บทเรียนที่ 55: หลักคําสอนและพันธสัญญา 41–44

หลักคําสอนและพันธสัญญา 41

พระเจ้าทรงชื่นใจให้พรเรา

เมื่อท่านศาสดาพยากรณ์รวมตัวกับวิสุทธิชนที่กำลังประสบความยากลำบากในโอไฮโอ พระเจ้าทรงเป็นพยานว่าพระองค์ทรงชื่นใจในการประทานพรแก่ผู้ที่ฟังพระองค์ บทเรียนนี้มุ่งหมายจะช่วยให้นักเรียนรู้สึกมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงให้พรเมื่อพวกเขาฟังและเชื่อฟังพระองค์

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

ท่านมั่นใจเพียงใดว่า … ?

วาดภาพกราฟิกดังต่อไปนี้บนกระดาน:

ชี้ไปทางด้านขวาของตาชั่ง เชื้อเชิญให้นักเรียนบอกบางอย่างที่พวกเขารู้สึกมั่นใจ พร้อมเหตุผล

เขียนข้อความต่อไปนี้บนกระดาน: พระเจ้าจะทรงให้พรเราหากเราฟังและเชื่อฟังพระองค์ ขอให้นักเรียนใช้ระดับคะแนนจัดลําดับความมั่นใจในข้อความนี้ โดยใช้ระดับคะแนนตั้งแต่ 1 ถึง 5 (1 = ไม่มั่นใจ และ 5 = มั่นใจมาก) เชื้อเชิญให้นักเรียนคิดดูว่าเหตุใดพวกเขาจึงจัดอันดับความมั่นใจแบบนั้น

• การรู้สึกมั่นใจมากว่าพระเจ้าจะทรงให้พรท่านส่งผลดีเพียงใด?

เชื้อเชิญให้นักเรียนแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าพระองค์จะทรงให้พรเมื่อพวกเขามุ่งมั่นฟังและเชื่อฟังพระองค์

เจตคติของพระเจ้าต่อการให้พรเรา

ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1830 พระเจ้าทรงบัญชาวิสุทธิชนให้ย้ายไปโอไฮโอ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 37:3) ต่อมาไม่นาน ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1831 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและเอ็มมาภรรยาท่านเดินทางหลายร้อยไมล์ไปเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ หลังจากนั้นท่านศาสดาพยากรณ์ได้รับการเปิดเผยเพื่อให้คำแนะนำบางอย่างขณะวิสุทธิชนจากพื้นที่อื่นเริ่มตั้งรกรากในเคิร์ทแลนด์

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:1 เพื่อมองหาเจตคติของพระเจ้าเกี่ยวกับการให้พรคนที่ฟังพระองค์

ช่วยให้ผู้เรียนตระหนักถึงอิทธิพลของพระเจ้า: สําหรับการอบรมเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนตระหนึกถึงอิทธิพลของพระเจ้าในพระคัมภีร์และในชีวิตของพวกเขา ให้ดูทักษะ “ถามคําถามที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงเดชานุภาพ พระเมตตา และอิทธิพลของพระเจ้ากับความจริงที่สอน” ในการอบรมหัวข้อ “ช่วยให้ผู้เรียนรับรู้ความรัก เดชานุภาพ และพระเมตตาของพระเจ้าในชีวิตพวกเขา” ที่พบใน ทักษะการพัฒนาครู: มุ่งเน้นที่พระเยซูคริสต์ ขณะนักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ ให้เขียนความจริงต่อไปนี้บนกระดาน: พระเจ้าทรงชื่นใจให้พรคนที่ฟังพระองค์ ท่านอาจกระตุ้นให้นักเรียนทำเครื่องหมายความจริงนี้ในพระคัมภีร์

• ท่านคิดว่าการชื่นใจในบางสิ่งหมายความว่าอย่างไร?

• ท่านคิดว่า “ของประทานสำคัญที่สุดในบรรดาของประทานทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้า” มีอะไรบ้าง? (หลักคำสอนและพันธสัญญา 14:7)

• เราสามารถฟังพระองค์ด้วยวิธีใดบ้าง?

ฟังคำตอบของนักเรียน หากเป็นประโยชน์ ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อมองหาวิธีที่เราสามารถฟังพระเจ้า

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า:

ต้องใช้ความพยายามอย่างมีสติและสม่ำเสมอที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยพระวจนะ คำสอน และความจริงของพระองค์ …

เราสามารถไปที่พระคัมภีร์ได้ พระคัมภีร์สอนเราเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณ ความยิ่งใหญ่ของการชดใช้ของพระองค์ ตลอดจนแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุขและการไถ่ของพระบิดา … เมื่อเราดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ทุกวัน พระวจนะของพระคริสต์จะบอกวิธีรับมือกับความยุ่งยากทั้งหลายที่เราไม่คิดว่าจะพบเจอมาก่อน

เราสามารถ ฟังพระองค์ ในพระวิหารได้เช่นกัน พระนิเวศน์ของพระเจ้า เป็น บ้านแห่งการเรียนรู้ ที่นั่นพระเจ้าทรงสอนในวิธีของพระองค์เอง …

… เรา ฟังพระองค์ เมื่อเราเอาใจใส่ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย อัครสาวกที่ได้รับแต่งตั้งของพระเยซูคริสต์เป็นพยานถึงพระองค์เสมอ ชี้ทางขณะเราเดินผ่านเขาวงกตที่บีบคั้นหัวใจของประสบการณ์มรรตัย (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ฟังพระองค์” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 89–90)

ท่านอาจขอให้นักเรียนทบทวน ข้อ 1 เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่ฟังพระเจ้า อาจเป็นประโยชน์ถ้าชี้ให้เห็นว่าคำว่า “การสาปแช่ง” ตามที่ใช้ในข้อนี้หมายถึงการพิพากษาหรือผลที่ตามมา

• เหตุใดจึงสำคัญที่ต้องรู้ว่าการไม่ฟังพระเจ้าสามารถส่งผลลบได้?

ตัวอย่างที่พระเจ้าทรงให้พรคนที่ฟังพระองค์

กระตุ้นนักเรียนหลายๆ คนให้แบ่งปันคำตอบของคำถามต่อไปนี้ การบอกเล่าความตื่นเต้นและความรักของพวกเขาอาจช่วยพวกเขาเชื่อมโยงกับความชื่นใจของพระเจ้า นี่เป็นโอกาสดีที่ท่านจะทำความรู้จักนักเรียนให้ดีขึ้นด้วย

• ท่านรักหรือชื่นใจในสิ่งใดบ้าง?

อธิบายว่ามีตัวอย่างมากมายที่พระเจ้าทรงชื่นใจให้พรคนที่ฟังพระองค์จริงๆ

อ่านข้อต่อไปนี้เพื่อมองหาว่าพระเจ้าทรงให้พรวิสุทธิชนของพระองค์อย่างไรเมื่อพวกเขาฟังพระองค์

ท่านอาจแบ่งชั้นเรียนออกเป็นกลุ่มๆ เพื่ออ่านข้อเหล่านั้นและตอบคำถามที่ให้มา จากนั้นนักเรียนจะแบ่งปันกันว่าเรียนรู้อะไรบ้าง

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:2–5

• การได้รับกฎหรือการนำทางจากพระเจ้าจะเป็นพรได้อย่างไร? (ดู ข้อ 3)

• การเชื่อฟังกฎของพระเจ้าและการเป็นสานุศิษย์ที่ดีขึ้นของพระคริสต์จะช่วยเราได้อย่างไร? (ดู ข้อ 5)

สำหรับตัวอย่างในยุคปัจจุบัน ให้ดูประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ (1910–2008) แบ่งปันว่าพระเจ้าทรงให้พรคนที่ฟังและเชื่อฟังพระองค์อย่างไรในวีดิทัศน์เรื่อง “เราเดินโดยศรัทธา” ที่ ChurchofJesusChrist.org ตั้งแต่รหัสเวลา 7:30 ถึง 12:39

We Walk by Faith

We reach toward the unknown, but faith lights the way. If we will cultivate that faith, we shall never walk in darkness.

