3 นีไฟ 6–7

ความหยิ่งจองหองนำไปสู่การแตกแยกและความพินาศ

ท่านเคยสังเกตหรือไม่ว่าแม้จะมีประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์กับพระผู้เป็นเจ้า แต่ในที่สุดบางคนก็ละทิ้งพระองค์? หลังจากพระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องชาวนีไฟจากโจรแกดิแอนทัน พวกเขากลับบ้านและเริ่มสร้างชีวิตใหม่ ซาตานนำผู้คนให้กบฏต่อพระผู้เป็นเจ้าผ่านความจองหองและความแตกแยก ผลที่ตามมารุนแรงมากจนการปกครองล่มสลาย และผู้คนแตกแยกออกเป็นชนเผ่าต่างๆ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจผลกระทบของความจองหองและวิธีเอาชนะความจองหองได้ดียิ่งขึ้นโดยทำตามพระผู้ช่วยให้รอด

ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบริบทและเนื้อหาการเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์เตรียมนักเรียนให้พร้อมรับรู้ข่าวสารสร้างแรงบันดาลใจของผู้เขียน บริบทและเนื้อหาให้ความกระจ่างและแสดงตัวอย่างหลักคำสอนและหลักธรรมที่บันทึกไว้ในประสบการณ์ ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดว่าจะเน้นบริบทและเนื้อหามากน้อยเพียงใดเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความจริงที่พระคัมภีร์สอนได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนสวดอ้อนวอนและทูลขอพระบิดาบนสวรรค์ให้ช่วยพวกเขาตระหนักถึงการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณขณะศึกษาพระคัมภีร์

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

วิธีหนึ่งในการเริ่มชั้นเรียนคือ นำเมล็ดข้าวโพด ป๊อปคอร์นที่คั่วแล้ว (ไม่ทาเนยเพราะเนยเป็นตัวเคลือบไม่ให้โดนน้ำ) และชามใส่น้ำมาที่ชั้นเรียน เชื้อเชิญให้นักเรียนคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อใส่เมล็ดข้าวโพดและป๊อปคอร์นที่คั่วแล้วลงไปในน้ำ ใส่เมล็ดข้าวโพดและป๊อปคอร์นลงไปในน้ำ (เมล็ดข้าวโพดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่ป๊อปคอร์นเริ่มละลาย) บอกนักเรียนว่าน้ำแทนความชั่วร้าย และเมล็ดข้าวโพดหรือป๊อปคอร์นอาจแทนเราแต่ละคน ขณะศึกษา พวกเขาอาจมองหาบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์กับตัวพวกเขาเองได้ ท่านอาจแจกเมล็ดข้าวโพดให้นักเรียนแต่ละคนดูขณะศึกษา

เชื้อเชิญให้นักเรียนอธิบายคำตอบของคำถามต่อไปนี้:

• เป็นไปได้หรือไม่ที่คนบางคนจะ:

• ร่ำรวยและนอบน้อมถ่อมตน?

• ยากจนและหยิ่งจองหอง?

• มีการศึกษาและนอบน้อมถ่อมตน?

• ไม่มีการศึกษาและหยิ่งจองหอง?

นึกถึงสิ่งที่ทำให้บางคนจองหองในยุคสมัยของเรา ความจองหองส่งผลกระทบต่อท่าน ผู้อื่น และสังคมอย่างไร? ขณะศึกษา ให้ไตร่ตรองว่าบทเรียนนี้อาจนำไปใช้กับชีวิตและสภาวการณ์ของท่านได้อย่างไร

การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของซาตาน

หลังจากเอาชนะกิดดิแอนไฮและโจรแกดิแอนทันด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า ชาวนีไฟ “จึงได้หยุดการมั่วสุมลับ, อันชั่วร้าย, และน่าชิงชังทั้งหมดนั้น” (3 นีไฟ 5:6) พวกเขากลับบ้านและเริ่มสร้างชีวิตใหม่ แต่ซาตานทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อหลอกลวงผู้คนให้ติดตามเขา ไม่นานชาวนีไฟก็เปลี่ยนไป ใน 3 นีไฟ 6–7 มอรมอนช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่ผู้คนทำจนเป็นสาเหตุให้หลายคนต้องตายจากความพินาศก่อนพระผู้ช่วยให้รอดเสด็จมาทวีปอเมริกา (ดู 3 นีไฟ 8) คำสอนเหล่านี้อธิบายด้วยว่าเหตุใดผู้อื่นจึงเตรียมพร้อมสำหรับการปรากฏของพระคริสต์ที่พระวิหารในแผ่นดินอุดมมั่งคั่ง (ดู 3 นีไฟ 11)

