การเรียกในคณะเผยแผ่
บทที่ 9: หาคนเรียน


“บทที่ 9: หาคนเรียน” สั่งสอนกิตติคุณของเรา: คู่มือแนะแนวการแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (2023)

“บทที่ 9” สั่งสอนกิตติคุณของเรา

พระเมษบาลผู้ประเสริฐ โดย เดล พาร์สัน

บทที่ 9

หาคนเรียน

พิจารณาสิ่งนี้

  • ฉันจะใช้ศรัทธาในพระคริสต์เพื่อหาคนเรียนได้อย่างไร?

  • เราจะขยายวิสัยทัศน์และปรับปรุงแผนการหาคนเรียนของเราได้อย่างไร?

  • ฉันจะเพิ่มพูนความสามารถและความมั่นใจในการพูดคุยกับคนที่ฉันพบในแต่ละวันได้อย่างไร?

  • เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับสมาชิกในการแบ่งปันพระกิตติคุณได้อย่างไร?

  • เราควรทำอะไรเมื่อเราได้รับรายชื่อแนะนำ?

  • เรายังไม่ได้ลองแนวคิดอะไรบ้างสำหรับการหาคนเรียน?

พระผู้ช่วยให้รอดที่ฟื้นคืนพระชนม์รับสั่งกับเหล่าสาวกว่า “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์” (มัทธิว 28:19; ดู มาระโก 16:15 ด้วย) พระเจ้าทรงย้ำงานมอบหมายนี้ในสมัยของเราโดยตรัสว่า “เจ้าจงไปทั่วโลก [และ] สั่งสอนพระกิตติคุณ” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 68:8; ดู 50:14 ด้วย)

งานสอนศาสนาคือการหาคน สอนพวกเขา และช่วยพวกเขาเตรียมรับบัพติศมา ท่านจะทำงานมอบหมายจากพระเจ้าให้สอนพระกิตติคุณและบัพติศมาผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสได้ลุล่วงเมื่อท่าน “พบคนเหล่านั้นที่ยอมรับ [ท่าน]” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:8) ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในงานสอนศาสนาจนกว่าท่านพบคนเรียน มองหาโอกาสแนะนำพระกิตติคุณอยู่เสมอ ฝึกใช้วิธีที่มีประสิทธิผลในเขตของท่าน

สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องทำงานกับสมาชิกในการหาคน จงทำงานขยันขันแข็งเพื่อให้ได้ความไว้วางใจจากพวกเขา เมื่อสมาชิกไว้วางใจผู้สอนศาสนา พวกเขาย่อมมีแนวโน้มจะชวนเพื่อนๆ และสมาชิกครอบครัวให้พบกับท่าน คนเหล่านี้มีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเจ้า รับบัพติศมา และก้าวหน้าบนเส้นทางพระกิตติคุณ

การพบคนจะเกิดขึ้นตามความพร้อมฟังพระกิตติคุณของคนนั้น จังหวะเวลาของแต่ละคนจะต่างกัน การพบคนจะเกิดจากปฏิสัมพันธ์ครั้งแรกหรือจากปฏิสัมพันธ์หลายๆ ครั้งเป็นเวลานาน หลายคนมีปฏิสัมพันธ์หลายครั้งกับผู้สอนศาสนาหรือสมาชิกศาสนจักรก่อนเริ่มศึกษาพระกิตติคุณอย่างจริงจัง อย่าลังเลที่จะติดต่อพวกเขาอีกครั้ง

การพยายามหาของท่านอาจออกผลหลังจากท่านย้ายไปแล้วหรือแม้หลังจากท่านจบงานเผยแผ่ ไม่ว่าจะเวลาใดหรือผลจะเป็นอย่างไร พระเจ้าทรงขอบคุณที่ท่านพยายาม

บทนี้สรุปหลักธรรมและแนวคิดที่จะช่วยท่านหาคน หลักธรรมเหล่านี้ใช้ได้ทั่วไป แต่ผู้สอนศาสนาและผู้นำคณะเผยแผ่อาจต้องปรับตามสภาวการณ์ของพวกเขา

ใช้ศรัทธาเพื่อหาคนเรียน

ไม่ว่าท่านรับใช้ที่ใด พระเจ้าทรงเรียกท่านให้ทำงาน “เพื่อความรอดของจิตวิญญาณ” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 100:4) เพื่อทำงานนี้ ท่านต้องใช้ศรัทธาในพระคริสต์เพื่อหาคนเรียนทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะเลือกติดตามพระองค์และรับบัพติศมาได้

ศรัทธาเป็นหลักธรรมของการกระทำและพลังอำนาจ จงมีศรัทธาว่าพระเจ้าทรงกำลังเตรียมคนไว้รับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู มีความอดทนและมั่นใจว่าพระองค์จะทรงนำท่านไปพบพวกเขา หรือนำพวกเขามาพบท่าน ทำตามศรัทธาของท่านโดยตั้งเป้าหมาย วางแผน และดำเนินตามแผนเพื่อหาคนเรียน (ดู บทที่ 8)

ผู้สอนศาสนาสวดอ้อนวอน

สวดอ้อนวอนด้วยศรัทธาขณะท่านแสวงหาความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าในการหาคนเรียน เมื่อแอลมานำงานเผยแผ่ไปถึงชาวโซรัม ท่านสวดอ้อนวอนว่า “ข้าแต่พระเจ้า, ขอพระองค์ประทานให้พวกข้าพระองค์เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีความสำเร็จในการนำพวกเขามาหาพระองค์ในพระคริสต์อีก. “ดูเถิด, ข้าแต่พระเจ้า, จิตวิญญาณพวกเขามีค่า … ; ฉะนั้น โปรดประทานพลังความสามารถและปัญญา, ให้พวกข้าพระองค์, ข้าแต่พระเจ้า, เพื่อพวกข้าพระองค์จะนำ [พวกเขา] มาหาพระองค์อีก” (แอลมา 31:34–35)

คนที่ท่านพบมักไม่รู้ตัวว่าตนกำลังมองหาพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูจนกว่าพวกเขาจะพบ ตัวอย่างเช่น ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสคนหนึ่งพูดว่า “เมื่อฉันได้ยินพระกิตติคุณ พระกิตติคุณเติมเต็มช่องว่างในใจที่ฉันไม่รู้ว่าตนเองมี” อีกคนหนึ่งพูดว่า “ฉันค้นหาเสร็จแล้วถึงได้รู้ว่าตนเองหาอยู่’” อีกหลายคนหมั่นหาความจริงแต่ไม่รู้ว่าจะพบได้ที่ไหน (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 123:12)

แสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณขณะที่ท่านหาคนเรียน การหาโดยพระวิญญาณสำคัญเท่าๆ กับการสอนโดยพระวิญญาณ มีศรัทธาว่าท่านจะรู้วิธีหาคนที่จะรับท่าน

การศึกษากับคู่

อาจมีสมาชิกในเขตของท่านที่เป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสศาสนจักร ถามว่าพวกเขาติดต่อกับศาสนจักรอย่างไร คำตอบของพวกเขาอาจให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ท่านว่าจะหาอย่างไร ถามด้วยว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าผู้สอนศาสนากำลังสอนความจริง สรุปประสบการณ์ของพวกเขาลงในสมุดบันทึกการศึกษา

การศึกษาพระคัมภีร์

พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมและทรงนำลูกๆ ของพระองค์มาหาพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างไร?

ขยายวิสัยทัศน์ของท่านเรื่องการวางแผนหาคน

ขณะที่ท่านพยายามหาคนเรียน จงรับรู้ความแตกต่างระหว่าง การจัดเวลา กับ การวางแผน การจัดเวลา คือการเติมแพลนเนอร์และวันของท่าน การวางแผน คือการพยายามจดจ่อกับคนและวิธีหาที่ดีที่สุด

กิจกรรมที่เหมาะสม ถูกเวลา และถูกที่สามารถช่วยท่านหาคนเรียนได้ ถามคำถามต่อไปนี้กับตัวท่านเอง:

  • เราจะพบคนที่พระเจ้าอาจทรงเตรียมไว้ได้ที่ไหน?

  • สถานที่ใดและกิจกรรมแบบใดหาคนได้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ ของวันหรือสัปดาห์?

  • เราจะแสดงความรัก รับใช้พวกเขา และนำคุณค่ามาสู่ชีวิตพวกเขาตอนนี้ได้อย่างไร?

  • เราจะใช้จุดแข็ง ทักษะ และพรสวรรค์ส่วนตัวเชิดชูจิตวิญญาณของพวกเขาได้อย่างไร?

  • เรามีแผนสำรองอะไรบ้างถ้าบางอย่างไม่ได้ผล?

พยายามรับรู้วิธีที่พระเจ้าทรงเตรียมผู้คน พวกเขายอมพูดคุยกับท่านหรือไม่? พวกเขากำลังแสวงหาความช่วยเหลือหรือการปลอบโยนหรือไม่?

นึกถึงการพยายามหาที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ปฏิสัมพันธ์แรกคือที่ไหน? ความพยายามเหล่านั้นมีสมาชิกในท้องที่รวมอยู่ด้วยหรือไม่? ใช้เทคโนโลยีหรือไม่?

เริ่มการวางแผนโดยจดจ่อกับวิธีที่ท่านสามารถเป็นพรแก่ผู้คน แล้วตารางเวลาของท่านจะเป็นรูปเป็นร่าง

การศึกษากับคู่

ใช้ตารางด้านล่างประเมินความพยายามของท่านกับคู่ในการหาคนเรียน วางแผนเพื่อลองแนวคิดใหม่ๆ บางอย่าง

การพยายามหาคน

บางครั้ง

บ่อยครั้ง

เกือบตลอดเวลา

เราทำความรู้จักสมาชิกและสนับสนุนพวกเขาในการพยายามแบ่งปันพระกิตติคุณ รวมถึงสมาชิกใหม่ เยาวชน คนที่กำลังเตรียมรับใช้งานเผยแผ่ สมาชิกที่กลับมา ครอบครัวที่มีบางคนเป็นสมาชิก และผู้หวังเป็นเอ็ลเดอร์

เราทำงานให้ได้ความไว้วางใจจากสมาชิกเพื่อพวกเขาจะเชิญชวนสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ มาพบกับเราได้ด้วยความสบายใจ

เราทำงานกับผู้นำวอร์ดในการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์เพื่อสนับสนุนการพยายามหาคนของเราและเพื่อทราบว่ามีคนให้เราติดต่อหรือไม่

เราทำงานกับคนที่เราสอนอยู่ปัจจุบัน คนที่เคยสอน และคนที่ได้ชื่อทางสื่อ

เราพูดคุยกับคนมากเท่าที่จะมากได้ในแต่ละวัน

เราเตรียมตัวทางวิญญาณและสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าขณะวางแผนหาคนเรียน

เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงกำลังเตรียมคนให้เราสอน

เราคิดหาวิธีช่วยให้คนที่เราพบรู้สึกถึงอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์

เราตั้งเป้าหมายเฉพาะเจาะจงประจำสัปดาห์และประจำวันในการหาคน (ดูบทที่ 8)

เรามองหาคนเรียนตลอดเวลา

เราสร้างสรรค์และใช้หลากหลายวิธีในการหาคน เราลองวิธีใหม่ๆ และไม่ติดอยู่กับกิจวัตร

เราวางแผนหาอย่างเฉพาะเจาะจง เราวางแผนว่าจะเน้นเมื่อใด ที่ไหน และอย่างไร

เราพิจารณาว่าสถานที่และเวลาใดของวันเหมาะจะหาคนเรียนมากที่สุด

เราพิจารณาว่ากิจกรรมหาคนกิจกรรมใดได้ผลในอดีต

เราปรับแผนการหาเมื่อจำเป็นและมีแผนสำรองเมื่อเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ล้มเหลว

เราใช้แอปสั่งสอนกิตติคุณของเราหา ตั้งเป้าหมายและวางแผน ทบทวนและอัปเดตบันทึกของเราทุกวัน

เราใช้พรสวรรค์และจุดแข็งส่วนตัวของเราช่วยหา

เราวางแผนว่าจะใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีอื่นๆ หาคนเรียนเมื่อใดและอย่างไร

เราใช้แคมเพนมีเดียและข้อเสนอในท้องที่ที่ตรงกับความสนใจและความต้องการของคนในเขต

เราตอบคำขอและข้อความออนไลน์อย่างรวดเร็วจากคนที่อาจจะสนใจ

เราวางแผนโพสต์โซเชียลมีเดียล่วงหน้าและทำงานกับสมาชิกเพื่อหาออนไลน์

จงขยันหา

พยายามหาอยู่เสมอ

ในยุคแรกของศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟู พระเจ้าทรงแนะนำพี่น้องชายกลุ่มหนึ่งซ้ำหลายครั้งให้สอนพระกิตติคุณของพระองค์ “ระหว่างทาง” ขณะพวกเขาเดินทาง พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขาใช้ทุกโอกาสแบ่งปันพระกิตติคุณ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:9–10, 22–23, 25–27)

ประยุกต์ใช้คำแนะนำนี้กับการหาของท่าน พยายามขยันหาตลอดวัน วางแผนการพยายามหาของท่าน—และมองหาโอกาสที่ไม่ได้วางแผนไว้ด้วย การหาคนใหม่ให้สอนเป็นสิ่งที่ต้องทำสม่ำเสมอ

แสวงหาการดลใจและเต็มใจใช้หลากหลายวิธี จดจ่อกับวิธีที่ได้ผลที่สุดในเขตของท่าน

พระคริสต์ทรงเรียกเปโตรกับอันดรูว์ โดย เจมส์ เทย์เลอร์ ฮาร์วูด

ให้สายเบ็ดอยู่ในน้ำเสมอ

เกี่ยวกับงานของผู้สอนศาสนา ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์กล่าวว่า:

“ไม่ควรมีใครในพวกเราเป็นเหมือนคนตกปลาที่คิดว่าตนหาปลามาทั้งวันทั้งที่ความจริงแล้วเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ขึ้นและลงน้ำ กินอาหารกลางวัน และวุ่นวายกับอุปกรณ์หาปลา ความสำเร็จในการหาปลาเกี่ยวข้องกับระยะเวลาที่สายเบ็ดของท่านอยู่ในน้ำ ไม่ใช่ระยะเวลาที่ท่านออกจากอะพาร์ตเมนต์ คนหาปลาบางคนอยู่นอกบ้านสิบสองชั่วโมงและให้สายเบ็ดอยู่ในน้ำสิบชั่วโมง คนหาปลาอีกหลายคนอยู่นอกบ้านสิบสองชั่วโมงและให้สายเบ็ดอยู่ในน้ำแค่สองชั่วโมง คนประเภทหลังอาจสงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนคนอื่นๆ

“หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับผู้สอนศาสนาที่พระอาจารย์ทรงเรียกว่า ‘ผู้หาคนดั่งหาปลา’ [มัทธิว 4:19] สายเบ็ดของผู้สอนศาสนาควรหย่อนลงในน้ำจับปลาทันทีที่เขาออกจากอะพาร์ตเมนต์” (สัมมนาสำหรับประธานคณะเผยแผ่คนใหม่ 20 มิ.ย. 2000)

คันเบ็ดหลายคัน

เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกอธิบายการเปรียบเทียบนี้อย่างละเอียด นอกจากจะให้ “สายเบ็ดอยู่ในน้ำ” นานขึ้นแล้ว ท่านสอนว่าผู้สอนศาสาที่หาคนเรียน “จะให้สายเบ็ด หลายสาย อยู่ในน้ำตลอดเวลา …

“พวกเขาค้นหาและติดต่อครอบครัวที่มีบางคนเป็นสมาชิก

“พวกเขาค้นใน [แอปสั่งสอนกิตติคุณของเรา] หาคนที่เคยเรียนในอดีตเพื่อติดต่อทางโทรศัพท์และข้อความ

“พวกเขาเสนอตัวรับใช้สมาชิก คนที่เคยเรียนในอดีต คนที่พวกเขาสอนอยู่ปัจจุบัน และชุมชนส่วนใหญ่ …

“พวกเขาช่วยสมาชิกสร้างข้อความพระกิตติคุณไว้แบ่งปันบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนเอง …

“พวกเขาขอรายชื่อแนะนำจากคนที่พวกเขาไปเยี่ยมและสอน” (“Be Spiritual Pathfinders and Influencers,” missionary devotional, Sept. 10, 2020; เน้นตัวเอน)

การศึกษากับคู่

สนทนาคำถามต่อไปนี้:

  • ท่านจะให้ “สายเบ็ดอยู่ในน้ำ” ระหว่างวันนานขึ้นด้วยวิธีใดได้บ้าง?

  • ท่านจะทำให้สายเบ็ดหลายสายอยู่ในน้ำขณะหาคนเรียนด้วยวิธีใดบ้าง?

  • ฟีเชอร์อะไรในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราสามารถช่วยท่านได้?

  • ท่านจะใช้เทคโนโลยีช่วยทำให้สายเบ็ดหลายสายของท่านอยู่ในน้ำได้อย่างไร?

พูดคุยกับทุกคน

พัฒนาความปรารถนาอันลึกซึ้งที่จะนำจิตวิญญาณมาหาพระคริสต์ (ดู โมไซยาห์ 28:3) เมื่อท่านรู้สึกถึงความปรารถนานี้ ความรักความห่วงใยของท่านจะสะท้อนอยู่ในการพยายามหาของท่าน ความรักของท่านจะสะท้อนอยู่ในการสนทนาของท่านเช่นกัน

พูดคุยกับคนให้มากเท่าที่จะมากได้ในแต่ละวัน พูดคุยกับพวกเขาทุกที่ที่ท่านไป หากเหมาะสมให้ไปตามบ้าน พระเจ้าทรงแนะนำเอ็ลเดอร์ยุคแรกบางคนของศาสนจักรให้ “อ้าปากของเจ้าเพื่อประกาศกิตติคุณของเรา” จากนั้นพระองค์ทรงสัญญาว่าจะ “ใส่” สิ่งที่ต้องสอนไว้ในปากของพวกเขา (หลักคำสอนและพันธสัญญา 30:5; ดู 33:7–10 ด้วย)

ทำนองเดียวกัน พระเจ้ารับสั่งกับโจเซฟ สมิธและซิดนีย์ ริกดันว่า “จงเปล่งเสียงของเจ้าแก่ผู้คนเหล่านี้; จงพูดความนึกคิดที่เราจะใส่ไว้ในใจเจ้า” พระองค์ทรงสัญญาต่อจากนั้นว่า “จะให้มันแก่ท่าน…ในชั่วขณะนั้นนั่นเอง, สิ่งที่ท่านจะกล่าว” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 100:5–6)

เมื่อท่านพบผู้คน บ่อยครั้งท่านจะรู้สึกว่าพระวิญญาณทรงช่วยให้ท่านรู้ว่าจะพูดอะไร แต่ถ้าท่านไม่รู้สึกถึงการกระตุ้นเตือน ให้เริ่มทำบางอย่าง—อาจจะถามคำถามและฟังคำตอบของพวกเขา (ดู “หาคนตรงที่พวกเขาอยู่” ในบทนี้) หรืออาจจะพูดถึงพระเจ้าพระเยซูคริสต์หรือการเรียกโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า

แนวคิดต่อไปนี้จะช่วยได้ขณะท่านพูดคุยกับคนที่ท่านพบ:

  • อบอุ่น จริงใจ และเป็นมิตร มองหาวิธีเชื่อมสัมพันธ์และเริ่มการสนทนา

  • ฟังสิ่งที่คนพูดอย่างจริงใจ พยายามเข้าใจความต้องการและความสนใจของแต่ละคน ให้ความช่วยเหลือเมื่อเห็นเหมาะสม

  • พิจารณาว่าพระกิตติคุณจะช่วยสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างไร แล้วสอนความจริงพระกิตติคุณเบื้องต้นและเชื้อเชิญให้พวกเขาเรียนรู้มากขึ้น แบ่งปันว่าพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูจะนำความหวังและความหมายเข้ามาในชีวิตพวกเขามากขึ้นได้อย่างไร

  • ถามเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเขา ช่วยให้พวกเขาเห็นว่าพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูจะเป็นพรแก่ครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร เสนอตัวช่วยพวกเขาหาชื่อบรรพชนที่เสียชีวิตแล้ว

  • เชิญพวกเขามาการประชุมศีลระลึก

  • เสนอให้อ่านแผ่นพับหรือสื่ออื่นของศาสนจักร ทั้งแบบเล่มและแบบดิจิทัล

  • บอกพวกเขาเกี่ยวกับจุดประสงค์การเป็นผู้สอนศาสนาของท่านและสาเหตุที่ท่านตัดสินใจรับใช้งานเผยแผ่

หลักธรรมเหล่านี้ประยุกต์ใช้ในปฏิสัมพันธ์ของท่านกับสมาชิกได้เช่นกัน

เป็นธรรมดาที่อาจจะหวั่นวิตกบ้างขณะพูดคุยกับผู้คน สวดอ้อนวอนขอให้มีศรัทธาและกล้าสอนพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู ทุกคนที่ท่านพบเป็นพี่น้องของท่านในครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้า จำไว้ว่าพระองค์ “ไม่ทรงปฏิเสธผู้ใดที่มาหาพระองค์เลย, ไม่ว่าดำและขาว, ทาสและไท, ชายและหญิง; … ทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า” (2 นีไฟ 26:33)

การศึกษาส่วนตัวหรือกับคู่

อ่านเรื่องราวจากวิคเตอร์ มานูเอล กาเบรราใน “Thirsting for the Living Water,” Ensign, Aug. 2001, 60–61 ขณะอ่าน ให้ดูว่าเขาถูกเตรียมให้รับผู้สอนศาสนาอย่างไรและผู้สอนศาสนาใช้โอกาสที่ไม่ได้วางแผนไว้สอนพระกิตติคุณให้กับเขาอย่างไร

  • ชายคนนี้ถูกเตรียมให้รับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างไร?

  • จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอ็ลเดอร์ไม่แบ่งปันข่าวสารพระกิตติคุณ?

  • ทบทวนสิ่งที่ท่านทำเมื่อวาน ท่านพูดคุยกับคนมากเท่าที่จะมากได้หรือไม่? ถ้าไม่ ให้ตั้งเป้าหมายและวางแผนพูดคุยกับคนมากขึ้นวันนี้

การศึกษาพระคัมภีร์

ท่านได้เรียนรู้อะไรบ้างจากพระคัมภีร์ต่อไปนี้เกี่ยวกับการหาคนเรียน? ท่านได้เรียนรู้อะไรจากข้อพระเหล่านี้เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านควรสอน? พระเจ้าทรงสัญญาอะไร?

เป็นหนึ่งเดียวกับสมาชิก

“การเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณเป็นส่วนหนึ่งของงานแห่งความรอดและความสูงส่ง” (คู่มือทั่วไป, 23.0) ทำงานกับสมาชิกของศาสนจักรเพื่อหาคนเรียน เมื่อสมาชิกแนะนำชื่อบางคนกับท่านและร่วมสอนบทเรียน คนนั้นมีแนวโน้มจะรับบัพติศมาและแข็งขันในศาสนจักร

สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำระดับท้องที่

สร้างความสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายอธิการ และผู้นำวอร์ดคนอื่นๆ หัวหน้าเผยแผ่วอร์ด (ถ้าได้รับเรียก) และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์กับฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เป็นจุดติดต่อเบื้องต้นของท่าน ขอคำแนะนำจากพวกเขา และสนับสนุนพวกเขาในการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์ (ดู บทที่ 13)

ในระหว่างการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์ ให้ทำงานกับผู้ช่วยโควรัมปุโรหิตและประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงสำหรับชั้นเรียนโตสุด เยาวชนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการแบ่งปันพระกิตติคุณ ช่วยพวกเขากระตุ้นสมาชิกโควรัมและสมาชิกชั้นเรียนให้แบ่งปันพระกิตติคุณ วิธีหนึ่งคือให้เยาวชนชวนเพื่อนๆ มากิจกรรม

ถามตนเองเป็นประจำว่า “ฉันเป็นพรแก่ผู้นำระดับท้องที่หรือไม่?” พัฒนาเจตคติของ “ฉันจะช่วยได้อย่างไร?” เหมือนแอมันในพระคัมภีร์มอรมอน จงเข้าถึงผู้นำระดับท้องที่ด้วยเจตคติของการรับใช้ (ดู แอลมา 17:23–25)

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนผู้นำคณะเผยแผ่ว่า “ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะฝึกรักผู้นำระดับท้องที่และสมาชิก หนุนใจพวกเขาและสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา ท่านต้องให้ความสำคัญและสามารถเชื่อมประสานความกระตือรือร้นของผู้สอนศาสนากับความแน่วแน่และความพยายามด้วยความรักของสมาชิก แล้วความสำเร็จของท่านจะทวีคูณ” (“Hopes of My Heart,” สัมมนาผู้นำคณะเผยแผ่คนใหม่, 23 มิ.ย. 2019)

ผู้สอนศาสนาสอนผู้หญิง

สนับสนุนสมาชิกในการพยายามแบ่งปันพระกิตติคุณ

มีหลายวิธีที่จะสนับสนุนและกระตุ้นสมาชิกให้แบ่งปันพระกิตติคุณ ช่วยพวกเขาใคร่ครวญว่าพระกิตติคุณเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขาอย่างไร กระตุ้นพวกเขาให้ “ชูแสงสว่าง [ของพวกเขา] ขึ้นเพื่อมันจะส่องโลก” (3 นีไฟ 18:24)

ช่วยสมาชิกประยุกต์ใช้หลักธรรมของรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ ยกตัวอย่างวิธีปกติธรรมชาติที่พวกเขาสามารถประยุกต์ใช้หลักธรรมเหล่านี้

รัก วิธีหนึ่งที่จะแสดงความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าคือรักและรับใช้ลูกๆ ของพระองค์ กระตุ้นสมาชิกให้ยื่นมือช่วยเหลือสมาชิกครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนบ้าน และผู้อื่นด้วยความรัก การพยายามแสดงความรักเป็นวิธีสำคัญในการรักษาพันธสัญญาที่พวกเขาทำไว้กับพระผู้เป็นเจ้า (ดู โมไซยาห์ 18:9–10)

แบ่งปัน เพราะรักพระผู้เป็นเจ้าและลูกๆ ของพระองค์ สมาชิกจึงต้องการแบ่งปันพรที่พระองค์ประทานแก่พวกเขา (ดู ยอห์น 13:34–35) กระตุ้นสมาชิกให้บอกคนอื่นๆ ว่าพระกิตติคุณเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขาอย่างไร กระตุ้นพวกเขาให้พูดถึงพระผู้ช่วยให้รอดและอิทธิพลของพระองค์ ช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงปีติของการแบ่งปันความรัก เวลา และเหตุการณ์ชีวิต ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้วิธีแบ่งปันในวิธีปกติธรรมชาติ—อันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่พวกเขาทำอยู่แล้วในชีวิต

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน

“เราทุกคนแบ่งปันหลายอย่างกับผู้อื่น เราแบ่งปันบ่อยๆ เราแบ่งปันภาพยนตร์และอาหารที่เราชอบ เรื่องสนุกๆ ที่เราเจอ สถานที่ที่เราไป งานศิลปะที่เราชื่นชม คำคมที่ให้แรงบันดาลใจ

“เราจะเพิ่มสิ่งที่เรารักเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เข้าไปในสิ่งที่เราแบ่งปันอยู่แล้วได้อย่างไร? … “เรามีส่วนทำให้งานมอบหมายอันสำคัญยิ่งของพระผู้ช่วยให้รอดลุล่วงโดยแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ของเราในพระกิตติคุณ” (ดู แกรีย์ อี. สตีเวนสัน, “รัก แบ่งปัน เชื้อเชิญ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2022, 86)

เชื้อเชิญ พระผู้ช่วยให้รอดทรงเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณของพระองค์และเตรียมรับชีวิตนิรันดร์ (ดู แอลมา 5:33–34) เช่นเดียวกับการแบ่งปัน การเชื้อเชิญมักเป็นเรื่องของการรวมครอบครัว มิตรสหาย และเพื่อนบ้านไว้ในสิ่งที่เราทำอยู่แล้ว กระตุ้นสมาชิกให้สวดอ้อนวอนเกี่ยวกับการเชื้อเชิญผู้คนในวิธีต่อไปนี้:

  • มาดู เชื้อเชิญให้ผู้คน “มาดู” พรที่พวกเขาจะได้รับผ่านพระเยซูคริสต์ พระกิตติคุณ และศาสนจักรของพระองค์

    1:17
  • มารับใช้ เชื้อเชิญให้ผู้คน “มารับใช้” คนอื่นๆ ที่ทุกข์ยากเดือดร้อน

  • มาเป็นส่วนหนึ่ง เชื้อเชิญให้ผู้คน “มาเป็นส่วนหนึ่ง” ในฐานะสมาชิกศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันกล่าวว่า: “มีการเชื้อเชิญนับร้อยที่เราให้ผู้อื่นได้ เราสามารถเชื้อเชิญให้ผู้อื่น ‘มาดู’ พิธีศีลระลึก กิจกรรมวอร์ด วีดิทัศน์ออนไลน์ที่อธิบายพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ‘มาดู’ สามารถเป็นการเชื้อเชิญให้อ่านพระคัมภีร์มอรมอนหรือมาพระวิหารแห่งใหม่ระหว่างโอเพ่นเฮ้าส์ก่อนพิธีอุทิศ บางครั้งการเชื้อเชิญคือการเชื้อเชิญจากภายใน—การเชื้อเชิญตัวเราเองให้รับรู้และมองเห็นโอกาสรอบตัวเพื่อลงมือทำ” (“รัก แบ่งปัน เชื้อเชิญ,” 86)

จงช่วยให้เยาวชนรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ เยาวชนมีพรสวรรค์พิเศษในการรักเพื่อนๆ แบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจ และเชื้อเชิญเพื่อนๆ มาร่วมกิจกรรม

ช่วยให้สมาชิกเข้าใจว่าการพยายามดำเนินชีวิตตามหลักธรรมของรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญเป็นเรื่องดี ไม่ว่าคนนั้นจะพบกับผู้สอนศาสนาหรือเข้าร่วมศาสนจักรหรือไม่ก็ตาม

ช่วยสมาชิกดึงจุดแข็งของตนออกมาใช้ในการแบ่งปันพระกิตติคุณ บางคนเก่งเรื่องหาคนเรียน และบางคนเป็นครูที่เก่งมาก บางคนมีความสามารถตามธรรมชาติในการเชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ส่วนคนอื่นๆ ชอบสวดอ้อนวอนให้เพื่อนๆ ช่วยให้พวกเขาเห็นว่ามีหลายวิธีให้ทุกคนมีส่วนร่วม

เมื่อท่านไปเยี่ยมสมาชิก ให้ไปเยี่ยมอย่างมีจุดประสงค์ แสดงให้เห็นว่าท่านทำงานอย่างทุ่มเทในการหาและสอน เคารพเวลาและตารางงานของพวกเขา

สมาชิกบางคนอาจจะยินดีให้ท่านสอนข่าวสารจากบทเรียนหนึ่งบท ความจริงของพระกิตติคุณคือการเปลี่ยนชีวิต การเสริมสร้างความเข้าใจของสมาชิกในเรื่องพระกิตติคุณจะเพิ่มความไว้วางใจในตัวท่านและสร้างความตื่นเต้นให้พวกเขาแบ่งปัน ช่วยให้พวกเขารับรู้พระวิญญาณ และทำตามการกระตุ้นเตือน

พยายามหาคนเรียนผ่านครอบครัวที่มีบางคนเป็นสมาชิก ผู้หวังเป็นเอ็ลเดอร์ สมาชิกที่กลับมา และสมาชิกใหม่ พวกเขาน่าจะมีสมาชิกครอบครัวและเพื่อนต่างศาสนาหลายคน

ในทั้งหมดที่ท่านทำกับสมาชิก จงทำตามพระวิญญาณและพยายามสร้างศรัทธาของพวกเขาในพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์

ดูแนวคิดและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ท่านจะสามารถสนับสนุนสมาชิกในการแบ่งปันพระกิตติคุณที่:

สัญญาพรสำหรับการแบ่งปันพระกิตติคุณ

ช่วยให้สมาชิกเข้าใจพรอันน่าทึ่งของการแบ่งปันพระกิตติคุณ พรเหล่านี้ได้แก่:

การศึกษากับคู่

  • ทบทวนการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์ครั้งที่ผ่านมาของท่าน ท่านจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร? ทบทวนคำขอจากผู้นำวอร์ดและวางแผนว่าจะตอบสนองอย่างไรและเมื่อใด

  • วางแผนว่าท่านจะประสานความพยายามของผู้สอนศาสนาในการประชุมประสานงานครั้งต่อไปอย่างไร

  • เรียนรู้ชื่อของผู้นำวอร์ด (ชายและหญิง) วางแผนว่าท่านจะทำอะไรในระหว่างเดือนถัดไปเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้นำเหล่านี้ให้ดีขึ้นและสนับสนุนการพยายามสอนศาสนาของพวกเขา

หาผ่านแอปสั่งสอนกิตติคุณของเรา

แอปสั่งสอนกิตติคุณของเราเป็นแหล่งช่วยสำคัญสำหรับหาคนเรียน ผู้สอนศาสนาที่ใช้ฟีเชอร์ในแอปนี้อย่างสม่ำเสมอจะหาได้มากขึ้น เพื่อคุ้นเคยกับฟีเชอร์เหล่านี้ ให้ดูการอบรมที่ให้ไว้ในแอป จงไวต่อการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณที่ท่านอาจได้รับขณะทบทวนชื่อคน

แอปจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่เคยมีอยู่ในรายชื่อแนะนำ เคยติดต่อไปแล้ว หรือเคยเรียน บางคนเหล่านี้อาจจะต้องการพบกับผู้สอนศาสนาอีกครั้ง พวกเขาอาจจะรู้จักคนอื่นที่อาจสนใจเรียนพระกิตติคุณเช่นกัน

ในการวางแผนของท่าน ให้ใช้แผนที่และตัวกรองในแอปเพื่อจัดลำดับว่าจะเยี่ยมใครก่อน ดูข้อมูลของพวกเขาและเรียนรู้ว่าพบพวกเขาได้อย่างไร ดูว่ามีบันทึกเกี่ยวกับสมาชิกที่ช่วยเหลือพวกเขาหรือไม่ ใช้ข้อมูลนี้กำหนดวิธีดีที่สุดในการติดต่อพวกเขาอีกครั้ง

ผู้สอนศาสนาศึกษาในโทรศัพท์

ใช้ฟีเชอร์ตัวกรองในแอปเพื่อหาชื่อทุกคนที่:

  • เคยกำหนดวันบัพติศมาแต่ไม่ได้รับบัพติศมา

  • เข้าร่วมการประชุมศีลระลึกอย่างน้อยหนึ่งครั้งแต่ไม่ได้รับบัพติศมา

  • เรียนบทเรียนมากกว่าสามครั้ง

  • ไม่ได้ติดต่อมาระยะหนึ่งแล้ว

ถ้าคนที่ท่านติดต่อไม่สนใจจะเรียนหรือเลือกไม่ให้ไปเยี่ยมอีก ให้บันทึกข้อมูลนั้นลงในแอป บันทึกว่าท่านจะยังคงติดต่อพวกเขาและบำรุงเลี้ยงจนกว่าพวกเขาจะพร้อมเรียนรู้มากขึ้นอย่างไร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้พวกเขาลงชื่อรับอีเมลต่อเนื่องเพื่อรับข่าวสารเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์หรือพระกิตติคุณหัวข้ออื่น ท่านอาจจะให้พวกเขาเชื่อมสัมพันธ์กับสมาชิกที่สามารถตอบคำถามและบำรุงเลี้ยงความสนใจและมิตรภาพของพวกเขาเช่นกัน ตั้งค่าเตือนความจำในแอปเพื่อติดตามผลกับพวกเขา ถามว่าพวกเขารู้จักใครที่อาจจะสนใจหรือไม่

ท่านสามารถหาคนสอนผ่านแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราได้เช่นกันโดยใช้ตัวกรองหรือกลุ่มส่งข้อความกลุ่ม นี่จะเป็นวิธีที่ดีในการให้ผู้คนรู้เหตุการณ์ต่างๆ เช่น กิจกรรมวอร์ดและพิธีบัพติศมา ติดตามผลด้วยการเชื้อเชิญส่วนตัวให้เข้าร่วมเหตุการณ์เหล่านี้

การศึกษากับคู่

เพื่อดูว่าแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราจะเป็นแหล่งช่วยหาได้ดีเพียงใด ให้ลองทำกิจกรรมต่อไปนี้ ขณะทำ ให้เอาใจใส่ความประทับใจที่ท่านได้รับ

  • ใช้ตัวกรองระบุชื่อทุกคนที่เคยเรียนมาแล้วสามครั้งหรือมากกว่านั้น เชิญพวกเขาเป็นรายบุคคลให้มาโบสถ์วันอาทิตย์นี้

  • สร้างตัวกรองและหาทุกคนที่เคยกำหนดวันบัพติศมาและมาโบสถ์แล้วอย่างน้อยสองครั้ง

  • วางแผนส่งข้อความเป็นรายตัวให้เข้าร่วมกิจกรรมวอร์ดหรือโครงการบำเพ็ญประโยชน์ ท่านอาจต้องการส่งข้อความกลุ่มเป็นครั้งคราวและติดตามผลเป็นรายบุคคล

  • สนทนากับคู่ของท่านเกี่ยวกับคนที่ท่านรู้สึกประทับใจ วางแผนไปเยี่ยมหรือติดต่อพวกเขาทันที

หาผ่านการรับใช้

ให้โอกาสผู้คนมารับใช้

ผู้คนจะมีประสบการณ์ที่ดีและเชื่อมสัมพันธ์กับผู้สอนศาสนาและสมาชิกในท้องที่ที่กิจกรรมการรับใช้ หลายคนยินดีแบ่งปันพรสวรรค์ ทักษะ หรือการรับใช้ แค่ต้องเชิญพวกเขา

เชิญคนมาร่วมกิจกรรมการรับใช้ที่วอร์ดจัด ท่านสามารถเชื่อมต่อผู้คนกับโอกาสรับใช้ เช่น โอกาสใน JustServe.org หากที่นั่นมี เมื่อท่านรับใช้กับผู้อื่น ท่านมารวมกันอย่างมีพลัง

เสนอตัวรับใช้

“[จงไป] ทำคุณประโยชน์” เหมือนพระผู้ช่วยให้รอด” (กิจการ 10:38; ดู “ไปทำคุณประโยชน์” ในบทที่ 1 ด้วย) สวดอ้อนวอนขอให้ตระหนักรู้โอกาสทำคุณประโยชน์ในแต่ละวัน บางครั้งการรับใช้จะเป็นไปตามแผน แต่บ่อยครั้งไม่เป็นไปตามแผน หาวิธีรับใช้ ช่วยเหลือ และหนุนใจผู้คนแบบเรียบง่ายทันทีทันควัน จำไว้ว่าพระเจ้าทรงใช้โอกาสที่ไม่คาดคิดหยิบยื่นความช่วยเหลือและเป็นพรแก่ผู้อื่น

รับใช้ด้วยความปรารถนาจะช่วยเหลือผู้คนอย่างจริงใจ ถ้าการรับใช้ทำให้มีโอกาสสอน จงสำนึกคุณ ถ้าไม่ ก็จงสำนึกคุณที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้บางคน ตอบคำถามถ้ามีคนถาม ถ้ามีคนแสดงความสนใจ ให้ตอบสั้นๆ และนัดพบกันเวลาอื่นเพื่อแบ่งปันข่าวสาร

จงทำตามแนวทางการรับใช้ใน มาตรฐานผู้สอนศาสนาสำหรับสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์, 2.7 และ 7.2

หาคนตรงที่พวกเขาอยู่

การหาคนตรงที่พวกเขาอยู่เริ่มด้วยการพยายามมองพวกเขาดังพระผู้เป็นเจ้าทรงมอง สมมติว่ามีคนพาท่านไปพูดคุยกับคนนี้ หรือมีคนพาเขามาหาท่าน จงพยายามเข้าใจความต้องการและความปรารถนาทางวิญญาณของผู้คน หาให้พบว่าอะไรสำคัญต่อพวกเขามากที่สุด โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ของพวกเขากับครอบครัวและพระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจจะถามคำถามทำนองนี้—แล้วตั้งใจฟัง:

  • คุณให้คุณค่ากับอะไรมากที่สุด?

