สตรีแห่งการฟื้นฟูในยุคแรก
เอไลซาพูดด้วยสิทธิอำนาจ
เราสามารถเผชิญกับความกลัวและพูดด้วยความกล้า เช่นเดียวกับเอไลซา อาร์. สโนว์
ภาพประกอบโดย โทนี โอคา
ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1884 สตรีสูงวัยท่านหนึ่งที่มีใบหน้าอิดโรยยืนขึ้นพูดกับกลุ่มพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ในยูทาห์ เธอคือเอไลซา อาร์. สโนว์ ประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ และในหนังสือพิมพ์จะรายงานว่า แม้จะมีอายุ 80 ปีแต่เธอ “พูดด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมและตั้งใจจริง และน้ำเสียงของเธอก็ดูแข็งแกร่งและก้องกังวานทั้งอาคาร”1
เมื่อเอไลซารับบัพติศมา เธอสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าว่าเธอจะ “ยกย่องพระนามของพระองค์ในที่ประชุมของวิสุทธิชนตลอดไป”2 เธอยังคงยึดมั่นในคำสัญญานั้น และกล่าวโอวาทมาแล้วมากกว่าพันครั้งตลอดชีวิตของเธอ ทว่าผู้ที่เคยรับเกียรติได้ฟังเธออาจประหลาดใจหากรู้ว่า การพูดในที่สาธารณะทำให้เธอกังวลมาก เอไลซาลังเลที่จะพูดแม้สมัยที่เคยสอนในโรงเรียนที่นอวู หรือบันทึกรายงานการประชุมของสมาคมสงเคราะห์ที่นั่นก็ตาม
คำเชิญให้เผชิญหน้ากับความกลัวของเธอมาถึงในปี 1868 เมื่อประธานบริคัม ยังก์ ขอให้เอไลซาช่วยวางระเบียบสมาคมสงเคราะห์ทั่วทั้งยูทาห์ “ผมอยากให้คุณชี้แนะพี่น้องสตรี” เขากล่าว ความคิดนั้นน่ากลัวอย่างมากจนเอไลซาอธิบายว่าหัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น3 แต่เธอกลับค้นพบความกล้าที่จะทำให้ดีที่สุด และเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ได้เรียนรู้ว่าการตอบรับการเรียกที่มีความท้าทายทำให้เธอเปี่ยมไปด้วยพลังมากกว่าที่เธอมี
เอไลซาอธิบายกับกลุ่มหนึ่งว่าประธานศาสนจักรเรียกเธอไปทำพันธกิจ และเธอยืนยันว่าการ “ลงมือทำทันทีในสิ่งที่เราต้องทำ” เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด4 ขณะที่เอไลซาสารภาพกับอีกกลุ่มหนึ่งว่าเธอไม่รู้สึกว่าเธอมีความสามารถที่จะพูด “แต่ด้วยศรัทธาและการสวดอ้อนวอนของท่านและพระวิญญาณของพระเจ้า ดิฉันอาจสามารถพูดอะไรบางอย่างที่จะช่วยปลอบโยนและเป็นพรแก่ท่านได้”5 เธอเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ในการแสวงหาพระวิญญาณเพื่อให้เธอสามารถพูดด้วยพลัง
เอไลซากระตุ้นให้สตรีค้นหาความกล้าที่จะยืนแบ่งปันประจักษ์พยานของตน “การพูดสิ่งที่ดีที่สุดในใจของท่านจะช่วยให้ประจักษ์พยานเพิ่มขึ้นและมีพลังมากขึ้น”6 เธอไม่เพียงเรียนรู้ที่จะพูดด้วยสิทธิอำนาจ แต่เธอยังสอนให้ผู้อื่นเผชิญหน้ากับความกลัวและกล้าพูดด้วย ◼