คลังค้นคว้า
พระคัมภีร์


“พระคัมภีร์” หัวข้อและคําถาม (2023)

ครอบครัวกำลังอ่านพระคัมภีร์

แนวทางศึกษาพระกิตติคุณ

พระคัมภีร์

บันทึกเกี่ยวกับการปฏิบัติของพระผู้เป็นเจ้าต่อบุตรธิดาของพระองค์

ท่านเคยมีประสบการณ์ที่พบว่าข้อความข้อหนึ่งในพระคัมภีร์ดูเหมือนจะพูดกับท่านโดยตรงหรือไม่? พระคัมภีร์มีอำนาจทางวิญญาณ (ดู ลูกา 24:32; 2 นีไฟ 32:3) พระคัมภีร์เป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา และนําเราไปหาพระองค์อันเป็นบ่อเกิดแห่งความรอดของเรา พระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักประทานพระคัมภีร์แก่เราเพื่อสอนเราเกี่ยวกับแผนของพระองค์เพื่อความสุขของเรา ช่วยให้เราได้รับประจักษ์พยานในพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ นําทางเรา ให้ความหวังแก่เรา และอีกมากมาย ตลอดประวัติศาสตร์ ศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณและปัจจุบันบันทึกข่าวสารจากสวรรค์ที่พวกเขาได้รับและเรื่องราวการปฏิบัติของพระผู้เป็นเจ้าต่อบุตรธิดาของพระองค์ เราได้รับพรให้เข้าถึงพระคำของพระผู้เป็นเจ้าในสมัยของเรา

พระคัมภีร์คืออะไร?

พระคัมภีร์เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระคำของพระผู้เป็นเจ้า คําสอนของศาสดาพยากรณ์ และเรื่องราวที่ได้รับการดลใจเกี่ยวกับการปฏิบัติของพระผู้เป็นเจ้าต่อบุตรธิดาของพระองค์ (ดู 2 เปโตร 1:20–21) พระคัมภีร์ที่เป็นทางการของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ที่เรียกว่าเป็น “งานมาตรฐาน” ได้แก่ พระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน หลักคำสอนและพันธสัญญา และไข่มุกอันล้ำค่า

ภาพรวมหัวข้อ: พระคัมภีร์

แนวทางศึกษาพระกิตติคุณที่เกี่ยวข้อง: พระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน ศาสดาพยากรณ์ การสอนและการเรียนรู้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

หมวดที่ 1

พระคัมภีร์สามารถนําท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้มากขึ้น

เยาวชนกำลังอ่านพระคัมภีร์

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันประกาศว่า “จุดประสงค์หลักของพระคัมภีร์ทุกเล่มคือเติมจิตวิญญาณของเราด้วยศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและในพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์” ข่าวสารและพลังทางวิญญาณของพระคัมภีร์นําเราไปสู่ความรอด ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอนว่า“พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ที่พบในพระคัมภีร์ … มีพลังเสริมความเข้มแข็งให้วิสุทธิชนและติดอาวุธให้พวกเขาด้วยพระวิญญาณเพื่อพวกเขาจะสามารถต้านทานความชั่ว ยึดมั่นความดี และพบปีติในชีวิตนี้” การที่ท่านตัดสินใจอ่านและศึกษาพระคัมภีร์เป็นขั้นตอนสําคัญสู่การเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

สิ่งที่ควรคำนึงถึง

  • เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์สอนว่า: “เมื่อเราต้องการพูดกับพระผู้เป็นเจ้า เราสวดอ้อนวอน และเมื่อเราต้องการให้พระองค์ตรัสกับเรา เราค้นคว้าพระคัมภีร์” ท่านเคยรู้สึกเมื่อใดว่าพระคัมภีร์ให้คําตอบแก่ท่าน? ท่านจะแบ่งปันอะไรกับผู้อื่นเพื่อช่วยให้พวกเขารับรู้ว่าพระคัมภีร์สามารถช่วยให้พวกเขาได้รับคําตอบจากพระผู้เป็นเจ้า?

  • ศาสดาพยากรณ์นีไฟบันทึกสิ่งที่ท่านหวังให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์จากงานเขียนที่ได้รับการดลใจของท่าน อ่าน 1 นีไฟ 6:1-6 การเข้าใจจุดประสงค์ของนีไฟที่เขียนเรื่องราวของตนไว้จะมีอิทธิพลต่อวิธีที่ท่านศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนอย่างไร?

กิจกรรมสําหรับการเรียนรู้กับผู้อื่น

  • ดูวิดีโอเรื่อง “President Nelson—The Scriptures Teach Us about Jesus Christ (for Youth)” ด้วยกัน (0:59) โดยมองหาความจริงที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสัญญาว่าเราสามารถเรียนรู้ได้จากพระคัมภีร์ ประธานเนลสันพูดอะไรเกี่ยวกับความสําคัญของการใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์ทุกวัน?

เรียนรู้เพิ่มเติม

หมวดที่ 2

พระคัมภีร์เป็นการรวบรวมพระวจนะอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าให้บุตรธิดาของพระองค์

พระคัมภีร์

สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย “เชื่อทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยมาแล้ว, ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยขณะนี้, และ … ว่าพระองค์จะยังทรงเปิดเผยเรื่องสำคัญและยิ่งใหญ่อีกหลายเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า” (หลักแห่งความเชื่อ 1:9) การเปิดเผยมากมายที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่บุตรธิดาของพระองค์บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ ซึ่งรวมถึงพระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน หลักคําสอนและพันธสัญญา และไข่มุกอันล้ำค่า หนังสือเหล่านี้เรียกว่า “งานมาตรฐาน” และถือว่าเป็นพระคัมภีร์ที่เป็นทางการหรือเป็นพระคัมภีร์ที่เป็นมาตรฐานของศาสนจักร

  • พระคัมภีร์ไบเบิลเป็นบันทึกเกี่ยวกับการปฏิบัติของพระผู้เป็นเจ้าต่อผู้คนของพระองค์ ตั้งแต่สมัยของอาดัมถึงเวลาที่อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ยังมีชีวิตอยู่ โดยแบ่งออกเป็นสองภาค: พันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมสอนว่าพระเมสสิยาห์ที่สัญญาไว้จะมาในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา พันธสัญญาใหม่บันทึกพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ การพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ นอกจากนี้ยังรวมถึงคําสอนของอัครสาวกที่ให้แก่สมาชิกของศาสนจักรที่พระเยซูคริสต์ทรงสถาปนาขึ้นในช่วงเวลานั้น

  • พระคัมภีร์มอรมอนเป็นบันทึกศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่อยู่ในซีกโลกตะวันตกระหว่างประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาลถึง ค.ศ. 400 มีชื่อรองว่า “พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์” เขียนไว้เพื่อจุดประสงค์ “ให้ชาวยิวและคนต่างชาติมั่นใจ … ว่าพระเยซูคือพระคริสต์, พระผู้เป็นเจ้านิรันดร์” (ปกในของพระคัมภีร์มอรมอน)

  • พระคัมภีร์หลักคําสอนและพันธสัญญาประกอบด้วยการเปิดเผยยุคปัจจุบันมากมายที่ได้รับอันเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ การเปิดเผยเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับโดยท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธระหว่างศตวรรษที่สิบเก้า

  • ไข่มุกอันล้ำค่ามีงานเขียนจากหนังสือของโมเสสและหนังสือของอับราฮัม รวมถึงส่วนหนึ่งของงานแปลพระคัมภีร์ไบเบิลของโจเซฟ สมิธ งานที่เลือกสรรจากประวัติศาสนจักรของท่าน และหลักแห่งความเชื่อ

นอกจากงานมาตรฐานแล้ว วิสุทธิชนยุคสุดท้ายถือว่าถ้อยคําและคําสอนที่ได้รับการดลใจของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบันเป็นพระคัมภีร์ด้วย “สิ่งใดก็ตามที่พวกเขาจะกล่าวเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจจะเป็นพระคัมภีร์” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 68:4)

สิ่งที่ควรคำนึงถึง

  • อ่าน แอลมา 37:8–10 โดยมองหาวิธีต่างๆ ที่พระคัมภีร์สร้างความแตกต่างในบรรดาผู้คนในสมัยของแอลมา ท่านเคยเห็นพรที่คล้ายกันในชีวิตของตนเองและในชีวิตคนรอบข้างเมื่อใด? พรที่ระบุไว้ในข้อความนี้ข้อใดบ้างที่ท่านหวังว่าจะรับได้ในเวลานี้ในชีวิตท่าน?

  • ลีไฮและนีไฟศาสดาพยากรณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนเห็นนิมิตซึ่งในนิมิตนั้นพระคำของพระผู้เป็นเจ้าเปรียบเสมือนราวเหล็ก (ดู 1 นีไฟ 811) ท่านอาจจะทบทวนบทเหล่านี้และพิจารณาว่าเหตุใดราวเหล็กจึงเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมสําหรับพระคำของพระผู้เป็นเจ้า พระคัมภีร์เคยเป็นราวเหล็กสําหรับท่านเมื่อใด?

กิจกรรมสําหรับการเรียนรู้กับผู้อื่น

  • ท่านอาจดูวิดีโอ “Scriptures Legacy” บางส่วนหรือทั้งหมด (22:29) เชิญให้กลุ่มแบ่งปันว่าเรื่องราวใดทําให้พวกเขาประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับคนที่ช่วยทําให้เรามีพระคัมภีร์ในปัจจุบัน เรื่องราวเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเราเกี่ยวกับการศึกษาพระคัมภีร์อย่างไร?

เรียนรู้เพิ่มเติม

หมวดที่ 3

การศึกษาพระคัมภีร์สามารถนําแสงสว่างและความจริงเข้ามาในชีวิตท่าน

ผู้หญิงกำลังอ่านพระคัมภีร์

ศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายทุกคนย้ำเตือนให้เรานึกถึงคุณค่าของการศึกษาพระคัมภีร์ พระคัมภีร์กลายเป็นพรอันล้ำค่าต่อทุกคนที่ให้เวลากับการอ่านและเรียนรู้จากพระคัมภีร์ เมื่อเราศึกษาถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ เราสามารถเรียนรู้ความจริงและได้รับการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าทรงเตือนวิสุทธิชนยุคแรกๆ ว่า: “ความคิดเจ้าในเวลาที่ผ่านมาถูกทำให้มืดเนื่องจากความไม่เชื่อ, และเพราะเจ้าปฏิบัติอย่างเล่น ๆ กับสิ่งที่เจ้าได้รับมา … กลับใจและระลึกถึงพันธสัญญาใหม่, แม้พระคัมภีร์มอรมอนและบัญญัติก่อน ๆ ซึ่งเราให้ [เจ้า] ไว้” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 84:54, 57) เมื่อเราอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ พระคัมภีร์มีพลังขับความมืดด้วยแสงสว่างทางวิญญาณที่มาทางพระวิญญาณบริสุทธิ์

สิ่งที่ควรคำนึงถึง

  • ในพระคัมภีร์มอรมอน วัตถุทรงกลมหรือเข็มทิศที่เรียกว่าเลียโฮนานําครอบครัวของลีไฮเดินทางผ่านแดนทุรกันดาร เมื่อพวกเขาใช้ศรัทธาและความขยันหมั่นเพียร เลียโฮนาแสดงเส้นทางที่พวกเขาควรเดินทาง อ่าน แอลมา 37:38–47 โดยมองหาวิธีต่างๆ ที่พระคัมภีร์อาจทำหน้าที่ต่อท่านวันนี้เหมือนเลียโฮนาทําต่อครอบครัวของลีไฮ เราจะทําอะไรได้บ้างเพื่อรับประโยชน์ทางวิญญาณทั้งหมดของพระคัมภีร์หรือพระวจนะของพระคริสต์?

  • การจดจําข้อความในพระคัมภีร์จะให้ความช่วยเหลือและพลังทางวิญญาณในยามจําเป็นได้ ทบทวนคําปราศรัยของเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์เรื่อง “พลังแห่งพระคัมภีร์ ท่านเรียนรู้อะไรจากคําปราศรัยนี้ที่อาจนําท่านให้ปรับวิธีศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน?

กิจกรรมสําหรับการเรียนรู้กับผู้อื่น

เรียนรู้เพิ่มเติม

แหล่งช่วยอื่นเกี่ยวกับพระคัมภีร์

อ้างอิง

  1. ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “พรจากพระคัมภีร์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2010, 42.

  2. คำสอนของประธานศาสนจักร: เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (2014), บทที่ 8, หัวข้อที่ 2, หัวข้อย่อยที่ 1, ย่อหน้าที่ 10.

  3. โรเบิร์ต ดี. เฮลส์, “พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์: อำนาจของพระผู้เป็นเจ้าอันไปสู่ความรอดของเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2006, 32.

  4. ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “พลังแห่งพระคัมภีร์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, หน้า 6–9.