ยากอบ 1

“ทูลขอจากพระเจ้า”

ท่านรู้สึกว่าท่านสามารถขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าเมื่อท่านมีคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบหรือต้องพระปรีชาญาณของพระองค์ในการตัดสินใจที่สำคัญหรือไม่? ยากอบประกาศว่า ใครก็ตามที่ขาดปัญญา “ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้าผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัยกว้างขวาง … แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ” (ยากอบ 1:5) บทเรียนนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านว่าพระบิดาบนสวรรค์จะประทานปัญญาให้กับท่านเพื่อตอบการสวดอ้อนวอนของท่าน

สอนพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ด้วยความเชื่อมั่นและจุดประสงค์ “ผลประโยชน์สูงสุดของท่าน หน้าที่เดียวที่สำคัญของท่านคือการสอนพระกิตติคุณของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ดังที่ได้รับการเปิดเผยในยุคสุดท้ายนี้ ท่านต้องสอนพระกิตติคุณนี้โดยใช้งานมาตรฐานของศาสนจักรและถ้อยคำของผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกให้นำผู้คนของพระองค์ในวันเวลาสุดท้าย” (เจ. รูเบน คลาร์ก จูเนียร์, The Charted Course of the Church in Education, rev. ed. [1994; คำปราศรัยต่อนักการศึกษาศาสนาระบบการศึกษาของศาสนจักร, 8 ส.ค. 1938], 10, ChurchofJesusChrist.org)

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ยากอบ 1:5–6 และคิดถึงเรื่องราวในชีวิตของตนที่ต้องการปัญญาหรือการนำทางจากพระผู้เป็นเจ้า

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

คำตอบที่สำคัญ

พิจารณาแสดงตัวเลือกและคำถามต่อไปนี้ ให้นักเรียนมีเวลาไตร่ตรองคำตอบของตนอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะไปต่อ

พิจารณาคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้และไตร่ตรองสิ่งต่างๆ เหล่านี้ในแต่ละข้อ: (1) ฉันเคยได้รับคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่? (2) ฉันกำลังแสวงหาคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้าซึ่งฉันยังไม่ได้รับหรือไม่? (3) ฉันยังไม่สนใจที่จะแสวงหาคำตอบใช่หรือไม่?

• ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นศาสนจักรที่แท้จริงหรือไม่?

• พระเยซูคริสต์คือพระผู้ช่วยให้รอดของฉันจริงๆ ใช่หรือไม่?

• ฉันควรมุ่งเน้นสิ่งใดเพื่อเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ที่ดียิ่งขึ้น?

พิจารณาขอให้นักเรียนแบ่งปันคำถามสำคัญอื่นๆ ที่นักเรียนและคนรอบข้างอาจกำลังหาคำตอบ

ขณะที่ท่านศึกษาคำพูดของอัครสาวกยากอบใน ยากอบ 1 ให้ค้นหาหลักธรรมที่จะช่วยท่านหาคำตอบให้กับคำถามสำคัญในชีวิตของท่านได้

เล่าเรื่องราวเบื้องหลังบางส่วนของยากอบรวมถึงบริบทสำหรับสาส์นของเขาด้วย การอ่านข้อมูลบางข้อต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถได้รับเชิญให้แบ่งปันสิ่งที่ตนอาจรู้เกี่ยวกับยากอบและสาส์นของเขาได้อีกด้วย

อ่านข้อมูลต่อไปนี้เกี่ยวกับยากอบ นึกถึงคำถามที่เขาอาจแสวงหาคำตอบตลอดชีวิตของเขา

1. เขาน่าจะเป็นน้องชายของพระเยซูคริสต์ (ดู คู่มือพระคัมภีร์, “ ยากอบ น้องชายของพระเจ้า ,” ChurchofJesusChrist.org)

2. เช่นเดียวกับน้องชายคนละพ่อคนอื่นๆ ของพระเจ้า ตอนแรกเขาอาจไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ (ดู ยอห์น 7:3–5).

3. ตามที่นักเขียนชาวคริสต์ในยุคต้นกล่าวไว้ ในที่สุดเขาก็กลายเป็นอัครสาวกและเขาเป็นอธิการคนแรกของศาสนจักรในเยรูซาเล็ม (ดู กิจการ 12:16–17 ; 21:17–18 ; กาลาเทีย 1:18–19 ; 2:9)

อ่าน ยากอบ 1:1 เพื่อระบุว่ายากอบเขียนถึงใคร

เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี (1915–1985) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า “ยากอบได้กล่าวถึง … ผู้คนที่ยังไม่ได้ถูกรวบรวม ยังไม่ได้รับพระกิตติคุณ ยังไม่ได้เข้ามาสู่คอกของพระคริสต์” (Doctrinal New Testament Commentary [1973], 3:243)

• มีคำถามอะไรบ้างที่ผู้คนที่ยังไม่ได้รับพระกิตติคุณอาจมี?

อ่าน ยากอบ 1:5–6 และค้นหาความจริงที่ยากอบได้สอนไว้ที่สามารถช่วยเราได้เมื่อเรามีคำถามสำคัญและสามารถช่วยเหลือผู้ที่กำลังแสวงหาความจริงเกี่ยวกับพระกิตติคุณ &#160

ยากอบ 1:5–6 เป็นข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน ท่านอาจทำเครื่องหมายข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนในวิธีที่ชัดเจนเพื่อจะค้นหาได้ง่าย

• ท่านค้นพบอะไรบ้าง?

ตั้งใจฟังคำตอบของนักเรียน อาจเป็นประโยชน์ที่จะถามนักเรียนว่าเหตุใดสิ่งที่นักเรียนพบจึงมีความสำคัญและความรู้สึกของนักเรียนต่อสิ่งนั้น หากนักเรียนไม่ได้แบ่งปันสิ่งที่คล้ายกับหลักธรรมด้านล่างนี้ ให้ถามคำถามต่อไปนี้:

• ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์จากข้อพระคัมภีร์ข้อนี้?

ท่านอาจจะเขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน

ความจริงข้อหนึ่งที่พบในข้อพระคัมภีร์ข้อนี้คือ พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรแก่เราด้วยปัญญาหากเราถามพระองค์ด้วยศรัทธา

• ท่านคิดว่าการ “ขอด้วยความเชื่อและไม่สงสัย” หมายความว่าอย่างไร? ( ยากอบ 1:6)

• ทำไมท่านถึงคิดว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงประสงค์ให้ท่านหันไปหาพระองค์เพื่อขอคำตอบจากพระองค์?

ขณะที่ท่านศึกษาต่อไป ให้คิดถึงความคิด ความรู้สึกและประสบการณ์ที่ท่านเคยมีเมื่อท่านแสวงหาปัญญาหรือคำตอบให้กับคำถามของท่านจากพระผู้เป็นเจ้า

ก่อนเริ่มต้นส่วนต่อไปของบทเรียน อาจเป็นประโยชน์ที่จะทราบว่าในบทเรียนที่กำลังจะมาถึงเกี่ยวกับ “ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน: ยากอบ 1:5–6” นักเรียนจะได้รับเชิญให้ศึกษา โจเซฟ สมิธ–ประวัติ 1:8–17

แบบอย่างของโจเซฟ สมิธ

อาจเป็นประโยชน์ที่จะไตร่ตรองตัวอย่างหลักธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรแก่เราด้วยปัญญาหากเราถามพระองค์ด้วยศรัทธา การแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้ามีผลต่อโจเซฟ สมิธอย่างลึกซึ้ง

&#160

• สิ่งใดที่ท่านประทับใจเป็นพิเศษจากประสบการณ์ของโจเซฟ สมิธ?

• คำตอบของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งมาในนิมิตแรกส่งผลต่อชีวิตของโจเซฟอย่างไร? คำตอบนั้นส่งผลต่อโลกอย่างไร? คำตอบนั้นส่งผลต่อท่านอย่างไร?

ประสบการณ์ของท่าน

ให้เวลานักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาของตน:

เขียนความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ที่ท่านมีในขณะที่แสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า พิจารณารวมถึงสิ่งต่อไปนี้:

• ความคิดและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับความเต็มพระทัยของพระผู้เป็นเจ้าที่จะตอบคำถามของท่าน (ดู ยากอบ 1:5–6)

• ความคิดและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับประสบการณ์ของโจเซฟ สมิธในการทูลขอปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า

• ประสบการณ์ที่ท่านเคยมีหรือกำลังมีอยู่ในการแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้าและการได้มาซึ่งคำตอบ (ประสบการณ์เหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการแสวงหาคำตอบสำหรับคำถามในตอนต้นของบทเรียน)

• วิธีที่ท่านต้องการแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้าในปัจจุบันหรือในอนาคต

• ความประทับใจที่ท่านเคยได้รับจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในระหว่างบทเรียนนี้ซึ่งอาจช่วยท่านได้

เชื้อเชิญให้นักเรียนหลายๆ คนแบ่งปันความคิดของตน มุ่งมั่นที่จะเปิดกว้างและรับฟังสิ่งที่นักเรียนต้องการแบ่งปัน ขอบคุณนักเรียนสำหรับคำตอบ ต่อไปนี้คือคำถามเพื่อการติดตามผลที่เป็นไปได้:

• ความคิด ความรู้สึก หรือประสบการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นได้สร้างความแตกต่างใดบ้างแก่ชีวิตของท่าน?

• มีคนอื่นในชั้นเรียนที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายกันหรือไม่?

หากนักเรียนมีคำถามเกี่ยวกับการแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า นักเรียนสามารถจดจำคำถามเหล่านั้นไว้สำหรับบทเรียนถัดไป “ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน: ยากอบ 1:5–6” ซึ่งจะพิจารณาว่าหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณจะช่วยในการแสวงหาปัญญาได้อย่างไร

&#160

คิดถึงนิสัยส่วนตัวของท่านในการสวดอ้อนวอนและขอปัญญาและคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้า ครั้งสุดท้ายที่ท่านทูลขอพระบิดาบนสวรรค์ของท่านเพื่อขอปัญญาหรือคำตอบสำหรับคำถามของท่านคือเมื่อใด? ท่านสามารถทำอะไรได้บ้างในวันนี้เพื่อเริ่มขออย่างจริงใจมากขึ้นและบ่อยครั้งมากขึ้น? บันทึกสิ่งที่ท่านรู้สึกว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงประสงค์ให้ท่านทำเพราะสิ่งที่ท่านได้เรียนไปในวันนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

อาจเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนที่จะทราบว่า ในบทเรียนต่อๆ ไป (“ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 11” ) นักเรียนจะมีโอกาสกลับมาใคร่ครวญถึงสิ่งที่ตนตัดสินใจทำเพราะบทเรียนนี้เกี่ยวกับ ยากอบ 1 .

เป็นพยานต่อความรักของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงมีต่อนักเรียนแต่ละคนและความปรารถนาของพระองค์ที่จะประทานพรให้แต่ละคนด้วยปัญญา เป็นพยานว่าชีวิตของนักเรียนจะได้รับพรจากการแสวงหาปัญญาจากพระองค์

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

เพราะเหตุใดการได้รับปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้าและได้รับประจักษ์พยานของฉันเองจากพระองค์จึงมีความสำคัญ?

&#160

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า

พระผู้เป็นเจ้าทรง ต้องการ ตรัสกับท่านจริงหรือ จริง! …

ท่านไม่ต้องสงสัยว่าอะไรจริง [ดูโมโรไน 10:5] ท่านไม่ต้องสงสัยว่าท่านจะวางใจใครได้อย่างปลอดภัย โดยผ่านการเปิดเผยส่วนตัว ท่านสามารถรับพยานของท่านเองว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า โจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ และนี่คือศาสนจักรของพระเจ้า ไม่ว่าคนอื่นจะพูดหรือทำอะไร ไม่มีใครช่วงชิงพยานที่เกิดขึ้นในใจและในความคิดท่านได้เกี่ยวกับความจริงนั้น …

เราเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ความจริงสำคัญที่สุดที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นพยานต่อท่านเสมอคือพระเยซู คือ พระคริสต์ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงพระชนม์!

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 95–96)

ยากอบ 1:6 . การ “ขอด้วยความเชื่อ” หมายความว่าอย่างไร?

