พระเยซูและเหล่าสาวกของพระองค์ © Balage Balogh/Art Resource, NY

23 กรกฎาคม

การเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร?

กิจการของอัครทูต 10–15

หารือกัน

นำโดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานโควรัมหรือฝ่ายประธานชั้นเรียน ประมาณ 10–20 นาที

เมื่อเริ่มการประชุม ให้ท่อง สาระสำคัญเยาวชนหญิง หรือ สาระสำคัญโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน พร้อมกัน จากนั้นนำการสนทนาเกี่ยวกับงานแห่งความรอดและความสูงส่งโดยใช้คำถามด้านล่างหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้นหรือคำถามของท่านเอง (ดู คู่มือทั่วไป, 10.2, 11.2) วางแผนวิธีปฏิบัติตามที่ท่านสนทนา

• ดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ เราเคยเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าในชีวิตเราอย่างไร?

• ดูแลคนขัดสน เราจะสนับสนุนกันในสิ่งที่เรากำลังประสบได้อย่างไร?

• เชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ เราจะใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือแบ่งปันพระกิตติคุณให้ดีขึ้นได้อย่างไร?

• ทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์ เรากำลังทำอะไรเพื่อช่วยให้ครอบครัวเรามาหาพระคริสต์?

ตอนจบบทเรียนให้ทำดังต่อไปนี้เมื่อเห็นเหมาะสม:

• เป็นพยานถึงหลักธรรมที่สอน

• เตือนความจำสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนเกี่ยวกับแผนและคำเชื้อเชิญที่ทำไว้ระหว่างการประชุม

สอนหลักคำสอน

นำโดยผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน ประมาณ 25–35 นาที

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

บทที่ 11 ของกิจการบันทึกว่าเป็นครั้งแรกที่ “พวกสาวกได้ชื่อว่าคริสเตียน” (ข้อ 26) สิทธิพิเศษและหน้าที่รับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์คือการได้ชื่อว่าเป็นสาวกคนหนึ่งของพระคริสต์และถูกเรียกตามพระนามของพระองค์ ดังที่ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดกล่าว: “เราตระหนักหรือไม่ว่าเป็นพรเพียงใดที่เรารับพระนามของพระบุตรที่รักพระองค์เดียวที่ถือกำเนิดจากพระผู้เป็นเจ้า เราเข้าใจหรือไม่ว่านั่นสำคัญเพียงใด พระนามของพระผู้ช่วยให้รอดเป็นเพียงพระนามเดียวภายใต้ฟ้าสวรรค์ซึ่งโดยพระนามนั้นมนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอด” (“ความสำคัญของชื่อ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 79)

การเป็นชาวคริสต์—สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร? การเป็นสมาชิกของชั้นเรียนหรือโควรัมของท่านหมายความว่าอย่างไร? การรับพระนามของพระองค์มีอิทธิพลต่อท่านอย่างไร? ท่านอาจจะคิดถึงเวลาที่ท่านได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติตนเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์เช่นกัน

ขณะเตรียมสอน นอกจากจะอ่าน กิจการ 10–15 แล้วท่านอาจจะอ่านข่าวสารการประชุมใหญ่ใน “แหล่งข้อมูลสนับสนุน” หนึ่งเรื่องหรือมากกว่านั้น

เรียนรู้ด้วยกัน

เพื่อช่วยให้ชั้นเรียนหรือโควรัมเข้าใจว่าการเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้พวกเขาเติมประโยคต่อไปนี้ให้จบ: “สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์คือคนที่ …” พวกเขาอาจจะทบทวน กิจการ 11:19–26 โดยมองหาข้อคิดใน ข้อ 21, 23–24, 26 เกี่ยวกับวิธีที่สมาชิกเหล่านี้ของศาสนจักรแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นสานุศิษย์ การเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของเราอย่างไร? กิจกรรมทำนองนี้จะเสริมการสนทนาดังกล่าว

• อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าสนทนาว่าสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์คืออะไร (ดูคำกล่าวของเอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ใน “แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม”) ท่านอาจจะขอให้เยาวชนแบ่งปันคำสอนบางอย่างของพระเยซูคริสต์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาและบางสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากแบบอย่างของพระองค์ พวกเขาอาจจะค้นคว้าพระคัมภีร์บางข้อใน “แหล่งข้อมูลสนับสนุน” หรือข้ออื่นที่พวกเขารู้จักเพื่อหาแนวคิด และเขียนสิ่งที่เรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดจากข้อเหล่านี้ไว้บนกระดาน จากนั้นพูดคุยกันเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะทำตามคำสอนและตัวอย่างบนกระดานด้วยความจริงใจ

