เซมินารี
บทเรียนที่ 157—ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 10: ใคร่ครวญการศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาของท่าน


“บทเรียนที่ 157—ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 10: ใคร่ครวญการศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาของท่าน” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี (2025)

“ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 10” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี

บทเรียนที่ 157: หลักแห่งความเชื่อและข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 และ 2

ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 10

ใคร่ครวญการศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาของท่าน

พี่น้องชายดูอัลบั้มภาพถ่าย

การใคร่ครวญและการประเมินการเรียนรู้ทางวิญญาณของเราสามารถช่วยให้เราเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนจดจําและประเมินว่าการศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาช่วยให้พวกเขาเติบโตทางวิญญาณอย่างไร

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทําได้

ความทรงจําทางวิญญาณ

ท่านอาจนําภาพถ่ายส่วนตัวมาที่ชั้นเรียน ให้ดูภาพถ่ายและอธิบายความทรงจําของท่านเกี่ยวกับบุคคลหรือเหตุการณ์ในภาพพอสังเขป ถ้าขอให้นักเรียนทํากิจกรรมการเตรียมของนักเรียน เชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันภาพถ่ายและความทรงจําสั้นๆ ในกลุ่มเล็กหรือกับชั้นเรียน พวกเขาอาจแบ่งปันภาพถ่ายที่มีในโทรศัพท์ด้วย

  • ท่านคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงชอบดูภาพผู้คนหรือเหตุการณ์ในอดีต?

  • มีตัวอย่างความทรงจําอะไรบ้างที่เราอาจมีซึ่งไม่สามารถบันทึกไว้ในภาพถ่ายได้?

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวถึงความทรงจําทางวิญญาณ:

2:3

ความทรงจำสำคัญทางวิญญาณ

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

จงน้อมรับความทรงจำอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เชื่อเรื่องเหล่านั้น จดบันทึกไว้ เล่าให้ครอบครัวฟัง จงวางใจว่าช่วงเวลาเหล่านั้นมาจากพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรที่รักของพระองค์ ให้ช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้ท่านอดทนต่อความสงสัยและเข้าใจความยากลำบากของตนเอง ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านเต็มใจยอมรับและถนอมเหตุการณ์สำคัญทางวิญญาณในชีวิต เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดกับท่านมากขึ้นเรื่อยๆ พระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้จักและทรงรักท่าน! (นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ความทรงจําสําคัญทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 22)

  • ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสําคัญที่จะใคร่ครวญความทรงจําทางวิญญาณของเรา?

    อธิบายว่าบทเรียนนี้จะเปิดโอกาสให้นักเรียนใคร่ครวญความทรงจําทางวิญญาณหรือประสบการณ์บางอย่างที่พวกเขามีขณะศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาและประวัติศาสนจักรตลอดปีที่ผ่านมา

    ก่อนจะให้เวลานักเรียนตอบคําถามต่อไปนี้ ท่านอาจอ้างอิงข้อความใน คํานําของหลักคําสอนและพันธสัญญา ที่กล่าวว่า “ในการเปิดเผยเหล่านี้, เราได้ยินสุรเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่นของพระเจ้าพระเยซูคริสต์” ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนทบทวนข้อคิดที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกการศึกษาตลอดทั้งปีหรือเครื่องหมายหรือบันทึกที่พวกเขาทําไว้ในพระคัมภีร์เพื่อช่วยตอบคําถามเหล่านี้

  • ท่านได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ขณะศึกษาพระวจนะของพระองค์ในหลักคําสอนและพันธสัญญาปีนี้?

  • ความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์เปลี่ยนไปอย่างไรในปีที่ผ่านมา?

  • ท่านศึกษาพระคัมภีร์ข้อใดบ้างที่ส่งผลต่อท่าน? ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ส่งผลต่อท่านอย่างไร?

  • ความจริงพระกิตติคุณอะไรบ้างที่ท่านพยายามประยุกต์ใช้? ท่านเคยเห็นหรือหวังว่าจะเห็นอะไรเพราะความพยายามของท่าน?

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันความทรงจําทางวิญญาณบางอย่างกับชั้นเรียนเมื่อเห็นสมควร ขณะนักเรียนแบ่งปัน กระตุ้นให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในการสนทนาโดยถามคําถาม เช่น “ใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันบ้าง?” หรือ “ท่านมีอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นแบ่งปันบ้าง?”

รับการเปิดเผย

ยํ้าเตือนนักเรียนว่าพวกเขาได้รับเชิญตลอดทั้งปีให้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้วิธีรับการเปิดเผยส่วนตัว

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ข้าพเจ้าขอให้ท่านเพิ่มพูนความสามารถทางวิญญาณปัจจุบันในการรับการเปิดเผยส่วนตัว …

ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านเพิ่มสมรรถภาพทางวิญญาณเพื่อรับการเปิดเผย … จงเลือกทํางานทางวิญญาณที่ต้องใช้ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์และได้ยินสุรเสียงของพระวิญญาณบ่อยขึ้นและชัดขึ้น (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเปิดเผยสําหรับศาสนจักร การเปิดเผยสําหรับชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 95–96)

เพื่อช่วยอธิบายคําเชื้อเชิญของประธานเนลสันให้เราเพิ่มพูนความสามารถในการรับการเปิดเผย ท่านอาจให้ดูลูกโป่งหลายๆ ลูกที่พองลมในขนาดต่างๆ เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาว่าลูกโป่งลูกใดแทนความสามารถของพวกเขาในการรับการเปิดเผยส่วนตัวตอนต้นปีได้ดีที่สุดและลูกโป่งลูกใดแทนความสามารถของพวกเขาในตอนนี้ นักเรียนอาจไตร่ตรองคําถามต่อไปนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการใคร่ครวญ เชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปัน

  • อะไรช่วยให้ท่าน “เพิ่มพูน” และ “เพิ่มสมรรถภาพทางวิญญาณเพื่อรับการเปิดเผย” ปีนี้?

  • พระคัมภีร์ข้อใดบ้างจากหลักคําสอนและพันธสัญญาที่เพิ่มความเข้าใจของท่านเกี่ยวกับการได้รับการเปิดเผย?

    หากนักเรียนต้องการความช่วยเหลือ ท่านอาจยกตัวอย่าง เช่น โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:5–20 และ หลักคําสอนและพันธสัญญา 8:2–3; 9:7–9; 11:12–13; 88:118

  • เมื่อเร็วๆ นี้ท่านมีประสบการณ์อะไรบ้างกับการเปิดเผยส่วนตัว?

อธิบายการฟื้นฟู

ติดภาพหลายๆ ภาพทั่วห้องที่แสดงเหตุการณ์สําคัญของการฟื้นฟู เช่นภาพต่อไปนี้ หรือท่านอาจขอให้ชั้นเรียนเขียนเหตุการณ์สําคัญของการฟื้นฟูบนกระดาน ให้ชั้นเรียนเลือกสนทนากันสี่หรือห้าข้อ เขียนสิ่งเหล่านี้บนกระดาษแต่ละแผ่นแล้ววางกระดาษไว้รอบๆ ห้อง

นิมิตแรก

นิมิตแรก

การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค

การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค

การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน

การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน

การก่อตั้งพระวิหาร

การก่อตั้งพระวิหาร

แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ และเชื้อเชิญให้แต่ละกลุ่มมารวมตัวกันที่ภาพหรือกระดาษที่แตกต่างกัน มอบหมายหัวหน้ากลุ่มให้ดําเนินกระบวนการสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ของการฟื้นฟูนั้น กระตุ้นให้ผู้นําเชิญทุกคนในกลุ่มแบ่งปันบางอย่าง หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้กลุ่มเวียนไปยังภาพใหม่และเลือกผู้นํากลุ่มคนใหม่ ข้อความการกระตุ้นต่อไปนี้จะช่วยหัวหน้ากลุ่มนําการสนทนาในแต่ละฐาน

  1. แบ่งปันสิ่งที่ท่านจําได้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

  2. อธิบายว่าเหตุใดจึงเป็นประโยชน์สําหรับคนทั่วโลกที่จะรู้เกี่ยวกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในส่วนนี้

  3. สนทนาว่าการฟื้นฟูส่วนนี้ช่วยเพิ่มศรัทธาของท่านในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

กิจกรรมต่อไปนี้สามารถนํามาใช้นอกเหนือจากกิจกรรมการไตร่ตรองที่นักเรียนทําในตอนต้นของบทเรียน

ให้ดูภาพของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ถามนักเรียนว่าพวกเขาจําได้หรือไม่ว่าข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคําสอนข้อใดพูดถึงงานยิ่งใหญ่ที่โจเซฟทําสําเร็จในชีวิตท่าน จากนั้นให้อ่านหรือท่อง หลักคําสอนและพันธสัญญา 135:3 ด้วยกัน ยํ้าเตือนนักเรียนว่าประจักษ์พยานเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธนี้เขียนหลังจากมรณสักขีไม่นาน ช่วยพวกเขาเตรียมแบ่งปันประจักษ์พยานให้กันเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า

ให้นึกถึงว่าความรู้สึกและประจักษ์พยานของท่านเองเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธเปลี่ยนไปอย่างไรตลอดปีที่ผ่านมา ท่านอาจต้องการเขียนความคิดของท่านขณะใคร่ครวญสิ่งต่อไปนี้:

  • ท่านเรียนรู้ด้วยตนเองได้อย่างไรว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อโจเซฟ สมิธในป่าศักดิ์สิทธิ์?

  • งานที่พระเจ้าทรงดลใจโจเซฟ สมิธให้ทําจะช่วยให้ท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร?

  • หากท่านไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเรียกของโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะทําอะไรได้บ้างเพื่อเรียนรู้ด้วยตัวท่านเอง?

ท่านอาจสรุปโดยเชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธ