเวศน์ของพระเจ้า ท่านจะได้ยินภาษา คำพูด และสัญญาอันสวยงามที่พระเจ้าประทานแก่บุตรธิดาของพระองค์ นั่นเป็นที่เดียวที่ท่านจะได้ยินคำพูดไพเราะที่สร้างแรงบันดาลใจเหล่านั้น
ถ้าท่านไม่มีคุณสมบัติถือใบรับรองพระวิหารตอนนี้ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านเตรียมตนเองให้มีค่าควรถือใบรับรองพระวิหารและมาพระวิหารทันทีที่ทำได้ ขอให้ท่านมีความปรารถนาจะได้ใบรับรองและเข้าพระวิหารเป็นประจำ
ข้าพเจ้ารับรองกับแต่ละท่านว่าเมื่อท่านไปพระวิหารหรือบริเวณพระวิหาร ท่านจะเดินบนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ ท่านจะได้ยินสุรเสียงสงบแผ่วเบาของพระวิญญาณในพระวิหารหรือบริเวณศักดิ์สิทธิ์ของพระวิหารในลักษณะที่ท่านจะไม่ได้ยินที่ห้างสรรพสินค้า ในร้านอาหาร และในที่สาธารณะ อันที่จริง พระวิหารเป็นสถานที่วิเศษสุดที่จะได้รับคำตอบการสวดอ้อนวอนของท่าน
ท่านใช้เวลาวันนี้ได้หรือไม่?
โลกที่เราอยู่ตอนนี้กำลังออกห่างจากคำสอนของพระคริสต์เร็วมากทั้งในกฎและในธรรมเนียม ซาตานกำลังทำงานล่วงเวลาเพื่อให้บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าสับสนและทำให้คนที่ทรงเลือกหันเหจากการทำหน้าที่และการรับพรอันบริบูรณ์ของพระเจ้า
ซาตานต้องการให้ท่านเลิกนิสัยดีๆ ที่ท่านเรียนรู้ที่บ้าน ในเซมินารีและสถาบัน และระหว่างเป็นผู้สอนศาสนา—เช่น การศึกษาพระคัมภีร์ทุกวัน การสวดอ้อนวอนทุกวัน การรับส่วนศีลระลึกอย่างมีค่าควรทุกสัปดาห์ และการรับใช้ด้วยใจจริง นอกจากนี้เขายังต้องการให้ท่านยืนอยู่เฉยๆ ไม่ทุ่มเทในการรบครั้งสำคัญและรุนแรงอย่างยิ่งของยุคปัจจุบัน
แต่จำไว้ว่า เรากำลังทำสงคราม—ความต่อเนื่องของสงครามที่เริ่มไว้ตั้งแต่โลกก่อนเกิด อย่ายืนอยู่เฉยๆ ใช้เวลาสร้างนิสัยสำคัญๆ เหล่านั้นทุกวัน “[สวม] ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า” ดังที่เปาโลเชื้อเชิญให้เราทำ “เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน” (ดู เอเฟซัส 6:11–12)
ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านใช้เวลาร่วมรบ สวมยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้าและสวมวันนี้ (ดู แอลมา 34:32) อย่ารอจนท่านแต่งงาน เริ่มงานอาชีพชั่วชีวิต หรืออายุมากขึ้น พระเจ้าทรงต้องการท่านเดี๋ยวนี้!