พระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า
แม้ขณะที่เราอดทนรอพระเจ้า มีพรจากสวรรค์บางอย่างที่มาถึงเราทันที
หลายปีก่อน บุตรชายวัยห้าขวบของเรามาหาข้าพเจ้าและบอกว่า “พ่อครับ ผมคิดอะไรบางอย่างออก ผมคิดว่า ไม่นาน ของพ่อนี่นานมากสำหรับผมนะครับ”
เมื่อพระเจ้าหรือผู้รับใช้ของพระองค์ตรัสทำนองว่า “ไม่กี่วันนับจากนี้ไป” หรือ “เวลาอยู่ไม่ไกล” นั่นหมายถึงชั่วชีวิตหรือนานกว่านั้น1 เวลาของพระองค์ และบ่อยครั้งจังหวะเวลาของพระองค์ แตกต่างจากเรา ความอดทนสำคัญมาก หากไม่อดทน เราจะไม่สามารถพัฒนาหรือแสดงศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าอันนำไปสู่ชีวิตและความรอดได้ ข่าวสารของข้าพเจ้าวันนี้คือ แม้ขณะที่เราอดทนรอพระเจ้า มีพรจากสวรรค์บางอย่างที่มาถึงเราทันที
เมื่อแอลมากับผู้คนของท่านถูกชาวเลมันจับกุม พวกเขาสวดอ้อนวอนขอการปลดปล่อย พวกเขาไม่ได้รับการปลดปล่อยโดยทันที แต่ขณะที่พวกเขาอดทนรอการปลดปล่อย พระเจ้าทรงแสดงพระคุณความดีของพระองค์โดยประทานพรให้พวกเขาทันที พระองค์ทรงทำให้ใจของชาวเลมันอ่อนลงเพื่อพวกเขาจะไม่สังหารคนเหล่านั้น พระองค์ทรงเสริมกำลังผู้คนของแอลมาและลดภาระของพวกเขาด้วย2 ในที่สุดเมื่อพวกเขาได้รับการปลดปล่อย พวกเขาเดินทางไปเซราเฮ็มลาที่ซึ่งพวกเขาเล่าประสบการณ์ของตนให้กับผู้ฟังที่อัศจรรย์ใจ ผู้คนแห่งเซราเฮ็มลาประหลาดใจ และ “เมื่อพวกเขาคิดถึง พระคุณความดีที่พวกเขาได้รับโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า, และเดชานุภาพของพระองค์ในการปลดปล่อยแอลมาและพี่น้องของท่านออกจาก … ความเป็นทาสแล้ว, พวกเขาก็แซ่ซ้องสรรเสริญและน้อมขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้า”3
พระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้ามาถึงทุกคนที่เรียกหาพระองค์ด้วยเจตนาแท้จริงและความตั้งใจเด็ดเดี่ยว รวมถึงคนที่ร้องทูลด้วยความสิ้นหวัง เมื่อดูเหมือนการปลดปล่อยอยู่แสนไกลและการทนทุกข์ดูเหมือนแสนสาหัสมานาน
เช่นเดียวกับศาสดาพยากรณ์วัยหนุ่มผู้ทนทุกข์เจียนตายในความอับชื้นของคุกมืดก่อนร้องทูลในที่สุดว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์ประทับอยู่ที่ใดเล่า? … อีกนานเท่าใดเล่าที่พระหัตถ์ของพระองค์จะทรงยั้งไว้ … ? แท้จริงแล้ว, ข้าแต่พระเจ้า, อีกนานเท่าใด … ?”4 พระเจ้าทรงตอบโดยส่งสันติสุขมาให้ทันที แต่ไม่ได้ปลดปล่อยโจเซฟโดยทันที5
พระผู้เป็นเจ้าประทานความหวังทันทีเช่นกันว่าจะปลดปล่อยในที่สุด6 ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าที่ใด ในพระคริสต์และผ่านพระคริสต์ความหวังกำลังยิ้มสดใสตรงหน้าเราเสมอ7 ทันทีตรงหน้าเรา
นอกจากนี้ พระองค์ทรงสัญญาว่า “ความรักมั่นคง ของเราจะไม่เคลื่อนย้ายไปจากเจ้า”8
เหนือสิ่งอื่นใด ความรักของพระผู้เป็นเจ้ามาทันที ข้าพเจ้าเป็นพยานร่วมกับเปาโลว่าไม่มีสิ่งใด “ทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์”9 แม้บาปจะทำให้เราขาดจากพระวิญญาณของพระองค์ไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของบิดาแห่งสวรรค์โดยตรงและคงที่ของพระองค์ได้
นี่เป็นบางด้านบางวิธีเท่านั้นที่ “พระองค์ย่อมประทานพรให้ [เรา] โดยทันที”10 ตอนนี้เพื่อให้หลักธรรมเหล่านี้เป็นปัจจุบันและใกล้ตัว ข้าพเจ้าจะเล่าประสบการณ์ของคนสองคนที่ชีวิตพวกเขาเป็นพยานถึงพระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า
ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เอมิลีใช้สารผิดประเภท การทดลองกลายเป็นนิสัย และนิสัยนำไปสู่การเสพติดจนตกเป็นทาสนานหลายปีแม้จะดีเป็นช่วงๆ ก็ตาม เอมิลีซ่อนปัญหาไว้มิดชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเธอเป็นภรรยาและมารดา
จุดเริ่มต้นของการปลดปล่อยไม่รู้สึกเหมือนเป็นการปลดปล่อยเลย ขณะที่เอมิลีกำลังรับการตรวจร่างกายตามปกติ จู่ๆ รถพยาบาลก็พาเธอไปสถานบำบัดผู้ป่วยใน เธอเริ่มหวั่นวิตกขณะนึกถึงการอยู่แยกจากลูกๆ สามี และบ้านของเธอ
คืนนั้น คนเดียวในห้องมืดและเย็น เอมิลีขดตัวอยู่บนเตียงและร่ำไห้ ความสามารถของเธอที่จะใช้เหตุผลถดถอยลงจนในที่สุด ความวิตก ความกลัว และความมืดอันชวนหดหู่ในห้องและในจิตวิญญาณทำให้เอมิลีคิดว่าเธอจะตายคืนนั้นแน่ ตายอย่างเดียวดาย
ในสภาพสิ้นหวังนั้น เอมิลีรวบรวมกำลังกลิ้งลงจากเตียงและคุกเข่า เอมิลียอมจำนนต่อพระเจ้าโดยไม่วางมาดใดๆ ซึ่งบางครั้งเคยเป็นส่วนหนึ่งของการสวดอ้อนวอนครั้งก่อนๆ เธอร้องทูลอย่างสิ้นหวังว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ต้องการพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย ข้าพระองค์ไม่อยากโดดเดี่ยว ขอให้ข้าพระองค์ผ่านพ้นคืนนี้ด้วยเถิด”
ทันใดนั้น พระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์มาปลอบโยนเธอดังที่พระองค์ทรงทำกับเปโตรสมัยก่อน11 เอมิลีเริ่มรู้สึกถึงความสงบอย่างประหลาด ความกล้าหาญ ความเชื่อมั่น และความรัก ห้องไม่เย็นอีกต่อไป เธอรู้ว่าเธอไม่โดดเดี่ยว และเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุ 14 ปีที่เอมิลีรู้ว่าทุกอย่างจะดี เมื่อเธอ “ตื่นขึ้นมาหาพระผู้เป็นเจ้า”12 เอมิลีเข้านอนอย่างสงบ ดังนั้นเราจึงเห็นว่า “หากท่านจะกลับใจและไม่ทำใจท่านแข็งกระด้าง, พระองค์จะทรงนำแผนอันสำคัญยิ่งแห่งการไถ่มาสู่ท่านโดยทันที”13
การเยียวยาและการปลดปล่อยเอมิลีใช้เวลานาน—หลายเดือนของการรักษา การฝึกฝน และการขอคำปรึกษา ซึ่งเป็นช่วงที่พระคุณความดีของพระองค์ประคับประคองและบางครั้งแบกเธอ พระคุณความดีนั้นยังคงอยู่กับเธอเมื่อเธอเข้าพระวิหารกับสามีและลูกๆ เพื่อผนึกด้วยกันชั่วนิรันดร์ เหมือนผู้คนของเซราเฮ็มลา เอมิลีน้อมขอบพระทัยขณะใคร่ครวญพระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้าและเดชานุภาพในการปลดปล่อยเธอจากความเป็นทาส
ตอนนี้ จากชีวิตของผู้เชื่อที่กล้าหาญอีกคนหนึ่ง วันที่ 27 ธันวาคม ปี 2013 อลิเซีย ชโรเดอร์ต้อนรับฌอนกับชาร์ลา ชิลโคทเพื่อนรักอย่างเบิกบาน จู่ๆ พวกเขาก็ปรากฏตัวตรงบันไดบ้านของเธอ ฌอนเป็นอธิการของอลิเซียด้วย เขายื่นโทรศัพท์ของเขาให้เธอและพูดอย่างขึงขังว่า “อลิเซีย เรารักคุณ คุณต้องรับสาย”
