ฮีบรู 11 ตอน 1

ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

หลายคนพูดถึงการมีศรัทธา—ในตัวพวกเขาเอง ในผู้อื่น และแม้แต่ในเหตุการณ์หรือวัตถุสิ่งของ แล้วอะไรทำให้การมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์เสริมพลังและมีความสำคัญ? ในฮีบรู 11 เราอ่านคำสอนของอัครสาวกเปาโลเกี่ยวกับการพัฒนาศรัทธาในพระเยซูคริสต์ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจว่าศรัทธาในพระเยซูคริสต์คืออะไรและเหตุใดจึงสำคัญต่อท่านเป็นการส่วนตัว

ความมั่นใจในศรัทธาในพระเยซูคริสต์

• ท่านจะพูดอย่างไรถ้ามีคนถามท่านว่าศรัทธาคืออะไร?

เขียนนิยามของท่านลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านหรือในบันทึกดิจิทัล ท่านอาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมนิยามนี้และบันทึกความคิดและความประทับใจอื่นๆ ขณะที่ท่านศึกษาในวันนี้

อ่าน ฮีบรู 11:1 และทำเครื่องหมายว่าอัครสาวกเปาโลนิยามศรัทธาไว้ว่าอย่างไร อาจเป็นประโยชน์ถ้ารู้ว่าในงานแปลของโจเซฟ สมิธสำหรับข้อนี้ ศาสดาพยากรณ์เปลี่ยนคำว่า แก่นสาร (ในฉบับภาษาอังกฤษ) เป็นคำว่า ความมั่นใจ หมายถึงความแน่นใจหรือความวางใจ (ดู Hebrews 11:1, footnote b)

• ท่านคิดว่าการมีความมั่นใจหรือความวางใจในสิ่งที่ท่านหวังไว้หมายความว่าอย่างไร?

• ท่านจะมีหลักฐานยืนยันสิ่งที่ท่านมองไม่เห็นได้อย่างไร?

• จากข้อนี้ ท่านจะเปลี่ยนหรือเพิ่มนิยามศรัทธาของท่านอย่างไร?

ความจริงอันเรียบง่ายข้อหนึ่งที่ ฮีบรู 11:1 สอนคือ ศรัทธาคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็น​ความ​แน่‍ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​มอง​ไม่​เห็น

อ่าน แอลมา 32:21 และ หลักแห่งความเชื่อ 1:4 เพื่อหาข้อคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธา ท่านอาจต้องการอ้างโยงหรือเชื่อมโยงสองข้อนี้กับ ฮีบรู 11:1

• ท่านได้เรียนรู้อะไรอีกเกี่ยวกับศรัทธา?

• ท่านจะเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มนิยามศรัทธาของท่านได้อย่างไรเพราะสิ่งที่ท่านเรียนรู้มา?

วิธีหนึ่งที่จะปรับถ้อยแถลงความจริงก่อนหน้านี้คือ ศรัทธา ในพระเยซูคริสต์ คือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็น​ความ​แน่‍ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​มอง​ไม่​เห็น ซึ่งเป็นความจริง

• ท่านคิดว่าการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์แตกต่างจากการมีศรัทธาในบางคนหรือบางสิ่งอย่างไร?

• ศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์จะช่วยให้ท่านวางใจในพระองค์ได้อย่างไรเมื่อท่านพบเจอคำถามหรือความไม่แน่นอน?

ทำให้ท่านเเข้าใจเรื่องศรัทธาในพระเยซูคริสต์ลึกซึ้งขึ้น

ใคร่ครวญว่าท่านรู้สึกอย่างไรกับศรัทธาส่วนตัวของท่านในพระเยซูคริสต์ ท่านรู้สึกว่าศรัทธาของท่านในพระองค์แรงกล้าในด้านใดบ้าง? ท่านรู้สึกว่าศรัทธาของท่านในพระองค์จะแรงกล้าขึ้นในด้านใดบ้าง?

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

ศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก

เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นสนทนาถึงวิธีที่เราสามารถเลือกเสริมสร้างและปกป้องศรัทธาของเรา

ศรัทธาไม่ตกมาถึงเราโดยบังเอิญหรืออยู่กับเราตามสิทธิกำเนิด … ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เป็นของประทานจากสวรรค์ที่เกิดขึ้นเมื่อเราเลือกที่จะเชื่อและเมื่อเราแสวงหาและยึดมั่นในศรัทธา ศรัทธาของท่านกำลังแรงกล้าขึ้นหรืออ่อนแอลง ศรัทธาเป็นหลักธรรมแห่งพลังอำนาจ มีความสำคัญไม่เฉพาะในชีวิตนี้เท่านั้น แต่ในความเจริญก้าวหน้าหลังม่านด้วย โดยพระคุณของพระคริสต์ สักวันหนึ่งเราจะรอดผ่านศรัทธาในพระนามของพระองค์ [ดู เอเฟซัส 2:8] อนาคตของศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก

(นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 65)

• ท่านประทับใจอะไรในถ้อยคำของเอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็น?

• เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นช่วยให้ท่านเข้าใจอะไรเกี่ยวกับศรัทธาในพระเยซูคริสต์?

ใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธาในพระเยซูคริสต์โดยศึกษาแหล่งข้อมูลบางอย่างต่อไปนี้ บันทึกข้อคิดของท่านลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน จงครุ่นคิด และอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์มาช่วยให้ท่านเรียนรู้สิ่งที่ท่านต้องรู้วันนี้

ทำกิจกรรมต่อไปนี้และอัปโหลดสามถึงห้าประโยคสรุปสิ่งที่มีความหมายต่อท่าน

1. ทำกิจกรรมต่อไปนี้และสรุปสิ่งที่มีความหมายต่อท่านสักสามถึงห้าประโยคลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

ท่านอาจต้องการตรึกตรองคำถามเหล่านี้หรือคำถามของท่านเองขณะที่ท่านศึกษา:

• ศรัทธาในพระเยซูคริสต์มีความหมายต่อฉันอย่างไร?

• ทำไมฉันจึงจำเป็นต้องพัฒนาศรัทธาในพระองค์?

• ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเพิ่มศรัทธาของฉันในพระเยซูคริสต์?

พระคัมภีร์และสิ่งช่วยศึกษาที่แนะนำ

• แอลมา 32:26–34

• อีเธอร์ 12:6–9

• Bible Dictionary หรือคู่มือพระคัมภีร์, “ศรัทธา”

ท่านอาจหาแหล่งข้อมูลอื่นในพระคัมภีร์หรือในแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณโดยค้นหาคำว่า “ศรัทธาในพระเยซูคริสต์”

คำแนะนำจากผู้นำศาสนจักร

• รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระคริสต์ทรงฟื้น: ศรัทธาในพระองค์จะเคลื่อนภูเขา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 101–104

• นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 65-68

• ริชาร์ด ซี. เอชลีย์, “ศรัทธา—การเลือกเป็นของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 38–39

เลือกได้: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?

เหตุใดการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์จึงสำคัญ?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแนะนำว่า:

เมื่อเราพูดถึงศรัทธา—ศรัทธาที่เคลื่อนภูเขาได้—เราไม่ได้พูดถึงศรัทธาในเรื่องทั่วไปแต่พูดถึงศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ …

เราแต่ละคนอาจถามตนเองว่า ศรัทธาเราอยู่ที่ไหน อยู่ในทีมกีฬาหรือ อยู่ในยี่ห้อหรือ อยู่ในความมีชื่อเสียงหรือ กระทั่งทีมกีฬาที่เก่งที่สุดก็ยังมีแพ้ ความมีชื่อเสียงสามารถค่อยๆ หายไป มีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ศรัทธาของท่านปลอดภัยเสมอ นั่นคือศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ให้ศรัทธาของท่านแสดงออกมา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2014, 29)

เหตุใดฉันจึงควรพยายามเพิ่มศรัทธาของฉันในพระเยซูคริสต์?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า:

ข้าพเจ้าขอให้ท่าน … เริ่มเพิ่มพูนศรัทธาของท่าน นับจากวันนี้ โดยผ่านศรัทธาของท่าน พระเยซูคริสต์จะทรงเพิ่มความสามารถให้ท่านเคลื่อนภูเขาในชีวิตได้ [ดู 1 นีไฟ 7:12] ถึงแม้ความท้าทายส่วนตัวของท่านอาจจะใหญ่เท่ายอดเขาเอเวอเรสต์ก็ตาม

ภูเขาของท่านอาจเป็นความโดดเดี่ยว ความสงสัย ความเจ็บป่วย หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ภูเขาของท่านจะแตกต่างกันไป ทว่าคำตอบของความท้าทายทุกอย่างคือการเพิ่มพูนศรัทธา ท่านต้องลงมือทำ …

ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เป็น อานุภาพสูงสุด ที่มีให้เราในชีวิตนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้กับคนที่เชื่อ [ดู มาระโก 9:23]

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระคริสต์ทรงฟื้น: ศรัทธาในพระองค์จะเคลื่อนภูเขา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 102–103, 104)

ฉันจำเป็นต้องทำอะไรเพื่อเรียนรู้ด้วยศรัทธา?

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า:

ประสบการณ์ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าคำตอบที่คนอื่นให้มักจะจำได้ไม่นาน หรือจำไม่ได้เลย แต่คำตอบที่เราค้นพบหรือได้รับผ่านการใช้ศรัทธาปกติแล้วแล้วจะอยู่ชั่วชีวิต การเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของชีวิตต้องถูกค้นพบ—ไม่ใช่ถูกสอน

ความเข้าใจทางวิญญาณที่ท่านและข้าพเจ้าได้รับ และซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริงในใจของเรานั้นไม่สามารถให้กันได้ง่ายๆ จะต้องจ่ายค่าความขยันหมั่นเพียรและการเรียนรู้ด้วยศรัทธาเพื่อให้ได้มาและ “เป็นเจ้าของ” ความรู้ดังกล่าวด้วยตนเอง วิธีนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้สิ่งที่รูู้ในสมองแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่รู้สึกในใจได้ วิธีนี้เท่านั้นที่บุคคลสามารถก้าวข้ามการพึ่งพาความรู้ทางวิญญาณและประสบการณ์ของผู้อื่นและมีสิทธิ์รับพรเหล่านั้นด้วยตนเอง วิธีนี้เท่านั้นที่เราจะสามารถพร้อมทางวิญญาณเพื่อรับสิ่งที่จะมา เราต้อง “แสวงหาการเรียนรู้, แม้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย” (ค&พ 88:118)

(เดวิด เอ. เบดนาร์, “Seek Learning by Faith,” Ensign, Sept. 2007, 67)

ศรัทธาในพระเยซูคริสต์จะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของฉันได้อย่างไร?

ดูวีดิทัศน์เรื่อง “กองไฟแห่งศรัทธา” (3:25) ซึ่งเอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองและคนอื่นๆ แบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับศรัทธาในพระเยซูคริสต์ วิดีโอนี้มีอยู่ที่ ChurchofJesusChrist.org

Campfires of Faith

A campfire of faith in Jesus Christ can bring light and hope to our lives. Focusing on the light of faith causes darkness to lose its power and enables us to take action on the answers we receive.