“3 นีไฟ 1: ‘คำพยากรณ์ของศาสดาพยากรณ์เริ่มเกิดสัมฤทธิผล’” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู (2024)
“3 นีไฟ 1” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู
3 นีไฟ 1
“คำพยากรณ์ของศาสดาพยากรณ์เริ่มเกิดสัมฤทธิผล”
จะเป็นอย่างไรหากได้รอและเห็นดาวที่ประกาศการประสูติของพระเยซูคริสต์? ผู้เชื่อชาวนีไฟเฝ้าดูเครื่องหมายที่แซมิวเอลชาวเลมันพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้น (ดู ฮีลามัน 14) แต่ผู้ไม่เชื่อขู่ว่าจะฆ่าพวกท่านหากเครื่องหมายไม่ปรากฏ บทเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ท่านรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าพระเจ้าจะทรงทำให้พระวจนะทั้งหมดที่พระองค์ตรัสผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล
กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้
เสริมสร้างความเข้มแข็งโดยศรัทธา
-
จากระดับหนึ่งถึงห้า โดยห้าคือ มากที่สุด ท่านจะให้คะแนนระดับความเชื่อหรือความมั่นใจว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เกิดสัมฤทธิผลอย่างไร? เพราะเหตุใด?
เมื่อแซมิวเอลชาวเลมันมาอยู่ในหมู่ชาวนีไฟ ท่านพยากรณ์ว่า “อีกห้าปีที่จะถึง, และดูเถิด, เมื่อนั้นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา” (ฮีลามัน 14:2) เหล่าศาสดาพยากรณ์ได้พยากรณ์เกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์เป็นเวลาหลายพันปี และเวลาที่คาดหมายสำหรับการประสูติของพระองค์มาถึงแล้ว หนังสือ 3 นีไฟเริ่มเมื่อห้าปีเหล่านั้นสิ้นสุดลง
-
หากท่านเป็นคนหนึ่งที่เชื่อแซมิวเอล ท่านคิดว่าท่านจะรู้สึกอย่างไรในเวลานี้?
ขณะศึกษา ให้มองหาความคล้ายคลึงกันระหว่างสภาวการณ์ใน 3 นีไฟ 1 และสภาวการณ์ในยุคสมัยของเรา ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายคำและวลีที่มีความหมายซึ่งเสริมสร้างความวางใจของท่านในพระผู้เป็นเจ้าและถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ของพระองค์
ผู้เชื่อชาวนีไฟ
ในตอนต้นของ 3 นีไฟ 1 เราเรียนรู้ว่านีไฟบุตรของฮีลามันออกไปจากแผ่นดิน และเวลานี้นีไฟบุตรชายของท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ในหมู่ชาวนีไฟ
อ่าน 3 นีไฟ 1:4–9 โดยมองหาความท้าทายที่ผู้เชื่อชาวนีไฟต้องเผชิญในเวลานี้
-
ท่านคิดว่าสิ่งใดทำให้บางคน “เฝ้าคอยอย่างแน่วแน่” (ข้อ 8) แม้จะถูกข่มขู่ว่าต้องตาย?
อ่าน 3 นีไฟ 1:10–14 เพื่อเรียนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
-
ท่านจินตนาการว่านีไฟรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินสุรเสียงของพระเจ้า?
-
ท่านคิดว่าพระเจ้าทรงต้องการให้นีไฟและผู้คนเข้าใจอะไร?
-
เราจะระบุความจริงอะไรได้จากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้?
ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์จะเกิดสัมฤทธิผล
ท่ามกลางความจริงหลายประการที่พบในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ เราเรียนรู้ว่า พระเจ้าจะทรงทำให้พระวจนะทั้งหมดที่พระองค์ตรัสผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายความจริงนี้ในข้อ 13
อ่าน 3 นีไฟ 1:15–22 โดยมองหาว่าผู้คนตอบสนองอย่างไรเมื่อคำพยากรณ์เกิดสัมฤทธิผล
-
ท่านคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงตอบสนองแตกต่างกันมาก?
-
ผู้เชื่อได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งระหว่างประสบการณ์นี้อย่างไร?
-
ประสบการณ์นี้จะเพิ่มความมั่นใจในแผนของพระเจ้าสำหรับชีวิตท่านได้ในทางใดบ้าง?
ประสบการณ์ของท่าน
เช่นเดียวกับชาวนีไฟใน 3 นีไฟ 1 เราอยู่ในช่วงเวลาที่ดูเหมือนอนาคตมีแต่ความไม่แน่นอน เราจะมีความมั่นใจในพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์ที่ประทานผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ได้อย่างไร?
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:
การมีศรัทธาแรงกล้าไม่ใช่ความโง่เขลาหรือความคลั่งไคล้ แต่คือการวางใจและเชื่อมั่นในพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอด ในพระนามของพระองค์ และในคำสัญญาของพระองค์ เมื่อเรา “มุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, โดยมีความเจิดจ้าอันบริบูรณ์แห่งความหวัง, และความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อมนุษย์ทั้งปวง” [2 นีไฟ 31:20] เราจะได้รับพรโดยมีมุมมองและวิสัยทัศน์นิรันดร์ที่ยาวไกลเกินความสามารถอันจำกัดของเรา เราจะสามารถ “รวบรวมกัน, และยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” [หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:22] และ “ไม่หวั่นไหว, จนวันของพระเจ้ามาถึง” [หลักคำสอนและพันธสัญญา 87:8] (เดวิด เอ. เบดนาร์, “พวกเราจะพิสูจน์พวกเขาโดยวิธีนี้,” เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 11)
ลองนึกดูว่าเหตุใดท่านอาจมีปัญหาระหว่างการมีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้ากับความรู้สึกไม่แน่นอนหรือความกลัวเกี่ยวกับชีวิตของท่าน เหตุผลเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวสำหรับแต่ละบุคคล แต่อาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:
-
ถูกเยาะเย้ยหรือถูกโจมตีเพราะความเชื่อในพระเยซูคริสต์
-
มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมถึงพ่อแม่ที่แยกทางกันจากการหย่าร้าง
-
ประสบกับความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า
-
กังวลเกี่ยวกับคนรักที่เสน่หาเพศเดียวกัน
-
ความทุกขเวทนาจากการติดสารเสพติดหรือดิ้นรนเอาชนะนิสัยที่สร้างความเสียหาย
-
การกลัวว่าไม่อาจได้มาซึ่งพรของพระกิตติคุณ
-
รู้สึกไม่คู่ควรหรือไม่ได้รับการให้อภัย
ใน ยอห์น 16:33 พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”
-
ศาสดาพยากรณ์เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านคงไว้ซึ่งศรัทธาในพระองค์? (ท่านอาจต้องการอ่าน แอลมา 7:11–13; อีเธอร์ 12:27; อิสยาห์ 25:8–9) ท่านคิดว่าพระองค์จะทรงช่วยในสภาวการณ์ของท่านได้อย่างไร?
-
เมื่อใดที่การวางใจพระเจ้าหรือถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ทำให้ท่านหรือคนที่ท่านรู้จักเข้มแข็งขึ้นในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนหรือความกลัว? การจดจำประสบการณ์นี้จะช่วยให้ท่านตระหนักถึงความช่วยเหลือของพระองค์ในชีวิตได้อย่างไร?
ท่านอาจต้องการบันทึกความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้ในวันนี้ อาจรวมถึงการกระทำที่ท่านรู้สึกว่าได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำ หรือวิธีที่ท่านได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งโดยการเข้าใจว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้พระวจนะที่พระองค์ตรัสผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล