การจำแลงพระกาย โดย คาร์ล ไฮน์ริค บลอค

10–16 เมษายน

มัทธิว 15–17; มาระโก 7–9

“พระองค์เป็นพระคริสต์”

การอ่านพระคัมภีร์เชื้อเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสู่ชีวิตท่าน พันธกิจสำคัญประการหนึ่งของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ ขณะที่ท่านอ่านพระคัมภีร์ในสัปดาห์นี้ ให้เอาใจใส่ความรู้สึกทางวิญญาณที่เสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านถึงพระผู้ช่วยให้รอด

บันทึกความประทับใจของท่าน

ไม่แปลกใช่ไหมที่พวกฟาริสีและพวกสะดูสีจะเรียกร้องให้พระเยซูแสดง “หมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์” ให้พวกเขาเห็น? ปาฏิหาริย์มากมายของพระองค์ที่รู้กันทั่วไปยังไม่มากพอหรือ? แล้วคำสอนอันเปี่ยมด้วยพลังของพระองค์หรือสารพัดวิธีที่พระองค์ทรงทำให้คำพยากรณ์แต่โบราณเกิดสัมฤทธิผลเล่า? สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องไม่ได้เกิดจากการขาดหมายสำคัญแต่เกิดจากการไม่ยอม “เข้าใจ” และยอมรับ (ดู มัทธิว 16:1–4)

เปโตรเห็นปาฏิหาริย์ของพระผู้ช่วยให้รอดและได้ยินคำสอนของพระองค์เหมือนพวกฟาริสีและพวกสะดูสี แต่ประจักษ์พยานอันแน่วแน่ของเปโตรที่ว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” ไม่ได้มาจากสัมผัสทางกายของเขา—ความเป็น “มนุษย์” ของเขา “พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์” ทรงเปิดเผยประจักษ์พยานต่อเขา การเปิดเผย เป็นศิลาซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดสร้างศาสนจักรของพระองค์ไว้บนนั้นทั้งสมัยนั้นและสมัยนี้—การเปิดเผยจากสวรรค์ต่อผู้รับใช้ของพระองค์ และนี่คือศิลาซึ่งเราสามารถสร้างการเป็นสานุศิษย์ของเราไว้บนนั้นได้—การเปิดเผยว่าพระเยซูคือพระคริสต์และผู้รับใช้ของพระองค์ถือ “กุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดิน” เมื่อเราสร้างบนรากฐานนี้ “​พลัง​แห่ง​ความ​ตาย​จะ​มี​ชัย​ต่อ​ [เรา] ไม่ได้” (มัทธิว 16:15–19)

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว

มัทธิว 16:13–17

ประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์มาโดยการเปิดเผย

ถ้าพระเยซูคริสต์ตรัสถามผู้คนในวันนี้ว่า “คนทั่วไปพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร” พวกเขาอาจพูดอย่างไร? ท่านจะตอบอย่างไรถ้าพระเยซูตรัสถามท่านว่า “แล้วพวกท่านเล่าว่าเราเป็นใคร?” (ดู มัทธิว 16:13–15)

ไตร่ตรองประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและวิธีที่ท่านได้รับ ท่านเรียนรู้อะไรจาก มัทธิว 16:15–17 ที่จะทำให้ประจักษ์พยานของท่านเข้มแข็งขึ้น? ถ้าท่านประสงค์จะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับประจักษ์พยานและการเปิดเผยส่วนตัว ให้สำรวจพระคัมภีร์เหล่านี้: ยอห์น 15:26; 2 นีไฟ 31:17–18; แอลมา 5:45–48; และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 8:2–3

มัทธิว 3–19; 17:1–9; มาระโก 9:2–9

“กุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์” อยู่บนแผ่นดินโลกทุกวันนี้

“กุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์” ที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสัญญาจะประทานแก่เปโตรคือกุญแจฐานะปุโรหิต (มัทธิว 16:19) กุญแจฐานะปุโรหิตคืออะไร? เหตุใดเราจึงต้องการกุญแจฐานะปุโรหิต? ไตร่ตรองคำถามเหล่านี้ขณะอ่านเกี่ยวกับคำสัญญาของพระผู้ช่วยให้รอดใน มัทธิว 16:13–19 และสัมฤทธิผลของคำสัญญาใน มัทธิว 17:1–9; มาระโก 9:2–9 (ดู งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มาระโก 9:3 ด้วย

แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่จะช่วยให้ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับกุญแจฐานะปุโรหิตได้แก่ หลักคำสอนและพันธสัญญา 65:2; 107:18–20; 110:11–16; 128:9–11; “กุญแจของฐานะปุโรหิต” ในคู่มือพระคัมภีร์ (scriptures.ChurchofJesusChrist.org); และข่าวสารของเอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน “กุญแจและสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิตอยู่ที่ไหน” (เลียโฮนา, พ.ค. 2016, 29–32) ขณะศึกษาแหล่งข้อมูลเหล่านี้ ท่านอาจเขียนสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับกุญแจฐานะปุโรหิตและพรที่มาจากกุญแจเหล่านั้น ท่านคิดว่าเหตุใดกุญแจจึงเป็นสัญลักษณ์ที่ดีของสิทธิ์ในการกำกับดูแลการรับใช้ฐานะปุโรหิต?

