หลักธรรมของการปฏิบัติศาสนกิจ

เราสามารถพบวิธีรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญได้ในทุกๆ วัน

การปฏิบัติศาสนกิจสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราเป็นได้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพิ่ม

คาร์ล (นามสมมติ) เพิ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติศาสนกิจต่อกัส คาร์ลพยายามหาสิ่งที่ทั้งสองคนมีเหมือนกัน แล้วคาร์ลได้เรียนรู้ว่ากัสสนใจการเขียนเหมือนกัน คาร์ลจึงเชิญเขาไปร่วมการประชุมของกลุ่มนักเขียนท้องถิ่น แต่ท้ายที่สุด ทั้งคู่ไม่เคยมีเวลาให้กับกลุ่ม แต่การเชื้อเชิญนั้นทำให้เกิดการสนทนาที่ดี นำไปสู่การไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันทุกสองสามสัปดาห์ ซึ่งช่วยสร้างมิตรภาพที่กัสสามารถพึ่งได้เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือในภายหลัง

เมื่อปฏิบัติศาสนกิจ คาร์ลและจูลี่ภรรยาของเขามองหาความสมดุลระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ มีหลายครั้งที่พวกเขาจะวางแผนร่วมกับการสวดอ้อนวอนบางอย่างที่มุ่งหวังจะสนับสนุนความก้าวหน้าของผู้อื่นตามเส้นทางพันธสัญญา แต่พวกเขาก็ยังพยายามทำให้การปฏิบัติศาสนกิจกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาด้วย

เมื่อจูลี่รับงานมอบหมายให้ใช้เวลาในช่วงเช้ารับใช้ในโรงงานแปรรูปอาหารของศาสนจักร เธอตัดสินใจเชิญชอว์นาไปกับเธอ ชอว์นามาโบสถ์ไม่กี่ครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่เธอย้ายเข้าไปอยู่ในละแวกนั้น จูลี่และชอว์นามีช่วงเวลาที่ดีในการรับใช้ร่วมกันที่โรงงาน ไม่นานหลังจากนั้น จูลี่และคาร์ลก็วางแผนเล่นเกมในตอนกลางคืนสำหรับกิจกรรมยามค่ำที่บ้าน พวกเขาตัดสินใจเชิญครอบครัวของชอว์นามาร่วมด้วย เนื่องจากจูลี่คิดว่าจะให้ชอว์นามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เธอวางแผนไว้แล้ว ทั้งสองจึงพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ต่อมาเมื่อชอว์นาเผชิญกับความท้าทายบางอย่าง เธอขอความช่วยเหลือกับคาร์ลสามีของจูลี่เพื่อขอพรฐานะปุโรหิต

การปฏิบัติศาสนกิจที่มีความหมายเกิดขึ้นได้เมื่อเราพบวิธีง่ายๆ ในการแสดงความรัก แบ่งปันศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์ เชื้อเชิญให้ผู้อื่นมาหาพระองค์และเข้าร่วมกับเรา—แม้ในสิ่งที่เรากำลังจะทำอยู่แล้ว

ภาพถ่ายโดย โมนิก้า จอร์จินา อัลวาราโด ซาราเต

ส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา

ศาสดาพยากรณ์เศคาริยาห์ช่วยผู้คนของเขาค้นหาวิธีทำให้ความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขา ภายใต้การนำของพระองค์ ผู้คนจารึกคำว่า “บริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์” บนสิ่งของที่พวกเขาเห็นตามปกติของวัน เช่น หม้อและลูก‍พรวน​ที่​ผูก​ม้า เพื่อเตือนให้พวกเขานึกถึงพระองค์ (ดู เศคาริยาห์ 14:20–21)

ศาสดาพยากรณ์ในสมัยปัจจุบันยังกระตุ้นให้เราหาวิธีที่เป็นธรรมชาติในการให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตเรา รวมถึงวิธีรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญอย่างเป็นธรรมชาติด้วย ยิ่งการเชื้อเชิญด้วยความรักของเราเป็นไปอย่างสบายใจและเป็นธรรมชาติมากเท่าใด เราก็ยิ่งสบายใจในการมอบความรักและการเชื้อเชิญของเรามากขึ้นเท่านั้น และคนอื่นๆ ก็จะรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะรับการเชื้อเชิญด้วย

หลักธรรมที่พึงพิจารณา

การวางแผนร่วมกับการสวดอ้อนวอนจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติศาสนกิจ เมื่อการปฏิบัติศาสนกิจกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราเป็น การปฏิบัติศาสนกิจอาจง่ายพอๆ กับความคิดที่จะให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในสิ่งที่เราอาจทำอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น:

• โทรศัพท์ของท่านพร้อมส่งข้อความหาเพื่อนแล้ว ใช้เวลา 10 วินาทีเพื่อพูดคุยสอบถามคนที่ท่านปฏิบัติศาสนกิจให้

• ท่านทำอาหารมากกว่าที่วางแผนไว้ แล้วส่งอาหารให้กับผู้ที่อาจต้องการ

• ท่านชอบบางสิ่งในการศึกษาพระคัมภีร์เมื่อเช้านี้ แบ่งปันสิ่งนั้นกับเพื่อน

• ครอบครัวของท่านกำลังจะไปสวนสาธารณะในค่ำคืนสำหรับครอบครัว เชิญเพื่อนบ้านให้ไปด้วยกัน

• ท่านได้รับเชิญให้พูดในการประชุมศีลระลึก เชิญเพื่อนร่วมงานมาฟังท่านพูด

เราจะทำอะไรได้บ้าง?

ท่านจะใช้สิ่งที่ท่านทำอยู่แล้วในสัปดาห์นี้เพื่อยื่นมือช่วยเหลือและมีส่วนร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร?

ค้นพบเพิ่มเติม

• อ่านคำแนะนำของประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ในการทำให้เรื่องต่างๆ เรียบง่ายและวิธีที่เรื่องเล็กและเรียบง่ายนั้นจะทำให้สิ่งสำคัญเกิดขึ้น (“เรื่องเล็กและเรียบง่าย,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 89–92).

• อ่านเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถยื่นมือช่วยเหลือในแบบที่เป็นปกติและเป็นธรรมชาติใน “ปฏิบัติศาสนกิจต่อคนทั้งปวง” โดย เอ็ลเดอร์ริชาร์ด นีตเซล โฮลแซพเฟล (เลียโฮนา, ธ.ค. 2020, 18–23).