แต่เราหาใส่ใจพวกเขาไม่
พันธสัญญาและศาสนพิธีของเราชี้ทางและช่วยให้เราระลึกถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าพระเยซูคริสต์ตลอดเวลาขณะก้าวหน้าตามเส้นทางพันธสัญญา
ซูซานภรรยาข้าพเจ้า ลูกชายสามคนของเรากับภรรยา รวมถึงหลานๆ ทุกคน และเอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกที่นั่งข้างข้าพเจ้าในโควรัมอัครสาวกสิบสองมาเกือบ 15 ปียืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าข้าพเจ้าร้องเพลงไม่เก่ง แม้จะขาดพรสวรรค์ด้านนี้ แต่ข้าพเจ้าชอบร้องเพลงสวดเกี่ยวกับการฟื้นฟู เนื้อร้องที่ได้รับการดลใจผสมผสานกับท่วงทำนองอันไพเราะช่วยให้ข้าพเจ้าเรียนรู้หลักธรรมพระกิตติคุณสำคัญๆ และปลุกเร้าจิตวิญญาณข้าพเจ้า
เพลงสวดหนึ่งที่เป็นพรแก่ชีวิตข้าพเจ้าอย่างเด่นชัดคือ “ขอให้เรารุดไป” ข้าพเจ้าไตร่ตรองและเรียนรู้เมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับวลีหนึ่งในท่อนสร้อยของเพลงนั้น “หูอย่าเบา เชื่อเมื่อคนชั่วพูดบอกเรา แต่พระเจ้าเท่านั้นเราจะเชื่อฟัง”1
หูอย่าเบา
ขณะร้องเพลง “ขอให้เรารุดไป” ข้าพเจ้ามักจะนึกถึงคนในนิมิตของลีไฮที่มุ่งหน้าไปบนเส้นทางสู่ต้นไม้แห่งชีวิตผู้ไม่เพียง “ยึด”2 เท่านั้นแต่ “ยึดราวเหล็กไว้แน่นตลอดเวลา, จนพวกเขาเข้ามาและทรุดตัวลงและรับส่วนผลของต้นไม้นั้น”3 ลีไฮพูดถึงฝูงชนในอาคารใหญ่และกว้างที่กำลังชี้ “นิ้วเยาะเย้ย [เขา] และผู้ที่กำลังรับส่วนผลนั้นด้วย”4 การตอบสนองของเขาต่อการเย้ยหยันและการดูถูกนั้นยอดเยี่ยมและน่าจดจำ: “แต่เราหาใส่ใจพวกเขาไม่”5
ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงอวยพรและชี้ทางสว่างแก่เราแต่ละคนขณะพิจารณาด้วยกันว่าเราจะเข้มแข็งขึ้นเพื่อ “หาใส่ใจ” อิทธิพลชั่วและเสียงล้อเลียนของโลกร่วมสมัยที่เราอยู่นี้ได้อย่างไร
หาใส่ใจไม่
คำว่า ใส่ใจ หมายถึงสนใจหรือเอาใจใส่บางคนหรือบางอย่าง ฉะนั้นเนื้อร้องเพลงสวด “ขอให้เรารุดไป” จึงเตือนสติเราให้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าอย่าเอาใจใส่เมื่อคนชั่วบอกอะไร ลีไฮกับคนที่กำลังรับส่วนผลของต้นไม้ด้วยกันเป็นตัวอย่างที่ดีของการไม่เอาใจใส่การล้อเลียนและการเยาะเย้ยที่บ่อยครั้งมาจากอาคารใหญ่และกว้าง
หลักคำสอนของพระคริสต์ที่เขียน “ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ … บนแผ่นดวงใจ [เรา]”6 จะเพิ่มความสามารถให้เรา “หาใส่ใจ” ต่อสิ่งล่อใจ คำพูดเสียดสี และสิ่งเบี่ยงเบนมากมายในโลกที่ตกแล้วใบนี้ ตัวอย่างเช่น ศรัทธาที่จดจ่ออยู่ในและอยู่กับพระเจ้าพระเยซูคริสต์จะเสริมพลังทางวิญญาณให้เราแข็งแกร่ง ศรัทธาในพระผู้ไถ่เป็นหลักธรรมแห่งการกระทำและพลังอำนาจ เมื่อเราทำตัวให้สอดคล้องกับความจริงของพระกิตติคุณ เราได้รับพรให้มีความสามารถทางวิญญาณในการมุ่งหน้าผ่านความท้าทายของความเป็นมรรตัยขณะจดจ่ออยู่กับปีติที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงมอบให้ ที่จริงแล้ว “ถ้าเราทำความดีไม่ต้องมีความหวาดหวั่น เพราะราชันผู้ช่วยจะอยู่ด้วยชั่วนิรันดร์”7
ความเชื่อมโยงส่วนตัวผ่านพันธสัญญา
การเข้าสู่พันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์และรับศาสนพิธีฐานะปุโรหิตอย่างมีค่าควรเป็นการเทียมแอกเราและผูกมัดเรากับพระเจ้าพระเยซูคริสต์และพระบิดาบนสวรรค์8 นี่หมายความว่าเราวางใจในพระผู้ช่วยให้รอดในฐานะพระผู้วิงวอนแทน9และพระผู้เป็นคนกลาง10 และพึ่งพาความดีงาม พระเมตตา และพระคุณของพระองค์11ระหว่างการเดินทางของชีวิต เมื่อเราแน่วแน่ในการมาหาพระคริสต์และเทียมแอกกับพระองค์ เราจะได้รับพรแห่งการชำระให้สะอาด การเยียวยา และการเสริมกำลังจากการชดใช้อันไม่มีขอบเขตอันเป็นนิรันดร์ของพระองค์12
