2010–2019
พระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระเยซูคริสต์
การประชุมใหญ่สามัญ เมษายน 2019


2:3

พระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระเยซูคริสต์

การรักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเราเป็นฐานหลักคำสอนของการปฏิบัติศาสนกิจ การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุน การนมัสการทางวิญญาณในวันสะบาโต และงานแห่งความรอด

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าแทบไม่เชื่อว่า 71 ปีที่แล้วในปี 1948 ข้าพเจ้าเป็นผู้สอนศาสนาในอังกฤษและ 44 ปีที่แล้วข้าพเจ้ากับบาร์บารา ภรรยาข้าพเจ้า พาครอบครัวเราไปแคนาดาเมื่อข้าพเจ้าเป็นประธานคณะเผยแผ่แคนาดา โทรอนโต ขณะรับใช้ที่นั่นในเดือนเมษายน ปี 1976 ข้าพเจ้าได้รับเรียกสู่โควรัมแรกของสาวกเจ็ดสิบ และไม่คาดคิดว่าในปี 1985 จะได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง ไม่เหมือนการเรียกก่อนๆ ที่ต้องได้รับการปลดในอนาคต การปลดจากการเรียกเป็นอัครสาวกสิบสองไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้ แต่ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้วันนั้นมาถึงหลังจากข้าพเจ้าทำทุกอย่างครบถ้วนตามที่พระเจ้าทรงขอให้ข้าพเจ้าทำ

เมื่อนึกถึงการรับใช้ 43 ปีที่ผ่านมาในฐานะเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่และสิทธิพิเศษที่ได้ปฏิบัติศาสนกิจต่อบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ ข้าพเจ้าตระหนักถ่องแท้มากขึ้นว่าพระองค์ทรงประสงค์ให้บุตรธิดาทุกคนพบสันติ ปีติ และความสุขในชีวิตพวกเขา

ศาสดาพยากรณ์ลีไฮสอนว่า “[ชายและหญิง] เป็นอยู่, เพื่อพวกเขาจะมีปีติ”1 มีหลายสาเหตุที่เราอาจไม่มีปีติ สันติ และความสุขในชีวิตนี้ รวมถึงความยากจน สงคราม ภัยธรรมชาติ และอุปสรรคที่คาดไม่ถึงในงานอาชีพ สุขภาพ และสัมพันธภาพครอบครัว

แม้เราจะไม่อาจควบคุมองค์ประกอบภายนอกเหล่านี้ที่ส่งผลต่อชีวิตเราบนแผ่นดินโลก แต่เมื่อเราพยายามเป็นสานุศิษย์ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เราจะพบสันติ ปีติ และความสุขแม้ต้องประสบความวุ่นวายทางโลก

บุตรคนหนึ่งของข้าพเจ้าเคยพูดว่า “พ่อครับ ผมสงสัยว่าผมจะทำได้หรือเปล่า” ข้าพเจ้าตอบว่า “ทั้งหมดที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงขอให้เราทำคือทำให้ดีที่สุดทุกๆ วัน” พี่น้องทั้งหลาย จงทำแต่ละวันให้ดีที่สุด และก่อนจะทันรู้ตัว ท่านจะตระหนักว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้จักท่านและทรงรักท่าน เมื่อท่านรู้เช่นนั้น—รู้จริงๆ—ชีวิตท่านจะมีจุดประสงค์และความหมายอย่างแท้จริง ท่านจะเปี่ยมด้วยปีติและสันติสุข

ในฐานะแสงสว่างของโลก พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า “ทุก‍คนที่วาง‍ใจในเราจะไม่อยู่ในความมืด”2

“พระเยซูคริสต์คือพระนามซึ่งพระบิดาประทานมาให้, และไม่มีนามอื่นใดประทานมาให้ซึ่งโดยพระนามนี้มนุษย์จะรับการช่วยให้รอดได้;