ตัวอย่างเพิ่มเติม

เชื้อเชิญให้นักเรียนค้นหาหรือนึกถึงตัวอย่างเพิ่มอย่างน้อยสองตัวอย่างที่สร้างความมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงให้พรคนที่ฟังพระองค์ กระตุ้นพวกเขาให้แสวงหาการนำทางจากพระเจ้าเพื่อหาตัวอย่างที่จะเป็นพรแก่พวกเขาและชั้นเรียน

1. ค้นหาหนึ่งตัวอย่างจากพระคัมภีร์ ตัวอย่างนี้คือ:

   1. เรื่องราวเมื่อพระเจ้าทรงให้พรคนที่ฟังและเชื่อฟังพระองค์ (บางตัวอย่างได้แก่: โนอาห์ต่อเรือและรอดจากน้ำท่วม [ดู ปฐมกาล 6–8] เดโบราห์เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าให้ปลดปล่อยอิสราเอลจากการเป็นเชลย [ผู้วินิจฉัย 4:1–8, 13–15] มารีย์ยอมรับบทบาทมารดาของพระผู้ช่วยให้รอดและรู้สึกถึงพรของพระเจ้า [ลูกา 1:38, 46–49] นีไฟได้แผ่นจารึกทองเหลือง [ดู 1 นีไฟ 3–5] โจเซฟ สมิธสามารถปกป้องแผ่นจารึกได้ [ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:46, 60] โจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีให้บัพติศมากันหลังจากได้รับฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน และจากนั้นได้รับการแสดงให้ประจักษ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ [ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:68–74])

   2. ข้อพระคัมภีร์ที่เป็นพยานว่าพระเจ้าจะทรงให้พรเราเมื่อเราฟังและเชื่อฟังพระองค์ (บางตัวอย่างคือ มาลาคี 3:10; 1 ยอห์น 3:22; เจรอม 1:9; โมไซยาห์ 2:41; หลักคำสอนและพันธสัญญา 19:38; 82:10; 89:1, 18–21; 130:21)

2. คิดตัวอย่างเพิ่มเติม ตัวอย่างนี้คือ:

   1. ประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อพระเจ้าทรงให้พรท่าน

   2. ประสบการณ์จากเพื่อนหรือคนที่ท่านรัก

   3. คำปราศรัยจากการประชุมใหญ่สามัญ

   4. วีดิทัศน์ที่ ChurchofJesusChrist.org

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนตัวอย่างของพวกเขาลงในกระดาษแยกกัน บอกนักเรียนว่าพวกเขาสามารถแบ่งปันสิ่งที่เขียนกับคนอื่นๆ ในชั้นเรียนได้ เก็บกระดาษ สับกระดาษ แล้วหยิบบางแผ่นออกมาหรือเชิญนักเรียนคนหนึ่งหยิบ ท่านอาจต้องการอ่านทีละตัวอย่าง แล้วถามนักเรียนคนที่เขียนว่ายินดีแบ่งปันหรือไม่ว่าทำไมเลือกตัวอย่างนั้น ถามว่าตัวอย่างนั้นสามารถเพิ่มความมั่นใจของนักเรียนได้อย่างไรว่าพระเจ้าจะทรงให้พรเมื่อพวกเขาฟังพระองค์ ขณะนักเรียนแบ่งปัน ให้ขอบคุณที่พวกเขาพยายาม แล้วพยายามช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงความสำคัญของการแบ่งปันความคิดและประสบการณ์ในชั้นเรียน

เพื่อสรุปบทเรียนนี้ ให้บันทึกความคิดและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับพระเจ้าทรงให้พรเราเมื่อเราฟังพระองค์ ท่านรู้สึกมั่นใจหรือไม่ว่าพระองค์จะทรงให้พรท่าน? ท่านอาจทำอะไรได้บ้างเพื่อเพิ่มความมั่นใจ?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้และรู้สึกในชั้นเรียนวันนี้ แบ่งปันประจักษ์พยานและความมั่นใจของท่านเองว่าพระเจ้าจะทรงให้พรเมื่อเราฟังพระองค์

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ฉันจะฟังพระเจ้าได้ดีขึ้นอย่างไร?

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

To Acquire Spiritual Guidance

By careful practice, through the application of correct principles, and by being sensitive to the feelings that come, you will gain spiritual guidance.

พระบิดาทรงคาดหวังให้ท่านเรียนรู้วิธีได้รับความช่วยเหลือนั้นโดยแสดงศรัทธาในพระองค์และพระบุตรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระเยซูคริสต์ ถ้าแค่ขอท่านก็ได้รับการนำทางด้วยการดลใจแล้ว ท่านคงจะอ่อนแอและจะพึ่งพระองค์ร่ำไป พระองค์ทรงรู้ว่าการเติบโตส่วนตัวที่จำเป็นจะเกิดขึ้นเมื่อท่านขวนขวายเรียนรู้วิธีให้พระวิญญาณทรงนำท่าน

สิ่งที่ดูเหมือนเป็นงานยากในตอนแรกจะจัดการง่ายขึ้นมากตามกาลเวลาขณะท่านพยายามรู้จักและทำตามความรู้สึกที่พระวิญญาณทรงกระตุ้นเตือน ความเชื่อมั่นในการนำทางที่ท่านได้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะแรงกล้าขึ้นด้วย (ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “เพื่อให้ได้รับการชี้นำทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 7)

จะทำอย่างไรถ้าดูเหมือนพรของพระผู้เป็นเจ้าไม่มา?

เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า:

เมื่อท่านได้รับพรประการใดจากพระผู้เป็นเจ้า ท่านสามารถสรุปได้ว่าท่านได้ทำตามกฎนิรันดร์ที่ปกครองการได้รับพรนั้น แต่จำไว้ว่ากฎที่ “ประกาศิตไว้อย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้” ไม่คำนึงถึงเวลา หมายความว่าพรเกิดขึ้นตามตารางเวลาของพระผู้เป็นเจ้า แม้แต่ศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณในขณะแสวงหาบ้านบนสวรรค์ของพวกท่านก็ยัง “ตายในขณะที่ยังมีความเชื่ออยู่ และยังไม่ได้รับสิ่งต่างๆ ที่ทรงสัญญาไว้ แต่พวกเขาก็สังเกตเห็นแต่ไกล … [และ] รอรับ … และยอมรับพวกเขา” [ฮีบรู 11:13] ถ้า—ยัง—ไม่ได้รับพรที่ท่านปรารถนาจากพระผู้เป็นเจ้าท่านไม่ต้องกระวนกระวายใจ หรือสงสัยว่าจะต้องทำอะไรอีก แต่จงฟังคําแนะนําของโจเซฟ สมิธให้ “ทําสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในอํานาจ [ของท่าน] อย่างรื่นเริงเถิด; และจากนั้น … ยืนนิ่ง, ด้วยความมั่นใจอย่างที่สุด, เพื่อเห็น … [พระผู้เป็นเจ้า] … ทรงเผยพระพาหุของพระองค์” [หลักคําสอนและพันธสัญญา 123:17] พรบางอย่างสงวนไว้ให้ภายหลัง แม้ให้กับลูกๆ ที่องอาจที่สุดของพระผู้เป็นเจ้า (เดล จี. เรนลันด์, “ได้รับพระพรมากมาย” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 72)

เราได้รับพรของพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่?

เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า:

พี่น้องที่รักทั้งหลาย พระบิดาบนสวรรค์ของเราและพระเยซูคริสต์ทรงปรารถนาจะให้พรเราแต่ละคน … พรจากสวรรค์ไม่ได้มาจากการสะสม “คูปองคุณงามความดี” อย่างบ้าคลั่งและไม่ได้มาจากการรอดูอยู่เฉยๆ ว่าเราจะถูกลอตเตอรี่พรหรือไม่ เปล่าเลย ความจริงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรากับผู้จะเป็นทายาทของพระองค์ ซึ่งก็คือเรานั้นละเอียดกว่าแต่เหมาะสมกว่ามาก ความจริงที่ได้รับการฟื้นฟูเปิดเผยว่าเราไม่มีวันได้พรหากไม่ลงมือทำด้วยศรัทธาในส่วนของเราตั้งแต่ต้นและทำต่อเนื่อง (เดล จี. เรนลันด์, “ได้รับพระพรมากมาย” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 70)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

ตัวอย่างเพิ่มเติมที่พระเจ้าทรงให้พรคนที่ฟังพระองค์

ตัวอย่างหนึ่งที่พระเจ้าทรงชื่นใจให้พรคนที่ฟังพระองค์คือเรื่องราวของแอนกับนูเวล เค. วิทนีย์ อ่าน วิสุทธิชน: เรื่องราวของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย, เล่ม 1, มาตรฐานแห่งความจริง, 1815–1846 (2018), 111–113 หรือฟังตั้งแต่รหัสเวลา 13:01 ถึง 15:52

• ครอบครัววิทนีย์พยายามฟังสุรเสียงของพระเจ้าอย่างไร?

• พระเจ้าทรงให้พรครอบครัววิทนีย์อย่างไร?

นอกจากจะส่งศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธไปอยู่ในเคิร์ทแลนด์แล้ว พระเจ้ายังทรงให้พรวิสุทธิชนในด้านอื่นด้วย

อีกตัวอย่างหนึ่งคือเอดเวิร์ด พาร์ทริจ นักเรียนจะอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:9–11 เพื่อดูว่าพระเจ้าทรงเรียกเอดเวิร์ดให้ทำอะไร

• ข้อเหล่านี้พูดถึงเอดเวิร์ดว่าอย่างไร?

• ท่านคิดว่าการทำบทบาทอธิการของเขาจะเป็นพรแก่วิสุทธิชนในเคิร์ทแลนด์อย่างไร?

อธิบายว่าอธิการพาร์ทริจรับใช้ในการเรียกของท่านอย่างซื่อสัตย์ในโอไฮโอ จากนั้นในมิสซูรี และจนถึงช่วงอิลลินอยส์เมื่อท่านสิ้นชีวิตในปี 1840 การรับใช้ของท่านเป็นพรใหญ่หลวงต่อวิสุทธิชน

• การมีอธิการเป็นพรในชีวิตเราทุกวันนี้อย่างไร?

พระเจ้าทรงอธิบายพรบางประการที่เอดเวิร์ด พาร์ทริจได้รับหลังจากสิ้นชีวิต อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 124:19 เพื่อมองหาพรเหล่านี้

ไข่มุกให้สุกร

หลังจากนักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:5–6 แล้วให้ดูภาพนี้และถามว่าพวกเขาคิดว่าเป็นภาพอะไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนอธิบายกับคู่ว่าพวกเขาคิดว่าวลี “อย่าโยนไข่มุกให้แก่สุกร” หมายความว่าอย่างไร (มัทธิว 7:6) จากนั้นให้นักเรียนอ่านคํากล่าวต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง:

พระเจ้าตรัสว่า “สิ่งซึ่งมาจากเบื้องบนย่อมศักดิ์สิทธิ์, และต้องพูดถึงด้วยความระมัดระวัง, และโดยการบีบคั้นของพระวิญญาณ” (ค&พ 63:64) พระองค์ทรงบัญชาด้วยว่า เราต้องไม่โยนไข่มุกให้สุกรหรือให้สิ่งซึ่งศักดิ์สิทธิ์แก่สุนัข (ดู 3 นีไฟ 14:6; ค&พ 41:6) นี่หมายความว่าเราไม่ควรสนทนาเรื่องศักดิ์สิทธิ์กับคนที่ไม่พร้อมจะชื่นชมคุณค่าของเรื่องดังกล่าว

จงใช้ปัญญากับสิ่งที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน นั่นเป็นความไว้วางใจ ตัวอย่างเช่น ท่านจะไม่บอกเนื้อความในปิตุพรของท่านให้ใครต่อใครฟัง (ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “สำนึกในความศักดิ์สิทธิ์,” เลียโฮนา, มิ.ย. 2006, 28)

• มีเรื่องศักดิ์สิทธิ์อะไรบ้างที่เราควรปฏิบัติด้วยความคารวะและความเคารพ?

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีฟังพระองค์

ท่านอาจจะให้ดูวีดิทัศน์เหล่านี้หนึ่งเรื่องหรือมากกว่านั้นระหว่างชั้นเรียน เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการฟังสุรเสียงของพระเจ้าในชีวิตพวกเขา

#HearHim: Listen to the Voice of Jesus Christ

What happens when we mute the noise around us, and listen with our hearts? That’s when we can feel the influence of Jesus Christ. #HearHim

#HearHim: President Nelson Invites Us to Hear the Voice of The Lord

Why does Heavenly Father ask us to listen to his son, Jesus Christ? President Russell M. Nelson introduces #HearHim, which invites us to explore how we listen to and follow our Savior.

How I #HearHim: Elder Gary E. Stevenson

How do you #HearHim? Elder Gary E. Stevenson learned to recognize Jesus Christ's words through the Holy Ghost.