ดิจิทัลเท่านั้น
คำสัญญาแห่งสันติสุข 15 ข้อจากศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณและศาสดาพยากรณ์ที่ยังมีชีวิตอยู่
พระเจ้าทรงสัญญาสันติสุขแก่คนที่ทำตามพระองค์ ดูคำเชิญมากมายที่มอบให้เพื่อช่วยให้เราได้สัมผัสกับสันติสุขที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราผ่านพระเยซูคริสต์
วันเวลาในยุคสุดท้ายที่สับสนวุ่นวายอย่างนี้ เนื้อเพลงจากเพลงสวด “หาสันติได้ที่ใด” อาจจะจู่โจมใจของเรา เราอาจสงสัยเช่นกันว่าเราจะหาสันติ การปลอบโยน ใจที่ชอกช้ำได้รับการรักษาได้ที่ใด เพลงสวดเพลงนี้ให้คำตอบกับคำถาม “ใครเล่าจะเข้าใจฉัน? เทียมทันพระองค์”1 สันติสุขพบได้ในพระเยซูคริสต์
เหล่าศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกทั้งในสมัยโบราณและในยุคสุดท้ายพูดถึงสันติที่หาได้ในพระคริสต์ ไม่ว่าสถานการณ์ทางโลกของเราจะเป็นอย่างไร คำพูดเหล่านี้แสดงการกระทำของเราที่จำเป็นต้องทำเพื่อจะได้รับสันติสุข (ดูวลีตัวหนา) และเตือนเราว่าสันติสุขที่แท้จริงมาจากพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์เท่านั้น ขณะที่ท่านทบทวนคำพูดเหล่านี้ ขอพระวิญญาณทรงนำทางท่านให้รู้ถึงวิธีที่ท่านจะพบสันติสุขที่ท่านแสวงหา
-
ประธานจอห์น เทย์เลอร์ (1808–1887): “สันติสุขคือของขวัญจากพระเจ้า ท่านต้องการสันติสุขหรือไม่? มุ่งไปที่พระเจ้า ท่านต้องการสันติสุขในครอบครัวท่านหรือไม่? มุ่งไปที่พระเจ้า ท่านต้องการให้สันติสุขคำนึงอยู่ในครอบครัวท่านหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น ท่านจงดำเนินชีวิตตามหลักศาสนาของท่าน และสันติสุขแห่งพระเจ้าจะอยู่และสถิตกับเรา เพราะนี่คือที่มาของสันติสุข และสันติสุขไม่ได้มาจากที่อื่น … สิ่งที่เราต้องทำคือ การดำเนินชีวิตตามหลักศาสนาของเรา เชื่อฟังคำแนะนำของประธาน ถ่อมตน มีศรัทธาและไม่ทะนงในกำลังของตน แต่จงขอสติปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า และจงดูว่าเรามีสันติกับพระผู้เป็นเจ้า ครอบครัวของเรา และกันและกันหรือไม่ สันติสุขเหล่านั้นอาจดำรงอยู่ในใจของเราและในชุมชนของเรา … สันติสุขเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา เป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า และเป็นของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระผู้เป็นเจ้าสามารถประทานแก่มนุษย์ อะไรน่าปรารถนามากไปกว่าสันติสุข? … อิทธิพลที่อ่อนโยนของสันติสุขช่วยให้ความสงบสุข ปาดน้ำตาจากดวงตาที่เศร้าหมอง ปัดเป่าความทุกข์ในใจ หากทั้งโลกสัมผัสได้ถึงสันติสุขนี้ ความเศร้าโศกจะหมดไปจากโลก โลกนี้จะเป็นดั่งสวรรค์ แต่สันติสุขเป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า”2.
