ถึงเพื่อนและผู้สนใจของศาสนจักร
หากท่านพยายามทำตามข้อกำหนดเพื่อรับการเปิดเผย อ่อนน้อมถ่อมตน อ่าน สวดอ้อนวอน และกลับใจ ฟ้าสวรรค์จะเปิดและท่านจะรู้ว่าพระเยซูคือพระคริสต์
บ่ายวันศุกร์ที่ 16 กันยายน ค.ศ. 1988 ณ อาคารประชุมของวอร์ดบีเซนตีโลเปซ ในบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ข้าพเจ้ารับบัพติศมาเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เพื่อนที่ดีมากของข้าพเจ้า อลิน สปันนาวส์ เป็นผู้ให้บัพติศมาข้าพเจ้าในวันนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุข โล่งใจ และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากขึ้น
วันนี้ ข้าพเจ้าประสงค์จะแบ่งปันบทเรียนที่ข้าพเจ้าเรียนรู้บนเส้นทางสู่บัพติศมา— บทเรียนที่ข้าพเจ้าหวังว่าจะช่วยท่านที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกศาสนจักรและกำลังฟังอยู่ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนว่าพระวิญญาณจะสัมผัสใจท่านเช่นเดียวกับข้าพเจ้า
บทเรียนที่หนึ่ง การพบกับผู้สอนศาสนา
เหตุใดคนที่ไม่มีความท้าทายบีบบังคับ ความต้องการ หรือคำถามจะสนใจพบกับผู้สอนศาสนาและรับฟังบทเรียนของพวกเขา ในกรณีของข้าพเจ้าคือความรัก—ความรักที่มีต่อหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ เรเน ข้าพเจ้าตกหลุมรักเธอ และต้องการแต่งงานกับเธอ เธอแตกต่างและมีมาตรฐานต่างจากหญิงสาวส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้ารู้จัก แต่ข้าพเจ้าตกหลุมรักเธอแล้วและขอเธอแต่งงาน—เธอปฏิเสธ!
ข้าพเจ้าสับสน ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้ามีเสน่ห์! ข้าพเจ้ารูปหล่อ อายุ 24 ปี เรียนจบมหาวิทยาลัย มีหน้าที่การงานดีเยี่ยม เธอพูดถึงเป้าหมายของเธอ—เกี่ยวกับการแต่งงานกับผู้ที่สามารถพาเธอไปพระวิหาร พูดถึงการมีครอบครัวนิรันดร์—เธอปฏิเสธข้อเสนอของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากสานต่อสัมพันธภาพนั้น จึงตกลงรับฟังผู้สอนศาสนา นี่คือเหตุผลที่ดีหรือไม่ในการพบกับผู้สอนศาสนา สำหรับข้าพเจ้าคือ ใช่
เมื่อข้าพเจ้าพบกับผู้สอนศาสนาครั้งแรก ข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด กล่าวตามตรงคือ ข้าพเจ้าอาจไม่ได้ตั้งใจฟังพวกเขาสักเท่าไร ใจข้าพเจ้าไม่เปิดรับศาสนาใหม่ ข้าพเจ้าแค่อยากพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ถูกต้องและมีเวลาโน้มน้าวให้เรเนแต่งงานกับข้าพเจ้า
เวลานี้ลูกๆ ของข้าพเจ้ามีทั้งจบการรับใช้และกำลังรับใช้งานเผยแแผ่ ข้าพเจ้าเข้าใจการเสียสละที่หนุ่มสาวเหล่านี้ทำเพื่อสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ทุกวันนี้ข้าพเจ้านึกเสียดายที่น่าจะตั้งใจฟังเอ็ลเดอร์ริชาร์ดสัน เอ็ลเดอร์ฟาร์เร็ลล์ และเอ็ลเดอร์ไฮแลนด์ ผู้สอนศาสนาที่ยอดเยี่ยมซึ่งสอนข้าพเจ้า
ดังนั้น จากบทเรียนแรกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่าน เพื่อนและผู้สนใจของศาสนจักรว่า เมื่อท่านได้พบกับผู้สอนศาสนา โปรดให้ความสำคัญกับพวกเขา พวกเขาเสียสละช่วงเวลาสำคัญในชีวิตเพื่อท่าน
บทเรียนที่สอง การไปโบสถ์
ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเข้าร่วมการประชุมของศาสนจักร ข้าพเจ้าได้ยินหลายคำที่ไม่เข้าใจ ใครคือดรุณี ฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนคืออะไร สมาคมสงเคราะห์คืออะไร
หากนี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเข้าร่วมการประชุมของศาสนจักรและท่านกำลังสับสนในบางสิ่งที่ท่านไม่เข้าใจ อย่าได้กังวล! ข้าพเจ้าเคยไม่เข้าใจเช่นกัน แต่ข้าพเจ้ายังจดจำความประทับใจ ความรู้สึกใหม่ของสันติสุขและปีติที่ข้าพเจ้าสัมผัส เวลานั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่าคืออะไร แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระซิบที่หูและใจข้าพเจ้าว่า “นี่คือสิ่งที่ถูกต้อง”
ดังนั้น ขอให้ข้าพเจ้าสรุปบทเรียนนี้ในหนึ่งประโยค: หากท่านสับสน อย่าได้กังวล—ขอให้ท่านจดจำความรู้สึกที่ท่านได้สัมผัส สิ่งนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้า
บทเรียนที่สาม การอ่านพระคัมภีร์มอรมอน
หลังจากพบผู้สอนศาสนาหลายครั้ง การเรียนรู้ของข้าพเจ้าไม่ได้คืบหน้ามากนัก ข้าพเจ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับการยืนยันความจริงของพระกิตติคุณ
วันหนึ่ง เรเนถามข้าพเจ้า “คุณกำลังอ่านพระคัมภีร์มอรมอนอยู่หรือเปล่า”
ข้าพเจ้าตอบว่า “ไม่ได้อ่าน” ข้าพเจ้ากำลังรับฟังผู้สอนศาสนา—เท่านั้นไม่พอหรือ
เรเนน้ำตาคลอ เธอยืนยันกับข้าพเจ้าว่าเธอรู้ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจริง และอธิบายว่าหากข้าพเจ้าต้องการรู้ว่าจริงหรือไม่ มีทางเดียวเท่านั้นคือ—ทายสิ คืออะไร—คือการอ่าน! และจากนั้น ถาม!
อ่าน ไตร่ตรองในใจท่าน และ “ทูลถามพระผู้เป็นเจ้า, พระบิดานิรันดร์, ในพระนามของพระคริสต์ … ด้วยใจจริง, ด้วยเจตนาแท้จริง, โดยมีศรัทธาในพระคริสต์” (โมโรไน 10:4) ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจริงหรือไม่ ว่าศาสนจักรนี้จริงหรือไม่
ดังนั้น บทเรียนที่สามในประโยคเดียว: เมื่อท่านได้รับเรื่องเหล่านี้—พระคัมภีร์มอรมอน—และท่านได้รับคำแนะนำให้อ่านและทูลถามพระผู้เป็นเจ้าว่าเรื่องเหล่านี้จริงหรือไม่ จงทำเถิด!
สุดท้าย การกลับใจ
ประสบการณ์สุดท้ายที่ข้าพเจ้าประสงค์จะแบ่งปันคือการกลับใจ หลังจากข้าพเจ้าเรียนบทเรียนทั้งหมดของผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้ายังไม่เชื่อมั่นว่าชีวิตข้าพเจ้าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง วันหนึ่ง เอ็ลเดอร์คัทเลอร์ ผู้สอนศาสนาหนุ่มผู้มีความมั่นใจ แม้ว่าภาษาสเปนของเขายังจำกัด กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “วาควิน เราอ่าน แอลมาบทที่ 42 ด้วยกันนะครับ เราจะใส่ชื่อคุณขณะที่เราอ่าน”
ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ข้าพเจ้าทำตามที่เอ็ลเดอร์คัทเลอร์บอกและอ่าน ข้อ 1 ดังนี้ “และบัดนี้, ลูกพ่อ[วาควิน], พ่อสำเหนียกว่ายังมีบางสิ่งอยู่อีกที่ทำให้จิตใจของลูกกังวล, ซึ่งลูกไม่อาจเข้าใจได้” โอ! หนังสือเล่มนี้กำลังพูดกับข้าพเจ้า
เราอ่าน ข้อ 2 “บัดนี้ดูเถิด, ลูกพ่อ [วาควิน], พ่อจะอธิบายเรื่องนี้แก่ลูก” จากนั้นการตกของอาดัมมีคำอธิบาย
และใน ข้อ 4 “และดังนั้นเราจึงเห็น, ว่ามีเวลาที่ประทานให้ [วาควิน] เพื่อกลับใจ”
เราอ่านต่อไปอย่างช้าๆ ทีละข้อ จนถึงสามข้อสุดท้าย พลังอันแรงกล้ากระตุ้นข้าพเจ้า หนังสือเล่มนี้พูดกับข้าพเจ้า โดยตรง ข้าพเจ้าเริ่มร้องไห้เมื่ออ่านว่า “และบัดนี้, [วาควิน] ลูกพ่อ, พ่อปรารถนาว่าลูกจะไม่ให้สิ่งเหล่านี้เป็นที่ลำบากใจลูกอีกต่อไป, และขอให้บาปของลูกเท่านั้นเป็นเรื่องลำบากใจลูก, ด้วยความลำบากใจนั้นซึ่งจะนำลูก … มาสู่การกลับใจ” (ข้อ 29)
ข้าพเจ้าตระหนักแล้วว่าข้าพเจ้าคาดหวังการเปิดเผยโดยไม่พยายามทำตามข้อกำหนด จนกระทั่งเวลานั้น ข้าพเจ้าไม่เคยพูดกับพระผู้เป็นเจ้าอย่างจริงจัง และความคิดเกี่ยวกับการพูดกับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้าดูโง่เขลา ข้าพเจ้าต้องอ่อนน้อมถ่อมตนและทำสิ่งที่ได้รับคำแนะนำให้ทำ ถึงแม้ในความคิดทางโลก ดูเป็นเรื่องไร้สาระ
วันนั้นข้าพเจ้าเปิดใจต่อพระวิญญาณ ปรารถนาจะกลับใจ และต้องการรับบัพติศมา! ก่อนหน้านั้น ข้าพเจ้ามีความคิดว่าการกลับใจคือบางสิ่งในแง่ลบที่เกี่ยวข้องกับบาปและการทำผิดเท่านั้น แต่โดยฉับพลัน ข้าพเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ในแง่มุมที่ต่างออกไป—การกลับใจคือบางสิ่งในแง่บวกที่เปิดทางสู่การเติบโตและความสุข
เอ็ลเดอร์คัทเลอร์อยู่ที่นี่ในวันนี้ ข้าพเจ้าอยากจะขอบคุณเขาที่ช่วยเปิดตาข้าพเจ้าสู่ความเข้าใจ การตัดสินใจทุกอย่างที่ข้าพเจ้าทำในชีวิตนับจากนั้นมาได้รับอิทธิพลจากช่วงเวลาที่ข้าพเจ้านอบน้อมและสวดอ้อนวอนขอการให้อภัย และการชดใช้ของพระเยซูคริสต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตข้าพเจ้า
ดังนั้น บทเรียนสุดท้ายในหนึ่งประโยคคือ มีประสบการณ์ของการกลับใจ ไม่มีสิ่งใดนำท่านมาใกล้พระเจ้า พระเยซูคริสต์มากไปกว่าความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง
เรียนท่านผู้สนใจ เพื่อนของศาสนจักร หากท่านกำลังฟังอยู่วันนี้ ท่านอยู่ใกล้มากกับการได้รับปีติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ท่านอยู่ใกล้!
ข้าพเจ้าเชื้อเชิญท่านสุดพลังใจ และจากส่วนลึกของจิตวิญญาณข้าพเจ้า ขอให้ท่านไปรับบัพติศมา! นั่นเป็นสิ่งดีที่สุดที่ท่านจะทำ สิ่งนี้จะไม่เพียงเปลี่ยนแแปลงชีวิตท่านเท่านั้นแต่จะเปลี่ยนชีวิตของลูกหลานท่านด้วย
พระเจ้าประทานพรแก่ข้าพเจ้าด้วยครอบครัว ข้าพเจ้าแต่งงานกับเรเน เรามีลูกที่น่ารักสี่คน และเนื่องจากบัพติศมาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถทำเช่นเดียวกับศาสดาพยากรณ์ลีไฮในสมัยโบราณ คือเชื้อเชิญพวกเขามารับส่วนผลของต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งคือความรักของพระผู้เป็นเจ้า (ดู 1 นีไฟ 8:15, 11:25) ข้าพเจ้าช่วยให้พวกเขามาหาพระคริสต์
ดังนั้นขอให้พิจารณาประสบการณ์ของข้าพเจ้า และ (1) ตั้งใจฟังผู้สอนศาสนา (2) ไปโบสถ์และจดจำความรู้สึกทางวิญญาณ (3) อ่านพระคัมภีร์มอรมอนและทูลถามพระเจ้าว่าสิ่งนี้จริงหรือไม่ (4) รับประสบการณ์ของการกลับใจและรับบัพติศมา
ข้าพเจ้าเป็นพยานกับท่านว่าหากท่านพยายามทำตามข้อกำหนดเพื่อรับการเปิดเผย อ่อนน้อมถ่อมตน อ่าน สวดอ้อนวอน และกลับใจ ฟ้าสวรรค์จะเปิดและท่านจะรู้เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและของท่าน ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน