การประชุมค่าย โดย เวิร์ทธิงตัน วิตเตรดจ์

3–9 พฤษภาคม

หลักคำสอนและพันธสัญญา 46–48

“จงแสวงหาของประทานที่ดีที่สุดอย่างตั้งใจจริง”

ขณะที่ท่านอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46–48 พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเป็นพยานต่อท่านเกี่ยวกับความจริงในภาคเหล่านี้ การบันทึกและทบทวนความประทับใจจะช่วยให้ท่านพบวิธีช่วยให้สมาชิกชั้นเรียนค้นพบความจริงเดียวกัน

บันทึกความประทับใจของท่าน

เชื้อเชิญให้แบ่งปัน

อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าให้สมาชิกชั้นเรียนแบ่งปันเป็นครั้งคราวว่าการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาเป็นส่วนตัวและกับครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น เมื่อสมาชิกชั้นเรียนแบ่งปันข้อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาหรือสมาชิกครอบครัวค้นพบสัปดาห์นี้ ท่านจะถามว่าพวกเขาทำอะไรระหว่างการศึกษาที่ทำให้เกิดข้อคิดเหล่านั้น

สอนหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:1–7

เราควรต้อนรับทุกคนเข้ามาสู่ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์

• สำหรับหลายคน พวกเขารู้สึกอะไรและอย่างไรที่การประชุมของศาสนจักรสามารถมีผลอย่างมากต่อความแข็งขันของพวกเขาในศาสนจักร พระดำรัสแนะนำของพระเจ้าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:1–7 สามารถช่วยให้สมาชิกวอร์ดสร้างประสบการณ์ของการนมัสการที่มีความหมาย ต้อนรับกันและต้อนรับผู้มาเยือน สมาชิกชั้นเรียนจะค้นคว้าข้อเหล่านี้ มองหาหลักธรรมเกี่ยวกับการประชุมของศาสนจักรและเขียนสิ่งที่พวกเขาพบไว้บนกระดาน สำหรับหลักธรรมแต่ละข้อที่เขียนไว้ ชั้นเรียนอาจสนทนากันว่าเมื่อปฏิบัติหลักธรรมแล้วเป็นอย่างไร

• พระดำรัสแนะนำของพระเจ้าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46 ช่วยให้สมาชิกชั้นเรียนมองเห็นได้อย่างไรว่าการประชุมของศาสนจักรเป็นโอกาสให้รู้สึกถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์? ท่านจะเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:2 และสนทนาว่าพวกเขาเคยเห็นผู้นำและครูดำเนินการประชุมโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เมื่อใด อะไรคือบทบาทของผู้เข้าร่วมการประชุม? ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนเล่าเวลาที่พวกเขารู้สึกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำการประชุม

• ท่านอาจจะเชิญสมาชิกชั้นเรียนสองสามคนเล่าประสบการณ์เมื่อพวกเขาเข้าร่วมการประชุมของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นครั้งแรก อะไรช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงการต้อนรับ? พวกเขาจะให้คำแนะนำอะไรกับสมาชิกคนอื่นๆ ที่จะช่วยทำให้การประชุมของศาสนจักรเราต้อนรับคนมากขึ้น? เราจะประยุกต์ใช้พระดำรัสแนะนำของพระเจ้าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:1–7 ได้อย่างไร? ให้สมาชิกชั้นเรียนฝึกสิ่งที่พวกเขาจะพูดถ้าเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาในโบสถ์ครั้งแรก

• เพลงสวดเช่น “’Tis Sweet to Sing the Matchless Love” (Hymns, no. 176 หรือ 177) จะช่วยให้สมาชิกชั้นเรียนคิดและสนทนาวิธีทำให้การประชุมของศาสนจักรเราน่าเข้าร่วมและหนุนใจมากขึ้น สมาชิกชั้นเรียนอาจจะร้องเพลงสวดด้วยกันและแบ่งปันแนวคิดจากเนื้อเพลงเกี่ยวกับวิธีช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์

  

  พระเจ้าทรงสอนว่าพระองค์ทรงต้อนรับทุกคนในศาสนจักรของพระองค์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:7–33

พระบิดาบนสวรรค์ทรงมอบของประทานฝ่ายวิญญาณเพื่อประโยชน์ของบุตรธิดาของพระองค์

• วิสุทธิชนสมัยแรกเชื่อมั่นในการแสดงให้ประจักษ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจะช่วยให้สมาชิกชั้นเรียนสร้างศรัทธาได้อย่างไรว่าของประทานเหล่านี้สามารถประจักษ์ในชีวิตเราทุกวันนี้? ท่านจะเริ่มโดยเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:7–33 เป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเล็ก ขอให้พวกเขามองหาของประทานฝ่ายวิญญาณอย่างน้อยห้าอย่างและสนทนาด้านต่างๆ ที่พวกเขาเคยเห็นของประทานเหล่านั้นประจักษ์ในชีวิตพวกเขาหรือชีวิตคนที่พวกเขารู้จัก—รวมทั้งคนในชั้นเรียน พวกเขาพบอะไรที่สามารถแบ่งปันกับชั้นเรียนได้เพื่อสร้างศรัทธาในของประทานเหล่านี้?

• พระเจ้าทรงประกาศว่าของประทานแห่งพระวิญญาณเป็นประโยชน์ต่อคนที่ซื่อสัตย์และ “มิใช่เพื่อเครื่องหมาย” (ข้อ 9) สมาชิกชั้นเรียนอาจจะสนทนาว่าของประทานฝ่ายวิญญาณเป็นประโยชน์ต่อคนซื่อสัตย์อย่างไร ของประทานเหล่านี้จะช่วยคนที่ต้องการมีหรือเสริมสร้างประจักษ์พยานของตนในพระกิตติคุณได้อย่างไร?

• บางคนรักพระผู้เป็นเจ้าและพยายามรักษาพระบัญญัติแต่รู้สึกว่าไม่เคยประสบของประทานแห่งพระวิญญาณใดๆ คำแนะนำใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:7–33 จะช่วยได้อย่างไร?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 47

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสามารถนำทางเราขณะเราทำการเรียกให้เกิดสัมฤทธิผล

• คนมากมายสามารถเข้าใจสิ่งที่จอห์น วิตเมอร์รู้สึกเมื่อเขาต้องการความมั่นใจว่าการเรียกของเขามาจากพระผู้เป็นเจ้า อาจจะให้สมาชิกชั้นเรียนเล่าประสบการณ์คล้ายกันที่พวกเขาเคยมี เราพบอะไรใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 47 ที่น่าจะให้ความเชื่อมั่นแก่จอห์น วิตเมอร์ในงานมอบหมายของเขา?

ปรับปรุงการสอนของเรา

บทบาทของท่านในฐานะครู การสอนไม่ใช่แค่นำเสนอข้อมูลที่ท่านเตรียมไว้ หนึ่งในนั้นคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมาชิกชั้นเรียนสามารถเรียนรู้และค้นพบความจริงด้วยตนเองและแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ให้กับผู้อื่น ตัวอย่างเช่น ถามสมาชิกชั้นเรียนตลอดบทเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์การศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาที่บ้าน