การดำเนินชีวิตตามและรักในคำมั่นสัญญาแห่งพันธสัญญาสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าแบบเป็นส่วนตัวอย่างลึกซึ้งและทรงพลังทางวิญญาณ เมื่อเราให้เกียรติเงื่อนไขของพันธสัญญาและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ เราถูกดึงเข้าใกล้พระองค์มากขึ้นทีละนิด13 และลิ้มรสอิทธิพลของความเป็นพระเจ้าและการดำรงอยู่จริงของพระองค์ในชีวิต เมื่อนั้นพระเยซูจะเป็นยิ่งกว่าบุคคลสำคัญในเรื่องราวพระคัมภีร์ แบบอย่างและคำสอนของพระองค์จะมีอิทธิพลต่อความปรารถนา ความนึกคิด และการกระทำทุกอย่างของเรา
ข้าพเจ้าบอกตามตรงว่าไม่สามารถอธิบายได้ดีพอถึงลักษณะและพลังของความสัมพันธ์ตามพันธสัญญาของเรากับพระบุตรผู้ฟื้นคืนพระชนม์และทรงพระชนม์อยู่ของพระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวกับพระองค์และพระบิดาบนสวรรค์มีอยู่จริงและเป็นบ่อเกิดสูงสุดของความมั่นใจ สันติ ปีติ และพลังทางวิญญาณซึ่งทำให้เรา “[ไม่] กลัว แม้ศัตรูหยันประณามลง”14 ในฐานะสานุศิษย์ที่ทำและรักษาพันธสัญญาของพระเยซูคริสต์ เราจะได้รับพรให้มีความ “กล้าเพราะว่าพระเจ้าอยู่ข้างเรา”15 และไม่เอาใจใส่อิทธิพลชั่วและการถากถางของโลก
เมื่อข้าพเจ้าพบปะพูดคุยกับสมาชิกศาสนจักรทั่วโลก ข้าพเจ้ามักจะถามพวกเขาว่า: อะไรช่วยให้ท่าน “หาใส่ใจ” อิทธิพลทางโลก การล้อเลียน และการเยาะเย้ย? คำตอบของพวกเขาเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
สมาชิกที่องอาจมักเน้นความสำคัญของการอัญเชิญอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตผ่านการศึกษาพระคัมภีร์อย่างมีความหมาย การสวดอ้อนวอนอย่างจริงจัง และการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมเพื่อมีส่วนร่วมในศาสนพิธีศีลระลึก ที่กล่าวถึงกันบ่อยครั้งด้วยคือการสนับสนุนทางวิญญาณจากสมาชิกครอบครัวที่ซื่อสัตย์และเพื่อนที่ไว้ใจ บทเรียนสำคัญที่เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติศาสนกิจและการรับใช้ในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเจ้า และการสามารถเล็งเห็นความว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิงของสิ่งที่อยู่ในหรือมาจากอาคารใหญ่และกว้าง
ข้าพเจ้าสังเกตเห็นรูปแบบหนึ่งซึ่งสำคัญเป็นพิเศษในคำตอบของสมาชิกเหล่านี้ หนึ่งคือสานุศิษย์เหล่านี้มีประจักษ์พยานมั่นคงในแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์และบทบาทของพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ไถ่และพระผู้ช่วยให้รอดของเรา สอง ความรู้ทางวิญญาณและความเชื่อมั่นของพวกเขาเป็นปัจเจก เฉพาะตัว และเจาะจง ไม่ได้เป็นแบบทั่วไปและเป็นนามธรรม ข้าพเจ้าฟังผู้อุทิศตนเหล่านี้เล่าถึงการที่พันธสัญญาให้พลังเอาชนะปรปักษ์และความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ประคองพวกเขาผ่านทั้งช่วงดีและร้าย สำหรับคนเหล่านี้ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวอย่างแท้จริง
พันธสัญญาและศาสนพิธีพระกิตติคุณทำงานในชีวิตเราเหมือนเข็มทิศอย่างมาก เข็มทิศเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บอกทิศสำคัญๆ คือเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก เพื่อจุดประสงค์ในการเดินเรือและการกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ในทำนองเดียวกัน พันธสัญญาและศาสนพิธีของเราชี้ทางและช่วยให้เราระลึกถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าพระเยซูคริสต์ตลอดเวลาขณะก้าวหน้าตามเส้นทางพันธสัญญา
ทิศทางที่สำคัญสำหรับเราทุกคนในความเป็นมรรตัยคือมาหาพระคริสต์และดีพร้อมในพระองค์16 พันธสัญญาและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับพระผู้ช่วยให้รอดเสมอและพากเพียรเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นด้วยพระคุณของพระองค์17 ที่แน่นอนที่สุดคือ “อำนาจลึกล้ำจะค้ำข้าพเจ้าและท่านในอุดมการณ์สัจจาอันเรืองโรจน์”18
จับราวเหล็กให้แน่น
ความสัมพันธ์ตามพันธสัญญาของเรากับพระผู้เป็นเจ้าและพระเยซูคริสต์เป็นช่องทางให้เราได้รับความสามารถและพลังที่จะ “หาใส่ใจไม่” และความผูกพันนี้แน่นแฟ้นเมื่อเราจับราวเหล็กให้แน่นตลอดเวลา แต่เมื่อพี่ๆ ของนีไฟถามว่า “ราวเหล็กที่บิดาเราเห็น, … หมายถึงสิ่งใดหรือ?
