พันธสัญญาใหม่ 2023
12 พฤศจิกายน ฉันจะเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นผ่านศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? ฮีบรู 7–13


“12 พฤศจิกายน ฉันจะเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นผ่านศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? ฮีบรู 7–13” จงตามเรามา—สำหรับโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและชั้นเรียนเยาวชนหญิง: หัวข้อหลักคำสอนปี 2023 (2022)

“12 พฤศจิกายน ฉันจะเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นผ่านศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?” จงตามเรามา—สำหรับโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและชั้นเรียนเยาวชนหญิง: หัวข้อหลักคำสอนปี 2023

เยาวชนชายส่งผ่านศีลระลึก

12 พฤศจิกายน

ฉันจะเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นผ่านศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?

ฮีบรู 7–13

ไอคอนหารือกัน

หารือกัน

นำโดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานโควรัมหรือฝ่ายประธานชั้นเรียน ประมาณ 10–20 นาที

เมื่อเริ่มการประชุม ให้ท่อง สาระสำคัญเยาวชนหญิง หรือ สาระสำคัญโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน พร้อมกัน จากนั้นนำการสนทนาเกี่ยวกับงานแห่งความรอดและความสูงส่งโดยใช้คำถามด้านล่างหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้นหรือคำถามของท่านเอง (ดู คู่มือทั่วไป, 10.2, 11.2) วางแผนวิธีปฏิบัติตามที่ท่านสนทนา

  • ดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ เรามาใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นอย่างไร? เรากำลังพยายามเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นอย่างไร?

  • ดูแลคนขัดสน ช่วงนี้เรานึกถึงใครบ้าง? เราจะช่วยเหลือคนเหล่านี้ได้อย่างไร?

  • เชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ เราจะตอบคำถามของเพื่อนๆ เกี่ยวกับศาสนจักรในลักษณะที่เสริมสร้างศรัทธาของพวกเขาในพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร?

  • ทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์ มีวิธีใดบ้างที่เราจะเชื่อมสัมพันธ์กับเครือญาติ เช่น ปู่ย่าตายายและลูกพี่ลูกน้องได้ดีขึ้น?

ตอนจบบทเรียนให้ทำดังต่อไปนี้เมื่อเห็นเหมาะสม:

  • เป็นพยานถึงหลักธรรมที่สอน

  • เตือนความจำสมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนเกี่ยวกับแผนและคำเชื้อเชิญที่ทำไว้ระหว่างการประชุม

ไอคอนสอนหลักคำสอน

สอนหลักคำสอน

นำโดยผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน ประมาณ 25–35 นาที

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

หลายศตวรรษที่ลูกหลานอิสราเอล บางครั้งเรียกว่าคนฮีบรู เพียรพยายามมีส่วนร่วมในศาสนพิธีที่เชื่อมโยงกับพลับพลาและกฎของโมเสส แต่พวกเขาจำนวนมากไม่ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้เป็น “แบบจำลองของสวรรค์”—“เงาของสิ่งประเสริฐทั้งหลายที่จะมาในภายหลัง” (ฮีบรู 9:23; 10:1) ศาสนพิธีทั้งหลายมุ่งหมายจะสอนพวกเขาเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ นี่คือสิ่งที่เปาโลอธิบายไว้ในสาส์นของท่านถึงคนฮีบรู ข่าวสารของท่านสำคัญต่อเราทุกวันนี้เช่นกันเพราะเราเองมีศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ด้วยเหตุนี้การถามคำถามเหล่านี้กับตัวเราเองจึงคุ้มค่า: ศาสนพิธีเหล่านี้กำลังช่วยให้เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์หรือไม่? มีมากกว่านี้หรือไม่ที่เราทำได้เพื่อประสบเดชานุภาพของพระเยซูคริสต์ผ่านศาสนพิธีพระกิตติคุณ? หรือเราเหมือนคนฮีบรูสมัยโบราณคือกำลังพลาดความสำคัญที่ลึกซึ้งกว่านั้นของศาสนพิธี?

ไตร่ตรองคำถามเหล่านี้ขณะที่ท่านอ่าน ฮีบรู 7–13 และขณะเตรียมสอนว่าศาสนพิธีและพันธสัญญานำเราเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร ท่านอาจจะศึกษาข่าวสารการประชุมใหญ่สามัญบางเรื่องที่อ้างในโครงร่างนี้เช่นกัน

เรียนรู้ด้วยกัน

เพื่อช่วยให้คนที่ท่านสอนเห็นว่าพวกเขาจะเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นผ่านศาสนพิธีและพันธสัญญาของพระกิตติคุณของพระองค์ได้อย่างไร ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้พวกเขาเขียนศาสนพิธีพระกิตติคุณและพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องไว้บนกระดาน   ศาสนพิธีและพันธสัญญาเหล่านี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับพระคริสต์และการชดใช้ของพระองค์? คำกล่าวของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ใน “แหล่งข้อมูลสนับสนุน” ให้นิยามของศาสนพิธีและข้อคิดสำคัญอื่นๆ กิจกรรมดังต่อไปนี้ช่วยได้เช่นกัน

  • ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้เยาวชนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:19–22 และสนทนาคำถามทำนองนี้: “พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า” หมายถึงอะไร? ศาสนพิธีและพันธสัญญาช่วยให้เราประสบพลังอำนาจนั้นมาแล้วอย่างไร? ศาสนพิธีและพันธสัญญาสร้างความแตกต่างอะไรในชีวิตเรา? ช่วยให้เราเชื่อมความสัมพันธ์กับพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร? เพื่อช่วยตอบคำถามเหล่านี้ เยาวชนอาจจะอ่านสี่ย่อหน้าแรกในข่าวสารของเอ็ลเดอร์เคนท์ เอฟ. ริชาร์ดส์เรื่อง “พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า” (เลียโฮนา, พ.ค. 2016, 118) หรือข่าวสารของเอ็ลเดอร์เบดนาร์เรื่อง “ให้สร้างนิเวศน์นี้แด่นามของเรา” (เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 84–87) โดยเฉพาะหัวข้อ “จากภายในสู่ภายนอก

  • ท่านอาจจะถามคนที่ท่านสอนว่าพวกเขาจะอธิบายเรื่องศาสนพิธีศีลระลึกกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับศาสนพิธีนี้ว่าอย่างไร หัวข้อ “ประสบการณ์และประจักษ์พยาน” ในข่าวสารของเอ็ลเดอร์ทาเนียลา บี. วาโคโลเรื่อง “ศาสนพิธีแห่งความรอดจะนำความสว่างอันน่ามหัศจรรย์มาสู่เรา” (เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 39–41) ให้ตัวอย่างหนึ่งไว้ เ  ศีลระลึกนำเราเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร? เรามีโอกาสใดให้สอนคนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้?

  • การทบทวนข้อเสนอแนะห้าข้อในข่าวสารของเอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอฟ. มีเออร์สเรื่อง “ศีลระลึกช่วยให้เราบริสุทธิ์ได้” (เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 85–87) อาจจะช่วยให้เยาวชนเข้าใจวิธีเตรียมศีลระลึกให้ดีขึ้น หรือถ้าท่านมีเยาวชนเตรียมรับเอ็นดาวเม้นท์ ให้ทบทวนหัวข้อเรื่อง “เกี่ยวกับเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร” ที่ temples.ChurchofJesusChrist.org ด้วยกัน สนทนาว่าศาสพิธีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้และพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องจะช่วยนำเราเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นได้อย่างไร

  • ท่านอาจจะเขียนคำว่า ศีลระลึก บัพติศมา และ พระวิหาร ไว้บนกระดาน เชิญเยาวชนเขียนพันธสัญญาที่เราทำไว้ใต้คำแต่ละคำ ข้ออ้างอิงใน “แหล่งข้อมูลสนับสนุน” ช่วยได้ สนทนากันว่าพันธสัญญาเหล่านี้ช่วยให้เรามาใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร

  • ท่านอาจจะแบ่งชั้นเรียนหรือโควรัมเป็นกลุ่มๆ และมอบหมายให้ทบทวนกลุ่มละหนึ่งหัวข้อในข่าวสารของเอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์เรื่อง “รักษาสัญญาและพันธสัญญาของเรา” (เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 53–56) หรือข่าวสารของเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันเรื่อง “เหตุใดจึงเป็นเส้นทางพันธสัญญา” (เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 116–119) กระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้ว่าการรักษาพันธสัญญากระชับความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระเยซูคริสต์อย่างไร

เยาวชนหญิงเดินนอกพระวิหาร

ศาสนพิธีพระกิตติคุณอันศักดิ์สิทธิ์นำ “พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า” เข้ามาในชีวิตเรา (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:19–22)

กระทำด้วยศรัทธา

กระตุ้นให้สมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนไตร่ตรองและบันทึกสิ่งที่พวกเขาจะทำเพื่อกระทำตามการกระตุ้นเตือนที่ได้รับวันนี้ พวกเขาอาจแบ่งปันแนวคิดของตน ถ้าต้องการ เชื้อเชิญให้พวกเขาตรึกตรองว่าการกระทำตามการกระตุ้นเตือนเหล่านั้นจะกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร

แหล่งข้อมูลสนับสนุน

  • โมไซยาห์ 18:8–10 (พันธสัญญาบัพติศมา)

  • โมโรไน 4–5 (พันธสัญญาศีลระลึก)

  • เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์สอนว่า: “ศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์คือศูนย์กลางในพระกิตติคุณของพระผู้ช่วยให้รอด กระบวนการมาหาพระองค์ และการแสวงหาการเกิดใหม่ทางวิญญาณ ศาสนพิธีคือการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีจุดประสงค์ทางวิญญาณ มีความสำคัญนิรันดร์ เชื่อมโยงกับกฎและกฎเกณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า …

    ศาสนพิธีแห่งความรอดและความสูงส่งที่ปฏิบัติในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเจ้าเป็นมากกว่าพิธีกรรมหรือการประกอบพิธีเชิงสัญลักษณ์ ศาสนพิธีก่อให้เกิดช่องทางที่ได้รับมอบอำนาจซึ่งทำให้พรและพลังจากสวรรค์ผ่านเข้าสู่ชีวิตของแต่ละคน …

    “ศาสนพิธีที่ได้รับและให้เกียรติด้วยความซื่อตรงคือส่วนสำคัญของการได้รับพลังจากความเป็นพระผู้เป็นเจ้าและพรทั้งหมดที่มีอยู่โดยผ่านการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด” (“การปลดบาปของท่านจะมีอยู่เสมอ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2016, 59–60)

การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด

เมื่อเชื้อเชิญให้คนที่ท่านสอนปฏิบัติตามหลักคำสอนที่แท้จริง เท่ากับท่านช่วยพวกเขาขยายประสบการณ์การเรียนรู้เข้าไปในบ้านและชีวิตประจำวันของพวกเขา