“ดังนั้น, [ชายและหญิง] ทั้งปวงต้องรับพระนามซึ่งพระบิดาประทานมาให้”3

พระคัมภีร์สอนเราว่าซาตานปรารถนาจะนำผู้คนไปสู่ความมืด เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อปิดกั้นแสงสว่างและความจริงของพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ ตามที่ลีไฮสอนบุตร มาร “แสวงหาเพื่อจะให้มนุษย์ทั้งปวงเศร้าหมองเหมือนตัวเขา”4 ถ้า “งาน … และรัศมีภาพ” ของพระบิดาบนสวรรค์คือ “การทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของ [ชายและหญิง] “งาน” ของลูซิเฟอร์คือทำให้เกิดความเศร้าหมองและวิบัติอันหาได้สิ้นสุดไม่ของบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า5 บาปและการล่วงละเมิดทำให้แสงสว่างของพระคริสต์ในชีวิตเราเลือนราง นั่นคือสาเหตุที่เราต้องอาบแสงสว่างของพระคริสต์อันจะทำให้เกิดสันติ ปีติ และความสุข

ใน 18 เดือนที่ผ่านมา พระเจ้าทรงดลใจศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนบางอย่าง แต่ข้าพเจ้ากังวลว่าจุดประสงค์ทางวิญญาณของการปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะหายไปเพราะเรามัวแต่ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลง

โจเซฟ เอฟ. สมิธกล่าวว่า “พระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระเยซูคริสต์ฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว เรามีหน้าที่ธำรงไว้บนแผ่นดินโลก”6 ท่านเสริมว่าพระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายคือ “หลักคำสอนแห่งความรอดของพระคริสต์”7

ในหลักแห่งความเชื่อ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่า “โดยผ่านการชดใช้ของพระคริสต์, มนุษยชาติทั้งมวลจะรอดได้, โดยการเชื่อฟังกฎและศาสนพิธีทั้งหลายของพระกิตติคุณ”8

หลักธรรมเบื้องต้นของพระกิตติคุณคือศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ การกลับใจ บัพติศมา ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ไฮรัม สมิธพี่ชายท่านสอนว่า “[จง] สั่งสอน [ครั้งแล้วครั้งเล่า] และท่านจะพบแนวคิดใหม่และความสว่างเพิ่มขึ้นทุกวันเกี่ยวกับหลักธรรมเหล่านั้นที่จะเปิดเผยต่อท่าน ท่านจะขยายความจนเข้าใจแจ่มแจ้ง จากนั้นท่านจะสามารถทำให้คนที่ [ท่าน] สอนเข้าใจชัดเจน”9

วิธีดีที่สุดที่เราจะเห็นจุดประสงค์ทางวิญญาณของศาสนจักรคือดำเนินชีวิตตามคำสอนที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระคริสต์ และประยุกต์ใช้พระบัญญัติข้อใหญ่สองข้อของพระผู้ช่วยให้รอดด้วยคือ “เจ้าจงรักพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า … เจ้าจงรักเพื่อนบ้านของเจ้าดังตัวเจ้า”10

การเชื่อฟังพระบัญญัติสองข้อนี้เตรียมทางให้ประสบสันติและปีติมากขึ้น เมื่อเรารักและรับใช้พระเจ้า รักและรับใช้เพื่อนบ้าน เราจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีวิธีใดดีกว่านี้

การรักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเราเป็นฐานหลักคำสอนของการปฏิบัติศาสนกิจ การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุน การนมัสการทางวิญญาณในวันสะบาโต และงานแห่งความรอดทั้งสองด้านของม่านที่สนับสนุนโดยสมาคมสงเคราะห์และโควรัมเอ็ลเดอร์ ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพระบัญญัติให้รักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเรา จะมีสิ่งใดเป็นมูลฐาน พื้นฐาน และเรียบง่ายกว่านี้ได้อีกหรือ

การดำเนินชีวิตตามแผนพระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายจะทำให้เรามีเวลาไปเยี่ยมหญิงม่าย พ่อม่าย เด็กกำพร้า คนเหงา ผู้ป่วย และผู้ยากไร้มากขึ้น เราจะพบปีติ สันติ และความสุขในชีวิตเมื่อรับใช้พระเจ้าและเพื่อนบ้านของเรา

การปรับเปลี่ยนวันสะบาโตที่เน้นเรื่องการเรียนและการศึกษาพระกิตติคุณที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุนเป็นโอกาสให้ฟื้นฟูวิญญาณและความภักดีของเราต่อพระผู้เป็นเจ้าภายในกำแพงบ้านของเรา จะมีสิ่งใดเรียบง่าย เป็นมูลฐาน และลึกซึ้งมากกว่านี้ได้อีก พี่น้องทั้งหลาย ท่านเห็นหรือไม่ว่าการเรียนและการสอนพระกิตติคุณในครอบครัวเราเป็นวิธีสำคัญในการพบปีติและความสุขในชีวิตเรา

พระผู้ช่วยให้รอดตรัสเรื่องสะบาโตดังนี้ “เพราะตามจริงแล้วนี่คือวันที่กำหนดไว้ให้เจ้าเพื่อพักผ่อนจากการทำงานของเจ้า, และเพื่อแสดงความจงรักของเจ้าแด่พระผู้สูงสุด”11 พระองค์ทรงเสริมว่า “เพื่อปีติของเจ้าจะเต็มเปี่ยม … [ผ่าน] การชื่นชมยินดีและการสวดอ้อนวอน … เจ้า [ควร] ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยการน้อมขอบพระทัย, ด้วยใจและสีหน้ารื่นเริง … [และ] ด้วยใจยินดีและสีหน้ารื่นเริง”12

โปรดสังเกตคำสำคัญบางคำในการเปิดเผยนี้: ปีติ การชื่นชมยินดี การน้อมขอบพระทัย ใจรื่นเริง ใจยินดี และ สีหน้ารื่นเริง ฟังเหมือนการถือปฏิบัติวันสะบาโตควรทำให้เรามีรอยยิ้มบนใบหน้า

ทักทายที่โบสถ์

ขณะปฏิบัติศาสนกิจในวิธีที่ดีกว่าและศักดิ์สิทธิ์กว่า ขอให้พิจารณาว่าจำเป็นเพียงใดที่เราจะทักทายทุกคนที่มาการประชุมของศาสนจักรโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกใหม่และผู้มาเยือน เราทุกคนควรชอบร้องเพลงสวด เปิดใจและความคิดตั้งใจฟังคำสวดอ้อนวอนศีลระลึก

ประจักษ์พยานเรื่องศรัทธาในการประชุมอดอาหารและแสดงประจักษ์พยานนำโดยสมาชิกในฝ่ายอธิการผู้แบ่งปันประจักษ์พยานสั้นๆ โดยเน้นที่แผนแห่งความสุขและพระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระคริสต์ คนอื่นทั้งหมดควรทำตามแบบอย่างนั้น เราพึงจดจำว่ามีสถานที่ซึ่งเหมาะสมอีกหลายแห่งให้เล่าเรื่องหรือพูดถึงการเดินทางผจญภัย เมื่อเราทำให้ประจักษ์พยานของเราเรียบง่ายและเน้นที่พระกิตติคุณของพระคริสต์ พระองค์จะประทานการฟื้นฟูทางวิญญาณขณะเราแบ่งปันประจักษ์พยานให้กัน

การปฏิบัติศาสนกิจที่มีประสิทธิภาพจะเห็นชัดที่สุดผ่านเลนส์โฟกัสของความรักที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้านของเรา กล่าวได้ว่าเราปฏิบัติศาสนกิจเพราะเรารักพระบิดาบนสวรรค์และบุตรธิดาของพระองค์ การปฏิบัติศาสนกิจของเราจะประสบผลสำเร็จมากขึ้นถ้าเราทำให้การปฏิบัติศาสนกิจเรียบง่าย ปีติสูงสุดมาจากสิ่งเรียบง่ายของชีวิต ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องระวังอย่าคิดว่าต้องเพิ่มบางอย่างเข้าไปในการปรับเปลี่ยนที่เราได้รับเพื่อสร้างศรัทธาและประจักษ์พยานที่เข้มแข็งในใจบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า

อย่าทำให้ซับซ้อนด้วยการเพิ่มการประชุม ความคาดหวัง หรือข้อเรียกร้อง จงทำให้เรียบง่ายเสมอ ในความเรียบง่ายนั้นท่านจะพบสันติ ปีติ และความสุขที่ข้าพเจ้าพูดถึง

หลายปีที่จุดประสงค์ของการเป็นผู้นำในศาสนจักรดังที่กล่าวไว้ใน คู่มือเล่ม 2 คือผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเรียบง่าย ข้าพเจ้าขอยกมาอ้างอิงดังนี้

ครอบครัวที่การสัมภาษณ์ส่วนสิบ

“ผู้นำกระตุ้นให้สมาชิกทุกคนรับศาสนพิธีฐานะปุโรหิตที่จำเป็นทุกอย่าง รักษาพันธสัญญาที่ทำไว้ และมีคุณสมบัติคู่ควรกับความสูงส่งและชีวิตนิรันดร์ …

คู่สามีภรรยาที่พระวิหาร

“ผู้ใหญ่: กระตุ้นผู้ใหญ่แต่ละคนให้มีค่าควรต่อการรับศาสนพิธีของพระวิหาร สอนผู้ใหญ่ทุกคนให้ค้นหาบรรพชนและประกอบศาสนพิธีพระวิหารแทนคนตาย

การแต่งตั้งฐานะปุโรหิต
เยาวชนหญิงกับบัตรศาสนพิธีพระวิหาร

เยาวชน: ช่วยเตรียมเยาวชนชายแต่ละคนให้รับฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค รับศาสนพิธีของพระวิหาร และมีค่าควรต่อการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ช่วยเตรียมเยาวชนหญิงแต่ละคนให้มีค่าควรต่อการทำและรักษาพันธสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์และรับศาสนพิธีของพระวิหาร เสริมสร้างความเข้มแข็งโดยให้เยาวชนมีส่วนร่วมกิจกรรมที่มีความหมาย

สภาวอร์ด

สมาชิกทุกคน: ช่วยผู้นำฐานะปุโรหิต ผู้นำองค์การช่วย สภาวอร์ด ผู้สอนศาสนาวอร์ด ผู้สอนศาสนาเต็มเวลา และสมาชิกทำงานร่วมกันอย่างสมดุลในการช่วยแต่ละคน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยครอบครัวและหน่วยศาสนจักร เพิ่มความแข็งขันให้ฐานะปุโรหิต และรวมอิสราเอลผ่านการเปลี่ยนใจเลื่อมใส การรักษาให้คงอยู่ และการทำให้แข็งขัน สอนสมาชิกให้หาเลี้ยงชีพด้วยตนเองและเลี้ยงดูครอบครัวตลอดจนช่วยเหลือคนยากจนและคนขัดสนตามวิธีของพระเจ้า”13

การรับใช้ของข้าพเจ้าในศาสนจักรเป็นพรให้ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ทางวิญญาณที่พิเศษยอดเยี่ยมมากมาย ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักรเพื่อทำให้บรรลุจุดประสงค์ของพระองค์ ข้าพเจ้าได้รับการนำทางนอกเหนือความสามารถของข้าพเจ้า ปีติของการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณสำหรับข้าพเจ้ามีศูนย์รวมอยู่ที่หลักคำสอนและพระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระเยซูคริสต์

ข้าพเจ้ารับใช้ภายใต้กุญแจและการกำกับดูแลของศาสดาพยากรณ์และประธานศาสนจักร หก ท่านนับจากสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์จนถึงรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าแต่ละท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือก พวกท่านสอนให้เรารู้หลักธรรมที่จำเป็นเกี่ยวกับศาสนจักร พระกิตติคุณ และหลักคำสอนของพระคริสต์ ประธานเนลสันกำลังดำเนินงานของพระเจ้าให้รุดหน้าเร็วมาก ข้าพเจ้าพูดว่า “เร็วมาก” เพราะท่านเป็นอัครสาวกคนเดียวที่อายุมากกว่าข้าพเจ้า และข้าพเจ้าตามท่านไม่ทัน! ข้าพเจ้าเป็นพยานว่ากุญแจฐานะปุโรหิตและเสื้อคลุมของศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่กับท่าน ประธานเนลสันสอนพระกิตติคุณที่แท้จริง บริสุทธิ์ และเรียบง่ายของพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าแสดงประจักษ์พยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ นี่คือศาสนจักรของพระองค์—ข้าพเจ้าเป็นพยานด้วยความนอบน้อมถ่อมตน ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน