2010–2019
เปิดไฟของท่าน
ตุลาคม 2017


2:3

เปิดไฟของท่าน

ศาสดาพยากรณ์กำลังขอร้องเรา พี่น้องสตรีทั้งหลายท่านจะเป็นคนชอบธรรมไหม ท่านจะทำให้ศาสนาของท่านชัดเจนไหม ท่านจะเปิดไฟของท่านไหม

ท่านอาจไม่ทราบเรื่องนี้ว่าประธานมอนสันกับดิฉันเป็นคู่แฝด วันที่ดิฉันเกิดทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย—ในชั่วโมงเดียวกันนั้น—โธมัส เอส. มอนสันวัย 36 ปีได้รับการสนับสนุนเป็นอัครสาวกคนล่าสุด ดิฉันรักความเชื่อมโยงพิเศษส่วนตัวนี้กับศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ประธานมอนสัน

ศาสดาพยากรณ์หลายท่านพูดเกี่ยวกับสตรี1 ท่านจะได้ยินคำพูดบางส่วนของท่านเหล่านั้นในการประชุมนี้ ส่วนดิฉันจะย้อนกลับไปพูดคำพยากรณ์อันน่าทึ่งที่ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์เขียนไว้เกือบ 40 ปีแล้ว ในเดือนกันยายนปี 1979 เป็นครั้งที่สองที่สตรีของศาสนจักรประชุมกันในการประชุมใหญ่ของพวกเธอ ประธานคิมบัลล์เตรียมคำพูดนี้ แต่เมื่อถึงวันประชุมใหญ่ ท่านอยู่ในโรงพยาบาล ท่านจึงขอให้คามิลลา อายริงก์ คิมบัลล์ภรรยาของท่านอ่านคำพูดนี้แทนท่าน2

ซิสเตอร์คามิลลา คิมบัลล์พูดที่แท่นพูด

ซิสเตอร์คิมบัลล์อ่านคำพูดของศาสดาพยากรณ์ ซึ่งเน้นอิทธิพลของสตรีแอลดีเอสต่อสตรีที่ดีของโลกก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด ก่อนจบ มีการชาร์จไฟให้สตรีของศาสนจักรที่เรากำลังพูดถึงนับแต่นั้น

ดิฉันขออ้างอิงสิ่งที่ประธานคิมบัลล์พูดสักเล็กน้อย

“สุดท้าย พี่น้องสตรีที่รัก ข้าพเจ้าขอแนะนำบางสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อนหรืออย่างน้อยก็ไม่เคยพูดแบบนี้ การเติบโตที่เกิดขึ้นกับศาสนจักรในยุคสุดท้ายนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพราะสตรีที่ดีเป็นอันมากของโลก … ถูกดึงเข้ามาสู่ศาสนจักรเป็นจำนวนมาก เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นถึงระดับที่สตรีของศาสนจักรสะท้อนความชอบธรรมและความชัดเจนในชีวิตและถึงระดับที่จะมีผู้มองเห็นสตรีของศาสนจักรว่าผิดแผกและแตกต่าง—อย่างมีความสุข—จากสตรีของโลก

“ในบรรดาวีรสตรีตัวจริงของโลกผู้จะเข้ามาในศาสนจักรคือสตรีผู้เกี่ยวข้องกับความชอบธรรมมากกว่าความเห็นแก่ตัว วีรสตรีตัวจริงเหล่านี้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ เห็นคุณค่าความซื่อตรงมากกว่าภาพลักษณ์…

“… ด้วยเหตุนี้… สตรีผู้เป็นแบบอย่างของศาสนจักรจึงเป็น กำลังสำคัญ ทั้งในการเติบโตด้านจำนวนและทางวิญญาณของศาสนจักรในวันเวลาสุดท้าย”3

นี่คือคำกล่าวที่พยากรณ์ไว้ สรุปได้ว่า

  • ความสัมพันธ์อันดีของสตรีจะทำให้ศาสนจักรเติบโตอย่างมากในหลายปีข้างหน้า

  • มิตรภาพที่สตรีสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนหญิง และเด็กหญิงปฐมวัยสร้างกับสตรีและเด็กหญิงที่จริงใจ ซื่อสัตย์ เลื่อมใสศาสนาและความเชื่ออื่นจะเป็น กำลังสำคัญ ต่อการเติบโตของศาสนจักรในวันเวลาสุดท้าย

  • ประธานคิมบัลล์เรียกสตรีจากภูมิหลังอื่นเหล่านี้ว่า “วีรสตรี” ผู้ตั้งใจจะเป็นคนชอบธรรมมากกว่าเห็นแก่ตัว ผู้จะแสดงให้เราเห็นว่าความซื่อตรงมีค่ามากกว่าภาพลักษณ์

ดิฉันเคยพบสตรีที่ดีจำนวนมากเหล่านี้ขณะที่ดิฉันทำงานทั่วโลก มิตรภาพของพวกเธอมีค่าต่อดิฉัน ท่านรู้จักพวกเธอในหมู่มิตรสหายและเพื่อนบ้านของท่านด้วย พวกเธออาจเป็นหรืออาจไม่เป็นสมาชิกของศาสนจักรในเวลานี้ แต่เราติดต่อกันฉันมิตรที่มีความสำคัญมาก แล้วเราทำส่วนของเราอย่างไร เราควรทำอะไร ประธานคิมบัลล์กล่าวถึงสิ่งสำคัญห้าข้อ

ข้อแรกคือเป็นคนชอบธรรม การเป็นคนชอบธรรมไม่ได้หมายถึงดีพร้อมหรือไม่เคยทำผิดพลาด แต่หมายถึงการพัฒนาความสัมพันธ์แนบแน่นกับพระผู้เป็นเจ้า กลับใจจากบาปและความผิดพลาดของเรา และเต็มใจช่วยผู้อื่น

สตรีที่กลับใจจะเปลี่ยนวิถีของประวัติศาสตร์ ดิฉันมีเพื่อนที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธออายุยังน้อย และจากเหตุการณ์นั้นเธอเริ่มเสพติดยาแก้ปวด ต่อมาพ่อแม่ของเธอหย่าร้าง เธอตั้งครรภ์จากความสัมพันธ์ฉาบฉวย และเสพยาต่อเนื่อง แต่คืนหนึ่ง เธอมองดูความวุ่นวายยุ่งเหยิงของชีวิตเธอและคิดว่า “พอได้แล้ว” เธอร้องขอให้พระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ช่วยเธอ เธอกล่าวว่าเธอเรียนรู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเข้มแข็งกว่าสภาวการณ์ที่เลวร้ายของเธอและเธอสามารถพึ่งพาความเข้มแข็งของพระองค์ขณะเดินไปตามเส้นทางของการกลับใจ

เมื่อกลับมาหาพระเจ้าและทางของพระองค์ เธอเปลี่ยนวิถีประวัติศาสตร์ของเธอและลูกชาย และของสามีใหม่ของเธอ เธอเป็นคนชอบธรรม เธอเปิดใจให้คนที่เคยทำผิดพลาดและต้องการเปลี่ยน และเช่นเดียวกับเราทุกคน เธอไม่ดีพร้อม แต่เธอรู้วิธีกลับใจและพยายามต่อไป

สองคือเป็นคนชัดเจน การเป็นคนชัดเจนหมายถึงแสดงออกชัดเจนว่าท่านรู้สึกอย่างไรและเพราะเหตุใด เมื่อต้นปีนี้ มีโพสต์ดูหมิ่นศาสนาคริสต์ขึ้นบนหน้าข่าวใหม่ในเพจเฟซบุ๊กดิฉัน ดิฉันอ่านและดิฉันหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ไม่แยแส แต่คนรู้จักที่ไม่เป็นสมาชิกของศาสนาเราตอบโต้ด้วยความคิดเห็นของเธอเอง เธอเขียนว่า “[เรื่องทั้งหมด] ตรงข้ามกับสิ่งที่พระเยซูทรงยึดมั่น—พระองค์ … ทรงเป็นคนหัวรุนแรง [ใน] สมัยของพระองค์เพราะพระองค์ … ทรงทำให้โลกเสมอภาค …พระองค์ [ตรัสกับ] โสเภณี [พระองค์เสวย] กับคนเก็บภาษี … เป็นเพื่อนกับสตรีและเด็กที่อ่อนแอ … [และ] ประทานเรื่องชาวสะมาเรียใจดีแก่เรา …ด้วยเหตุนี้ …ชาวคริสต์ที่แท้จริงจึงต้องพยายามเป็นคนแสดงความรักมากที่สุดในโลก” เมื่อดิฉันอ่านข้อความนี้ ดิฉันนึกในใจว่า “ทำไมดิฉันไม่เขียนอย่างนั้น”

