พระเยซูคริสต์ทรงมอบ ความหวัง ให้เรา

โดย เอ็ลเดอร์ยูลิซีส ซวาเรส

แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ยูลิซีส ซวาเรส

เมื่อเรารับใช้ผู้อื่น พระเยซูคริสต์ประทานความหวังให้เราว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปด้วยดีในชีวิตเราเอง

เยาวชนชายเข็นรถเข็น

เยาวชนชายจากกุสโก เปรูร่วมกันรับใช้

ชีวิตนี้เต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย ท่านคงเคยเจอมาบ้างแล้ว มีหลายอย่างที่เป็นต้นเหตุของความเครียด ความกังวล ความกลัว และความวิตกกังวล เมื่อประสบกับสิ่งเหล่านี้ เรามีแนวโน้มที่จะหันเข้ามา—เพื่อดูแลตนเองและความต้องการของเราเองก่อนเรื่องอื่นๆ เราคิดว่าหากเราใช้เวลาและพลังงานเพื่อพยายาม “แก้ไข” สิ่งต่างๆ เราจะแก้ปัญหาของเราได้

แต่พระเยซูคริสต์ทรงแสดงให้เราเห็นทางที่ดีกว่า พระองค์ทรงสอนว่า “คนที่พยา‌ยามเอาชีวิตของตนรอด คน‍นั้นจะเสียชีวิต แต่คนที่ยอมเสียชีวิต คน‍นั้นจะได้ชีวิต‍รอด” (ลูกา 17:33) วิธีรวดเร็วที่สุดที่จะพบความหวังในการทดลองของท่านคือหันใจไปหาพระผู้ช่วยให้รอด ทำตามแบบอย่างของพระองค์และรับใช้ผู้อื่น

พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนป่วยที่เบธซาธา

การเยียวยาที่เบธซาธา โดย แกรีย์ สมิธ

พระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของความรักและไมตรีจิตต่อเพื่อนมนุษย์ พระองค์ทรงลืมพระองค์เองเพื่อผู้อื่นเสมอ การกระทำแบบไม่คำนึงถึงพระองค์เองแสดงออกในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำทุกๆ วันในพระชนม์ชีพของพระองค์และไม่จำกัดเฉพาะบางฤดูกาล

เมื่อเราใส่ใจผู้อื่นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอด ข้าพเจ้ารับรองกับท่านว่าเราจะพบโอกาสไม่จำกัดให้เราเสียสละอย่างมีน้ำใจแบบเงียบๆ ให้แก่คนที่ต้องการเรา

วิธีรวดเร็วที่สุดที่จะพบความหวังในการทดลองของท่านคือหันใจไปหาพระผู้ช่วยให้รอด ทำตามแบบอย่างของพระองค์และรับใช้ผู้อื่น

การทำเช่นนี้จะช่วยให้เรารู้จักพระผู้ช่วยให้รอดดีขึ้นและพบสันติสุขของเราเองบนแผ่นดินโลกแม้ในขณะที่เราพัฒนาจิตกุศลต่อผู้อื่นมากขึ้น เมื่อท่าน “ไม่นึกถึงชีวิตของตน” ในการช่วยเหลือผู้อื่น โดยทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์จะทรงช่วยเหลือท่าน

เด็กหนุ่มยกอิฐโคลน

เหล่าเทพประจำวัน

บ่อยครั้งที่พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงนำผู้อื่นเข้ามาในชีวิตเราเพื่อช่วยนำสันติสุขและการปลอบโยนที่เราต้องการมาให้เราในช่วงเวลาแห่งการทดลอง เรารู้สึกเหมือนว่าผู้ที่ได้รับพรเหล่านี้เป็นเหมือนเหล่าเทพที่ส่งมาจากสวรรค์จริงๆ

ข้าพเจ้ากับครอบครัวประสบความอบอุ่นใจและสันติสุขที่เหล่าเทพสวรรค์ยุคใหม่นำมาให้หลายครั้ง ข้าพเจ้าอยากจะใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้น ในปี 2003 เราย้ายจากบราซิลประเทศบ้านเกิดมายังยูทาห์ในสหรัฐ

ฤดูหนาวปีนั้น ยูทาห์ประสบพายุหิมะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี เราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตเพราะเราเติบโตมากับต้นปาล์มและหาดทราย บ้านของเราตั้งอยู่ตรงหัวมุมบนเนินเขาที่มีทางเท้ายาวมาก

เมื่อหิมะเริ่มตก ภรรยาข้าพเจ้าก็เป่าหิมะออกจากถนนและทางเท้า ข้าพเจ้าไม่สามารถช่วยเธอได้เพราะลื่นล้มบนน้ำแข็งและข้อมือหักเมื่อสองสามวันก่อน อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ข้าพเจ้าต้องผ่าตัดและใส่เฝือกที่แขน

ขณะเริ่มเป่าหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต ภรรยาข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเธอต้องเปลี่ยนรางไปอีกด้านหลังจากทำความสะอาดถนนด้านหนึ่งแล้ว ดังนั้นเมื่อเธอไปทำความสะอาดถนนอีกด้าน รางจึงพ่นหิมะกลับมาที่เดิม เธอเดินกลับไปกลับมาอย่างไร้ประโยชน์ มันเลอะเทอะเต็มไปหมด!

