เซมินารี
บทที่ 83—แบบฝึกปฏิบัติผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน 5: การท่องจำและการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ


“บทที่ 83—แบบฝึกปฏิบัติผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน 5: การท่องจำและการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ,” หลักคำสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี (2025)

“แบบฝึกปฏิบัติผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน 5” หลักคำสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี

บทที่ 83: หลักคำสอนและพันธสัญญา 71–75

แบบฝึกปฏิบัติผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน 5

การท่องจำและการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ

ภาพวาดการกลับมาของบุตรที่หายไป

ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนจะช่วยให้นักเรียนเสริมสร้างรากฐานของพวกเขาบนพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ บทเรียนนี้จะเปิดโอกาสให้นักเรียนจดจำข้ออ้างอิงผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนและวลีสำคัญในพระคัมภีร์ ตลอดจนเรียนรู้และประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

ทบทวนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน: ท่องจำ

ลองนึกถึงช่วงเวลาในชีวิตท่านเมื่อการท่องจำข้อมูลมีประโยชน์ในการทำงานให้สำเร็จ

  • การจดจำข้อมูลเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

  • ในสถานการณ์ใดบ้างที่ท่านอาจได้รับประโยชน์จากการจดจำข้ออ้างอิงพระคัมภีร์?

กิจกรรมต่อไปนี้เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้นักเรียนจดจำข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนและวลีสำคัญในพระคัมภีร์ แนวคิดการท่องจำเพิ่มเติมอยู่ในภาคผนวกใต้ “กิจกรรมทบทวนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน” กิจกรรมการจดจำที่ท่านเลือกไม่ควรใช้เวลาเกิน 10–15 นาทีเพื่อให้ท่านมีเวลาประยุกต์ใช้แบบฝึกปฏิบัติผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเล็กๆ และพิมพ์สำเนาแผนภูมิต่อไปนี้ให้แต่ละกลุ่ม เชื้อเชิญให้กลุ่มตัดข้ออ้างอิงและวลีสำคัญในแต่ละข้อแยกกัน ให้นักเรียนคละข้ออ้างอิงและวลีสำคัญ แล้วจับคู่ให้เหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดโดยการทำงานเป็นกลุ่ม อาจให้กลุ่มทำกิจกรรมนี้ซ้ำหลายครั้งเพื่อดูว่าในแต่ละครั้งจะจับคู่ได้เร็วขึ้นหรือไม่

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:15–20

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

โจเซฟ สมิธ “เห็นพระอติรูปสองพระองค์ ซึ่งความเจิดจ้าและรัศมีภาพของทั้งสองพระองค์เกินกว่าจะพรรณนาได้”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:30

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่แห่งเดียว”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:37–38

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“ไม่ว่าโดยเสียงของเราเอง หรือโดยเสียงของผู้รับใช้ทั้งหลายของเรา, ก็เหมือนกัน”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“จงดูที่เราในความนึกคิดทุกอย่าง; อย่าสงสัย, อย่ากลัว”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 8:2–3

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“เราจะบอกเจ้าในความนึกคิดเจ้าและในใจเจ้า, โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 13:1

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

ฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน “ถือกุญแจทั้งหลายแห่งการปฏิบัติของเหล่าเทพ, และของพระกิตติคุณแห่งการกลับใจ, และของบัพติศมา”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10–11

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:15–16

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“ปีติของเจ้าจะใหญ่หลวงสักเพียงใดหากเจ้าจะนำจิตวิญญาณมากมายมาหาเรา!”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 19:16–19

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“เรา, [พระเยซูคริสต์], ทนทุกข์กับสิ่งเหล่านี้เพื่อทุกคน”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 21:4–6

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ “เจ้าจงรับ, ราวกับมาจากปากเราเอง”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 29:10–11

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“เพราะเราจะเปิดเผยตัวเราจากสวรรค์ด้วยอำนาจและรัศมีภาพมากมาย … และดำรงอยู่ในความชอบธรรมกับมนุษย์บนแผ่นดินโลกหนึ่งพันปี”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 49:15–17

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“การแต่งงานได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:42–43

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“คนที่กลับใจจากบาปของเขา, คนคนนั้นได้รับการให้อภัย”

ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์จากผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11

วลีสำคัญในพระคัมภีร์

“เรียกร้องจากเจ้าที่จะให้อภัยมนุษย์ทั้งปวง”

การประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ

บทเรียนที่เหลือมุ่งเน้นการช่วยให้นักเรียนนำหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณไปปรับใช้กับสถานการณ์ในชีวิตจริง ก่อนที่จะอ่านสถานการณ์ด้านล่าง ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนทบทวนหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ กิจกรรมทบทวนที่แนะนำอยู่ในภาคผนวกใต้ “กิจกรรมทบทวนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน” ท่านจะพบคำอธิบายหลักธรรมใน ย่อหน้าที่ 5–12 ของหมวด “การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ” ของ เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2023)

สถานการณ์สมมติของการฝึกประยุกต์ใช้นี้มาจากประสบการณ์ที่ซิสเตอร์คริสติน เอ็ม. ยี ที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญแบ่งปันในการประชุมใหญ่สามัญ หากเป็นประโยชน์ ท่านอาจใช้สถานการณ์สมมติอื่นเกี่ยวกับการให้อภัยที่เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนมากกว่า

ซิสเตอร์คริสติน เอ็ม. ยี ที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวต่อไปนี้

ซิสเตอร์คริสติน เอ็ม. ยี

โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันได้เห็นปาฏิหาริย์ของพระคริสต์ที่เยียวยาใจที่เคียดแค้นของดิฉันมาแล้ว โดยได้รับอนุญาตจากคุณพ่อ ดิฉันขอเล่าว่าตนเองเติบโตมาในบ้านที่ดิฉันไม่ได้รู้สึกปลอดภัยตลอดเวลาเพราะถูกกระทำไม่ดีทางอารมณ์และทางวาจา ในวัยเยาว์และวัยสาว ดิฉันขุ่นเคืองคุณพ่อและมีความโกรธแค้นในใจจากความเจ็บปวดนั้น (คริสติน เอ็ม. ยี, “มงกุฎแทนขี้‍เถ้า: เส้นทางเยียวยาแห่งการให้อภัย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 37)

ใช้เวลาสักครู่เพื่อนึกดูว่าจะรู้สึกอย่างไรที่ได้สัมผัสกับสถานการณ์ของซิสเตอร์ยี นึกถึงสิ่งที่ท่านอาจทำหากเผชิญสถานการณ์ที่คล้ายกัน

ขณะเราศึกษาสิ่งที่ซิสเตอร์ยีทำ ให้พิจารณาบทเรียนที่ท่านจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของเธอ ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับวิธีที่เธอประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณและวิธีที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยเธอ

ไอคอนเอกสารแจกแจกเอกสารแจกประกอบให้นักเรียน ท่านอาจแสดงคำถามต่อไปนี้ไว้บนกระดานให้นักเรียนใช้อ้างอิงขณะศึกษาคำปราศรัยของซิสเตอร์ยี กระตุ้นให้นักเรียนพิจารณาวิธีเพิ่มเติมที่บุคคลในสถานการณ์ที่คล้ายกันอาจประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ

  • ซิสเตอร์ยีทำอะไรเพื่อกระทำด้วยศรัทธา? พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยเหลือเธออย่างไร?

  • ซิสเตอร์ยีทำอะไรเพื่อดูสถานการณ์ของเธอในบริบทของแผนแห่งความรอดและคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอด?

  • แหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์แหล่งใดที่ซิสเตอร์ยีพึ่งพา? แหล่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ท่านเข้าใจหรือมีมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธออย่างไร?

