ผมพยายามต่อไป
คนที่ผมเคยสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ ปัจจุบันกำลังสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผม
ใ นปี 1972 ผมอยู่ในค่ายฝึกของกองทัพเรือสหรัฐที่ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผมได้รับการ “ส่งกลับ” ซึ่งหมายความว่าผมไม่ผ่านการฝึกอบรม—ทั้งแบบส่วนตัวและแบบสาธารณะ อันที่จริง ผมถูกส่งกลับมาแล้วสองครั้ง ตอนนี้ผมต้องเริ่มต้นใหม่กับหน่วยใหม่
ผมป่วยจากโรคสมาธิสั้น (ADHD) และโรคออทิสติกที่มีอาการสูง การอ่านเป็นเรื่องยากสำหรับผม ซึ่งทำให้ผมเสียคะแนน และเรื่องก็ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เพราะพ่อของผมสิ้นชีวิตขณะที่ผมอยู่ในค่ายฝึก
สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกดีคือการไปโบสถ์ วันอาทิตย์วันหนึ่ง ระหว่างการแสดงประจักษ์พยานของผม ผมรู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คำพูดที่ผมพูดไม่ใช่ของผม เสียงสงบแผ่วเบายังคงกระซิบกับผม บอกผมว่าต้องพูดอะไร
“คุณกำลังมองทหารฝึกหัดที่ถูกส่งกลับมาแล้วสองครั้ง” ผมพูด “ไม่มีใครอยากล้มเหลว และไม่มีใครอยากล้มเหลวสองครั้งติดต่อกัน แต่การถูกส่งกลับไม่ได้แย่เท่าไรนัก กองทัพเรือไม่ได้พยายามลงโทษทางวินัยหรือทำโทษเรา การถูกส่งกลับช่วยให้ทหารฝึกหัดเรียนรู้สิ่งที่เขายังไม่ได้เรียนรู้หรืออาจลืมไปแล้ว การสำเร็จการศึกษาจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุง ผมขอแสดงประจักษ์พยานว่า เราทุกคนต้องถูกส่งกลับก่อนที่เราจะสามารถไปถึงเป้าหมายและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตได้”
ผมไม่ได้นึกถึงสิ่งที่ผมพูดออกไปมากนักจนกระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา ระหว่างการประชุมอดอาหารและแสดงประจักษ์พยานครั้งต่อไปของเรา มีทหารฝึกหัดผมสีบลอนด์เดินมาที่แท่นพูด
“เดือนที่แล้วผมทำคะแนนไม่ถึง ผมกำลังสอบตก” เขาพูด “ผู้บังคับบัญชาหน่วยของผมบอกว่าการส่งผมกลับจะดีที่สุดสำหรับผม ในหน่วยใหม่ของผม ผมเห็นตัวเองเป็นคนล้มเหลว ผมเกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว แต่แล้วผมก็นึกถึงชายคนหนึ่งที่เคยถูกส่งกลับสองครั้งและสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ ผมจึงพยายามต่อไป”
และทหารฝึกหัดคนนั้นก็ย้ำคำเดียวกับที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เคยใส่ไว้ในความคิดผม คนที่ผมเคยให้กำลังใจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ ปัจจุบันกำลังให้กำลังใจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผม
ในเดือนตุลาคมปี 1972 ผมดีใจเมื่อจบการศึกษาจากสถาบันกองทัพเรือสหรัฐ รู้สึกขอบคุณการจรรโลงใจและกำลังใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และจากเพื่อนทหารฝึกหัด