ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน1 นีไฟ 3:7

“ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา”

นีไฟกับลีไฮในกระโจม

ท่านเรียนรู้จากบทเรียนก่อนหน้านี้แล้วว่า พระเจ้าทรงเตรียมทางให้เราบรรลุสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาให้เราทำเสมอ บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนท่องจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ 1 นีไฟ 3:7 อธิบายหลักคำสอน และนำหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณไปใช้กับสถานการณ์ที่เป็นจริง

การเรียนรู้ที่จะอธิบายหลักคำสอนและหลักธรรมนักเรียนเพิ่มความเข้าใจของตนเมื่อพวกเขาอธิบายพระกิตติคุณให้กันและกันฟัง สร้างสภาพแวดล้อมที่นักเรียนรู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงของพระกิตติคุณกับผู้อื่น

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงประสบการณ์ที่ตนเองหรือคนที่ตนเองรักเคยได้รับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางสู่ความสำเร็จในสิ่งที่พระองค์ทรงขอให้เราทำ

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

บทเรียนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนนี้ออกแบบมาเพื่อใช้สอนหลังบทเรียน “1 นีไฟ 3” ซึ่งเป็นบทเรียนในบริบทของข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน 1 นีไฟ 3:7 ถ้าต้องเปลี่ยนบทเรียนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนข้อนี้ไปสอนในสัปดาห์อื่น ขอให้แน่ใจว่าบทเรียนในบริบทที่จะสอนระหว่างสัปดาห์นั้นสอดคล้องกันด้วย

อธิบายและท่องจำ

ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้นักเรียนท่องจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ 1 นีไฟ 3:7 และอธิบายถึงความจริงที่พบในข้อนี้

กิจกรรมต่อไปนี้เป็นข้อเสนอแนะสำหรับวิธีดำเนินการนี้

จุดประสงค์หนึ่งของผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนคือ ให้ท่านฝึกอธิบายความจริงเรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยคำพูดของท่านเอง มีสารพัดวิธีที่ท่านจะเป็นพรแก่ชีวิตของคนรอบข้าง เมื่อท่านเข้าใจมากขึ้นและฝึกอธิบายหลักคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดที่พบในพระคัมภีร์ของพระองค์

อ่าน 1 นีไฟ 3:7 และสรุปสิ่งที่สอนด้วยคำพูดของท่านเอง

เชื้อเชิญนักเรียนแต่ละคนมาแบ่งปันบทสรุปกับคู่

ลองนึกถึงสถานการณ์ว่าในข้อนี้สอนความจริงอะไรบ้างที่อาจช่วยบางคนได้ จากนั้นให้ตอบคำถามต่อไปนี้:

หลังจากให้เวลานักเรียนเตรียมตัวตอบคำถามต่อไปนี้ ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาอธิบายคำตอบกับคู่ของตนเอง เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสพูดแสดงความคิดเห็น

• ท่านจะแบ่งปันความจริงใดจากข้อนี้ตามสถานการณ์ที่คิดไว้กับบางคน? เพราะเหตุใด?

• พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเตรียมทางที่ช่วยให้เราบรรลุผลสำเร็จตามสิ่งที่พระองค์ทรงขอในทางใดบ้าง?

• มีประสบการณ์ใดที่ท่านอาจแบ่งปันให้เห็นภาพความจริงว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมทางให้เราบรรลุสิ่งที่พระองค์ทรงขอให้เราทำ?

ใช้เวลาสักครู่ในการท่องจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ 1 นีไฟ 3:7: “ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา” วิธีหนึ่งในการทำเช่นนี้คือ นึกถึงพระบัญญัติต่างๆ ที่พระเจ้าประทานให้และท่องวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ซ้ำในใจเมื่อผ่านไปแต่ละข้อ

หากนักเรียนทำกิจกรรมการเตรียมของนักเรียน ท่านอาจเชิญอาสาสมัครมาแบ่งปันประสบการณ์กับชั้นเรียน

แสดงภาพของนีไฟที่พูดคุยกับบิดาตั้งแต่ตอนต้นของบทเรียน เพื่อช่วยให้นักเรียนท่องจำวลีสำคัญและข้ออ้างอิงจากพระคัมภีร์ เชิญนักเรียนดูภาพพร้อมกล่าวซ้ำๆ ให้มากที่สุดใน 1 นาทีว่า “‘ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา’—1 นีไฟ 3:7”

จากนั้นหยุดพักสักหนึ่งหรือสองช่วงเมื่อถึงเวลาพักตามปกติในบทเรียนก่อนที่จะแสดงภาพอีกครั้ง แล้วเชิญนักเรียนให้ท่องวลีสำคัญและข้ออ้างอิงจากพระคัมภีร์เพื่อช่วยให้นักเรียนท่องจำข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนนี้ได้ขึ้นใจ

ฝึกประยุกต์ใช้

เราทุกคนจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและพระผู้เป็นเจ้าจะทรงขอให้เราทำเรื่องยากๆ ในชีวิต การใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณจะช่วยเสริมสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์ขณะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้

นักเรียนอาจมุ่งเน้นไปที่บางสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตตน แทนที่จะใช้สถานการณ์สมมติต่อไปนี้ พวกเขาอาจระบุบางอย่างในบทเรียน “1 นีไฟ 3” หากมีการปรับ ท่านอาจให้นักเรียนทำงานเดี่ยว เนื่องจากสิ่งที่เลือกเน้นอาจเป็นเรื่องส่วนตัวมาก

อ่านสถานการณ์สมมุติต่อไปนี้ แล้วเลือกมาหนึ่งสถานการณ์ที่ต้องการให้ความสำคัญในกิจกรรมถัดไป

1. ซาราห์รักพระเจ้าและต้องการรับใช้ศาสนจักรของพระองค์ แต่เมื่อเร็วๆนี้ เธอได้รับมอบหมายจากโบสถ์ให้ทำงานที่คิดว่าไม่มีคุณสมบัติจะทำให้สำเร็จ เธอยอมรับงานที่ได้รับมอบหมายแต่ลังเลที่จะดำเนินการต่อ

   ท่านอาจสอดแทรกพระบัญญัติข้อใดข้อหนึ่งลงในสถานการณ์ต่อไปนี้ที่นักเรียนอาจเชื่อมโยงได้ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น การอดอาหาร การจ่ายส่วนสิบ การทำการเรียกของศาสนจักรให้เกิดสัมฤทธิผล หรือการเป็นคนซื่อสัตย์

2. โรซ่ารู้สึกแย่กับตัวเองเพราะเธอมีปัญหาในการรักษาพระบัญญัติบางข้อ เธอเชื่อฟังพระบัญญัติในบางครั้งแต่ไม่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ

หากใช้สถานการณ์สมมติที่แนะนำ ท่านอาจขอให้นักเรียนจัดเป็นกลุ่มสามคนกับคนที่เลือกสถานการณ์สมมติอย่างเดียวกัน มอบหมายให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มศึกษาหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้และตอบคำถามในหมวดนั้น หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้เชิญนักเรียนมารายงานสิ่งที่เรียนรู้ให้กลุ่มของตนฟัง

การแสดงหรือพิมพ์หมวดต่อไปนี้ให้นักเรียน เพื่อนำไปใช้อ้างอิงขณะศึกษาอาจเป็นประโยชน์

กระทำด้วยศรัทธา

อ่านย่อหน้าที่ 5–7 ในหมวด “การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ” ของเอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2022)

• คำกล่าวของเอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์ใน ย่อหน้าที่ 6 จะช่วยซาราห์หรือโรซาได้อย่างไร?

• ถ้าซาราห์หรือโรซาไม่สามารถทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอได้ทันที ความจริงเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์ใน ย่อหน้าที่ 7 จะช่วยได้อย่างไร?

• หากท่านเคยมีความคิดคล้ายกับซาราห์หรือโรซา มีอะไรที่ช่วยหรืออาจช่วยให้ท่านก้าวต่อไปด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์?

พินิจแนวคิดและคำถามด้วยมุมมองนิรันดร์

อ่าน ย่อหน้าที่ 8 ในหมวด “การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ” ของเอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน ทำเครื่องหมายอย่างน้อยสองวลีหรือแนวคิดที่อาจช่วยซาราห์หรือโรซาได้

• แต่ละวลีที่ท่านเลือกจะช่วยซาราห์หรือโรซาได้อย่างไร?

• ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และวิธีจัดการกับลูกๆ ของพระองค์ที่อาจช่วยได้?

• การมองสถานการณ์ในบริบทของแผนแห่งความรอดจะช่วยได้อย่างไร?

แสวงหาความเข้าใจเพิ่มเติมผ่านแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์

อ่าน ย่อหน้าที่ 11 ในหมวด “การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ” ของเอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

• ท่านจะแนะนำซาราห์หรือโรซาให้มองหาความจริงที่อาจช่วยเธอได้จากที่ไหน?

ใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อค้นหาแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์สำหรับความจริงที่ท่านรู้สึกว่านำมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ได้ แหล่งข้อมูลหนึ่งที่เลือกได้คือ รายการข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน ที่มีอยู่ในตอนท้ายของ เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน ท่านอาจอ่านวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ของพระคัมภีร์มอรมอนและมองหาข้อที่น่าจะเป็นประโยชน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รวม 1 นีไฟ 3:7 เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลของท่าน

• มีสิ่งใดที่ท่านพบซึ่งสามารถนำมาแบ่งปันได้?

• ความจริงที่พบสร้างความแตกต่างในชีวิตของท่านอย่างไร?

ท่านอาจเดินไปรอบๆ ห้อง แล้วช่วยนักเรียนที่ไม่แน่ใจว่าจะหาข้อพระคัมภีร์หรือข้อความจากผู้นำศาสนจักรได้อย่างไร แสดงให้พวกเขาเห็นว่าจะเจอสิ่งที่มองหาอยู่ได้อย่างไร แทนที่จะให้ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์หรือข้อความที่นำมาใช้ได้

การทบทวนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

ให้เวลาไม่เกินสามถึงห้านาทีสำหรับการทบทวนข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ 1 นีไฟ 3:7 ระหว่างบทเรียนที่กำลังจะมาถึง วิธีหนึ่งในการทบทวนคือ เปิดภาพเดิมของนีไฟที่ใช้ในบทเรียนนี้ค้างไว้ เพื่อดูว่านักเรียนยังจดจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ได้หรือไม่ ซึ่งอาจทำได้สั้นๆ ในตอนต้นหรือตอนท้ายของแต่ละบทเรียน