ส่วนสิบ—เป็นพร ไม่ใช่ภาระ

โดย เอ็ลเดอร์มอยเซส วียานูเอวา

แห่งสาวกเจ็ดสิบ

พระผู้เป็นเจ้าประทานกฎส่วนสิบแก่เราเพื่อเป็นพรแก่เราทั้งทางโลกและทางวิญญาณ

ข้าพเจ้าเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เมื่อข้าพเจ้าอายุ 10 ขวบ ผู้สอนศาสนามาเคาะประตูบ้านและคุณแม่ก็อนุญาต เธอรับบัพติศมาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งทศวรรษ แต่ทำตัวห่างเหินจากศาสนจักรมาหลายปี ผู้สอนศาสนาสอนเรา คุณแม่ของข้าพเจ้ากลับสู่ความแข็งขันอีกครั้ง และข้าพเจ้ากับพี่น้องสี่คนรับบัพติศมา

สมัยนั้น เราอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก คุณแม่ของข้าพเจ้าซึ่งแยกจากคุณพ่อต้องทำงานหาเลี้ยงชีพเรา แม้ท่านจะทำงานถึงสามงาน แต่ท่านก็แทบมีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของเรา กระนั้นก็ตาม ในฐานะสมาชิกที่แข็งขันของศาสนจักร คุณแม่เต็มใจทำตามพันธสัญญาบัพติศมาของท่านและเชื่อฟังพระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เรา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกฎส่วนสิบ ดังนั้นถึงแม้จะเป็นเรื่องยากสำหรับท่านและทุกคนในครอบครัว แต่ท่านก็จ่ายส่วนสิบ

นอกจากนี้ คุณแม่ยังชอบเชิญผู้สอนศาสนามารับประทานอาหารที่บ้านของเราด้วย โดยในบางครั้งเธอจะเชิญผู้สอนศาสนามามากกว่า 10 คน และมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในบ้านของเราซึ่งคล้ายกับปาฏิหาริย์ในพันธสัญญาใหม่เมื่อพระเจ้าทรงเลี้ยงอาหารคน 5,000 คนด้วยขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัว และมีมากเกินพอที่จะสนองความหิวของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวข้าพเจ้าเมื่อผู้สอนศาสนามารับประทานอาหารในบ้านของเรา เมื่อเราวางใจพระเจ้า เราก็มีเพียงพอ

คุณแม่สอนข้าพเจ้าด้วยกฎเกณฑ์และแบบอย่างว่าพระผู้เป็นเจ้าประทานกฎส่วนสิบแก่เราเพื่อเป็นพรแก่เราทั้งทางโลกและทางวิญญาณ

กฎส่วนสิบ

ข้าพเจ้าเชื่อในกฎส่วนสิบ กฎนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณและประกอบด้วยการบริจาค 10 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ของเราให้ศาสนจักรเพื่อจุดประสงค์ในการเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ นอกเหนือสิ่งอื่นใด ส่วนสิบช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้

ให้ทุนสร้างและซ่อมบำรุงโบสถ์และพระวิหาร
สนับสนุนการสั่งสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
อำนวยความสะดวกในการพิมพ์พระคัมภีร์ในภาษาต่างๆ
เป็นทุนให้โรงเรียนที่ศาสนจักรเป็นเจ้าของ ตลอดจนการศึกษาศาสนาผ่านเซมินารีและสถาบัน
จัดให้มีการรวบรวม การแปลงเป็นดิจิทัล และการซ่อมบำรุงบันทึกประวัติครอบครัว

เป็นพร ไม่ใช่ภาระ

สำหรับข้าพเจ้า กฎส่วนสิบเป็นพรและไม่เป็นภาระ ใน มาลาคี 3:10 พระเจ้าตรัสว่า “จงลองดูเราในเรื่องนี้ว่า … เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า” ข้าพเจ้าชอบการเชื้อเชิญโดยตรงนี้ สำหรับข้าพเจ้า คำกล่าวนั้นราวกับว่าพระเจ้ากำลังตรัสกับข้าพเจ้าเป็นการส่วนตัวว่า “ถ้าเจ้าไม่เชื่อเรา ก็แค่ทำ แล้วเจ้าจะเห็นเอง”

สิ่งที่พระองค์ตรัสต่อไปทำให้ข้าพเจ้ามีความมั่นใจและความหวัง “และ [เราจะ] เทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้า” (มาลาคี 3:10) ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงทำให้สิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาเกิดสัมฤทธิผลเสมอ

“เราคือใครเล่า, พระเจ้าตรัส, ที่สัญญาไว้และยังไม่ทำให้มีสัมฤทธิผล?

“เราบัญชาและมนุษย์หาเชื่อฟังไม่; เรายกเลิกและพวกเขาไม่ได้รับพร

“ดังนั้น พวกเขากล่าวในใจว่า : นี่มิใช่งานของพระเจ้า, เพราะสัญญาของพระองค์ไม่มีสัมฤทธิผล (หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:31–33)

“ทำไมฉันจึงไม่ได้รับพร?”

ครั้งหนึ่งเมื่อสิ้นสุดพิธีศีลระลึก ซิสเตอร์คนหนึ่งมาหาข้าพเจ้าและถามข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าจะให้คำแนะนำอะไรกับเธอได้บ้าง เธอบอกว่าเธอกำลังสูญเสียศรัทธาในกฎส่วนสิบ เธออธิบายว่าเธอพยายามได้รับการเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงแม้เธอจ่ายส่วนสิบอย่างซื่อสัตย์และขอให้พระผู้เป็นเจ้าประทานพรเธอด้วยการเลื่อนตำแหน่งนี้ แต่เธอยังไม่ได้รับพรที่ต้องการอย่างมากนี้ คำแนะนำของข้าพเจ้าสำหรับซิสเตอร์คนนี้เหมือนกับที่ข้าพเจ้าแบ่งปันกับท่านในตอนนี้

ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าเมื่อพระเจ้าทรงสัญญากับเราถึงพรอย่างล้นไหล บางครั้งเราคิดว่านั่นหมายความว่าเราจะได้รับความมั่งคั่งทางวัตถุทันที เช่น ได้เงินเพิ่มหรือได้เลื่อนตำแหน่งในที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “เมื่อเราดำเนินชีวิตตามกฎส่วนสิบ เรามักจะได้รับพรที่สำคัญแต่แฝงอยู่ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังเสมอไปและมองข้ามได้ง่าย”¹

การรับรู้พร

สิ่งสำคัญที่ต้องกล่าวคือเราสามารถระบุพรเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยส่วนตัวข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุขที่ได้งานมั่นคงมาหลายปี ข้าพเจ้ารู้สึกได้รับพรเพราะพระเจ้าทรงช่วยให้ข้าพเจ้า ภรรยา และลูกๆ มีสุขภาพที่ดี พระองค์ทรงอวยพรให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะจัดการเวลาและทรัพยากร และได้รับการศึกษาเพิ่มเติม พระองค์ทรงช่วยให้ข้าพเจ้าเรียนรู้วิธีจัดการทรัพยากรทางโลกเพื่อทำสิ่งที่พระองค์ประทานให้มากขึ้น

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสอนข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าควรสำนึกคุณต่อสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ สำหรับข้าพเจ้า นั่นคือความหมายของการเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์และรับพรมากมาย

ไม่ได้รับการยกเว้นจากการทดลอง

การจ่ายส่วนสิบไม่ได้ยกเว้นเราจากการทดลอง แต่ข้าพเจ้าตระหนักว่าพระเจ้าประทานพรให้ข้าพเจ้าด้วยความเข้มแข็งและปัญญา และทรงเตรียมทางไว้เพื่อข้าพเจ้าจะเอาชนะเวลายากลำบากได้

เมื่อตอนที่ลูกชายคนโตของข้าพเจ้ายังเป็นทารก ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์ที่สำนักงาน มีคนบุกเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า ความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าพเจ้าคือเรื่องสวัสดิภาพของภรรยาและลูกชาย ทรัพย์สินหลายอย่างของเราถูกขโมยไป รวมทั้งหนังสือเดินทางและวีซ่า ซึ่งเราเพิ่งดำเนินการเพื่อไปเรียนหลักสูตรในต่างประเทศ แม้ว่าทรัพย์สินจะสูญหายไป แต่ข้าพเจ้ารู้สึกได้รับพรอย่างมากเพราะภรรยาและลูกชายไม่อยู่บ้านในตอนที่เกิดการลักทรัพย์ นั่นเป็นพรอย่างแน่นอน