“และ [นีไฟ] กล่าวแก่พวกเขาว่าราวเหล็กนั้นคือ พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า; และผู้ใดที่สดับฟัง พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า, และ ยึดมั่นในพระวจนะนั้น แล้ว, พวกเขาจะไม่พินาศเลย; ทั้งสิ่งล่อลวงและลูกศรเพลิงของปฏิปักษ์ก็ไม่อาจครอบงำพวกเขาไปสู่ความมืดบอด, เพื่อชักจูงพวกเขาไปสู่ความพินาศได้”19
โปรดสังเกตว่าความสามารถในการต้านทานการล่อลวงและลูกศรเพลิงของปฏิปักษ์เป็นสัญญาให้กับคนที่ “ยึดมั่น” ในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่แค่ “ยึด” เท่านั้น
น่าสนใจตรงที่อัครสาวกยอห์นเรียกพระเยซูคริสต์ว่าพระวาทะ20
“ในปฐมกาล พระวาทะ ทรงดำรงอยู่ และ พระวาทะ ทรงอยู่กับพระเจ้า และ พระวาทะ ทรงเป็นพระเจ้า …
“พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้นไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ …
“พระวาทะ ทรงเกิดเป็นมนุษย์ และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์คือพระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง”21
ดังนั้นหนึ่งในพระนามของพระเยซูคริสต์คือ “พระวาทะ”22
นอกจากนี้ หลักแห่งความเชื่อข้อแปด กล่าวว่า “เราเชื่อว่าพระคัมภีร์ไบเบิลเป็น พระคำของพระผู้เป็นเจ้า ตราบเท่าที่แปลไว้อย่างถูกต้อง; เราเชื่อด้วยว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็น พระคำของพระผู้เป็นเจ้า”23
ฉะนั้นคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดดังที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์จึงเป็น “พระคำ” ด้วย
ข้าพเจ้าขอแนะนำว่าการยึดมั่นพระคำของพระผู้เป็นเจ้าต้องมีการ (1) จดจำ ให้เกียรติ และกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวของเรากับพระผู้ช่วยให้รอดและพระบิดาผ่านพันธสัญญาและศาสนพิธีของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู และ (2) ใช้พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และคำสอนของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิตอยู่ในฐานะแหล่งที่เชื่อถือได้ของความจริงที่ได้รับการเปิดเผย โดยใช้ร่วมกับการสวดอ้อนวอนอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ เมื่อเราถูกผูกมัดและ “ยึดมั่น” ในพระเจ้าและถูกเปลี่ยนโดยการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระองค์24 ข้าพเจ้าสัญญาว่าเราจะได้รับพรทั้งส่วนตัวและส่วนรวมที่จะ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, และจะไม่หวั่นไหว”25 ถ้าเราติดสนิทอยู่กับพระคริสต์ เมื่อนั้นพระองค์จะติดสนิทอยู่กับเราและเดินไปกับเรา26 โดยแท้แล้ว “ในวันวิสุทธิชนโศกเศร้า องค์พระเจ้าจะปลอบโยน เพิ่มผลอุดมการณ์สัจจา”27
ประจักษ์พยาน
รุดไป ยึดมั่น หาใส่ใจไม่
ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาและศาสนพิธีของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระผู้ช่วยให้รอดทำให้เราสามารถ รุดไป ในงานของพระเจ้า ยึดมั่น ในพระองค์ในฐานะพระวาทะของพระผู้เป็นเจ้า และ หาใส่ใจ สิ่งล่อใจของปฏิปักษ์ ในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ขอให้เราแต่ละคนแกว่งดาบ แม้น “ดาบสัจจาอันทรงอานุภาพ”28 ในพระนามของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เอเมน