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอ้างอิงถึง ยากอบ 1:5–6 และอธิบายว่า

สังเกตข้อกำหนดของการทูลขอด้วยศรัทธา ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงความจำเป็นของการไม่เพียงพูดออกมาเท่านั้นแต่ทำด้วย ข้อผูกมัดสองอย่างของการอ้อนวอนและการกระทำ ข้อกำหนดของการสื่อสารและปฏิบัติ …

คำถามของโจเซฟมุ่งเน้นไม่เพียงสิ่งที่ท่านต้องการรู้เท่านั้นแต่สิ่งที่ท่าน ต้องทำด้วย ! การสวดอ้อนวอนของท่านมิได้ถามเพียงว่า “นิกายใดถูกต้อง?” แต่ถามว่า “ข้าพเจ้าควรเข้าร่วมกับนิกายใด?” โจเซฟไปในป่าเพื่อทูลขอด้วยศรัทธา และท่านตั้งใจว่าจะปฏิบัติ

ศรัทธาที่แท้จริงมีศูนย์รวมอยู่ที่พระเจ้าพระเยซูคริสต์และมักจะนำไปสู่การประพฤติชอบ … เรามุ่งหน้าและเพียรอุทิศถวายงานตามการสวดอ้อนวอน หลังจากเรากล่าว “เอเมน” โดยปฏิบัติตามสิ่งที่เราทูลต่อพระบิดาบนสวรรค์

การทูลขอด้วยศรัทธาเรียกร้องความซื่อสัตย์ ความพยายาม คำมั่นสัญญา และความไม่ย่อท้อ

(เดวิด เอ. เบดนาร์ “ทูลขอด้วยศรัทธา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 114–115)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

ประจักษ์พยานของบิดามารดา

เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ประจักษ์พยานเรื่องการสวดอ้อนวอนของนักเรียน ให้พิจารณาขอบิดามารดาของนักเรียนบางคนหรือผู้นำศาสนจักรเป็นเวลาหนึ่งถึงสองวันก่อนเข้าชั้นเรียนเพื่อจดบันทึกประสบการณ์ที่บุคคลเหล่านั้นเคยได้รับเกี่ยวกับการรับปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้าในการตอบคำสวดอ้อนวอน อ่านเรื่องราวแต่ละเรื่องให้ชั้นเรียนฟัง ในบางกรณี อาจเป็นประโยชน์ที่จะแจกสำเนาเรื่องราวให้แก่นักเรียนหากเป็นเรื่องราวของบิดามารดาหรือผู้นำศาสนจักรของพวกเขา

ศาสดาพยากรณ์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า

หากการทำเช่นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนในการศึกษาคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสวงหาปัญญาจากพระผู้เป็นเจ้า ให้เชิญนักเรียนให้ใช้เวลาสองสามนาทีเพื่อค้นหาแหล่งช่วยที่มีอยู่ นักเรียนอาจค้นหาคำต่างๆ เช่น “การสวดอ้อนวอน” “การเปิดเผย” หรือ “ประจักษ์พยาน” ในคู่มือพระคัมภีร์ Bible Dictionary หรือแอปพลิเคชันคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ ต่อไปนี้เป็นข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนบางข้อที่นักเรียนอาจเลือกเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา: สุภาษิต 3:5–6 ; 2 ทิโมธี 3:15–17 ; 2 นีไฟ 28:30 ; โมไซยาห์ 4:9 ; โมโรไน 10:4–5 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:37–38 ; 8:2–3

การต้านทานการล่อลวง

แนวคิดต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อบทเรียนในอนาคต:

พิจารณาเชื้อเชิญให้นักเรียนแสดงรายการการล่อลวงทั่วไปที่เยาวชนประสบ

เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน ยากอบ 1:12–16 เพื่อค้นหาความจริงที่ยากอบสอนเกี่ยวกับการล่อลวง อาจเป็นประโยชน์ที่จะชี้ให้เห็นว่าคำแปลของโจเซฟ สมิธใน ยากอบ 1:12 เปลี่ยนคำว่า “สู้ทนต่อการทดลองใจ” เป็น “ต้านทานการทดลองใจ”

ท่านอาจใช้คำถามเช่นคำถามต่อไปนี้

• เหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงไม่เคยเป็นแหล่งที่มาของการล่อลวง?

• อะไรช่วยให้ท่านต้านทานการล่อลวง?

• เราจะสามารถหันไปหาพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์เพื่อช่วยให้เราเอาชนะการล่อลวงของเราได้อย่างไร?