-
ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ (1838–1918): “มีเพียงสิ่งเดียวที่นำมาซึ่งสันติสุข คือการนำเอาพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มาปรับใช้ ทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง เชื่อฟังและปฏิบัติทั้งโดยผู้ปกครองและประชาชนเหมือนกัน … เป็นเวลาหลายปีที่ผู้คนเชื่อว่าสันติภาพมาจากการเตรียมตัวสำหรับสงครามเท่านั้น … สันติภาพเกิดขึ้นจาก การเตรียมตัวเพื่อสันติภาพเท่านั้น ผ่านการฝึกอบรมประชาชนด้วยความชอบธรรมและความยุติธรรมและเลือกผู้ปกครองที่เคารพเจตนาที่ชอบธรรมของประชาชน … วิญญาณแห่งสันติภาพและความรักจะไม่มายังโลกจนกว่ามนุษยชาติจะ ได้รับความจริงและข่าวสารจากพระผู้เป็นเจ้าและรับรู้ถึงพลังอำนาจและสิทธิอำนาจที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และไม่เคยพบเพียงในสติปัญญาของมนุษย์”3.
-
ประธานฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์ (1907-1995) “สันติสุขที่โลกโหยหาคือเวลาที่ความเป็นปฏิปักษ์หยุดชั่วคราว แต่มนุษย์ไม่ตระหนักว่าสันติสุขคือสภาพของการดำรงอยู่ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ตามข้อตกลงและเงื่อนไขที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดเท่านั้น และไม่ใช่วิธีอื่น … เมื่อเราพยายามช่วยคนที่ทำให้เราขุ่นข้องหมองใจ เมื่อเราสวดอ้อนวอนให้คนที่ใช้เราอย่างไม่เป็นธรรม ชีวิตเราจะดีงาม เรามีสันติสุขได้เมื่อเราเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระวิญญาณและต่อกันขณะที่เรารับใช้พระเจ้าและรักษาพระบัญญัติของพระองค์”4
-
ประธานโธมัส เอส. มอนสัน (1927–2018) สัญญาว่า “ขณะเราเข้าพระวิหาร เราจะเกิดความเข้มแข็งทางวิญญาณและความรู้สึกสันติสุขได้ซึ่งอยู่เหนือความรู้สึกอื่นที่เข้ามาในใจมนุษย์ได้ … ในชีวิตของเรา จะมีการล่อลวง เราจะมีการทดลองและเรื่องท้าทาย เมื่อเราไปพระวิหาร เมื่อเราระลึกถึงพันธสัญญาที่เราทำไว้ที่นั่น เราจะสามารถเอาชนะการล่อลวงเหล่านั้นและทนรับการทดลองของเราได้ดีขึ้น ในพระวิหารเราจะพบสันติสุข”5
-
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าว “ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านเปี่ยมด้วยสันติสุขของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ สันติสุขของพระองค์อยู่เหนือความเข้าใจทั้งหมดของมนุษย์ ขออวยพรให้ท่านมีความปรารถนาและความสามารถในการเชื่อฟังกฎของพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านทำเช่นนั้น ท่านจะได้รับพรมากมาย รวมทั้งความกล้าหาญมากขึ้น การเปิดเผยส่วนตัวเพิ่มขึ้น ความปรองดองที่น่าชื่นใจมากขึ้นในบ้าน และปีติแม้ท่ามกลางความไม่แน่นอน”6
-
ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด รักษาการประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “สันติสุขอันเป็นนิจที่พระเยซูทรงสัญญาคือสันติสุขภายใน เกิดจากศรัทธา ตรึงแน่นโดยประจักษ์พยาน บำรุงเลี้ยงด้วยความรักและแสดงออกผ่านการเชื่อฟังและการกลับใจอย่างต่อเนื่อง นี่คือสันติสุขของวิญญาณที่ส่งผลต่อใจและจิตวิญญาณ … สันติสุข—สันติสุขที่แท้จริง สันติสุขที่ท่านรู้สึกสุดจิตวิญญาณของท่านว่าจริง—เกิดขึ้นในและโดยผ่านศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์เท่านั้น”7
-
เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง “เราหวังและสวดอ้อนวอนอย่างตั้งใจจริงขอให้มีสันติสุขทั่วโลก ทว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละคนและครอบครัวที่ต้องทำให้ได้สันติสุขนั้นซึ่งเป็นรางวัลที่สัญญาไว้ของความชอบธรรม สันติสุขดังกล่าวเป็นของประทานที่สัญญาไว้เนื่องด้วยพระพันธกิจและการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด … ความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า การสวดอ้อนวอนเสมอ การกลับใจจากบาป การเข้าสู่น้ำแห่งบัพติศมา ด้วยใจที่ชอกช้ำและ วิญญาณที่สำนึกผิด และการเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ล้วนเป็นตัวอย่างอันลึกซึ้งของความชอบธรรมที่มีสันติสุขอันยั่งยืนเป็นรางวัล”8
-
สดุดี 29:1–2, 11: “จงถวายพระเกียรติและพระกำลังแด่พระยาห์เวห์ จงถวายพระเกียรติซึ่งควรแก่พระนามของพระองค์แด่พระยาห์เวห์ จงนมัสการพระยาห์เวห์ผู้ทรงงดงามในความบริสุทธิ์ … ขอพระยาห์เวห์ประทานกำลังแก่ประชากรของพระองค์ ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรประชากรของพระองค์ ให้สมบูรณ์พูนสุข
-
สดุดี 119:165: “บรรดาผู้ที่รักธรรมบัญญัติของพระองค์มีความสมบูรณ์พูนสุขอย่างมาก ไม่มีสิ่งใดทำ ให้พวกเขาสะดุดได้”
-
สุภาษิต 16:3, 7 “จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระยาห์เวห์แล้วแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนา … เมื่อทางของมนุษย์เป็นที่โปรดปรานแก่พระยาห์เวห์แม้ศัตรูของเขานั้นพระองค์ก็ทรงทำให้คืนดีกับเขาได้”
-
อิสยาห์ 32:17 “ผลงานของความชอบธรรมจะเป็นสันติสุขและผลลัพธ์ของความชอบธรรมคือความ เงียบสงบและความวางใจเป็นนิตย์”
-
1 โครินธ์ 14:33“เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งความวุ่นวาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติ”
-
ฟิลิปปี 4:1, 2, 4, 6–7: “จงยืนหยัดมั่นคงเช่นนี้ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด … ให้มีจิตใจปรองดองกันในองค์พระผู้เป็นเจ้า … จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา: ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่าจงชื่นชมยินดีเถิด … จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอนพร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์
-
1 นีไฟ 20 : 18“โอ้หากเจ้า สดับฟังบัญญัติของเราสันติของเจ้าคงเป็นดังแม่น้ำ”
-
หลักคำสอนและพันธสัญญา 59:23—“แต่จงเรียนรู้ว่า คนที่ทำงานแห่งความชอบธรรมจะได้รับรางวัลของเขา, แม้สันติสุขในโลกนี้ และชีวิตนิรันดร์ในโลกที่จะมาถึง” (ดูเนื้อหาส่วนที่เหลือของภาคที่ 59 มีหลากหลายวิธีที่เราสามารถทำ “งานแห่งความชอบธรรม”)
“สันติในพระคริสต์”9
ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ก่อนพระคริสต์ลงมาประสูติ จนถึงวันนี้ขณะที่เรารอคอยการกลับมาครั้งที่สองของพระองค์ ทุกคำมั่นสัญญาแห่งสันติสุข ผ่านเหล่าศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่ได้รับเลือกของพระผู้ช่วยให้รอดได้พูดถึงพระองค์ แม้ว่าชีวิตจะประสบการทดลองและความท้าทาย เราสามารถได้รับพรแห่งสันติสุขอันเป็นนิจภายในจิตใจของเราท่ามกลางการทดลองของเรา เมื่อเราหันใจและความนึกคิดของเราไปหาพระคริสต์และทำตามพระบัญญัติของพระองค์ในความชอบธรรม คำมั่นสัญญาแห่งสันติสุขที่ยิ่งใหญ่นี้ค้ำจุนผู้ติดตามพระคริสต์ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาและจะค้ำจุนเราได้หากเรายอมให้เป็นเช่นนั้น “พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์” (ฮีบรู 13:8) และบรรดาคำสัญญาแห่งสันติสุขที่พระองค์ทรงมอบให้เราไม่ว่าจะหนึ่งปีหรือหนึ่งพันปีที่แล้วยังคงเป็นความจริงในทุกวันนี้