  • อะไรทำให้คุณเกิดปีติ?

  • คุณต้องการอะไรสำหรับอนาคตของคุณและสำหรับคนที่คุณรัก?

  • คุณพบเจอความท้าทายอะไรบ้างในการทำให้ความหวังและความฝันของคุณเป็นจริง?

  • คุณอยากปรับปรุงชีวิตด้านใดบ้าง?

จงแสวงหาการดลใจขณะใคร่ครวญสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับความหวังและความปรารถนาของคนนั้น ความจริงพระกิตติคุณอะไรเชื่อมโยงกับสิ่งที่เขาต้องการ?

พิจารณาวิธีของท่านจากมุมมองของคนนั้น เขารู้อะไรเกี่ยวกับท่าน? ท่านจะเสนออะไรได้บ้างที่อาจจะเป็นประโยชน์? คนนั้นรู้สึกหรือไม่ว่าการปฏิสัมพันธ์กับท่านจะคุ้มค่า?

พิจารณาเหตุผลต่างๆ ที่ผู้คนอาจจะอยากทำความรู้จักท่าน สมาชิกคนอื่นๆ หรือศาสนจักร บางตัวอย่างที่ท่านให้ได้จะสรุปไว้ด้านล่าง

ผู้สอนศาสนาพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง

ให้ประสบการณ์หรือข้อมูลที่พวกเขาจะเห็นค่า

ใช้แหล่งข้อมูลของศาสนจักร ตลอดจนพรสวรรค์และจุดแข็งของท่านเชื่อมโยงกับความสนใจของบางคน แสวงหาความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ในการให้ข้อมูลหรือประสบการณ์ที่คนนั้นจะเห็นค่า

จงเปิดรับการดลใจและสร้างสรรค์ขณะท่านนึกถึงประสบการณ์หลายๆ แบบหรือข้อมูลที่ท่านจะให้ได้ แนวคิดบางอย่างระบุไว้ด้านล่าง

  • แชร์ลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลศาสนจักรที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำให้พวกเขาสนใจ

  • จัดงานเช่นการให้ข้อคิดทางวิญญาณ (แบบเจอตัวหรือสตรีมสด)

  • เสนอบางอย่างที่งานชุมนุมหรืองานในท้องที่ (ตัวอย่างเช่น สร้างสาแหรกประวัติครอบครัวฟรีที่ตลาด)

  • เสนอตัวสอนชั้นเรียน

  • จัดชั้นเรียนศึกษาพระคัมภีร์ หรือเสนอตัวอ่านพระคัมภีร์ไบเบิลและพระคัมภีร์เล่มอื่นกับพวกเขา

  • สอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง

  • ประชาสัมพันธ์กิจกรรมศาสนจักรระดับท้องที่ เช่น งานเลี้ยงวันหยุดหรือชั้นเรียนการพึ่งพาตนเอง ใช้ใบปลิวหรือโซเชียลมีเดีย

  • เชิญพวกเขามาร่วมพิธีบัพติศมา

  • เสนอตัวพาพวกเขาทัวร์อาคารประชุมในท้องที่

หนึ่งในประสบการณ์มีค่าที่สุดที่ท่านจะช่วยให้ผู้คนมีคือการเข้าร่วมพิธีศาสนจักร เชิญพวกเขาและอธิบายว่าพิธีจะเป็นอย่างไร บอกพวกเขาว่าการเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกจะเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขาอย่างไร

ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่จริงใจ

หลายคนต้องการพบปะคนอื่นๆ ในชุมชนของตนหรือทำความรู้จักคนเหล่านั้นให้ดียิ่งขึ้น บางคนเหงา แนวคิดบางประการในการช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่จริงใจมีดังนี้

  • ไปเยี่ยมคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเขตเพื่อต้อนรับพวกเขา

  • แนะนำคนในชุมชนให้รู้จักสมาชิกที่มีความสนใจเหมือนกัน

  • เชิญคนมาร่วมการประชุม กิจกรรม และโอเพ่นเฮ้าส์วอร์ด

  • เสนอตัวช่วยพวกเขาติดต่อกับหัวหน้างานพระวิหารและประวัติครอบครัววอร์ดผู้จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวที่เสียชีวิตแล้ว

  • เสนอตัวสอนผู้คนให้รู้วิธีจัดกิจกรรมยามค่ำหรืออ่านพระคัมภีร์กับครอบครัว (ดูหลักธรรมที่เป็นประโยชน์ใน คู่มือทั่วไป, 2.2.4 ซึ่งปรับได้ตามสภาวการณ์ของผู้คน)

  • เชิญคนที่อยู่ในวัยเหมาะสมเรียนเซมินารี สถาบัน หรือ BYU-Pathway Worldwide

มีวิธีน่าเชื่อถือหลายวิธีในการหาคนที่พร้อมจะรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู ทำสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อให้ตนอยู่ในเส้นทางของคนที่พร้อมจะรับ

การศึกษากับคู่

ระบุแนวคิดบางอย่างในหมวดนี้ที่ท่านยังไม่ได้ลอง วางแผนลองแนวคิดบางอย่างในระหว่างสัปดาห์ถัดไป

ติดต่อคนที่ท่านได้ชื่อมา

คนที่ท่านได้ชื่อมาอาจพร้อมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ รายชื่อแนะนำอาจมาจากสมาชิกของศาสนจักร ผู้สอนศาสนาคนอื่นๆ สำนักงานใหญ่ของศาสนจักร และทางโซเชียลมีเดียในท้องที่

ติดต่อทันที

เมื่อท่านได้ชื่อแนะนำผ่านสำนักงานใหญ่หรือโซเชียลมีเดียในท้องที่ ให้ทบทวนข้อมูลในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราเกี่ยวกับความสนใจของพวกเขา พยายามติดต่อพวกเขาทันทีที่ทำได้

ผู้สอนศาสนาเคาะประตู

ใช้แนวทางต่อไปนี้เมื่อทำงานกับคนที่ท่านได้ชื่อมา:

  • ถ้าสมาชิกหรือผู้สอนศาสนาคนอื่นให้ชื่อมา ให้ติดต่อคนที่ส่งรายชื่อแนะนำเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าผู้สอนศาสนาให้ชื่อมา พวกเขาอาจติดต่อกับท่านทางออนไลน์ถ้าผู้นำคณะเผยแผ่ของพวกเขาเห็นชอบ สมาชิกอาจร่วมสอนกับท่านแบบเจอตัวหรือทางออนไลน์

  • พยายามติดต่อคนนั้นทันทีผ่านการเยี่ยม โทรศัพท์ ส่งข้อความ อีเมล หรือการสื่อสารแบบอื่น ถ้าคนนั้นไม่ตอบ ให้ลองติดต่อเวลาอื่นของวัน

  • ถ้าท่านติดต่อครั้งแรกทางโทรศัพท์ ข้อความ หรืออีเมล ให้นัดเวลาพบกันแบบเจอตัวหรือผ่านเทคโนโลยี

  • ท่านกับคู่จะทบทวนคำขอของคนนั้นเพื่อทราบความต้องการและความสนใจของเขา พิจารณาว่าพระกิตติคุณจะช่วยสนองความต้องการเหล่านั้นได้อย่างไร

  • เมื่อท่านไปพบ ให้นำสิ่งที่ขอไปด้วย เช่น พระคัมภีร์มอรมอน แบ่งปันความจริงพระกิตติคุณจากบทเรียนผู้สอนศาสนาที่ตรงกับความสนใจหรือความต้องการของคนนั้น