• ขอให้สมาชิกชั้นเรียนหรือสมาชิกโควรัมตรึกตรองว่าการเป็นชาวคริสต์หมายความว่าอย่างไร พวกเขาอาจเขียนรายการคุณสมบัติที่คาดว่าจะพบในชีวิตของคนที่ติดตามพระเยซูคริสต์ (ดูตัวอย่างใน ยอห์น 13:34–35) ท่านอาจจะแบ่งเยาวชนออกเป็นสองกลุ่มและขอให้แต่ละกลุ่มอ่านข่าวสารต่อไปนี้โดยมองหาคุณสมบัติเพิ่มเติมที่พวกเขาจะเพิ่มเข้าไปในรายการที่เขียนไว้: เอ็ลเดอร์เทอเรนซ์ เอ็ม. วินสันเรื่อง “สานุศิษย์ที่แท้จริงของพระผู้ช่วยให้รอด” (เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 9–11) และเอ็ลเดอร์มัสสิโม ดี ฟีโอเรื่อง “ความรักอันบริสุทธิ์: เครื่องหมายที่แท้จริงของสานุศิษย์ที่แท้จริงทุกคนของพระเยซูคริสต์” (เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 81–83) เชื้อเชิญให้เยาวชนไตร่ตรองบางอย่างในรายการนั้นที่พวกเขาต้องการปรับปรุง

• ท่านอาจจะถามสมาชิกชั้นเรียนหรือสมาชิกโควรัมว่าการถูกเรียกตามพระนามของพระเยซูคริสต์มีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร พวกเขาอาจจะแบ่งปันประสบการณ์ที่เคยมีเมื่อคนบางคนทราบว่าพวกเขาเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เรารู้สึกอย่างไรกับการได้ชื่อว่าเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์และสมาชิกศาสนจักรของพระองค์? เยาวชนอาจจะสำรวจพระคัมภีร์หลายๆ ข้อหรือข่าวสารหนึ่งเรื่องใน “แหล่งข้อมูลสนับสนุน” ด้วย โดยมองหาข้อคิดที่เป็นแรงบันดาลใจพวกเขาให้ดำเนินชีวิตสมกับพระนามของพระเยซูคริสต์ ซึ่งพวกเขารับไว้แล้ว การถูกเรียกตามพระนามของพระเยซูคริสต์มีผลต่อการเลือกของพวกเขาอย่างไร?

ในฐานะสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ เราเป็นสานุศิษย์ของพระองค์และถูกเรียกตามพระนามของพระองค์

กระทำด้วยศรัทธา

กระตุ้นสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนให้ไตร่ตรองและบันทึกสิ่งที่พวกเขาจะทำเพื่อกระทำตามการกระตุ้นเตือนที่ได้รับวันนี้ พวกเขาอาจแบ่งปันแนวคิดของตน ถ้าต้องการ เชื้อเชิญให้พวกเขาตรึกตรองว่าการกระทำตามการกระตุ้นเตือนเหล่านั้นจะกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร

แหล่งข้อมูลสนับสนุน

• มัทธิว 5:38–47; 6:19–21; 7:1–5; 25:31–40; ลูกา 10:25–37; ยอห์น 13:34–35; 14:15 (คำสอนของพระเยซูคริสต์)

• มัทธิว 4:1–11; มาระโก 6:35–44; ลูกา 4:16–19; 22:39–42; 23:33–34; กิจการ 10:38 (แบบอย่างของพระเยซูคริสต์)

• เยเรมีย์ 15:16; โมไซยาห์ 5:7–15; แอลมา 46:12–15; 3 นีไฟ 27:3–8 (การรับพระนามของพระผู้ช่วยให้รอดไว้กับตัวเรา)

• ลิซา แอล. ฮาร์คเนสส์, “ถวายเกียรติพระนามของพระองค์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 60–62

• พอล บี. ไพเพอร์, “ทุกคนต้องรับพระนามซึ่งพระบิดาประทานมาให้,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 43–45

• เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์สอนว่า: “การเป็นสานุศิษย์ของพระเจ้าของเราพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร? สานุศิษย์คือคนที่รับบัพติศมาและเต็มใจรับพระนามของพระผู้ช่วยให้รอดไว้กับตนเอง และติดตามพระองค์ สานุศิษย์พยายามเป็นเหมือนพระองค์โดยรักษาพระบัญญัติของพระองค์ในความเป็นมรรตัย เฉกเช่นศิษย์พยายามเป็นเหมือนอาจารย์

  “หลายคนได้ยินคำว่า สานุศิษย์ และคิดว่ามีความหมายเพียงเป็น ‘ผู้ติดตาม’ เท่านั้น แต่สานุศิษย์ที่แท้จริงเป็นสภาวะหนึ่ง ซึ่งแนะว่าต้องทำมากกว่าศึกษาและประยุกต์ใช้คุณลักษณะส่วนตัวในด้านต่างๆ สานุศิษย์ดำเนินชีวิตโดยให้พระอุปนิสัยของพระคริสต์ถักทอเข้าไปในทุกอณูของพวกเขาราวกับเป็นผ้าทอทางวิญญาณ” (“เป็นสานุศิษย์ของพระเจ้าของเราพระเยซูคริสต์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 46)

การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด

ในฐานะครู ท่านสามารถส่งเสริมการสนทนาที่ยกระดับจิตใจเสริมด้วยประสบการณ์และประจักษ์พยานของผู้เรียน