แผนภูมิต่อไปนี้จะช่วยให้นักเรียนเห็นการเปลี่ยนแปลงของชาวนีไฟในระยะเวลาอันสั้น อีกวิธีหนึ่งในการกรอกแผนภูมิคือให้นักเรียนวาดภาพง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะของผู้คนในข้อพระคัมภีร์แต่ละชุด

สร้างแผนภูมิตามนี้ อ่านข้อพระคัมภีร์และกรอกสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับสภาวะของผู้คน

ปีที่ 26 (3 นีไฟ 6:4–9)	ปีที่ 29 (3 นีไฟ 6:10–18)
ปีที่ 26 (3 นีไฟ 6:4–9)	ปีที่ 29 (3 นีไฟ 6:10–18)

• สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้นคืออะไร?

• เราจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจากตัวอย่างเหล่านี้?

ความจริงอย่างหนึ่งที่อาจระบุได้คือ เมื่อเราจองหอง เราให้อำนาจซาตานมากขึ้นในการล่อลวงและนำเราไปสู่ความชั่วช้าสามานย์

ลองคิดดูว่าความหยิ่งจองหองหมายความว่าอย่างไร ค้นหาข้อคิดในข้อความต่อไปนี้จากประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994)

ลักษณะสำคัญของความหยิ่งจองหองคือความเป็นอริ—ความเป็นอริต่อพระผู้เป็นเจ้าและความเป็นอริต่อเพื่อนมนุษย์ของเรา ความเป็นอริ หมายถึง “ความเกลียดชัง การเป็นศัตรู หรือสภาพของการต่อต้าน” ความเป็นอริคืออำนาจที่ซาตานปรารถนาจะใช้ปกครองเรา (Ezra Taft Benson, “Beware of Pride,” Ensign, May 1989, 4)

• เหตุใดท่านจึงคิดว่าการหยิ่งจองหองทำให้ซาตานมีอิทธิพลต่อเรามากขึ้น?

• สิ่งนี้แตกต่างจากที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงกระตุ้นเตือนเราอย่างไร?

ผลของความหยิ่งจองหองในตอนนั้นและตอนนี้

เพราะความหยิ่งจองหองของผู้คน ทุกส่วนของสังคมจึงเริ่มได้รับผลกระทบ อ่าน 3 นีไฟ 6:20–30 หรือ 7:1–14 เพื่อมองหาตัวอย่างว่าความหยิ่งจองหองส่งผลต่อบุคคลและสังคมอย่างไร

ท่านอาจให้นักเรียนครึ่งชั้นอ่าน 3 นีไฟ 6:20–30 และอีกครึ่งชั้นอ่าน 3 นีไฟ 7:1–14 เป็นกลุ่มเล็กๆ หรือเชื้อเชิญให้นักเรียนเลือกหนึ่งในข้อความ อ่าน และเตรียมรายงานสิ่งที่พบ

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนคำตอบบนกระดานสำหรับคำถามถัดไป นักเรียนอาจพบสิ่งต่างๆ เช่น การแตกแยก งานลับที่ชั่วร้าย การวางแผนต่อต้านคนชอบธรรม และโกรธสิ่งที่ดี

• ท่านพบตัวอย่างอะไรเกี่ยวกับผลของความหยิ่งจองหองในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้?

• ซาตานใช้ความหยิ่งจองหองเพื่อนำผู้คนไปสู่ความชั่วช้าสามานย์ในยุคสมัยของเราในทางใดบ้าง?

การเอาชนะความหยิ่งจองหอง

พิจารณาว่าความหยิ่งจองหองของท่านหรือความหยิ่งจองหองของผู้อื่นส่งผลต่อท่านอย่างไร และท่านจะเอาชนะความหยิ่งจองหองและผลของความหยิ่งจองหองได้อย่างไร

แม้ว่าความหยิ่งจองหองจะก่อให้เกิดความพินาศมากมาย บางคนใส่ใจถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และติดตามพระผู้ช่วยให้รอดต่อไป

อ่าน 3 นีไฟ 7:15–26 โดยมองหาสิ่งที่นีไฟสอนผู้คนและผลกระทบที่มีต่อพวกเขา อาจเป็นประโยชน์ที่จะทำเครื่องหมายทุกครั้งที่กล่าวถึงพระผู้ช่วยให้รอด

นักเรียนอาจเขียนคำตอบสำหรับคำถามต่อไปนี้บนกระดาน ขณะเขียนคำตอบ พวกเขาจะตัดผลของความหยิ่งจองหองที่เอาชนะได้ด้วยคำตอบที่เขียนไว้

นักเรียนอาจค้นหาข้อพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนที่แสดงให้เห็นถึงวิธีเพิ่มเติมในการเอาชนะความหยิ่งจองหองได้เช่นกัน

• ท่านพบตัวอย่างอะไรบ้างในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์ช่วยให้บางคนเอาชนะความหยิ่งจองหองและความชั่วช้าสามานย์ได้อย่างไร?

สถานการณ์สมมติและคำถามต่อไปนี้ไม่เพียงมีเจตนาที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงวิธีต่างๆ ที่ความหยิ่งจองหองจะส่งผลต่อพวกเขาได้ แต่การติดตามพระเยซูคริสต์ยังช่วยให้พวกเขาเอาชนะความหยิ่งจองหองได้อย่างไรด้วย ท่านอาจเลือกปรับสถานการณ์สมมติในรูปแบบที่อาจทำให้มีความหมายมากขึ้นสำหรับนักเรียน

นี่คือจิม เขายังไม่รู้ตัว แต่เขามีปัญหาเรื่องความหยิ่งจองหอง

• มีหลักฐานอะไรบ้างที่ท่านอาจคาดหวังว่าจะเห็นในชีวิตของจิมว่าเขามีปัญหาเรื่องความหยิ่งจองหอง?

นักเรียนอาจนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 3 นีไฟ 6–7 ตัวอย่างเช่น เขาแบ่งผู้คนออกเป็นกลุ่มๆ ในใจ—กลุ่มดีและกลุ่มไม่ดี เขายังทำบางสิ่งที่รู้ว่าผิดและเก็บเป็นความลับ เขาตอบสนองด้วยความหงุดหงิดต่อผู้คนที่กระตุ้นให้เขาเปลี่ยนแปลง เขามักจะวิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่และอธิการเกี่ยวกับสิ่งที่พวกท่านขอให้เขาทำ

หลังจากรับรู้ถึงปัญหาและคิดได้ว่าความผิดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเป็นผลมาจากความหยิ่งจองหอง เขาต้องการคำตอบว่าจะกำจัดความหยิ่งจองหองอย่างไรดี

• ท่านจะเสนอทางออกใดเพื่อช่วยให้จิมเอาชนะความหยิ่งจองหองได้?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนติดต่อคนรู้จักเพื่อถามถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีเอาชนะความหยิ่งจองหอง แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านถึงเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดที่จะช่วยให้เราเอาชนะความหยิ่งจองหองและความชั่วร้าย

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

เรามองความหยิ่งจองหองและความแตกแยกในยุคสมัยของเราอย่างไร?

เอ็ลเดอร์เควนทิน เเอล. คุกแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า:

ในสมัยของเรา พระบัญชาจากพระคัมภีร์ที่ให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั้นมักจะถูกเพิกเฉย หลายคนมุ่งเน้นที่การแบ่งพรรคแบ่งพวก บ่อยครั้งตามสถานะ เพศ เชื้อชาติ และความมั่งคั่ง ในหลายประเทศ หรืออาจจะเกือบทุกประเทศ ผู้คนแตกแยกกันมากในเรื่องของวิธีดำเนินชีวิต ในศาสนจักรของพระเจ้า วัฒนธรรมเดียวที่เรายึดมั่นและสอนคือวัฒนธรรมพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ความเป็นหนึ่งเดียวที่เราแสวงหาคือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพระผู้ช่วยให้รอดและคำสอนของพระองค์ …

… พระคัมภีร์มอรมอนทำให้เห็นชัดเจนว่าจะต้องไม่มีชาวพรรคพวก เผ่าพันธุ์ หรือชนชั้นใดๆ เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันและเท่าเทียมกันต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า (เควนทิน แอล. คุก “เตรียมพบพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 116)

ตัวบ่งชี้ความหยิ่งจองหองมีอะไรบ้าง?

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองระบุว่า:

เมื่อเป็นคนจองหอง เรามีแนวโน้มที่จะยกย่องตนเองแทนที่จะให้เกียรติผู้อื่น รวมทั้งพระเจ้า คนจองหองมักชิงดีชิงเด่น มักจะหาทางมีมากกว่าและคิดว่าเราดีกว่าคนอื่น ความจองหองมักส่งผลให้เกิดความรู้สึกโกรธและเกลียดชังทำให้คนนั้นเจ็บแค้นหรือไม่ให้อภัย (เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน, “อุปราคาทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 47)

เหตุการณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนเกี่ยวข้องกับยุคสมัยของเราอย่างไร?

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) เปรียบเทียบเหตุการณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนกับยุคสมัยของเราโดยระบุว่า:

ในพระคัมภีร์มอรมอนเราจะพบรูปแบบสำหรับการเตรียมรับการเสด็จมาครั้งที่สอง เนื้อหาหลักของพระคัมภีร์มุ่งเน้นช่วงเวลาไม่กี่ทศวรรษก่อนการเสด็จเยือนอเมริกาของพระคริสต์ เมื่อเราศึกษาเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นอย่างถี่ถ้วน เราจะคิดได้ว่าเหตุใดบางคนจึงถูกทำลายในการพิพากษาอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นก่อนการเสด็จมาของพระองค์และอะไรนำคนอื่นๆ มายืนอยู่ที่พระวิหารในแผ่นดินอุดมมั่งคั่งและแยงมือเข้าไปในรอยแผลที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ (Ezra Taft Benson, “Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” Ensign, Nov. 1986, 6–7)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

การระลึกถึงพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ช่วยให้เอาชนะความหยิ่งจองหอง

เมื่อชาวนีไฟกลายเป็นคนชั่วร้าย มนุษย์ได้รับการดลใจจากสวรรค์ให้เป็นพยานถึงการไถ่และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอด (ดู 3 นีไฟ 6:20) ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำเพื่อพวกเขา และสิ่งนั้นจะเพิ่มความสำนึกคุณและความนอบน้อมถ่อมตนของพวกเขาได้อย่างไร พวกเขาอาจระบุวิธีที่จะระลึกถึงการไถ่และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดบ่อยขึ้นในระหว่างวัน

การปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงปฏิบัติ

ในตอนท้ายของบทเรียน ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนวางแผนที่จะหลีกเลี่ยงความหยิ่งจองหอง เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ อาจเชื้อเชิญให้พวกเขาเขียนรายชื่อคนที่มีปฏิสัมพันธ์ด้วยทุกวันและใคร่ครวญว่าพวกเขาปฏิบัติต่อคนเหล่านั้นอย่างไร นักเรียนอาจให้คะแนนว่าพวกเขาปฏิบัติต่อคนแต่ละคนอย่างไร โดยใช้ระดับคะแนนจากหนึ่ง (ไม่ดี) ถึงห้า (ตามที่พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงปฏิบัติ) จากนั้นพวกเขาอาจทำแผนเฉพาะบุคคลตามคนที่พวกเขารู้สึกว่าอาจปฏิบัติให้ดีขึ้นได้

แบบอย่างความนอบน้อมถ่อมตนของพระคริสต์

พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมสำหรับเราทุกคน ยังทรงเลือกความนอบน้อมถ่อมตนเหนือความหยิ่งจองหองเสมอ เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนตัวอย่างจากพระชนม์ชีพของพระองค์ซึ่งพระองค์อาจมีความหยิ่งจองหอง แต่ทรงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนอันสมบูรณ์แบบของพระองค์แทน ตัวอย่างรวมถึงการเผชิญหน้าของพระองค์กับซาตานใน มัทธิว 4:1–11 และปาฏิหาริย์ที่สระเบธซาธา ใน ยอห์น 5:1–9, 19 อาจเป็นประโยชน์ที่จะทบทวนวีดิทัศน์พระคัมภีร์ไบเบิลบางส่วนเพื่อหาตัวอย่าง