การประชุมใหญ่สามัญ
การมีค่าควรไม่ใช่การไร้ที่ติ
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2021


10:52

การมีค่าควรไม่ใช่การไร้ที่ติ

เมื่อท่านรู้สึกเหมือนล้มเหลวมาแล้วหลายครั้งจนเกินจะพยายามต่อไป จงจดจำว่าการชดใช้ของพระคริสต์และพระคุณที่การชดใช้ทำให้เป็นไปได้มีอยู่จริง

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยส่งข้อความไปหาลูกสาวและลูกเขยโดยใช้ฟีเจอร์เปลี่ยนเสียงเป็นข้อความทางโทรศัพท์ ข้าพเจ้าพูดว่า “นี่ทั้งสองคน รักลูกนะ” พวกเขาได้รับว่า “ยี้ทั้งสองคน รักดูนะ” น่าประหลาดใจที่ข้อความแง่บวกและเจตนาดีถูกเข้าใจผิดได้ง่ายขนาดนี้? นี่คือสิ่งที่บางครั้งเกิดขึ้นกับข่าวสารแห่งการกลับใจและการมีค่าควรของพระผู้เป็นเจ้า

บางคนได้รับข่าวสารอย่างผิดๆ ว่าการกลับใจและการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็น ข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้าคือสองสิ่งนั้นจำเป็น1 แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงรักเราแม้ว่าเราจะบกพร่องมิใช่หรือ? แน่นอน! พระองค์ทรงรักเราอย่างสมบูรณ์แบบ ข้าพเจ้ารักหลานๆ แม้พวกเขาจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการให้พวกเขาดีขึ้นและเป็นทุกสิ่งที่เขาเป็นได้ พระผู้เป็นเจ้าทรงรักเราดังที่เราเป็น แต่ก็ทรงรักเราเกินกว่าที่จะปล่อยให้เราเป็นอยู่อย่างนี้2 จุดประสงค์ของชีวิตมรรตัยคือเพื่อเติบโตในทางพระผู้เป็นเจ้า3 จุดประสงค์ของการชดใช้ของพระคริสต์คือการเปลี่ยนแปลง พระคริสต์ไม่เพียงทรงสามารถฟื้นชีวิต ชำระ ปลอบประโลม และเยียวยาเรา แต่ระหว่างทั้งหมดนั้นทรงสามารถเปลี่ยนเราให้เป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น4

บางคนได้รับข่าวสารผิดๆ ว่าการกลับใจเป็นเหตุการณ์ครั้งเดียว ข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้าคือ “การกลับใจ … เป็นกระบวนการ”5ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนไว้ การกลับใจอาจใช้เวลาและความพยายามซ้ำๆ6 ดังนั้นการละทิ้งบาป7 และการ “ไม่มีใจที่จะทำความชั่วอีก, แต่จะทำความดีโดยตลอด”8จึงเป็นการแสวงหาชั่วชีวิต9

ชีวิตเป็นเหมือนการเดินทางข้ามประเทศ เราไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้โดยใช้น้ำมันถังเดียว เราต้องเติมน้ำมันซ้ำแล้วซ้ำอีก การรับศีลระลึกเป็นเหมือนการเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน เมื่อเรากลับใจและต่อพันธสัญญา เราปฏิญาณว่าจะเต็มใจรักษาพระบัญญัติ และพระผู้เป็นเจ้ากับพระคริสต์จะประทานพรเราด้วยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์10 สรุปคือ เราสัญญาว่าจะมุ่งหน้าต่อไปในการเดินทาง และพระผู้เป็นเจ้ากับพระคริสต์ทรงสัญญาว่าจะเติมน้ำมันให้เต็ม

บางคนได้รับข่าวสารผิดๆ ว่าพวกเขาไม่มีค่าควรจะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในพระกิตติคุณเพราะยังมีนิสัยไม่ดีหลงเหลืออยู่ ข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้าคือการมีค่าควรไม่ใช่การไร้ที่ติ11 การมีค่าควรคือการซื่อสัตย์และพยายาม เราต้องซื่อสัตย์กับพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำฐานะปุโรหิต และคนอื่นที่รักเรา12 เราต้องพากเพียรรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและไม่ยอมแพ้เพียงเพราะเราพลาดพลั้ง13 เอ็ลเดอร์บรูซ ซี. ฮาเฟนกล่าวว่าการพัฒนาคุณลักษณะแบบพระคริสต์ “เรียกร้องความอดทนและความไม่ย่อท้อมากกว่าเรียกร้องความไร้ที่ติ”14 พระเจ้าตรัสว่าของประทานแห่งพระวิญญาณ “ให้ไว้เพื่อประโยชน์ของคนเหล่านั้นที่รักเราและรักษาบัญญัติทั้งหมดของเรา, และคนที่หมายมั่นจะทำเช่นนั้น15

ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าจะเรียกว่าเดมอนเขียนว่า: “เมื่อโตขึ้นมาผมมีปัญหาเรื่องสื่อลามก ผมรู้สึกละอายใจมากเสมอจนไม่สามารถทำอะไรๆ ให้ถูกต้องได้” ทุกครั้งที่เดมอนเผลอไผล ความเจ็บปวดจากความเสียใจจะแสนสาหัส เขาตัดสินตัวเองอย่างรุนแรงว่าไม่มีค่าควรต่อพระคุณ การให้อภัย และโอกาสเพิ่มเติมใดๆ จากพระผู้เป็นเจ้า เขาบอกว่า: “ผมตัดสินใจว่าผมสมควรรู้สึกแย่ตลอดเวลาจริงๆ ผมคิดว่าพระผู้เป็นเจ้าน่าจะทรงเกลียดผมเพราะผมไม่เต็มใจพยายามมากขึ้นและจัดการให้จบๆ ไปทีเดียว ผมเอาชนะมันได้หนึ่งสัปดาห์หรือบางครั้งเป็นเดือนเลย แต่แล้วก็กลับไปเป็นเหมือนเก่าและคิดว่า ‘ผมจะไม่มีวันดีพอ จะพยายามไปให้เปล่าประโยชน์ทำไม?’”

ในช่วงความรู้สึกตกต่ำเช่นนั้น เดมอนพูดกับผู้นำฐานะปุโรหิตว่า: “บางทีผมควรหยุดมาโบสถ์ ผมเบื่อกับการเป็นคนหน้าซื่อใจคด”

ผู้นำของเขาตอบว่า: “คุณไม่ใช่คนหน้าซื่อใจคด เพราะคุณกำลังพยายามจะเลิกนิสัยที่ไม่ดี คุณหน้าซื่อใจคดถ้าคุณซ่อนมันไว้ โกหกเกี่ยวกับมัน หรือพยายามโน้มน้าวตนเองว่าศาสนจักรมีปัญหาที่มีมาตรฐานสูงขนาดนั้น การซื่อสัตย์เกี่ยวกับการกระทำของคุณ และการเริ่มก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่การหน้าซื่อใจคด นี่คือการเป็นสานุศิษย์”16 ผู้นำคนนี้ยกคำพูดของเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ที่สอนว่า: “พระเจ้าทรงเห็นว่าความอ่อนแอแตกต่างจากการกบฏ … เมื่อพระเจ้าตรัสถึงความอ่อนแอ พระองค์ตรัสด้วยความเมตตาเสมอ”17

มุมมองนั้นให้ความหวังแก่เดมอน เขาตระหนักว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่เบื้องบนและตรัสว่า “เดมอนพลาดอีกแล้ว” แต่พระองค์น่าจะตรัสว่า “ดูสิเดมอนมาไกลขนาดไหนแล้ว” ในที่สุดชายหนุ่มคนนี้ก็หยุดก้มหน้าด้วยความละอายหรือเบือนหน้าหนีเพื่อหาข้อแก้ตัวและหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง เขาเงยหน้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากสวรรค์ และเขาพบมัน18

เดมอนกล่าวว่า: “เวลาเดียวที่ผมหันไปหาพระผู้เป็นเจ้าในอดีตคือเพื่อขอการให้อภัย แต่ตอนนี้ผมทูลขอพระคุณ—‘พระเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถ’ ของพระองค์ [คู่มือพระคัมภีร์, “พระคุณ”] ผมไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน ทุกวันนี้ผมใช้เวลาน้อยลงในการเกลียดตัวเองเพราะสิ่งที่ผมทำลงไป และใช้เวลามากขึ้นเยอะในการรักพระเยซูเพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำ”

เมื่อนึกถึงว่าเดมอนต่อสู้มานานแค่ไหน มันเปล่าประโยชน์และเกินจริงที่พ่อแม่กับผู้นำที่ช่วยเหลือเขาจะรีบพูดว่า “อย่าทำอีก” หรือตั้งมาตรฐานควบคุมบางเรื่องโดยพลการเพื่อให้ถูกมองว่า “มีค่าควร” ในทางกลับกัน พวกเขาเริ่มกับเป้าหมายเล็กๆ ที่บรรลุได้ ขจัดความคาดหวังว่าต้องทำให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเน้นการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เดมอนต่อยอดความสำเร็จไปเรื่อยๆ แทนความล้มเหลว19 เขาเรียนรู้เหมือนผู้คนของลิมไฮที่เป็นทาสว่าเขาสามารถ “รุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ”20

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแนะนำว่า: “เราอาจจะต้องแก้ปัญหาประจำวันในส่วนเล็กๆ เพื่อรับมือกับปัญหาใหญ่ [มากๆ] … การบรรจุนิสัยใหม่ๆ ที่ดีงามไว้ในอุปนิสัยของเราหรือการเอาชนะนิสัยไม่ดีหรือการเสพติด [ส่วนใหญ่] มักจะหมายถึงความพยายามในวันนี้ตามด้วยความพยายามในวันพรุ่งนี้และวันอื่นๆ บางทีอาจใช้เวลาหลายวัน แม้กระทั่งหลายเดือนหรือหลายปีจนกว่าเราจะเอาชนะได้ … แต่เราทำเช่นนั้นได้เพราะเราสามารถทูลวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าเพื่อ … ขอความช่วยเหลือที่เราจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวัน”21

บัดนี้ พี่น้องทั้งหลาย การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ง่ายเลยสำหรับทุกคน แต่การแยกตัวอันเนื่องจากข้อกำหนดในการกักตัวทำให้ชีวิตยากเป็นพิเศษสำหรับคนที่ต่อสู้กับนิสัยไม่ดี พึงระลึกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ การกลับใจเป็นกระบวนการ และการมีค่าควรไม่ใช่การไร้ที่ติ สำคัญที่สุดคือพึงระลึกว่าพระผู้เป็นเจ้ากับพระคริสต์ทรงเต็มใจช่วยเราตรงนี้และตอนนี้22

บางคนได้รับข่าวสารผิดๆ ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรอที่จะช่วย หลังจาก ที่เรากลับใจ ข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้าคือพระองค์จะทรงช่วย ขณะ ที่เรากลับใจ พระคุณของพระองค์มีให้เรา “ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนเส้นทางแห่งการเชื่อฟัง”23 เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟกล่าวว่า: “พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงต้องการผู้คนที่ไร้ที่ติ พระองค์ทรงแสวงหาคนที่จะถวาย ‘ใจและความคิดที่เต็มใจ’ [หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:34] และจะทรงทำให้พวกเขา ‘ดีพร้อมในพระคริสต์’ [โมโรไน 10:32–33]”24

คนเป็นอันมากถูกทำร้ายจากความสัมพันธ์ที่แตกหักและตึงเครียดจนยากที่จะเชื่อในความเมตตาสงสารและความอดกลั้นของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขามีปัญหาในการเห็นพระผู้เป็นเจ้าอย่างที่พระองค์ทรงเป็น—พระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักผู้ทรงตอบความต้องการของเรา25และรู้วิธี “ประทานสิ่งดี ๆ ให้คนที่ทูลขอพระองค์”26 พระคุณของพระองค์ไม่ได้เป็นเพียงรางวัลสำหรับคนมีค่าควร แต่เป็น “ความช่วยเหลือจากสวรรค์” ที่ประทานมาเพื่อช่วยเราให้มีค่าควร ไม่ได้เป็นเพียงรางวัลสำหรับคนชอบธรรม แต่เป็น “การประสาทพรความเข้มแข็ง” ที่ประทานมาเพื่อช่วยให้เราเป็นคนชอบธรรม27 เราไม่เพียงกำลังเดิน ไปสู่ พระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์ เรากำลังเดิน กับ ทั้งสองพระองค์28

เยาวชนทั่วศาสนจักรท่องสาระสำคัญของเยาวชนหญิงและโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน จากนิวซีแลนด์ถึงสเปน ถึงเอธิโอเปีย ถึงญี่ปุ่น เยาวชนหญิงกล่าวว่า “ฉันเชิดชูของประทานแห่งการกลับใจ” จากชิลีถึงกัวเตมาลา ถึงโมโรไน ยูทาห์ เยาวชนชายกล่าวว่า “เมื่อฉันพากเพียรในการรับใช้ ใช้ศรัทธา กลับใจ และปรับปรุงตนเองทุกวัน ฉันจะคู่ควรรับพรพระวิหารและปีติอันยั่งยืนของพระกิตติคุณ”

ข้าพเจ้าสัญญาพรเหล่านั้น และสัญญาว่าปีติมีอยู่จริงและไม่เกินเอื้อมสำหรับคนที่รักษาพระบัญญัติทั้งหมด และ “คนที่หมายมั่นจะทำเช่นนั้น”29 เมื่อท่านรู้สึกเหมือนล้มเหลวมาแล้วหลายครั้งจนเกินจะพยายามต่อไป จงจดจำว่าการชดใช้ของพระคริสต์และพระคุณที่การชดใช้ทำให้เป็นไปได้มีอยู่จริง30 “พระพาหุแห่งพระเมตตา [ของพระองค์กำลัง] ยื่นออกมายังท่าน”31 ท่านเป็นที่รัก—วันนี้ ใน 20 ปี และตลอดกาล ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน