ดิจิทัลเท่านั้น
การฝึกฝนความดีพร้อม
จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่สตรีที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ในปี 2021
พระผู้ช่วยให้รอดผู้ที่พระคุณของพระองค์ทำให้ความดีพร้อมนิรันดร์เป็นจริงได้ พระองค์ประทานโอกาสให้เราฝึกฝนความดีพร้อมในชีวิตนี้
ในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมาดิฉันได้ ฝึก ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย ดิฉันคิดว่ามีเหตุผลบางอย่างที่พวกเขาเรียกว่าเป็นการ ฝึก ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย
ดิฉันไม่เคยสอบปากคำได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือซักถามพยานฝ่ายตรงข้ามได้อย่างยอดเยี่ยม—มักจะมีคำถามอื่นหรือคำถามที่ดีกว่าที่ดิฉันน่าจะถามออกไป
ดิฉันไม่เคยเขียนสรุปสำนวนคดีได้อย่างไร้ที่ติมาก่อน เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว มักจะมีบางจุดที่ดิฉันน่าจะสื่อสารให้ชัดเจนขึ้นได้อีก
และดิฉันก็ไม่เคยชี้แจงข้อโต้แย้งทางวาจาที่สมบูรณ์แบบต่อหน้าผู้พิพากษาหรือคณะผู้พิพากษา เกือบทั้งคืน หลัง การโต้แย้ง ดิฉันจะคิดถึงสิ่งที่หลักแหลมกว่าและโน้มน้าวใจได้จริงๆ ที่ดิฉันน่าจะได้พูดออกไป
แต่ดิฉันเชื่อว่าการดำเนินคดีที่ฉันทำให้กับลูกความไม่เพียงแต่น่าพึงพอใจเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าอีกด้วย ดิฉัน ฝึก ปฏิบัติงานด้านกฎหมายอย่างตั้งหน้าตั้งตาที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง และชำนาญ ความพยายามของดิฉันแม้ยังไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่ก็เพียงพอแล้วเพราะดิฉันกำลัง ฝึก
แบบอย่างของซาไรยาห์
เพื่อนสนิทคนหนึ่งของดิฉันในพระคัมภีร์มอรมอนคือซาไรยาห์ ดิฉันสุขใจเสมอที่ได้อ่านเรื่องของเธอใน 1 นีไฟ ดิฉันคิดว่าตนเองมีส่วนคล้ายกับเธอ การตอบโต้ของเธอนั้นค่อนข้างจริง ซาไรยาห์ ฝึก มีศรัทธาเมื่อเธอออกจากเยรูซาเล็มทิ้งเงินทองและไม่ได้นำสิ่งใดติดตัวไปในแดนทุรกันดารเว้นแต่ครอบครัวและของใช้จำเป็นสองสามอย่าง จากนั้นนึกถึงบทที่ 3 ลีไฮได้นิมิตฝันว่าพวกบุตรชายของลีไฮกับซาไรยาห์ควรกลับไปเยรูซาเล็มเพื่อเอาแผ่นจารึกทองเหลืองจากเลบัน
เมื่อเรียนรู้สองบทต่อมาใน 1 นีไฟ 5 เราพบว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้นสำหรับซาไรยาห์ บุตรชายของเธอจากไปนานระยะหนึ่ง—เราไม่รู้แน่ชัดว่านานเพียงใด แต่เรารู้ว่าพวกเขาเดินทางกลับไปยังเยรูซาเล็ม กลับไปบ้านเพื่อขนสิ่งของล้ำค่าทั้งหมดของพวกเขา และใช้กลวิธีหลายอย่างเพื่อให้ได้แผ่นจารึกมาจากเลบันผู้ไม่ให้ความร่วมมือ และซาไรยาห์กังวลใจยิ่งนัก!
ซาไรยาห์แสดงออกในแบบที่ดิฉันคิดว่าตนเองคงเป็นเช่นนั้นด้วย เธอกังวลเกี่ยวกับบุตรชายของเธอ เธอคร่ำครวญเพราะพวกเขา เธอบ่นว่าเล็กน้อย และถึงจุดหนึ่งที่เธอพูดบางอย่างกับลีไฮว่าเธอผิดหวังในตัวเขาที่เป็นคนช่างเห็นนิมิต
แต่ซาไรยาห์ ฝึก มีศรัทธา เธอฟังคำพูดปลอบใจจากลีไฮ เธอ ฝึก อดทน เธอ ฝึก รอคอยพระเจ้า เธอ ฝึก สนับสนุนสามี และเมื่อบุตรชายกลับมาพร้อมแผ่นจารึกทองเหลือง เธอเปี่ยมไปด้วยปีติ! จากนั้นเธอรู้ “แน่แก่ใจ” (1 นีไฟ 5:8) ว่าพวกเขาไปทำพันธกิจจากพระเจ้า อันที่จริง ศรัทธาของเธอที่ผ่านการ ฝึก มานั้นเพิ่มพูนขึ้นมากจนเธอเต็มใจขึ้นเรือที่ต่อโดยบุตรชาย ผู้ที่ไม่ใช่ช่างต่อเรือ เพื่อแล่นไปยังปลายทางที่ไม่รู้จัก ซึ่งกลายเป็นแผ่นดินที่สัญญาไว้
ซาไรยาห์ฝึกฝน เธอฝึกมีศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์และอดทนอดกลั้น เธอฝึกความดีพร้อม
ความดีพร้อมทางมรรตัยกับความดีพร้อมนิรันดร์
เราสามารถชำนาญในงานบางอย่างได้ ตัวอย่างเช่น เราอาจชำนาญในการอ่านจากพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน เราอาจจ่ายส่วนสิบเต็มไม่มีขาด หรือเราอาจเล่นดนตรีได้ตรงทุกโน้ตเพลงไม่มีผิดเพี้ยน แต่ดิฉันสงสัยว่านักดนตรีที่เล่นดนตรีโดยไม่ทำผิดพลาดยังจะสงสัยว่าถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่ สำหรับดิฉัน ความแตกต่างระหว่างความดีพร้อมทางมรรตัย—เล่นได้ตรงทุกโน้ตเพลง—และความดีพร้อมนิรันดร์—สร้างสรรค์เพลงสวรรค์ เพลงสวรรค์นั้นเล่นได้โดยและเพราะพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนเราว่า: “ความดีพร้อมเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ความดีพร้อมจะมาครบถ้วนหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์และผ่านพระเจ้าเท่านั้น ความดีพร้อมคอยท่าทุกคนที่รักพระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์”1
ในคำวิงวอนสุดท้ายของโมโรไนที่ให้แก่เรา ท่านกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว, จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ และปฏิเสธตนจากความไม่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทุกอย่าง และรักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกำลังของท่าน, เมื่อนั้นพระคุณของพระองค์จึงเพียงพอสำหรับท่าน, เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” (โมโรไน 10:32)
แบบอย่างของชาวเจเร็ด
จำพี่ชายของเจเร็ดและผู้คนของเขาที่ได้รับการทรงนำให้ต่อเรือตามคำแนะนำของพระเจ้าได้หรือไม่? เรือลำนั้นมีขนาดเล็ก เบาบนผืนน้ำ และแน่นหนาเหมือนกับชาม
และด้วยศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ชาวเจเร็ดเหล่านั้นขึ้นเรือที่พวกเขาสร้างขึ้นและ “ถูกฝังอยู่ใน … ทะเลหลายครั้ง เพราะคลื่นซึ่งซัดใส่พวกเขา … และ … ลมไม่เคยหยุดพัด … ขณะที่พวกเขาอยู่บนผืนน้ำ” กระทั่งผ่านไป 344 วัน พวกเขาก็มาถึงแผ่นดินที่สัญญาไว้ (ดู อีเธอร์ 6:6, 8, 11, 12)
แต่พึงระลึกว่า ก่อน ที่ชาวเจเร็ดจะขึ้นเรือเพื่อไปยังแผ่นดินที่สัญญาไว้ ขณะที่พวกเขาเดินทางอยู่ในแดนทุรกันดาร พวกเขา “ต่อเรือ, ซึ่งด้วยเรือเหล่านั้นพวกเขาข้ามผืนน้ำหลายแห่ง, โดยพระเจ้าทรงชี้ทางด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ตลอดเวลา” (อีเธอร์ 2:6) พวกเขา ฝึก ต่อเรือและ ฝึก มีศรัทธาในพระเจ้าก่อนจะเริ่มการเดินทาง 344 วันของพวกเขา แน่นอนว่าพระเจ้าทรงสามารถนำพวกเขาเดินอ้อมไปรอบๆ ผืนน้ำเหล่านั้นขณะเดินทางในแดนทุรกันดาร แต่พระองค์ไม่ทรงทำเช่นนั้น! พระองค์ทรงให้พวกเขาฝึกต่อเรือ และที่สำคัญ พระองค์ประทานโอกาสให้พวกเขาได้ฝึกมีศรัทธาในพระองค์ ดิฉันคิดว่า การฝึกฝน เตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันยาวนานไปยังดินแดนที่สัญญาไว้
พระผู้ช่วยให้รอดทำให้ความดีพร้อมเป็นจริงได้
เรา ฝึก ความดีพร้อมเพื่อกลับไปบ้านบนสวรรค์ของเรา และพระผู้ช่วยให้รอดผู้ที่พระคุณของพระองค์ทำให้ความดีพร้อมนิรันดร์เป็นจริงได้ พระองค์ประทานโอกาสให้เรา ฝึกฝน
ความดีพร้อมทั้งทางมรรตัยและทางนิรันดร์คือเป้าหมายของเรา การฝึกฝนทำให้ดีพร้อมได้ด้วยพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ทรงทำให้ทุกอย่างต่างไปจากเดิม ประธานเนลสันให้คำแนะนำแก่เราว่า “ขอให้เราทำดีที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้และพยายามปรับปรุงทุกวัน เมื่อความไม่ดีพร้อมของเราปรากฏ เราจะพยายามแก้ไขไปเรื่อยๆ เราจะให้อภัยข้อบกพร่องในตัวเราและในคนที่เรารักได้มากขึ้น เราจะได้รับการปลอบโยนและอดกลั้นได้”2
ฝึกต่อไปเรื่อยๆ! ท่านศาสดาพยากรณ์ที่รักของเราย้ำเตือนเราว่า “พระเจ้าทรงรักความพยายามเพราะความพยายามนำมาซึ่งรางวัลที่จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีความพยายาม”3
ดิฉันเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงรักท่านและทรงต้องการให้ท่านกลับบ้าน ความดีพร้อมเป็นกระบวนการต่อเนื่องในพระองค์และโดยพระองค์