เพราะเธอถูกความเย็นนาน เธอจึงติดเชื้อที่หูสองข้างและหูเกือบหนวกสนิทนานสองเดือน ขณะเดียวกันลูกชายวัย 16 ปีของข้าพเจ้าก็บาดเจ็บที่หลังขณะเล่นเลื่อนหิมะและต้องนอนพักฟื้น เราจึงมีคนหนึ่งนอนป่วย คนหนึ่งหูหนวก คนหนึ่งใส่เฝือก และทุกคนหนาวมาก

ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเพื่อนบ้านคงสังเกตเห็นเราไม่ยาก เช้าตรู่ที่หนาวจัดวันหนึ่งราวตีห้า ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเครื่องเป่าหิมะด้านนอกหน้าต่าง ข้าพเจ้ามองออกไปและเห็นบราเดอร์เบลน วิลเลียมส์ เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ในวัยเกือบ 70 ปี เขาออกจากบ้านที่อุ่นสบายมาทำความสะอาดถนนและทางเท้าให้เราอย่างเงียบๆ เพราะรู้ว่าเราไม่สามารถทำเองได้

เครื่องเป่าหิมะ

ภาพถ่ายจาก Getty Images

เช้าตรู่ที่หนาวจัดวันหนึ่งราวตีห้า ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเครื่องเป่าหิมะด้านนอกหน้าต่าง

บราเดอร์ดาเนียล อัลมีดา เพื่อนอีกคนก็ปรากฏตัวที่บ้านเพื่อขับรถพาข้าพเจ้าไปทำงานที่ซอลท์เลคซิตี้เพราะข้าพเจ้าขับเองไม่ได้เมื่อใส่เฝือกเทอะทะ ทั้งสองคนแสดงความรักด้วยการมีน้ำใจคอยช่วยเหลือข้าพเจ้าอย่างเรียบง่ายทุกเช้า จนกระทั่งครอบครัวเราหายดีและสามารถทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองได้อีกครั้ง

ฤดูหนาวนั้นของปี 2003 พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งบราเดอร์ผู้เป็นดังเทพเหล่านี้มาหาเรา บราเดอร์สองท่านนี้ทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดและคำนึงถึงความต้องการของเราก่อนความต้องการของตนเอง

พระผู้ช่วยให้รอดทรงมอบความหวังให้เรา

การรับใช้ผู้อื่นทำให้เรามีมุมมองที่สูงกว่าและศักดิ์สิทธิ์กว่า เมื่อเรารับใช้ผู้อื่น พระเยซูคริสต์ประทานความหวังให้เราว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปด้วยดีในชีวิตเราเอง

การใส่ใจผู้อื่นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดจะเป็นพรแก่เราด้วยโอกาสที่ไม่จำกัดให้เราเสียสละอย่างมีน้ำใจแบบเงียบๆ ให้แก่คนที่ต้องการเรา การดำเนินชีวิตเฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดจะช่วยให้เราพัฒนาจิตกุศลเหมือนพระคริสต์มากขึ้นต่อผู้อื่น สิ่งนี้จะช่วยให้เราพบความรัก สันติสุข ความสว่าง และความเข้มแข็งที่ฟื้นคืนมา

พี่น้องสตรี

การใส่ใจผู้อื่นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดจะเป็นพรแก่เราด้วยโอกาสที่ไม่จำกัดให้เราเสียสละอย่างมีน้ำใจแบบเงียบๆ ให้แก่คนที่ต้องการเรา

พระผู้ช่วยให้รอดทรงเชื้อเชิญให้เราแสวงหาพระองค์ในความนึกคิดทุกอย่างและทำตามพระองค์ เป็นการให้สัญญากับเราว่าเราจะสามารถเดินในความสว่างของพระองค์ และการนำทางของพระองค์ป้องกันอิทธิพลของความมืดในชีวิต เมื่อท่าน “ไม่นึกถึง” ชีวิตตนเองในพระองค์ พระองค์จะทรงช่วยให้ท่านพบตนเอง

เด็กผู้ชายในโรงเรียน

ภาพถ่ายจาก Getty Images

หันไปหาพระคริสต์เสมอ

ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานอย่างจริงจังว่าพระเยซูทรงลุกขึ้นจากบรรดาคนตายและทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าเป็นพยานต่อท่านว่าโดยผ่านพระองค์และการชดใช้อันไม่มีขอบเขต พระผู้ช่วยให้รอดทรงเตรียมทางให้เราเอาชนะความตายทั้งทางร่างกายและทางวิญญาณ

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมอบการปลอบโยนและความเชื่อมั่นให้เราในยามยากอีกด้วย ข้าพเจ้ารับรองกับท่านว่าเมื่อเราวางใจในพระเยซูคริสต์และในการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้อันสูงส่งของพระองค์ อดทนด้วยศรัทธาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เราจะได้รับสัญญาของพระบิดาบนสวรรค์ที่รักผู้ทรงทำทุกสิ่งภายในพระเดชานุภาพเพื่อช่วยให้เรากลับไปสู่ที่ประทับของพระองค์ในวันหน้า