2020
ฉันสามารถดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศได้จริงหรือ?
สิงหาคม 2020


ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว

ฉันสามารถดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศได้จริงหรือ?

เมื่อดิฉันเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนจักรและกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ ดิฉันไม่แน่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่ดิฉันทำได้หรือไม่—หรือแม้ต้องการที่จะ—ดำเนินชีวิตตามนั้นหรือไม่

เนื่องจากดิฉันเติบโตนอกศาสนจักร การดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศจึงไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันทำตามตลอดเวลา—เรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่รู้จักด้วยซ้ำ แม่ไม่เคยสอนน้องชายฝาแฝดหรือตัวดิฉันเกี่ยวกับการรักษามาตรฐานทางศีลธรรม เรา รวมทั้งน้องชายคนเล็กด้วยต่างก็เกิดนอกสมรส พ่อของเรามักจะย้ายเข้ามากับสตรีคนหนึ่้งในช่วงที่พวกเขาเริ่มออกเดทกัน

เมื่อดิฉันโตขึ้น การสนทนากับเพื่อนๆ จะมีแต่ภาษาหยาบคาย พอเข้ามัธยมปลายดิฉันเริ่มออกเดทกับผู้ชายที่ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของศาสนจักรเช่นกัน และทำสิ่งที่อยู่นอกกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศโดยรู้สึกเหมือนเป็น “พิธีกรรมนำผ่าน” ตามปกติสำหรับการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

แต่เมื่อดิฉันเริ่มรับบทเรียนจากผู้สอนศาสนาเมื่ออายุ 18 ปี พวกเขาสอนดิฉันว่าดิฉันจะมีความคิดที่สะอาด ภาษาที่ดี และการกระทำที่สะท้อนถึงคำสอนของพระคริสต์ได้อย่างไร ตอนแรก ดิฉันรู้สึกท้อแท้มาก ดิฉันดำเนินชีวิตโดยไม่มีกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศมาโดยตลอด และรู้สึกว่าตัวเองเสียคนแล้ว—คงไปไกลจนเกินจะกลับ รู้สึกเหมือนว่าแม้ดิฉันจะกลับใจอย่างแท้จริง ก็คงไม่มีทางได้รับอภัยบาปอย่างสมบูรณ์ ดิฉันบอกตนเองว่าพระคริสต์คงจะทรงครอบความผิดพลาดของดิฉันไว้บนศีรษะดิฉันต่อไป ดิฉันเฝ้าแต่คิดว่าดิฉันทำให้พระองค์ผิดหวัง—โดยไม่แม้แต่จะรู้เรื่องนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ดิฉันยังรู้สึกด้วยว่าการทำตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศคงไม่มีทางทำให้สำเร็จได้

คำถามจากปฏิปักษ์ท่วมท้นความคิดดิฉัน ทำให้ดิฉันลังเลกับสิ่งที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับความบริสุทธิ์ทางเพศ ขณะรับบทเรียนจากผู้สอนศาสนา ดิฉันกำลังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญให้กับการคงความสะอาดทางศีลธรรม และดิฉันคิดว่าการเข้าร่วมศาสนจักรจะเปลี่ยนความสัมพันธ์นั้น ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายน่าจะไม่เหมาะกับดิฉันนัก ดิฉันจำได้ว่าคิดแต่ว่า “ฉันยอมแพ้กับเรื่องนี้มามากมายแล้ว แล้วตอนนี้จะไหวหรือ?” ความคิดนี้ทำให้ดิฉันสงสัยว่าการเข้าร่วมศาสนจักรจะคุ้มค่าหรือไม่

แต่ดิฉันไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ดิฉันพบในศาสนจักรนี้ ถ้าดิฉันรู้ว่าโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ นั่นหมายความว่ากฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศต้องเป็นพระบัญญัติที่แท้จริงจากพระเจ้า นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจเจรจาต่อรอง ดิฉันรู้ว่าเรื่องท้าทายต่อไปของดิฉันคือการประยุกต์ใช้กฎนี้กับชีวิตและต่อสู้ดิ้นรนเพื่อทำให้ดีขึ้นในแต่ละวัน

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดิฉันจะเปลี่ยนได้เพียงชั่วข้ามคืน มีบางเวลาที่ดิฉันทำไม่ได้ ดิฉันรู้สึกเหมือนสิ่งนี้เป็นวัฏจักรไม่รู้จบ ดิฉันพยายามอย่างหนักที่สุดที่จะทำให้ดีขึ้น แล้วดิฉันก็วนกลับไปในวิถีทางเดิมๆ ของตนเองอีก เมื่อดิฉันไปถึงจุดที่เชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศได้ในที่สุดและรู้สึกเหมือนว่าดิฉันสามารถมองเข้าไปในพระเนตรของพระผู้รังสรรค์ของดิฉันและทูลว่า “ข้าพระองค์พยายามอยู่ ข้าพระองค์ทำสุดความสามารถด้วยใจที่เต็มใจ” แต่ดิฉันคงยังไม่ลืมว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาดิฉัน “แย่มาก” ดิฉันต้องเตือนตนเองว่าดิฉันรู้แน่แก่ใจว่าพระเจ้าจะทรงให้อภัยเมื่อเรากลับใจอย่างแท้จริง ซึ่งดิฉันได้กลับใจแล้ว แต่นั่นยังไม่อาจหยุดดิฉันจากความรู้สึกว่าทำให้พระองค์ผิดหวังได้อย่างแท้จริง

ตั้งแต่นั้นมาดิฉันตระหนักว่าพระเจ้าจะทรงให้อภัยเราแน่นอน แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเองด้วย พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เรารู้ชัดถึงความผิดพลาดของเรา กลับใจ พยายามที่จะดีขึ้น และมุ่งหน้าไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ซาตานต้องการล่ามโซ่เราไว้กับบาปของเรา ความรู้สึกล้มเหลวเหล่านั้นคือสิ่งที่ซาตานพยายามบอกดิฉันว่า “เจ้าทำสิ่งนี้ไม่ได้หรอก แค่คิดว่าทำได้ เจ้าก็เป็นบ้าไปแล้ว” แต่ดิฉันรู้ว่าพระเจ้าทรงรักดิฉันและทรงต้องการเห็นดิฉันเติบโตในศรัทธา พระองค์ทรงต้องการเช่นนั้นสำหรับบุตรธิดาทุกคนของพระองค์

ขณะนี้ ดิฉันเป็นสมาชิกของศาสนจักรได้เพียงปีเศษ ดิฉันได้เห็นพรที่มาจากการทำตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศแล้ว ดิฉันไม่รู้สึกว่าตัวเองเสียคนและไม่สับสนอีกแล้ว ใช่ ดิฉันยังมีช่วงเวลาที่ซาตานมาล่อลวงด้วยความพอใจชั่วแล่นที่มาจากเรื่องขาดศีลธรรมอยู่บ้าง แต่ดิฉันเรียนรู้แล้วว่าความพอใจที่แท้จริงมาจากพระคริสต์ได้เพียงทางเดียวเท่านั้น ดิฉันรู้ว่าพระองค์ทรงอวยพรเราเมื่อเราทำตามพระบัญญัติของพระองค์

ดิฉันเรียนรู้เช่นกันว่าท่านไม่มีวันไปไกลเกินกว่าจะรับพรของพระกิตติคุณได้ พระบิดาบนสวรรค์ทรงกางพระพาหุต้อนรับเรากลับเสมอ ความสงสัยทั้งหลายที่ดิฉันมีไม่ได้มาจากพระคริสต์หรือพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ประทานกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเพื่อปกป้องเราและนำทางเราไปตามทางแห่งพันธสัญญา การเรียนรู้เกี่ยวกับกฎข้อนี้เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ประจักษ์พยานของดิฉันเกี่ยวกับการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างมากมาย พระเจ้าทรงรักเราแต่ละคน เราอาจแย่มาก แต่เรายังมีโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาดของเราได้เช่นกัน—การกลับใจ พระองค์ไม่ได้ประทานพระบัญญัติข้อนี้แก่เราเพื่อทำให้ชีวิตยุ่งยาก แต่ประทานให้เพราะทรงรักเรา1

ดิฉันสำนึกคุณอย่างยิ่งสำหรับกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศและทุกเรื่องที่กฎนี้สอน ดิฉันเห็นแล้วว่ากฎนี้เป็นพรแก่ชีวิตอย่างไร และดิฉันรู้ว่ากฎนี้จะเป็นพรแก่ผู้อื่นด้วย

อ้างอิง

  1. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “The Love and Laws of God” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ 17 ก.ย. 2019), speeches.byu.edu.