2016
นั่นคุ้มค่าจริงหรือ
มิถุนายน 2016


นั่นคุ้มค่าจริงหรือ

แบรนดัน คอมสต็อค, รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

โคลตันลูกชายวัยสี่ขวบของเรายื่นกระดาษที่ครูปฐมวัยให้มาเกี่ยวกับรายละเอียดที่เขาต้องทำในโปรแกรมปฐมวัยที่จะมาถึง งานของเราคือสอนให้เขาพูดประโยคที่มีเจ็ดคำก่อนนำเสนอโปรแกรมในอีกสองสัปดาห์

เย็นวันจันทร์เราเปลี่ยนการสังสรรค์ในครอบครัวเป็นการซ้อมใหญ่ โคลตันยิ้มขณะพยายามฝึกหลายครั้ง โดยมีผมกับภรรยาให้คำติชมอย่างเช่น “อย่าทำอย่างนั้นตอนลูกพูด” และ “พูดชัดๆ สิลูก”

แม้จะพยายามเต็มที่แล้วแต่ผมไม่แน่ใจว่าเราทำได้ดีกว่าตอนแรก

ขณะเตรียมไปโบสถ์ในเช้าวันอาทิตย์ถัดมา ถุงเท้าหายสองคู่ เด็กแปดเดือนฟันน้ำนมขึ้น และเด็กสี่ขวบร้องไห้

เมื่อการประชุมเริ่ม เราร้องเพลงสวดเปิดยังไม่ทันจบผมต้องพาเด็กที่กำลังร้องไห้ออกมานอกห้องสองรอบ พอคณะนักร้องยืนร้องเพลง ผมแทบหมดหวังกับการให้คนในครอบครัวได้มีประสบการณ์จรรโลงใจและหวังแต่เพียงว่าขอให้เราอยู่จนจบการประชุมได้

เมื่อกล่าวเอเมนสุดท้าย ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ขณะที่ผมฉลองชัย ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า “นั่นคุ้มค่าจริงหรือ เราก้าวหน้าจริงหรือกับการพาลูกๆ มาโบสถ์ทุกอาทิตย์”

คำพูดของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเข้ามาในใจผม ท่านกล่าวว่า “บางทีข้าพเจ้ากับซิสเตอร์เบดนาร์ก็ออกจะเคืองอยู่บ้างเพราะนิสัยดีๆ ที่เราอุตส่าห์บ่มเพาะดูเหมือนจะไม่ให้ผลทางวิญญาณอย่างที่เราต้องการหรือคาดหวังในทันที …

“ข้าพเจ้ากับซิสเตอร์เบดนาร์คิดว่าการช่วยให้ลูกชายเข้าใจเนื้อหาบทเรียนหรือพระคัมภีร์สักข้อคือผลลัพธ์สุดท้าย แต่ผลดังกล่าวไม่ได้เกิดทุกครั้งที่เราศึกษาหรือสวดอ้อนวอนหรือเรียนด้วยกัน ความเสมอต้นเสมอปลายของเจตนาและการกระทำของเราน่าจะเป็นบทเรียนสำคัญที่สุด—บทเรียนที่เราไม่ค่อยเห็นค่า ณ เวลานั้น” (“ขยันหมั่นเพียรและเอาใจใส่ครอบครัวยิ่งขึ้น,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 22, 23)

ผมกลับบ้านด้วยความเชื่อมั่นอีกครั้งและยังคงฝึกลูกชายต่ออีกหลายครั้ง เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพูด เราตื่นเต้นที่ได้ยินเขาประกาศชัดเจนและด้วยความเชื่อมั่นว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า”

เราได้ยินเขาพูดบรรทัดนั้นสิบๆ ครั้งก่อนการแสดง แต่การได้ยินเขาพูดด้วยตนเองนอกบ้านมีบางอย่างแตกต่างและน่าพอใจกว่านั้นมาก

เรามีหลายอย่างต้องสอนก่อนลูกชายของเราจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เราจะทำสุดความสามารถเพื่อเข้าร่วมการประชุมของเรา จัดสังสรรค์ในครอบครัว และสวดอ้อนวอนทุกวันโดยหวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขาอยู่ตามลำพังไกลบ้าน เขาจะจำบรรทัดที่สำคัญมากนั้นได้อีกครั้งว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า”

พิมพ์