ท่านอาจใช้แนวคิดต่อไปนี้หนึ่งข้อเพื่อช่วยให้นักเรียนระบุได้ว่าซิสเตอร์ยีนำหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณไปใช้อย่างไร:

  • ให้ชั้นเรียนพิจารณาว่าซิสเตอร์ยีประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณแต่ละข้ออย่างไร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจขีดเส้นใต้หลักธรรมข้อหนึ่ง ตีกรอบอีกข้อหนึ่ง และวงกลมอีกข้อหนึ่ง นอกจากนี้ท่านอาจใช้สีที่แตกต่างกันเพื่อทำเครื่องหมายหลักธรรมแต่ละข้อ เชื้อเชิญให้นักเรียนศึกษาส่วนที่เหลือของเอกสารแจกโดยมองหาและทำเครื่องหมายตัวอย่างของหลักธรรมแต่ละข้อ

  • มอบหมายหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณให้นักเรียนหรือกลุ่มนักเรียน ขณะศึกษาคำปราศรัยของซิสเตอร์ยี ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาจดสิ่งที่เธอทำเพื่อประยุกต์ใช้หลักธรรมนั้น

  • แทนที่จะใช้เอกสารแจก ท่านอาจฉายวีดิทัศน์คำปราศรัยของซิสเตอร์ยี เชื้อเชิญให้นักเรียนฟังวิธีที่เธอใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ นักเรียนอาจยกมือเมื่อได้ยินตัวอย่าง และท่านอาจหยุดวีดิทัศน์ชั่วคราวแล้วให้พวกเขาแบ่งปันสิ่งที่พบ

10:7

มงกุฎแทนขี้‍เถ้า: เส้นทางเยียวยาแห่งการให้อภัย

ซิสเตอร์คริสติน เอ็ม. ยี

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาและขณะพยายามจะพบสันติสุขและการเยียวยาบนเส้นทางแห่งการให้อภัย ดิฉันตระหนักอย่างยิ่งว่าพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงชดใช้บาปให้ดิฉันคือองค์เดียวกันกับพระผู้ไถ่ที่จะทรงช่วยผู้ที่ทำร้ายดิฉันอย่างรุนแรงให้รอดเช่นกัน ดิฉันไม่อาจเชื่อความจริงข้อแรกได้อย่างแท้จริงหากไม่เชื่อข้อที่สองด้วย

เมื่อความรักที่ดิฉันมีต่อพระผู้ช่วยให้รอดเพิ่มขึ้น ดิฉันจึงปรารถนามากขึ้นที่จะแทนที่ความเจ็บปวดและความโกรธแค้นด้วยพิมเสนแห่งการเยียวยาของพระองค์ เป็นกระบวนการหลายปีที่ต้องใช้ความกล้าหาญ ความอ่อนแอ ความเพียรพยายาม และการเรียนรู้ที่จะวางใจในเดชานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้ช่วยให้รอดในการช่วยให้รอดและเยียวยา ดิฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ แต่ใจของดิฉันไม่เคียดแค้นอีกต่อไป ดิฉันได้รับ “ใจใหม่” [เอเสเคียล 36:26]—ใจที่รู้สึกถึงความรักอันลึกซึ้งและมั่นคงของพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัว ผู้ทรงอยู่เคียงข้าง ผู้ทรงนำดิฉันอย่างอ่อนโยนและอดทนไปสู่ที่ที่ดีกว่า ผู้ทรงร้องไห้กับดิฉัน ผู้ทรงรู้ถึงความเศร้าโศกของดิฉัน …

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์กล่าวว่า: “ท่านจะลบสิ่งที่ทำไปแล้วไม่ได้ แต่ท่านให้อภัยได้ การให้อภัยเยียวยาบาดแผลร้ายแรงอันน่าเศร้า เพราะการให้อภัยยอมให้ความรักของพระผู้เป็นเจ้าล้างพิษความเกลียดชังในใจและความคิดของเรา อีกทั้งชำระล้างความปรารถนาจะแก้แค้นให้หมดไปจากจิตสำนึก การให้อภัยเปิดช่องว่างให้ความรักของพระเจ้าเข้ามาฟื้นฟู เยียวยา และชำระใจ” [“Healing the Tragic Scars of Abuse,” Ensign, May 1992, 33]

คุณพ่อบนโลกของดิฉันมีการเปลี่ยนแปลงในใจอย่างน่าอัศจรรย์เช่นกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและหันไปหาพระเจ้า—นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตนี้ นี่เป็นประจักษ์พยานอีกเรื่องหนึ่งที่ดิฉันมีเกี่ยวกับเดชานุภาพแห่งการเปลี่ยนแปลงอันบริบูรณ์ของพระเยซูคริสต์

ดิฉันรู้ว่าพระองค์ทรงสามารถเยียวยาคนบาปและคนที่ถูกกระทำบาป พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของโลก ผู้ทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อเราจะได้มีชีวิตอีกครั้ง พระองค์ตรัสว่า “พระ‍วิญ‌ญาณขององค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าสถิตกับข้าพ‌เจ้า เพราะ‍ว่าพระ‍องค์ทรงเจิม‍ตั้งข้าพ‌เจ้าไว้ เพื่อนำข่าว‍ดีมายังคนยาก‍จน พระ‍องค์ทรงใช้ข้าพ‌เจ้ามา เพื่อเยียวยาคนใจชอกช้ำ ประ‌กาศอิสร‌ภาพแก่พวกเชลย ประ‌กาศแก่คน‍ตา‍บอดว่าจะได้เห็นอีก ปล่อยผู้‍ถูก‍บีบ‍บัง‍คับให้เป็นอิสระ” [ลูกา 4:18; เน้นตัวเอน]

สำหรับทุกคนที่ใจชอกช้ำ เป็นเชลย ถูกทำร้าย และอาจมืดบอดเพราะความเจ็บปวดหรือบาป พระองค์ทรงมอบการเยียวยา การพักฟื้น และการปลดปล่อย ดิฉันเป็นพยานว่าการเยียวยาและการพักฟื้นที่ทรงมอบให้นั้นมีอยู่จริง เวลาในการเยียวยานั้นเป็นเรื่องของแต่ละคน และเราไม่สามารถตัดสินจังหวะเวลาของผู้อื่น สำคัญที่เราต้องให้เวลาที่จำเป็นแก่ตนเองในการเยียวยาและมีเมตตาต่อตนเองในกระบวนการนี้ พระผู้ช่วยให้รอดทรงมีพระเมตตาและทรงเอาใจใส่เสมอ และทรงพร้อมจะให้ความช่วยเหลือที่เราต้องการ

บนเส้นทางแห่งการให้อภัยและการเยียวยามีทางเลือกที่จะไม่สานต่อแบบแผนหรือความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในครอบครัวเราหรือที่อื่นๆ สำหรับทุกคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเรา เราสามารถมอบความเมตตาสนองความโหดร้าย ความรักสนองความเกลียดชัง ความอ่อนโยนสนองการเสียดสี ความปลอดภัยสนองความทุกข์ใจ และสันติสุขสนองความขัดแย้ง

การให้สิ่งที่ท่านไม่ได้รับเป็นส่วนที่ทรงพลังของการเยียวยาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเกิดขึ้นได้ผ่านศรัทธาในพระเยซูคริสต์ การดำเนินชีวิตในวิธีที่ท่านให้มงกุฎแทนขี้‍เถ้าในชีวิตของท่านดังที่อิสยาห์กล่าวไว้ [ดู อิสยาห์ 61:3] เป็นการกระทำแห่งศรัทธาที่ทำตามแบบอย่างอันเป็นเลิศของพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงทนทุกข์ทุกสิ่งเพื่อจะทรงช่วยเหลือทุกคนได้ …

ดิฉันเป็นพยานว่าแบบอย่างที่ดีที่สุดของความรักและการให้อภัยมาจากพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์ ผู้ตรัสด้วยความเจ็บปวดอันขมขื่นว่า “พระ‍บิดาเจ้า‍ข้า ขอทรงยกโทษพวก‍เขา เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” [ลูกา 23:34] (คริสติน เอ็ม. ยี, “มงกุฎแทนขี้‍เถ้า: เส้นทางเยียวยาแห่งการให้อภัย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 37–38)

หลังจากนักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาระบุข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนที่เกี่ยวข้อง และอธิบายว่าข้อความเหล่านี้จะช่วยบางคนในสถานการณ์ประเภทนี้ได้อย่างไร ตัวอย่างบางส่วน ได้แก่ หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36 และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11

  • การศึกษาตัวอย่างของบางคนโดยใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณในประสบการณ์ที่พวกเขาเผชิญช่วยท่านได้อย่างไร?

  • การใช้หลักธรรมเหล่านี้จะช่วยท่านได้อย่างไรในสถานการณ์ที่เผชิญอยู่?