Into the Wilderness (เสด็จเข้าไปในแดนทุรกันดาร) โดย เอวา โคเลวา ทิโมธี

30 มกราคม–5 กุมภาพันธ์

มัทธิว 4; ลูกา 4–5

“พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า”

พระผู้ช่วยให้รอดทรงใช้พระคัมภีร์ทั้งเพื่อต่อต้านการล่อลวงของซาตานและเป็นพยานถึงพันธกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ (ดู ลูกา 4:1–21) ไตร่ตรองว่าพระคัมภีร์จะสร้างศรัทธาและความตั้งใจของท่านในการต่อต้านการล่อลวงได้อย่างไร

บันทึกความประทับใจของท่าน

ดูเหมือนพระเยซูทรงทราบตั้งแต่วัยเยาว์ว่าพระองค์ทรงมีพระพันธกิจพิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อพระเยซูทรงเริ่มการปฏิบัติศาสนกิจบนแผ่นดินโลก ปฏิปักษ์หมายมั่นหว่านความสงสัยในพระทัยของพระผู้ช่วยให้รอด “ถ้า ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ซาตานกล่าว (ลูกา 4:3, เน้นตัวเอน) แต่พระผู้ช่วยให้รอดทรงติดต่อกับพระบิดาในสวรรค์ของพระองค์ พระองค์ทรงรู้พระคัมภีร์ และทรงทราบว่าพระองค์เป็นใคร สำหรับพระองค์แล้ว ข้อเสนอของซาตาน—“อำนาจทั้งหมดนี้เราจะยกให้แก่ท่าน” (ลูกา 4:6)—ไร้ความหมาย เพราะการเตรียมพร้อมตลอดพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดทำให้พระองค์ได้รับ “ฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณ” (ลูกา 4:14) ด้วยเหตุนี้แม้จะมีการล่อลวง การทดลอง และการปฏิเสธ แต่พระเยซูคริสต์ไม่ทรงหวั่นไหวจากงานที่ได้รับมอบหมาย “เราต้องไปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า … พระองค์ทรงใช้เรามาก็เพราะเหตุนี้” (ลูกา 4:43)

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว

มัทธิว 4:1–2

การสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าเตรียมฉันให้พร้อมรับใช้พระองค์

เพื่อเตรียมทำพระพันธกิจของพระองค์ พระเยซูเสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อ “ประทับอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า” (งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 4:1 [ใน คู่มือพระคัมภีร์]) นึกถึงสิ่งที่ท่านทำเพื่อรู้สึกใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้า สิ่งนี้เตรียมท่านให้พร้อมทำงานที่พระองค์ทรงต้องการให้ท่านทำอย่างไร?

มัทธิว 4:1–11; ลูกา 4:5–13

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างสำหรับฉันโดยทรงต่อต้านการล่อลวง

บางครั้งผู้คนรู้สึกผิดเมื่อพวกเขาถูกล่อลวงให้ทำบาป แต่แม้กระทั่งพระผู้ช่วยให้รอดผู้ดำเนินพระชนม์ชีพ “ปราศจากบาป” (ฮีบรู 4:15) ก็ยังถูกล่อลวงด้วยการทดลอง พระเยซูคริสต์ทรงทราบการล่อลวงที่เราเผชิญและวิธีช่วยเราเอาชนะการล่อลวง (ดู ฮีบรู 2:18; แอลมา 7:11–12)

ขณะที่ท่านอ่าน มัทธิว 4:1–11 และ ลูกา 4:1–13 ท่านเรียนรู้อะไรที่จะช่วยท่านได้เมื่อท่านเผชิญการล่อลวง? ท่านอาจจะจัดระเบียบความคิดของท่านลงในตารางแบบนี้:

พระเยซูคริสต์	ฉัน
พระเยซูคริสต์ ซาตานล่อลวงให้พระคริสต์ทำอะไร?	ฉัน ซาตานล่อลวงให้ฉันทำอะไร?
พระเยซูคริสต์ พระคริสต์ทรงเตรียมต่อต้านการล่อลวงอย่างไร?	ฉัน ฉันจะเตรียมพร้อมต่อต้านการล่อลวงได้อย่างไร?

ท่านได้ข้อคิดเพิ่มเติมอะไรบ้างจากงานแปลของโจเซฟ สมิธใน มัทธิว 4 (ดู คู่มือพระคัมภีร์)

ดู 1 โครินธ์ 10:13; แอลมา 13:28; โมเสส 1:10–22; topics.ChurchofJesusChrist.org ด้วย

ลูกา 4:16–32

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ที่พยากรณ์ไว้

ถ้ามีคนขอให้ท่านอธิบายว่าพระบิดาทรงส่งพระเยซูคริสต์มาทำอะไรบนแผ่นดินโลก ท่านจะตอบอย่างไร? โดยอ้างคำพยากรณ์เรื่องหนึ่งของอิสยาห์เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ พระผู้ช่วยให้รอดทรงบรรยายแง่มุมต่างๆ ของพันธกิจของพระองค์เอง (ดู ลูกา 4:18–19; อิสยาห์ 61:1–2) ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระพันธกิจของพระองค์ขณะที่ท่านอ่านข้อเหล่านี้?

พระผู้ช่วยให้รอดทรงเชื้อเชิญให้ท่านมีส่วนร่วมในงานของพระองค์ด้วยวิธีใดบ้าง?

ถึงแม้ชาวยิวจะรอมาหลายศตวรรษเพื่อให้คำพยากรณ์ของอิสยาห์เกิดสัมฤทธิผล แต่หลายคนไม่ยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์เมื่อพระองค์ทรงประกาศว่า “พระคัมภีร์ตอนนี้ที่พวกท่านได้ยินกับหูก็สำเร็จแล้วในวันนี้” (ลูกา 4:21) ขณะที่ท่านอ่าน ลูกา 4:20–30 (ดู มาระโก 6:1–6 ด้วย) ลองสมมติว่าท่านเป็นชาวนาซาเร็ธ มีอะไรบ้างที่อาจจะขัดขวางไม่ให้ท่านยอมรับว่าพระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของท่าน?

ดู โมไซยาห์ 3:5–12

มัทธิว 4:18–22; ลูกา 5:1–11

เมื่อฉันวางใจพระเจ้า พระองค์จะทรงช่วยให้ฉันบรรลุศักยภาพอันสูงส่งของฉัน

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอนว่า “ชายหญิงผู้ถวายชีวิตแด่พระผู้เป็นเจ้าจะพบว่าพระองค์ทรงสามารถรังสรรค์จากชีวิตพวกเขาได้มากกว่าที่พวกเขาจะทำได้” (คำสอนของประธานศาสนจักร: เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน [2014], 42) สังเกตว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับซีโมน เปโตร และเพื่อนชาวประมงของเขาอย่างไร พระเยซูทรงเห็นบางอย่างในตัวพวกเขามากกว่าที่พวกเขาเห็นในตนเอง พระองค์ทรงต้องการที่จะทำให้พวกเขาเป็น “ผู้หาคนดั่งหาปลา” (มัทธิว 4:19; ดู ลูกา 5:10 ด้วย)

ขณะที่ท่านอ่าน มัทธิว 4:18–22 และ ลูกา 5:1–11 ไตร่ตรองว่าพระเยซูคริสต์ทรงช่วยให้ท่านเป็นอะไร ท่านรู้สึกอย่างไรที่พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ท่านติดตามพระองค์? ท่านจะแสดงให้พระเจ้าเห็นได้อย่างไรว่าท่านเต็มใจละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระองค์? (ดู ลูกา 5:11)

แนวคิดสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์กับครอบครัวและยามค่ำที่บ้าน

มัทธิว 4:1–2; ลูกา 4:1–2เราจะได้ข้อคิดอะไรบ้างจากเรื่องนี้เกี่ยวกับพลังของการอดอาหาร? สมาชิกครอบครัวอาจแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการอดอาหารได้ บางทีท่านอาจจะวางแผนอดอาหารด้วยกันเพื่อจุดประสงค์พิเศษบางอย่าง

มัทธิว 4:3–4; ลูกา 4:3–4เมื่อซาตานล่อลวงพระคริสต์ให้เปลี่ยนก้อนหินเป็นขนมปัง เขาท้าทายอัตลักษณ์อันสูงส่งของพระคริสต์โดยกล่าวว่า “ถ้า ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” (มัทธิว 4:3, เน้นตัวเอน) เหตุใดซาตานจึงพยายามทำให้เราสงสัยอัตลักษณ์อันสูงส่งของเรา—และของพระผู้ช่วยให้รอด? เขาพยายามทำเช่นนี้อย่างไร? (ดู โมเสส 1:10–23 ด้วย)

งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 4:11หลังจากพระเยซูได้รับการทดสอบทางกายและทางวิญญาณแล้ว พระองค์ทรงนึกถึงความต้องการของยอห์นผู้ถวายบัพติศมาที่อยู่ในเรือนจำ “และบัดนี้พระเยซูทรงทราบว่ายอห์นถูกโยนเข้าเรือนจำ และพระองค์ทรงส่งเหล่าเทพ และดูเถิด พวกท่านมาปฏิบัติต่อ [ยอห์น]” (งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 4:11 ใน คู่มือพระคัมภีร์) เราได้รับพรอย่างไรเมื่อเราทำตามแบบอย่างของพระคริสต์ในการนึกถึงผู้อื่น?

ลูกา 4:16–21เรารู้จักใครหรือไม่ที่ใจชอกช้ำหรือต้องการ “เป็นอิสระ”? (ลูกา 4:18) เราจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับการเยียวยาและการปลดปล่อยของพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร? ท่านอาจจะสนทนาด้วยว่าการประกอบศาสนพิธีพระวิหารช่วยประกาศ “อิสรภาพแก่พวกเชลย” อย่างไร (ลูกา 4:18)

ดูแนวคิดเพิ่มเติมสำหรับสอนเด็กได้จาก โครงร่างของสัปดาห์นี้ ใน จงตามเรามา—สำหรับปฐมวัย

เพลงสวดที่แนะนำ: “จงตามเรามา” เพลงสวด บทเพลงที่ 48

ปรับปรุงการสอนของเรา

จงดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ “บางทีสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านทำได้ [ในฐานะบิดามารดาหรือครู] คือ … ดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณด้วยสุดใจของท่าน … นี่คือวิธีสำคัญที่สุดในการมีคุณสมบัติคู่ควรแก่ความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านไม่จำเป็นต้องดีพร้อม แค่พยายามอย่างขยันขันแข็ง—และแสวงหาการให้อภัยผ่านการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อใดก็ตามที่ท่านสะดุดล้ม” (การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด, 13)

พระคริสต์ทรงเรียกอัครสาวกยากอบและยอห์น เอ็ดเวิร์ด อาร์มิเทจ (1817–1896) / Sheffield Galleries and Museums Trust, UK / © Museums Sheffield / The Bridgeman Art Library International