เราแต่ละคนต้องให้เหตุผลชัดเจนกว่านี้สำหรับความเชื่อของเรา ท่านรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ท่านอยู่ในศาสนจักรเพราะเหตุใด เหตุใดท่านจึงเชื่อว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระคัมภีร์ ท่านได้รับสันติสุขจากที่ใด เหตุใดจึงสำคัญที่ศาสดาพยากรณ์ต้องพูดบางอย่างในปี 2017 ท่านรู้ได้อย่างไรว่านั่นคือศาสดาพยากรณ์ที่แท้จริง จงใช้เสียงและพลังของท่านบอกชัดเจนว่าท่านรู้อะไรและรู้สึกอย่างไร—บนสื่อสังคม ในการสนทนาเงียบๆ กับเพื่อน เมื่อท่านพูดคุยกับหลานๆ ของท่าน บอกพวกเขาว่าทำไมท่านเชื่อ ท่านรู้สึกอย่างไร ถ้าท่านเคยสงสัย ท่านผ่านพ้นมาได้อย่างไร และพระเยซูคริสต์มีความหมายต่อท่านอย่างไร ดังที่อัครสาวกเปโตรกล่าวว่า “อย่าวิตกไปเลย …แต่ในใจของพวก‍ท่านจงเคารพนับ‍ถือพระ‍คริสต์ว่าเป็นองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า จงเตรียม‍พร้อมเสมอที่จะอธิบายกับทุก‍คนที่ขอทราบเหตุ‍ผลเกี่ยว‍กับความหวังของพวก‍ท่าน”4

สามคือเป็นคนแตกต่าง ดิฉันจะขอเล่าเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้บนชายหาดปานามาซิตีในฟลอริดา5 บ่ายวันนั้น โรเบอร์ตา เออร์สรีย์เห็นลูกชายสองคนของเธอร้องขอความช่วยเหลือห่างจากฝั่ง 100 หลา (90 เมตร) พวกเขาติดอยู่ในกระแสน้ำเชี่ยวและถูกพัดออกทะเล คู่สามีภรรยาที่อยู่ใกล้ๆ พยายามช่วย แต่พวกเขาติดอยู่ในกระแสนั้นด้วย ดังนั้นสมาชิกของครอบครัวเออร์สรีย์จึงดำน้ำไปช่วยคนที่กำลังกระเสือกกระสน และทั้งเก้าคนติดอยู่ในกระแสน้ำทันที

ไม่มีเชือก ไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต ตำรวจส่งเรือออกไปช่วย แต่คนอยู่ในมหาสมุทรกระเสือกกระสนมาแล้ว 20 นาที พวกเขาหมดแรง และศีรษะของพวกเขาเริ่มจมลงใต้น้ำ หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์บนชายหาดคือเจสซิกา เม ซิมมอนส์ สามีเธอเกิดความคิดจะทำโซ่มนุษย์ พวกเขาตะโกนบอกคนบนชายหาดให้ช่วยและหลายสิบคนคล้องแขนกันเดินลงไปในมหาสมุทร เจสซิเขียนว่า “การได้เห็นคนต่างเชื้อชาติต่างเพศพร้อมใจกันช่วยคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง [เป็น] ภาพที่งดงามยิ่งนัก!”6 โซ่คน 80 คนยาวไปถึงคนที่ว่ายน้ำอยู่ ลองดูภาพช่วงเวลาอันน่าทึ่งนั้นสิคะ

นักว่ายน้ำสร้างโซ่มนุษย์

ทุกคนบนหาดคิดหาทางออกเดิมๆ และพวกเขามัวตกตะลึง แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นสามีภรรยาคู่หนึ่งคิดต่าง การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เป็นของประทานฝ่ายวิญญาณ เมื่อเรารักษาพันธสัญญาของเรา อาจทำให้เราต่างจากคนอื่นๆ ในวัฒธรรมและสังคมของเรา แต่ทำให้เราเข้าถึงการดลใจเพื่อเราจะสามารถคิดวิธีแก้ วิธีการ และวิธีใช้ต่างออกไป เราอาจจะเข้ากับโลกไม่ได้เสมอไป แต่ความต่างในทางบวกสามารถเป็นสายชูชีพช่วยคนที่กำลังกระเสือกกระสนได้

