คนหนุ่มสาว
สมาชิกใหม่: คุณเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
คุณกำลังพยายามทำตามความคาดหวังผิดๆ หรือไม่?
เมื่อคุณพบใครบางคน คุณแนะนำตัวอย่างไร? สิ่งใดสำคัญต่ออัตลักษณ์ของคุณ? ผมชื่อไบรอัน ผมเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย แต่ผมไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่นตลอดเวลา
ผมเข้าร่วมศาสนจักรเมื่อเรียนวิทยาลัยปีแรก หลังจากดูเหมือนเพิ่งรับบัพติศมาไปได้เพียงอึดใจเดียว สมาชิกผู้ประสงค์ดีเริ่มถามว่า “คุณจะรับใช้งานเผยแผ่หรือเปล่า?” งานเผยแผ่เป็นเรื่องที่ผมยังไม่ทันได้คิดจริงจัง แต่ผมรู้สึกเหมือนถูกคาดหวังให้ตอบว่า ครับ
ผมดีพอหรือ?
เพียงหนึ่งปีเศษหลังจากเข้าร่วมศาสนจักร ผมได้รับการเรียกให้รับใช้ในอังกฤษและอยากสอนมากเมื่อไปถึงที่นั่น แต่ภายในไม่กี่วันผมเริ่มรู้ตัวว่าผมคิดถึงบ้าน ผมไม่พร้อมรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา
ขณะบอกความรู้สึกของผมกับประธานคณะเผยแผ่ ท่านรู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้ร้องเพลง “มีแสงสว่างในใจข้าวันนี้” (เพลงสวด บทเพลงที่ 120) ทางโทรศัพท์ ผมรู้สึกแปลกนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกถึงแสงสว่างและความอบอุ่นด้วย
ถึงกระนั้นผมยังขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้ากลับบ้านในสัปดาห์ต่อมา ผมต่อสู้กับความรู้สึกของผมตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน ผมรู้สึกกังวลมากว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับการเลือกของผม ผมโกรธตัวเองที่ไม่รับใช้ให้ครบสองปี—ถึงอย่างไรผมก็ได้ทิ้งเพื่อนๆ และครอบครัวไว้เบื้องหลังและเลื่อนเวลาเรียนออกไปรับใช้งานเผยแผ่แล้ว ผมปวดร้าวใจมาก และตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนพระบิดาบนสวรรค์ทรงทอดทิ้งผมในยามที่ผมทุกข์ใจ ผมสงสัยว่าผมยังเป็นส่วนหนึ่งอีกหรือเพราะผมไม่ได้ทำตามที่คาดหวังครบทุกอย่าง
จงมาอย่างที่เจ้าเป็น
หนึ่งสัปดาห์หลังจากถึงบ้าน ครอบครัวของเพื่อนสนิทชวนผมไปดูการประชุมใหญ่ภาคหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากทำ แต่ผมไป
พอดูไปได้ครึ่งภาค เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์เดินมาที่แท่นพูดและกล่าวว่า “มีแสงสว่างในใจข้าวันนี้”—คำพูดเดียวกันกับที่ประธานคณะเผยแผ่ร้องให้ผมฟังเมื่อสองสัปดาห์ก่อน พระวิญญาณทรงกระซิบว่า “นี่คือศาสนจักรที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่ง” ตลอด 15 นาทีต่อจากนั้น มุมมองของผมเปลี่ยนทั้งหมด
เรามักจะรู้สึกว่าเราไม่เป็นส่วนหนึ่งเมื่อเรารู้สึกเหมือนเราไม่ได้เป็นไปตามที่คนอื่นคาดหวัง แต่เราทุกคนล้วนทำได้ไม่ดีพอ (ดู โรม 3:23) ใช่แล้ว พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่ายังมีที่ให้เราแต่ละคนในศาสนจักรของพระองค์ (ดู 1 โครินธ์ 12:20–23)
เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์สอนในระหว่างคำปราศรัยนั้นว่า “‘จงมาอย่างที่เจ้าเป็น’ พระบิดาผู้ทรงรักเราตรัสกับเราแต่ละคน แต่พระองค์ทรงเสริมว่า ‘อย่าคิดว่าเจ้าจะไม่เปลี่ยนแปลง’” (“บทเพลงที่ขับขานและบทเพลงที่เงียบงัน” เลียโฮนา พ.ค. 2017, 51) พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้เราอยู่ที่นี่ไม่ว่าเราเป็นใครหรือเราทำอะไรมาเพราะนั่นเปิดโอกาสให้พระองค์ทรงช่วยให้เราเปลี่ยนเป็นคนที่เราจะเป็น (ดู 3 นีไฟ 18:22)
ก่อนได้ยินคำปราศรัยของเอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์ ผมคิดว่าการเป็นส่วนหนึ่งหมายถึงการทำตามความคาดหวังครบทุกอย่าง ตอนนี้ผมเข้าใจดีขึ้นว่าศาสนจักรของพระเจ้าไม่ได้มีไว้สำหรับคนดีพร้อมอยู่แล้วแต่มีไว้ช่วยให้คนไม่ดีพร้อมเป็นคนดีพร้อม เมื่อคุณกำลังติดตามพระองค์ ก็เท่ากับคุณเป็นส่วนหนึ่งในศาสนจักรของพระองค์