พระเจ้าทรงเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์และวางคนที่เหมาะสมไว้ในเส้นทางของเราซึ่งสามารถช่วยเราดำเนินการเอกสารที่เราต้องการเพื่อเข้าร่วมหลักสูตรได้อีกครั้ง และถึงแม้จะเกิดความโกลาหลจากเหตุการณ์ลักขโมย แต่ข้าพเจ้ากับครอบครัวก็ยังได้รับพรของการรับรองทางวิญญาณว่าทุกอย่างจะดี

ต่อมา ธุรกิจที่ข้าพเจ้าทำงานได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองในเมืองบ้านเกิดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากังวลว่าทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นด้วยการทำงานหนักและการเสียสละจะสูญหายไป อย่างไรก็ตาม หน้าต่างแห่งฟ้าสวรรค์ก็เปิดออกอีกครั้ง ธุรกิจฟื้นตัวด้วยศรัทธา ความอุตสาหะ และการทำงานหนัก

“หญิงม่ายยากจนคนนี้ใส่ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าทุกคนที่ใส่ไว้นั้น

“เพราะว่าทุก‍คนได้เอาเงินเหลือใช้ของพวก‍เขามาใส่ แต่หญิงคนนี้ในสภาพที่ยาก‍จนเอาเงินเลี้ยง‍ชีพ ทั้ง‍สิ้นของนางใส่ลง‍ไปจนหมด”

มาระโก 12:43–44

หญิงม่ายยากจน โดย เจมส์ ทิสซอท

ด้วยความตั้งใจจริง

ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ เราให้ความสำคัญอย่างมากต่อธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ของส่วนสิบและการบริจาค กฎส่วนสิบทดสอบคนมั่งมีและคนจนเหมือนกัน คนจนอาจพูดว่า “ฉันต้องการเงินสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเพื่อความอยู่รอด” หรือคนมั่งมีอาจพูดว่า “สิบเปอร์เซ็นต์นั้นไม่ใช่น้อยๆ เลย” แต่ไม่ว่าเราจะยากจนหรือร่ำรวย พระเจ้าทรงขอให้เราถวายเครื่องบูชาด้วยสุดใจด้วยความตั้งใจจริง ไม่ว่าเราจะถวายเป็นจำนวนเท่าใด ก็ควรเป็นส่วนสิบเต็ม ทบทวนเรื่องราวของหญิงม่ายยากจน:

“พระเยซูประทับตรงหน้าตู้เก็บเงินถวาย ทรงสังเกตฝูงชนเอาเงินมาใส่ไว้ในตู้นั้น และมีคนมั่งมีหลายคนเอาเงินมากมายมาใส่

“แต่มีหญิงม่ายยากจนคนหนึ่งเดินมา นางเอาเหรียญทองแดงสองอัน มีค่าประมาณโคดรันเทสหนึ่งมาใส่ไว้

“พระองค์จึงทรงเรียกพวกสาวกมาตรัสกับพวกเขาว่า เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายยากจนคนนี้ใส่ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าทุกคนที่ใส่ไว้นั้น

“เพราะว่าทุกคนได้เอาเงินเหลือใช้ของพวกเขามาใส่ แต่หญิงคนนี้ในสภาพที่ยากจน เอาเงินเลี้ยงชีพทั้งสิ้นของนางใส่ลงไปจนหมด” (มาระโก 12:41–44)

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่ากฎส่วนสิบเป็นพรในชีวิตข้าพเจ้า พระเจ้าทรงเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์และเทพรอย่างล้นไหลอย่างแท้จริง พรเหล่านี้ไม่ได้มาเมื่อเราต้องการเสมอไป แต่เราต้องแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณเพื่อเราจะรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ กำลัง ประทานอะไรให้เราอย่างล้นไหล ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้พระเจ้าประทานพรท่านเพื่อท่านจะรับรู้ถึงพรของกฎส่วนสิบในชีวิตท่าน