สี่คือเป็นคนผิดแผก ผิดแผกหมายถึงแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ดิฉันขอกลับไปที่เรื่องเจสซิกา เม ซิมมอนส์บนชายหาด ทันทีที่โซ่มนุษย์ยาวไปถึงคนที่ว่ายน้ำอยู่ เธอรู้ว่าเธอช่วยได้ เจสซิกา เมกล่าวว่า “ดิฉันสามารถกลั้นหายใจและว่ายรอบสระโอลิมปิกได้สบาย! [ดิฉันรู้วิธีออกจากกระแสน้ำเชี่ยว] ดิฉันรู้ว่าจะพา [คนว่ายน้ำทุกคน] มาถึงโซ่มนุษย์ได้”7 เธอกับสามีคว้าแผ่นลอยตัวและว่ายตามโซ่ไปจนเธอ สามี และผู้ช่วยชีวิตอีกคนหนึ่งไปถึงคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่แล้วพาพวกเขากลับมายังโซ่มนุษย์ทีละคน จากนั้นจึงส่งผ่านพวกเขาสู่ความปลอดภัยบนชายหาด เจสซิกามีทักษะผิดแผก เธอรู้วิธีว่ายทวนกระแส

พระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่เราต้องผิดแผกเกี่ยวกับวิธีที่จะทำตาม เหมือนเจสซิกาที่ฝึกว่ายน้ำ เราต้องฝึกดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณก่อนเกิดเหตุฉุกเฉินทั้งนี้เพื่อให้เราเข้มแข็งพอจะช่วยโดยไม่กลัวเมื่อคนอื่นกำลังถูกกระแสน้ำพัดไป

และสุดท้าย ข้อห้าคือทำข้อหนึ่งถึงข้อสี่อย่างมีความสุข มีความสุขไม่ได้หมายถึงแสร้งทำหน้ายิ้มไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่หมายถึงการรักษากฎของพระผู้เป็นเจ้า การสร้างและการยกผู้อื่น8 เมื่อเราสร้าง เมื่อเรายกภาระของผู้อื่น นั่นจะเป็นพรแก่ชีวิตเราในวิธีที่การทดลองของเราไม่สามารถชิงไปได้ ดิฉันมีคำพูดอ้างอิงจากประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ติดไว้ในที่ซึ่งดิฉันมองเห็นทุกวัน ท่านกล่าวว่า “ท่านไม่ … สร้างจากการมองโลกในแง่ร้ายหรือการเยาะเย้ยถากถาง ท่านมองโลกในแง่ดี ทำงานด้วยศรัทธา และความสำเร็จเกิดขึ้น9

ดิฉันรู้จักเด็กหญิงวัย 13 ปีชื่อเอลซาผู้เป็นแบบอย่างของการมองโลกในแง่ดีและมีความสุข ครอบครัวเธอย้ายไปแบตันรูช หลุยเซียนาห่างจากเพื่อนๆ ของเธอ 1,800 ไมล์ (2,900 กิโลเมตร) ไม่ง่ายเลยเมื่อเด็กวัย 13 ปีต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เอลซาไม่เข้าใจเรื่องการย้าย คุณพ่อจึงให้พรเธอ ขณะให้พร โทรศัพท์ของคุณแม่มีข้อความเข้ามา เยาวชนหญิงที่อาศัยอยู่ในหลุยเซียนาส่งภาพนี้มาพร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า “ได้โปรดย้ายเข้ามาอยู่ในวอร์ดของเรานะคะ!”10

เยาวชนหญิงถือป้ายต้อนรับ

เยาวชนหญิงเหล่านี้มองโลกในแง่ดี พวกเธอชอบเอลซาทั้งที่ยังไม่พบเธอ ความกระตือรือร้นของพวกเธอทำให้เอลซามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการย้ายที่จะมาถึงและตอบคำสวดอ้อนวอนของเธอที่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นหรือไม่

มีพลังงานที่มาจากความสุขและการมองโลกในแง่ดีซึ่งไม่เพียงเป็นพรแก่เราเท่านั้น—สิ่งนี้สร้างทุกคนที่อยู่รอบข้างเราด้วย สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ท่านทำเพื่อจุดประกายความสุขที่แท้จริงในผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าท่านพร้อมถือคบเพลิงที่ประธานคิมบัลล์จุดไว้

ดิฉันอายุ 15 ปีเมื่อภรรยาของประธานคิมบัลล์อ่านคำพูดของท่าน พวกเราที่อายุมากกว่า 40 ปีแบกหน้าที่นี้จากประธานคิมบัลล์นับตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้ดิฉันมองไปที่เด็กวัย 8 ขวบ 15 ปี 20 ปี และ 35 ปี และดิฉันจะส่งผ่านคบเพลิงนี้ให้ท่าน ท่านเป็นผู้นำในอนาคตของศาสนจักรนี้ และสุดแล้วแต่ท่านจะถือไฟดวงนี้ไปข้างหน้าและเป็นสัมฤทธิผลของคำพยากรณ์นี้หรือไม่ พวกเราที่อายุมากกว่า 40 ปีคล้องแขนกับท่าน เรารู้สึกถึงความเข้มแข็งและพลังงานของท่าน เราต้องการท่าน

ขอให้ท่านฟังพระคัมภีร์ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 49:26–28 อาจจะเขียนภายใต้สภาวการณ์ต่างจากนี้ แต่คืนนี้โดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ดิฉันหวังว่าท่านจะรับไว้ตามการเรียกของท่านสู่งานศักดิ์สิทธิ์นี้

“ดูเถิด, เรากล่าวแก่เจ้า, จงออกไปดังที่เราบัญชาเจ้า; จงกลับใจจากบาปทั้งหมดของเจ้า; ขอและเจ้าจะได้รับ; เคาะและจะเปิดมันให้เจ้า.

“ดูเถิด, เราจะไปเบื้องหน้าเจ้าและเป็นหน่วยระวังหลังของเจ้า; และเราจะอยู่ท่ามกลางเจ้า, และเจ้าจะไม่ถูกทำให้จำนน.

“ดูเถิด, เราคือพระเยซูคริสต์, และเรามาโดยพลัน”11

ดิฉันวิงวอนพวกท่านแต่ละคนให้นำตนเองไปอยู่ในที่ที่ท่านรู้สึกถึงความรักอันล้นเหลือที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีให้ท่าน ท่านไม่สามารถนำตนเองไปไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงความรักนั้นได้ เมื่อท่านรู้สึกถึงความรักของพระองค์ เมื่อท่านรักพระองค์ ท่านจะกลับใจและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เมื่อท่านรักษาพระบัญญัติ พระองค์ทรงใช้ท่านในงานของพระองค์ได้ งานและรัศมีภาพของพระองค์คือความสูงส่งและชีวิตนิรันดร์ของหญิงและชาย

ศาสดาพยากรณ์กำลังขอร้องเรา พี่น้องสตรีทั้งหลายท่านจะเป็นคนชอบธรรมไหม ท่านจะทำให้ศาสนาของท่านชัดเจนไหม ท่านจะผิดแผกและแตกต่างได้ไหม ความสุขของท่านทั้งที่มีการทดลองจะดึงดูดคนดีมีคุณธรรมและคนที่ต้องการมิตรภาพของท่านหรือไม่ ท่านจะเปิดไฟของท่านไหม ดิฉันเป็นพยานว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์จะไปเบื้องหน้าเราและจะอยู่ท่ามกลางเรา

ดิฉันขอทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่เรารักมาก โธมัสเอส. มอนสัน “พี่น้องสตรีที่รัก นี่คือวันของท่าน นี่คือเวลาของท่าน”12 ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ประธานบริคัม ยังกฺ์: “ขอให้ [พี่น้องสตรี] จัดตั้งสมาคมสตรีสงเคราะห์ในวอร์ดต่างๆ เรามีสตรีที่มีพรสวรรค์มากมายหลายคนในหมู่พวกเรา และเราต้องการความช่วยเหลือของพวกเธอในเรื่องนี้ บางคนอาจคิดว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ไม่ใช่ และท่านจะพบว่าพี่น้องสตรีจะเป็นตัวจักรสำคัญของขบวนการนี้” (ใน Daughters in My Kingdom: The History and Work of Relief Society [2011], 41).

    ประธานลอเรนโซ สโนว์: “ท่านอยู่เคียงข้างฐานะปุโรหิตเสมอมา พร้อมจะ … ทำส่วนของท่านในการช่วยให้อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าก้าวหน้า และเมื่อท่านร่วมทำงานเหล่านี้ แน่นอนที่สุดว่าท่านจะมีส่วนในชัยชนะของงานและในความสูงส่งและรัศมีภาพที่พระเจ้าจะประทานแก่บุตรธิดาที่ซื่อสัตย์ของพระองค์เช่นนั้น” (ใน Daughters in My Kingdom, 7).

    ประธานสเป็นเซอร์ดับเบิลยู. คิมบัลล์: “มีพลังในองค์การนี้ [ของสมาคมสงเคราะห์] ที่ยังไม่ได้ใช้เต็มที่เพื่อทำให้ครอบครัวของไซอันเข้มแข็งและสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า—ทั้งจะไม่ได้ใช้จนกว่าพี่น้องสตรีและ [พี่น้องชาย] ฐานะปุโรหิตจะเข้าใจวิสัยทัศน์ของสมาคมสงเคราะห์” (ใน Daughters in My Kingdom, 142).

    ประธานฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์: “มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะระดมสตรีของศาสนจักรให้ยืนกับพี่น้องชายและช่วยพวกเขาสกัดกั้นความชั่วร้ายที่รายล้อมเราในการขับเคลื่อนงานของพระผู้ช่วยให้รอด … ดังนั้นเราขอวิงวอนให้ท่านปฏิบัติศาสนกิจด้วยอิทธิพลอันทรงพลังเพื่อคุณประโยชน์ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวของเรา ศาสนจักรของเราและชุมชนของเรา” (ใน Daughters in My Kingdom, 157).

    ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์: “สตรีของศาสนจักรนี้มีความเข้มแข็งและความสามารถมาก มีความเป็นผู้นำและทิศทาง เจตนาชัดเจนของการเป็นตัวของตัวเอง ทว่ามีความพอใจอย่างมากในการเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระเจ้าและในการทำงานเคียงข้าง [ผู้ดำรง] ฐานะปุโรหิตเพื่อทำให้อาณาจักรก้าวหน้า” (ใน Daughters in My Kingdom, 143).

    ประธานโธมัส เอส. มอนสัน: อ้างจากเบลล์ สมิธ สแพฟฟอร์ดประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญคนที่เก้าดังนี้ “‘สตรีไม่เคยมีอิทธิพลมากเท่าโลกทุกวันนี้ ประตูแห่งโอกาสไม่เคยเปิดกว้างให้พวกเธอมากเท่านี้มาก่อน นี่เป็นช่วงเวลาที่เชื้อเชิญ น่าตื่นเต้น ท้าทาย และเรียกร้องสำหรับสตรีเป็นยุคที่อุดมไปด้วยรางวัลถ้าเรารักษาดุลยภาพ เรียนรู้คุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และจัดลำดับความสำคัญอย่างฉลาด ’ [A Woman’s Reach (1974), 21] พี่น้องสตรีที่รัก นี่คือวันของท่าน นี่คือเวลาของท่าน” (“พลังอันยิ่งใหญ่ของสมาคมสงเคราะห์,” เลียโฮนา, ม.ค. 1998, 115)

    ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน: “ข้าพเจ้าวิงวอนพี่น้องสตรีของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายให้ก้าวออกมา! มายืนอยู่ในสถานที่ถูกต้องและต้องการท่านในบ้านของท่าน ในชุมชนของท่าน และในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า—มากกว่าที่ท่านเคยเป็นมาก่อน ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านทำคำพยากรณ์ของประธานคิมบัลล์ให้เกิดสัมฤทธิผล และข้าพเจ้าสัญญากับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์ว่าหากท่านทำเช่นนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์จะขยายอิทธิพลของท่านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!” (“คำวิงวอนต่อพี่น้องสตรีของข้าพเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 97).

  2. ดูวีดิทัศน์ซิสเตอร์คามิลลา คิมบัลล์อ่านคำปราศรัยของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ที่ conference.lds.org; ดู Spencer W. Kimball, “The Role of Righteous Women,” Ensign, Nov. 1979, 102–4 ด้วย.

  3. สเป็นเซอร์ดับเบิลยู. คิมบัลล์, “The Role of Righteous Women,” 103–4; เน้นตัวเอน.

  4. 1 เปโตร 3:14–15.

  5. ดู McKinley Corbley, “80 Beachgoers Form Human Chain to Save Family Being Dragged Out to Sea by Riptide,” July 12, 2017, goodnewsnetwork.org.

  6. Jessica Mae Simmons, in Corbley, “80 Beachgoers Form Human Chain.”

  7. Simmons, in Corbley, “80 Beachgoers Form Human Chain.”

  8. ดู แอลมา 41:10; 34:28; หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:27; ลูกา 16:19–25.

  9. คำสอนของประธานศาสนจักร: กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ (2016), 71.

  10. บันทึกจากครอบครัวเวอร์จิเนีย เพียร์ซ

  11. หลักคำสอนและพันธสัญญา 49:26–28

  12. โธมัส เอส. มอนสัน, “พลังอันยิ่งใหญ่ของสมาคมสงเคราะห์,” เลียโฮนา, ม.ค. 1998.