มาริโอสามีของอลิเซียอยู่ปลายสาย เขากับลูกบางคนของพวกเขาขับสโนว์โมบิลไปเที่ยวตามที่ตั้งใจไว้นานแล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มาริโอบาดเจ็บสาหัส และคาเล็บบุตรชายวัย 10 ขวบเสียชีวิต เมื่อมาริโอบอกอลิเซียเรื่องการเสียชีวิตของคาเล็บ เธอตกใจและเสียขวัญมาก จนล้มพับ เพราะความปวดร้าวสุดพรรณนาทำให้อลิเซียขยับตัวหรือพูดไม่ได้
อธิการกับซิสเตอร์ชิลโคทพยุงเธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาร้องไห้เสียใจอย่างสุดซึ้งอยู่พักใหญ่ จากนั้นอธิการชิลโคทก็ให้พรอลิเซีย
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นไม่อาจเข้าใจได้หากไม่เข้าใจเรื่องการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และพระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า อธิการชิลโคทวางมือบนศีรษะอลิเซียอย่างแผ่วเบาและเริ่มพูดด้วยเสียงสั่นเครือ อลิเซียได้ยินสองอย่างประหนึ่งพระผู้เป็นเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง อย่างแรก เธอได้ยินชื่อเธอ อลิเซีย ซูซาน ชโรเดอร์ จากนั้นเธอได้ยินอธิการวิงวอนขอสิทธิอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ทันใดนั้น—ทันทีที่เอ่ยชื่อเธอและเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า—อลิเซียมีสีหน้าอิ่มเอิบด้วยความสงบ ความรัก ความอบอุ่นใจ และ ปีติ สุดพรรณนา ความรู้สึกนี้ยังอยู่กับเธอต่อไป
แน่นอนว่าตอนนี้อลิเซีย มาริโอ กับครอบครัวเธอยังคงเศร้าโศกและคิดถึงคาเล็บ นี่เป็นเรื่อง ยาก! แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าพูดกับเธอ อลิเซียจะน้ำตาคลอขณะบอกว่าเธอรักและคิดถึงลูกชายตัวน้อยมาก ดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอขณะเล่าว่าพระผู้ปลดปล่อยทรงประคองเธอผ่านการทดสอบทุกช่วงอย่างไร โดยเริ่มจากพระคุณความดีโดยตรงของพระองค์ในช่วงที่เธอสิ้นหวังมากที่สุดและบัดนี้ดำเนินต่อไปด้วยความสว่างแห่งความหวังของการพบกันอีกอย่างหอมหวานในอีก “ไม่กี่วันนับจากนี้ไป”
ข้าพเจ้าตระหนักว่าบางครั้งประสบการณ์ชีวิตทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ซึ่งทำให้ยากจะรับ หรือรับรู้ หรือรักษาการบรรเทาทุกข์ไว้ในแบบที่เอมิลีกับอลิเซียได้รับ ข้าพเจ้าเคยผ่านพ้นช่วงเวลาเช่นนั้น ข้าพเจ้าเป็นพยานว่า ในช่วงเวลาเช่นนั้น การปกปักรักษาเราเป็นการสำแดงพระคุณความดีโดยตรงซึ่งอ่อนโยนและมีพลังจากพระผู้เป็นเจ้า พึงระลึกว่า อิสราเอลสมัยโบราณได้รับการปลดปล่อย “โดยพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกันนั้นผู้ได้ทรงปกปักรักษาพวกท่าน”14 วันแล้ววันเล่า
ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ปลดปล่อย และในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านหันไปหาพระองค์ด้วยเจตนาแท้จริงและความตั้งใจเด็ดเดี่ยว พระองค์จะทรงปลดปล่อยท่านจากทุกอย่างที่คุกคามเพื่อลดค่าหรือทำลายชีวิตหรือปีติของท่าน การปลดปล่อยนั้นอาจใช้เวลานานกว่าที่ท่านต้องการ—อาจจะชั่วชีวิตหรือนานกว่านั้น ข้าพเจ้าจึงขอมอบความอบอุ่นใจ ความกล้า และความหวังให้ท่าน เพื่อประคองและเพิ่มพลังให้ท่านจนถึงวันปลดปล่อยในที่สุด ข้าพเจ้าเป็นพยานถึง พระคุณความดีโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน