คนหนุ่มสาว

สิ่งอัศจรรย์ทันทีของฉันอยู่ที่ไหน?

โดย เอริกา แลมบ์

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

เมื่ออ่านเกี่ยวกับวิธีที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงเยียวยาผู้อื่นในทันที ดิฉันรู้สึกท้อแท้เพราะดิฉันไม่เห็นพรเช่นนี้ในชีวิตของดิฉันเลย

ดิฉันภาวนาให้เกิดสิ่งอัศจรรย์มาหลายเดือนแล้ว

ในเดือนกันยายนปี 2019 ดิฉันเข้ารับการผ่าตัดไซนัสและมีภาวะแทรกซ้อนที่ไม่คาดคิดทำให้ดิฉันสูญเสียการมองเห็นในตาข้างหนึ่ง ดิฉันเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อพยายามแก้ไขดวงตาข้างที่เสียหาย และศัลยแพทย์ของดิฉันรู้สึกมั่นใจว่าตาข้างนั้นจะหายสนิทภายในเวลาสามเดือน นอกจากนี้ ดิฉันยังได้รับพรฐานะปุโรหิตอยู่หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งดิฉันได้รับสัญญาว่าจะมีการฟื้นตัวจากอาการป่วยอย่างสมบูรณ์

แต่สามเดือนนั้นผ่านไป และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

ดิฉันได้รับสัญญาว่าจะหายดี หลายครั้ง แต่ดิฉันมีวันนัดผ่าตัดที่ไม่ได้เกิดขึ้น อุปสรรคและความผิดหวังอื่นๆ และตาของดิฉันก็ยังห่างไกลคำว่าหายดี

ประสบการณ์นี้ทำให้ดิฉันต้องเผชิญกับความยากลำบากทางจิตใจ อารมณ์ วิญญาณ และร่างกายเป็นเวลาหลายเดือน แต่ทุกครั้งที่ดิฉันได้รับพรอีกครั้งหนึ่ง ดิฉันได้รับสัญญาเสมอว่าจะหายดี

ซึ่งก็ทำให้ดิฉันคิดว่า เราจะทำอย่างไรเมื่อรอคอยสิ่งอัศจรรย์ที่ดูเหมือนจะไม่มาและเมื่อฟ้าสวรรค์ดูเงียบงัน? เราจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไรในเมื่อเราติดอยู่ในช่วงรอคอยคำตอบซึ่งบางครั้งเป็นอุปสรรคและความท้าทายที่อยู่ในชีวิตเรา?

ดิฉันครุ่นคิดกับคำถามนี้มาระยะหนึ่งแล้ว พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของดิฉัน ดิฉันยังเคยคิดถึงสิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดที่ดิฉันอ่านในพระคัมภีร์

ดิฉันศึกษาทุกครั้งที่พระเยซูทรงทำการอัศจรรย์หรือเยียวยาผู้คนระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์ และพูดตามตรง ตอนแรกดิฉันรู้สึกเสียใจ เพราะทุกครั้งที่มีคนถูกพามาหาพระคริสต์ พระองค์ทรงเยียวยาพวกเขาทันที

• ผู้หญิงที่เป็นโรคโลหิตตกสัมผัสกับชายฉลองพระองค์ และเธอหายเป็นปกติทันที (ดู มาระโก 5)

• ชายตาบอดขอการรักษา พระเยซูคริสต์ทรงบอกให้เขาไปล้างโคลนออกในสระสิโลอัม และเมื่อเขาทำ เขาก็หายเป็นปกติทันที (ดู ยอห์น 9)

• คนที่เป็นโรคเรื้อนพยายามได้รับการเยียวยา และเขาก็ได้รับการชำระอย่างสมบูรณ์ในทันที (ดู มัทธิว 8)

• ลูกสาวของไยรัสที่เสียชีวิตไปแล้วได้รับบัญชาจากพระผู้ช่วยให้รอดให้ฟื้นจากความตาย และเธอก็ฟื้นจริงๆ ในทันที! (ดู มาระโก 5)

• ชายที่มีผีโสโครกถูกปลดปล่อยทันทีเมื่อพระคริสต์ทรงเรียกเขา (ดู ลูกา 4)

ทั้งหมดนี้ไม่สมเหตุสมผลเลยสำหรับดิฉัน สิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดเกิดขึ้นในทันที แต่ทำไมดิฉันถึงยังรออยู่? ช่างไม่ยุติธรรมเลย

แต่หลังจากไตร่ตรองแล้ว ดิฉันก็ตระหนักถึงความจริงที่ว่า ถึงแม้สิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในทันที แต่คนที่ได้รับการรักษาก็รับมือกับความยากลำบากและความทุกข์ทรมานมานานแล้วก่อนที่จะได้รับการรักษา

• หญิงที่มีปัญหาเรื่องโลหิตตกต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลา 12 ปี ใช้ทรัพยากรทางอารมณ์และเงินจนหมดก่อนที่สิ่งอัศจรรย์จะมาถึง

• ชายตาบอดอาจไม่รู้อะไรเลยนอกจากการตาบอดมาทั้งชีวิตก่อนที่เขาจะได้รับพรด้านสายตา

• คนที่เป็นโรคเรื้อนได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคเรื้อนและความเจ็บปวดจากโรคนี้ โดยมีชีวิตอยู่อย่างคนที่ถูกขับไล่ไม่รู้ว่านานแค่ไหนก่อนที่เขาจะหายเป็นปกติ

• ลูกสาวของไยรัสต้องทนทุกข์ทรมานถึงขั้นเสียชีวิตก่อนที่สิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้น

• ชายที่มีผีโสโครกถูกผูกมัดมาระยะหนึ่งก่อนที่จะมีโอกาสได้รับอิสรภาพ

สิ่งนี้แสดงให้ดิฉันเห็นว่าบางครั้งสิ่งอัศจรรย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อความทุกข์เริ่มต้นขึ้น แต่ละคนต้องเดินทางด้วยความเจ็บปวดและต่อสู้ดิ้นรนก่อนที่จะได้รับการเยียวยา ขณะที่การเดินทางของบางคนอาจใช้เวลานานกว่าคนอื่นๆ แต่สิ่งอัศจรรย์ของการเยียวยาเกิดขึ้น เสมอ

ดิฉันหวังว่าดิฉันจะรู้ว่าการเดินทางกับการทดลองครั้งนี้จะดำเนินไปนานเพียงใด แต่บางทีการไม่รู้ก็อาจเป็นประเด็นสำคัญ ความท้าทายนำมาซึ่งโอกาส เราสามารถเลือกที่จะปล่อยให้ความลำบากหล่อหลอมเราและทำให้เรากลายเป็นตัวเราในแบบฉบับที่ดีที่สุด เราสามารถใช้ช่วงเวลาในการรอคอยนี้เพื่อเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างเรายิ่งขึ้น เราสามารถเชื่อมโยงและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในความทุกข์ของพวกเขา

เรามีโอกาส การเติบโต และการพัฒนาที่ดีเสมอขณะรอคอยสิ่งอัศจรรย์

ดิฉันยึดมั่นในความหวัง และศรัทธาว่าสิ่งอัศจรรย์แห่งการรักษาจะมาถึงและวันหนึ่งคำสัญญาที่ดิฉันเคยได้รับจะเป็นจริง แต่ในระหว่างนี้ ดิฉันสามารถอยู่ร่วมกับความเจ็บปวดนี้ได้ ดิฉันสามารถใช้เวลาของการรอคอยนี้เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ฉลาดขึ้น แข็งแกร่งขึ้น มีความอดทนมากขึ้น และมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้นได้ ดิฉันสามารถกระชับสัมพันธภาพกับพระบิดาบนสวรรค์ และพระผู้ช่วยให้รอดของดิฉัน พระเยซูคริสต์ได้

ไม่ว่าท่านกำลังรอสิ่งอัศจรรย์หรือคำสัญญาใดๆ อยู่ในตอนนี้ ไม่ว่าท่านจะรอมานานแค่ไหน ขออย่าหมดหวัง ไม่ว่าพระบิดาบนสวรรค์จะทรงสัญญาอะไรไว้กับท่าน สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น แต่สิ่งอัศจรรย์มาในเวลาของพระองค์ไม่ใช่เวลาของเรา อย่าหมดหวังในพระองค์ อย่าคิดว่าสวรรค์เงียบงัน พระองค์กำลังทรงเตรียมทางไว้ให้ท่าน จดจ่ออยู่กับปัจจุบันและทำสิ่งที่ทำได้เพื่อก้าวต่อไปในการเดินทางของท่านในวันนี้ ทีละก้าว จงยึดมั่นในความหวังขณะที่ท่านรอคอยสิ่งอัศจรรย์

สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น