ดู ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคและกุญแจ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 69–72; คู่มือพระคัมภีร์, “เปลี่ยนสภาพ (การ)” ด้วย

กุญแจฐานะปุโรหิตคือสิทธิอำนาจในการกำกับดูแลการใช้ฐานะปุโรหิต

มัทธิว 17:14–21; มาระโก 9:14–29

เมื่อแสวงหาศรัทธามากขึ้น ฉันสามารถเริ่มต้นด้วยศรัทธาที่ฉันมี

บิดาที่กล่าวถึงใน มัทธิว 17 และ มาระโก 9 มีเหตุผลที่จะรู้สึกไม่มั่นใจว่าพระเยซูจะทรงรักษาบุตรชายของเขาได้หรือไม่ เขาเคยขอให้เหล่าสาวกของพระองค์รักษาบุตรชายของเขา แต่เหล่าสาวกรักษาไม่ได้ แต่เมื่อเขาทูลขอปาฏิหาริย์จากพระผู้ช่วยให้รอด เขาเลือกแสดงศรัทธา “ข้าพเจ้าเชื่อ” เขาพูด จากนั้นเขากล่าวอีกว่า “ขอโปรดช่วยในส่วนที่ขาดอยู่ด้วยเถิด” เพราะเขายอมรับว่าศรัทธาของเขายังไม่สมบูรณ์

พระวิญญาณทรงสอนอะไรท่านขณะท่านอ่านปาฏิหาริย์เรื่องนี้? พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยท่านเพิ่มพูนศรัทธาของท่านอย่างไร? ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อสร้างบนศรัทธาที่ท่านมีอยู่แล้ว? บางทีท่านอาจจะรวบรวมข้อพระคัมภีร์ ข่าวสารการประชุมใหญ่ หรือประสบการณ์ที่เคยเสริมสร้างศรัทธา

ดู เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “ข้าพเจ้าเชื่อ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 93–95 ด้วย

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์กับครอบครัวและยามค่ำที่บ้าน

มัทธิว 15:7–9; มาระโก 7:6–7อะไรคือความแตกต่างระหว่างการให้เกียรติพระเจ้าด้วยริมฝีปากของเรา หรือด้วยคำพูด กับการยกย่องพระองค์ด้วยใจของเรา

มัทธิว 15:17–20; มาระโก 7:18–23เหตุใดเราจึงต้องระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่เรานำเข้าไปในปากของเรา? ตามสิ่งที่พระเยซูทรงสอนในข้อเหล่านี้ เหตุใดเราจึงควรระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่ออกจากปากของเรา—และออกจากใจของเรามากขึ้น? เราจะรักษาใจของเราให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร?

มัทธิว 16:15–17พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยให้เราเห็นว่าพระเยซูทรงเป็น “พระคริสต์ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่” อย่างไร? (ข้อ 16) เราจะเตรียมตนเองให้พร้อมรับการเปิดเผยนี้จากพระองค์ได้อย่างไร?

มัทธิว 16:13–19; 17:1–9หากต้องการสอนบุตรหลานเกี่ยวกับกุญแจฐานะปุโรหิต ท่านอาจจะเล่าเรื่องของเอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันเกี่ยวกับการที่รถของท่านถูกล็อกเข้าไม่ได้ (ดู “กุญแจและสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิตอยู่ที่ไหน” [เลียโฮนา, พ.ค. 2016, 29–32]) ท่านอาจจะให้ลูกๆ ใช้กุญแจเปิดบ้าน รถ หรือล็อคอื่นๆ ให้ดูภาพของประธานศาสนจักรและเป็นพยานว่าท่านถือกุญแจฐานะปุโรหิตทั้งหมดเช่นเดียวกับเปโตร

มัทธิว 17:20ศาสดาพยากรณ์ที่มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์เคยเคลื่อนภูเขาจริงๆ มาแล้ว (ดู ยาโคบ 4:6; โมเสส 7:13) แต่นั่นมักไม่ใช่ปาฏิหาริย์ที่เราต้องการ ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดสอนว่า “ถ้าเรามีศรัทธาเล็กเท่าเมล็ดมัสตาร์ด พระเจ้าจะทรงช่วยเราย้ายภูเขาแห่งความท้อแท้และภูเขาแห่งความสงสัยในงานที่อยู่เบื้องหน้าเราได้เมื่อเรารับใช้กับบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้ารวมถึงสมาชิกครอบครัว สมาชิกศาสนจักร และผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกของศาสนจักร” (“ของประทานอันล้ำค่าจากพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 10) เราต้องเคลื่อนภูเขาอะไรบ้างในชีวิตเรา? เราจะแสดงศรัทธาในเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อช่วยเราเคลื่อนภูเขาเหล่านี้ได้อย่างไร?

ดูแนวคิดเพิ่มเติมสำหรับสอนเด็กได้จาก โครงร่างของสัปดาห์นี้ ใน จงตามเรามา—สำหรับปฐมวัย

เพลงสวดที่แนะนำ: “ฉันเชื่อในพระคริสต์” เพลงสวด บทเพลงที่ 57

ปรับปรุงการสอนของเรา

รวมกันบ่อยๆ ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์สอนว่า “อย่าพลาดโอกาสในการนำลูกๆ มารวมกันเพื่อเรียนรู้หลักคำสอนของพระเยซูคริสต์ ช่วงเวลาเช่นนั้นมีค่ายิ่งเมื่อเทียบกับความพยายามของศัตรู” (“พลังแห่งการสอนคำสอน,” เลียโฮนา, ก.ค. 1999, 104)

ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าได้พาลูกชายมาหาท่าน โดย วอลเตอร์ เรน