28 กุมภาพันธ์–6 มีนาคม

ปฐมกาล 28–33

“พระยาห์เวห์ทรงอยู่ ณ ที่นี้แน่ทีเดียว”

ขณะที่ท่านอ่าน ปฐมกาล 28–33 ให้ไตร่ตรองว่าเรื่องราวและหลักธรรมในบทเหล่านี้จะเป็นพรแก่เด็กที่ท่านสอนได้อย่างไร

บันทึกความประทับใจของท่าน

เชื้อเชิญให้แบ่งปัน

ให้เด็กโยนหรือกลิ้งบอลให้กัน เมื่อเด็กจับบอลได้ ขอให้พวกเขาแบ่งปันบางสิ่งที่กำลังเรียนรู้จากพันธสัญญาเดิมไม่ว่าที่บ้านหรือในปฐมวัย

สอนหลักคำสอน: เด็กเล็ก

ปฐมกาล 28:10–22

พันธสัญญาช่วยให้ฉันกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์

ในฝันยาโคบเห็นบันไดพาขึ้นไปสวรรค์ ขั้นบันไดสามารถแทนพันธสัญญาที่เราทำกับพระผู้เป็นเจ้า เพราะพันธสัญญาเหล่านี้ช่วยเตรียมเราให้พร้อมกลับไปที่ประทับของพระองค์

กิจกรรมที่ทำได้

• อ่าน ปฐมกาล 28:12–13 ให้เด็กฟัง อธิบายว่าขั้นบันไดสามารถแทนพันธสัญญาที่ช่วยให้เรากลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ เชื้อเชิญให้เด็กทำท่ากำลังปีนปันไดขณะท่านพูดถึงตอนที่เราทำสัญญาว่าจะเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า เช่น เมื่อเรารับบัพติศมา รับศีลระลึก หรือไปพระวิหาร ช่วยให้เด็กคิดวิธีที่พวกเขาสามารถเตรียมทำพันธสัญญาเมื่อพวกเขารับบัพติศมา

• อ่าน ปฐมกาล 28:15 ให้เด็กฟัง โดยเน้นคำว่า “เราอยู่กับเจ้า” และ “เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า” อธิบายว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะอยู่กับเราเสมอเมื่อเราพยายามเลือกสิ่งถูกต้อง ช่วยให้เด็กนึกถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อรู้สึกใกล้ชิดพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้น

ปฐมกาล 29:16–28

ฉันควรรักษาสัญญาของฉันเสมอ

ยาโคบตกลงทำงานให้ลาบันเจ็ดปีเพื่อเขาจะได้แต่งงานกับราเชลบุตรสาวของลาบัน ยาโคบทำตามข้อตกลงนี้ แต่ลาบันไม่ทำ ท่านอาจจะใช้เรื่องนี้สอนเด็กเกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสัญญาของเรา

กิจกรรมที่ทำได้

• อ่าน ปฐมกาล 29:18, 20 ให้เด็กฟัง และอธิบายว่ายาโคบรักษาสัญญาว่าจะทำงานให้ลาบันเจ็ดปีเพื่อเขาจะได้แต่งงานกับราเชลถึงแม้จะทำงานเป็นเวลานานก็ตาม (ดู “ยาโคบและครอบครัวของท่าน” ใน เรื่องราวในพันธสัญญาเดิม) ช่วยให้เด็กนึกถึงสัญญาที่พวกเขาอาจจะทำกับคนอื่นๆ เหตุใดการรักษาสัญญาของเราจึงสำคัญ? ช่วยให้เด็กเข้าใจว่าพันธสัญญาคือสัญญาศักดิ์สิทธิ์ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับเราแต่ละคน แสดงประจักษ์พยานว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงรักษาสัญญาของพระองค์เสมอ

• ร้องเพลงๆ หนึ่งเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ด้วยกันและสนทนา เช่น “I Believe in Being Honest” หรือ “ยืนหยัดความถูกต้อง” (หนังสือเพลงสำหรับเด็ก, 149 [ภาษาอังกฤษ], 81)

ปฐมกาล 33:1–4

พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงสามารถช่วยให้ฉันรักครอบครัวของฉัน

เด็กส่วนใหญ่รู้ว่าโกรธพี่น้องนั้นเป็นอย่างไร เรื่องราวที่ยาโคบกับเอซาวเอาชนะความโกรธที่มีต่อกันอาจสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา

ภาพยาโคบกับเอซาวสวมกอดกัน โดย โรเบิร์ต ที. บาร์เรตต์

กิจกรรมที่ทำได้

• ช่วยให้เด็กจำได้ว่าเหตุใดเอซาวจึงโกรธยาโคบ (ดู ปฐมกาล 27:14 หรือ “ยาโคบและเอซาว” ใน เรื่องราวในพันธสัญญาเดิม) ขอให้เด็กแสดงให้ท่านเห็นว่าสีหน้าโกรธเป็นอย่างไร อธิบายว่าหลังจากนั้นหลายปี ยาโคบกลัวไม่กล้าไปเยี่ยมเอซาว ขอให้เด็กแสดงให้ท่านเห็นว่าสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างไร เราควรทำอะไรบ้างเมื่อเรากลัว? เชื้อเชิญให้เด็กทำท่าสวดอ้อนวอนขณะท่านอ่านสิ่งที่ยาโคบกล่าวในคำสวดอ้อนวอนของเขา (ดู ปฐมกาล 32:11) จากนั้นให้อ่านสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเอซาวเห็นยาโคบใน ปฐมกาล 33:4 ขอให้เด็กแสดงสีหน้าของยาโคบกับเอซาวเมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง

• ให้ดูภาพยาโคบกับเอซาวพบกันในโครงร่างนี้ ให้เด็กบรรยายสิ่งที่พวกเขาเห็นในภาพ บอกพวกเขาว่าเคยมีความรู้สึกไม่ดีระหว่างพี่น้องสองคนนี้ แต่พวกเขาเลือกให้อภัยกัน ช่วยเด็กคิดว่าพวกเขาจะแสดงความรักต่อคนในครอบครัวมากขึ้นเช่นเดียวกับยาโคบและเอซาวแสดงความรักต่อกันได้อย่างไร

สอนหลักคำสอน: เด็กโต

ปฐมกาล 28:10–22

พันธสัญญาช่วยให้ฉันกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์

ท่านสามารถใช้ความฝันของยาโคบเรื่องบันไดขึ้นไปสวรรค์สอนเด็กว่าการรักษาพันธสัญญาของเราเตรียมเราให้พร้อมเข้าที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า

กิจกรรมที่ทำได้

• เชื้อเชิญให้เด็กอ่าน ปฐมกาล 28:10–15 แล้ววาดรูปความฝันของยาโคบ ขอให้พวกเขาแบ่งปันภาพของตน อธิบายว่าบันไดแทนวิธีที่ยาโคบกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าประทานอะไรเพื่อช่วยให้เรากลับไปหาพระองค์? (ดูหน้ากิจกรรมของสัปดาห์นี้) เตือนเด็กๆ ให้นึกถึงพันธสัญญาบัพติศมาของตน การดำเนินชีวิตตามพันธสัญญานี้นำเราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นอย่างไร?

• ให้ดูภาพพระวิหาร และเขียนวลีสำคัญๆ จาก ปฐมกาล 28:15–17 ไว้บนกระดาน เช่น “เราอยู่กับเจ้า” “พระยาห์เวห์ทรงอยู่ ณ ที่นี้” “ที่ประทับของพระเจ้า” หรือ “ประตูฟ้าสวรรค์” เชื้อเชิญให้เด็กหาวลีเหล่านี้ บอกเด็กว่าพระวิหารและพันธสัญญาพระวิหารช่วยให้ท่านรู้สึกใกล้ชิดพระเจ้าอย่างไร

ปฐมกาล 29:16–30

ฉันเชื่อในการเป็นคนซื่อสัตย์

ยาโคบรักษาสัญญาว่าจะรับใช้ลาบันเจ็ดปี แต่ลาบันลวงท่าน ท่านจะใช้เรื่องนี้ช่วยให้เด็กเข้าใจความสำคัญของการเป็นคนซื่อสัตย์แม้เมื่อคนอื่นไม่ซื่อสัตย์ได้อย่างไร?

กิจกรรมที่ทำได้

• อ่าน ปฐมกาล 29:16–30 ด้วยกันและช่วยเด็กสรุปเหตุการณ์ในข้อเหล่านี้ ยาโคบมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการถูกลวง? เราสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?

• เขียนบนกระดานว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราไม่ซื่อสัตย์? และ เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราซื่อสัตย์? ให้เด็กหาคำตอบโดยอ่าน “ความซื่อสัตย์และความสุจริต” (ใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน [2011], 19)

ปฐมกาล 32:6–11; 33:1–4

พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงสามารถช่วยให้ฉันรักครอบครัวของฉัน

เอซาวโกรธยาโคบมาก และยาโคบกลัวไม่กล้าพบเอซาวอีกแม้แยกจากกันไปแล้ว 20 ปี แต่ยาโคบสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ และเอซาวสามารถเอาชนะความโกรธของตน ท่านจะใช้เรื่องนี้สอนให้เด็กรู้ความสำคัญของการรักครอบครัวเราได้อย่างไร?

กิจกรรมที่ทำได้

• ถามเด็กว่าพวกเขาจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างยาโคบกับเอซาว (ดู ปฐมกาล 27:41 หรือ “ยาโคบและเอซาว” ใน เรื่องราวในพันธสัญญาเดิม) อธิบายว่าหลังจากห่างกันราว 20 ปี ยาโคบกำลังจะพบเอซาวอีกครั้ง อ่าน ปฐมกาล 32:6–11 ด้วยกัน ยาโคบรู้สึกอย่างไร? เขาทำอะไรเพื่อได้ความช่วยเหลือ? เป็นพยานว่าเราสามารถทูลขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยเหลือเมื่อความสัมพันธ์ในครอบครัวเรามีปัญหา อ่าน ปฐมกาล 33:1–4 ด้วยกันเพื่อค้นดูว่าพระเจ้าทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของยาโคบอย่างไร

• เล่าประสบการณ์ส่วนตัวหรือเรื่องหนึ่งจากนิตยสารศาสนจักรเกี่ยวกับวิธีแสดงความรักมากขึ้นในครอบครัวเรา เชื้อเชิญให้เด็กเล่าประสบการณ์ของพวกเขาด้วย เราจะทำอะไรได้บ้างเมื่อสมาชิกครอบครัวโกรธเรา? เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนให้เราทำ ให้ดู มัทธิว 5:43–45

กระตุ้นให้เรียนรู้ที่บ้าน

เชื้อเชิญให้เด็กแบ่งปันหน้ากิจกรรมของสัปดาห์นี้กับครอบครัวเพื่อช่วยให้ครอบครัวเรียนรู้และจดจำความฝันของยาโคบ

ปรับปรุงการสอนของเรา

ใช้ภาพช่วยให้เด็กๆ เข้าใจเรื่องราวในพระคัมภีร์ บ่อยครั้งที่เด็กเรียนรู้ดีขึ้นเมื่อพวกเขาดูภาพของเรื่องราวหรือคำสอนในพระคัมภีร์ อาทิ ท่านอาจให้ดูภาพจาก โครงร่างของสัปดาห์นี้ ใน จงตามเรามา—สำหรับบุคคลและครอบครัว