บางครั้งคนที่ท่านได้ชื่อมาจะนำท่านไปหาคนอื่นที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมอยู่ ถ้าคนที่ท่านติดต่อไม่สนใจ ให้ถามว่าพวกเขารู้จักคนอื่นที่อาจจะสนใจหรือต้องการความหวังในชีวิตหรือไม่ บางทีท่านอาจจะถูกนำไปพบคนนี้เพราะคนอื่นในบ้านหรือละแวกบ้านของเขาพร้อมรับพระกิตติคุณ

ถ้านัดหมายกับใครบางคนล้มเหลว พึงพิจารณาว่าท่านจะทำงานสอนศาสนาด้านอื่นในเขตนั้นได้อย่างไร แอปสั่งสอนกิตติคุณของเราจะช่วยท่านหาคนแถวนั้นที่เคยได้รับการติดต่อหรือเคยเรียนมาก่อน

ส่งต่อให้ผู้สอนศาสนาในเขตอื่น

เมื่อท่านพบคนที่สนใจจะเรียนรู้พระกิตติคุณเพิ่มเติมแต่อยู่นอกเขตที่มอบหมายให้ท่านดูแล ท่านจะแนะนำพระกิตติคุณกับพวกเขา แล้วช่วยพวกเขาเตรียมพบผู้สอนศาสนาและสมาชิกตรงที่พวกเขาอยู่

เมื่อประธานคณะเผยแผ่ของท่านเห็นชอบ ท่านอาจสนับสนุนคนเหล่านี้ต่อไปเพื่อช่วยให้พวกเขารับพระกิตติคุณ (ดู มาตรฐานผู้สอนศาสนา, 7.5.4)

การศึกษากับคู่

ทบทวนทุกคนที่ได้ชื่อมาในเขตของท่านภายในเดือนที่แล้ว ระบุชื่อคนที่ท่านติดต่อไม่ได้ และลองติดต่อพวกเขาอีกครั้ง ตัดสินใจว่าในบรรดาคนที่เคยติดต่อแล้ว ท่านควรไปเยี่ยมใครอีกครั้ง อัปเดตบันทึกเหล่านี้ในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเรา

ผู้สอนศาสนาคุยโทรศัพท์

ใช้เทคโนโลยี

มีหลายวิธีที่ท่านสามารถใช้เทคโนโลยีหาคนเรียน บางตัวอย่างได้แก่:

  • ใช้โซเชียลมีเดียทำงานกับสมาชิกเพื่อหาคน

  • สร้างความสัมพันธ์โดยติดต่อผ่านอีเมลและโซเชียลมีเดีย

  • แบ่งปันข้อพระคัมภีร์ คำพูดอ้างอิง และข่าวสารพระกิตติคุณที่เชิดชูจิตวิญญาณ

  • ช่วยผู้คนใช้ FamilySearch.org เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวของพวกเขาที่เสียชีวิตแล้ว

  • เสนอชั้นเรียนออนไลน์เพื่อสอนทักษะ

  • ทำการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเหมาะสมผ่านกลุ่มออนไลน์ที่มีความสนใจเหมือนกัน

  • สร้างโพสต์บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวอร์ด

การใช้เทคโนโลยีเป็นวิธีสำคัญในการให้ “สายเบ็ดหลายสายอยู่ในน้ำ” ตลอดวัน นอกจากพยายามหาวิธีอื่นแล้ว จงให้สายเบ็ดหลายสายอยู่ในน้ำเสมอ

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์สอนว่า “เทคโนโลยีให้หลายช่องทางที่ได้ผลมากซึ่งเราสามารถใช้ประกาศเรื่อง ‘พระเยซูคริสต์และการที่พระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน’ และ ‘สั่งสอนการกลับใจแก่ผู้คน’ [1 โครินธ์ 2:2; หลักคำสอนและพันธสัญญา 44:3] คนรุ่นใหม่ถูกเตรียมมาดีเป็นพิเศษให้ได้ยินและเรียนรู้เกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านช่องทางการสื่อสารเหล่านี้” (“พวกเขาควรประกาศเรื่องเหล่านี้ต่อโลก” สัมมนาสำหรับประธานคณะเผยแผ่คนใหม่ 24 มิ.ย. 2016)

การศึกษากับคู่

หาดูว่าคณะเผยแผ่ของท่านกำลังทำอะไรกับโซเชียลมีเดีย สนทนากับคู่ว่าท่านจะสร้างโพสต์โซเชียลมีเดียให้อยู่ในแนวเดียวกันได้อย่างไร โพสต์ของท่านควรเป็นไปตามนโยบายอินเทอร์เน็ตของศาสนจักร (ดู “อินเทอร์เน็ต” ในหมวด 38.8 ของ คู่มือทั่วไป)

ถ้าคณะเผยแผ่ของท่านมีผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย ให้อาศัยความรู้ความชำนาญของเขาขณะท่านสร้างโพสต์โซเชียลมีเดีย

ผู้หญิงสองคนพูดคุยกัน

ใช้ประวัติครอบครัว

ประวัติครอบครัวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ท่านสามารถใช้หาคนเรียน พระวิญญาณทรงมีอิทธิพลต่อหลายล้านคนทั่วโลกให้หาชื่อบรรพชนของพวกเขาที่เสียชีวิตแล้ว หลายคนอยากมีสายสัมพันธ์กับครอบครัวเครือญาติแน่นแฟ้นขึ้น นี่จึงเป็นเหตุให้พวกเขาปรารถนาจะหาความเชื่อมโยงและอัตลักษณ์อันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพระผู้เป็นเจ้า

บางครั้งสิ่งที่เราเรียกว่าวิญญาณของเอลียาห์คืออิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ชักจูงผู้คนให้ค้นหา บันทึกข้อมูล รักและใส่ใจสมาชิกครอบครัวของตน—ทั้งอดีตและปัจจุบัน (ดู มาลาคี 4:5–6)

ในการหาคน ท่านอาจจะแนะนำผู้คนให้รู้จัก FamilySearch.org หรือเชื้อเชิญให้พวกเขาดาวน์โหลดแอปสาแหรก FamilySearch หรือแอปความทรงจำ FamilySearh ท่านสามารถให้จุลสาร ครอบครัวของฉัน: เรื่องราวที่นำเรามาอยู่ด้วยกัน ด้วย แหล่งช่วยเหล่านี้จะช่วยผู้คนค้นพบญาติและบรรพชน และรวบรวมเรื่องราวของคนเหล่านั้น

ดูว่ามีแหล่งช่วยประวัติครอบครัวอะไรบ้างในเขตของท่านและแหล่งเหล่านั้นจะช่วยคนที่ท่านติดต่อได้อย่างไร หัวหน้างานพระวิหารและประวัติครอบครัววอร์ดสามารถช่วยผู้คนระบุชื่อบรรพชนของพวกเขาที่เสียชีวิตแล้ว

เชื้อเชิญให้ผู้คนแบ่งปันความทรงจำของคนที่พวกเขารักกับท่าน ขณะแบ่งปันพวกเขาอาจรู้สึกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานต่อพวกเขาเกี่ยวกับความสำคัญของครอบครัวในแผนของพระผู้เป็นเจ้า ช่วงเวลาเหล่านี้จะนำไปสู่การสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติเกี่ยวกับจุดประสงค์ของชีวิต แผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้า และบทบาทของพระผู้ช่วยให้รอดในแผนนั้น

เมื่อเห็นสมควร ให้สอนหลักคำสอนว่าเหตุใดสมาชิกศาสนจักรจึงทำงานประวัติครอบครัวและงานนี้เกี่ยวข้องกับพระวิหารอย่างไร

สวดอ้อนวอนให้รับรู้โอกาสที่จะใช้ประวัติครอบครัวในการหาคนของท่าน จงสร้างสรรค์ และทำความคุ้นเคยกับแหล่งช่วยที่มี

การศึกษาพระคัมภีร์

ศึกษาข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้เกี่ยวกับประวัติครอบครัว บันทึกสิ่งที่ท่านเรียนรู้

อำนาจการผนึกที่ฟื้นฟูผ่านเอลียาห์

การทำงานแทนคนตาย

การศึกษาส่วนตัวหรือกับคู่

ลองทำกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นเพื่อช่วยท่านหาผ่านประวัติครอบครัว

  • นัดไปเยี่ยมกับสมาชิกที่มีประสบการณ์เรื่องประวัติครอบครัว เรียนรู้ว่ามีการรับใช้อะไรบ้างผ่านหัวหน้างานพระวิหารและประวัติครอบครัววอร์ดของท่าน

  • ฝึกวิธีให้ความช่วยเหลือเรื่องประวัติครอบครัวกับคนที่ท่านพบ วางแผนเสนอประวัติครอบครัวในการหาของท่าน

  • อ่านและสนทนาจุลสาร ครอบครัวและพระวิหาร เพื่อจะได้เข้าใจงานประวัติครอบครัวมากขึ้น เขียนสิ่งที่ท่านเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา

  • ใช้จุลสาร ครอบครัวของฉัน หรือแหล่งช่วย FamilySearch.org ขณะที่ท่านหาคนเรียน

  • หากทำได้ให้จัดโอเพ่นเฮ้าส์ สอนชั้นเรียนประวัติครอบครัวในที่สาธารณะ หรือให้คำปรึกษา

หาเมื่อท่านสอน

การหาและการสอนเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกัน คนที่ท่านสอนมักจะมีเพื่อนหรือญาติผู้พร้อมรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู เมื่อคนที่ท่านสอนประสบพรของพระกิตติคุณ พวกเขาย่อมปรารถนาจะแบ่งปันพระกิตติคุณมากขึ้น (ดู 1 นีไฟ 8:12) ในทุกสถานการณ์—เช่น หา สอน และทำงานกับสมาชิก—ให้ถามว่า “คุณรู้จักใครบ้างที่จะได้ประโยชน์จากข่าวสารนี้?”

เมื่อคนที่ท่านสอนกำลังเตรียมรับบัพติศมา ถามพวกเขาเกี่ยวกับครอบครัวและเพื่อนที่ต้องการเชิญมาบัพติศมาของพวกเขา วางแผนเชิญและกระตุ้นทุกคนให้มา พวกเขาสามารถรู้สึกถึงพระวิญญาณได้อย่างแรงกล้าที่พิธีบัพติศมา

การศึกษากับคู่

ทบทวนรายชื่อคนที่ท่านกำลังสอน ทำรายชื่อคนที่ท่านเคยขอรายชื่อแนะนำและคนที่ท่านไม่เคยขอ ฝึกวิธีเชื้อเชิญคนในแต่ละกลุ่มให้แนะนำรายชื่อ ในแพลนเนอร์ของท่าน ให้จดว่าจะให้คำเชื้อเชิญนี้ในการเยี่ยมครั้งถัดไป

ผู้หญิงดูโทรศัพท์

สอนเมื่อท่านพบ

เมื่อท่านพบปะผู้คน และทราบความสนใจและความต้องการของพวกเขา จงพัฒนานิสัยของการเริ่มสอนและแบ่งปันประจักษ์พยานของท่าน ท่านจะพบคนเรียนมากขึ้นเมื่อท่านเป็นพยานถึงพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์และทำให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ท่านอาจจะสอนตามหัวข้อ เช่น ความสุข ความยากลำบาก จุดประสงค์ของชีวิต หรือความตาย ไม่ว่าจะพบกันครั้งแรกอย่างไร จงพูดถึงพระผู้ช่วยให้รอด พระกิตติคุณของพระองค์ และการเรียกศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธอย่างเรียบง่ายทันที เพราะนี่เป็นข่าวสารพิเศษเฉพาะของเราต่อชาวโลก

หมวดต่อไปนี้จะให้ตัวอย่างวิธีที่ท่านจะสอนสั้นๆ เรื่องการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์และความสำคัญของครอบครัว

สอนและเป็นพยานเกี่ยวกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

เป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ และสอนสรุปย่อของความจริงที่ได้รับการฟื้นฟู ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถเป็นพยานถึงพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ในสองหรือสามประโยค:

หลังจากสูญหายไปหลายร้อยปี พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรักเราได้ทรงฟื้นฟูความจริงผ่านศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ เรามีหลักฐานยืนยันเรื่องนี้ที่คุณสามารถถือ อ่าน และไตร่ตรองในใจได้ เราขอเชื้อเชิญให้คุณอ่านและสวดอ้อนวอนเพื่อเรียนรู้ความจริงในนั้นด้วยตัวคุณเอง คุณจะยอมให้เรา …

ถ้าท่านมีเวลาอีกนิด ท่านอาจจะพูดเพิ่มเติมว่า:

ข่าวสารของเราเรียบง่าย พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา เราเป็นลูกของพระองค์ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพระองค์ พระองค์ทรงรู้จักเราเป็นส่วนตัวและทรงรักเรา ทรงต้องการให้เราประสบปีติ ตั้งแต่โลกเริ่มต้น พระองค์ทรงทำตามรูปแบบของการหยิบยื่นด้วยความรักเพื่อเปิดเผยพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้ลูกๆ ของพระองค์ได้รู้วิธีกลับไปหาพระองค์ พระองค์ทรงเปิดเผยพระกิตติคุณต่อศาสดาพยากรณ์ เช่น อาดัม โนอาห์ อับราฮัม และโมเสส แต่หลายครั้งหลายคราที่คนจำนวนมากเลือกปฏิเสธพระกิตติคุณและศาสดาพยากรณ์ผู้สอนพระกิตติคุณ สองพันปีที่แล้ว พระเยซูคริสต์ทรงสอนพระกิตติคุณด้วยพระองค์เอง ผู้คนถึงขั้นไม่ยอมรับพระเยซู หลังจากอัครสาวกของพระเยซูสิ้นชีวิต ผู้คนบิดเบือนหลักคำสอน เช่น เรื่องพระผู้เป็นเจ้าสามพระองค์ นอกจากนี้พวกเขายังเปลี่ยนศาสนพิธีต่างๆ ด้วย เช่น บัพติศมา

คำเชื้อเชิญของเราคือให้คุณเพิ่มความจริงที่คุณมีอยู่แล้ว พิจารณาหลักฐานที่ยืนยันว่าพระบิดาบนสวรรค์ได้ทรงติดต่อกับลูกๆ ของพระองค์อีกครั้งด้วยความรักและทรงเปิดเผยหลักคำสอนและศาสนพิธีต่อศาสดาพยากรณ์ท่านหนึ่ง ศาสดาพยากรณ์ท่านนี้ชื่อโจเซฟ สมิธ หลักฐานยืนยันความจริงนี้อยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่าพระคัมภีร์มอรมอน คุณสามารถถือไว้ในมือ อ่าน และไตร่ตรองความจริงในนั้นในใจและความคิดของคุณ เราขอเชิญคุณมาโบสถ์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

สอนและเป็นพยานเกี่ยวกับความสำคัญของครอบครัว

การพูดถึงความสำคัญของครอบครัวจะช่วยให้ท่านพบคนเรียน ไม่ว่าพวกเขาจะมีพื้นเพทางศาสนาคริสต์หรือไม่ก็ตาม ท่านสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้เกี่ยวกับครอบครัวกับแผนแห่งความรอดของพระบิดาบนสวรรค์ได้เลย ท่านอาจจะพูดทำนองนี้:

ครอบครัวเราจะเป็นอิทธิพลสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตเรา ครอบครัวเราผูกเราไว้ด้วยกันและสามารถช่วยให้เรารู้สึกว่าพวกเขารักเราและต้องการเรา

การมีครอบครัวที่มั่นคงและมีความสุขเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับใครหลายคน การมีชีวิตแต่งงานที่มั่นคงและการเลี้ยงดูลูกๆ ในโลกทุกวันนี้เป็นเรื่องท้าทายมาก

จากนั้นท่านจะเปลี่ยนมาสอนข่าวสารเรื่องการฟื้นฟู:

คุณเคยเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้าตั้งแต่ก่อนคุณเกิด พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เรากลับไปอยู่กับพระองค์ คุณเป็นลูกของพระองค์ และพระองค์ทรงรักคุณ ทรงมีแผนช่วยให้คุณกลับไปหาพระองค์

พระบิดาบนสวรรค์ทรงฟื้นฟูความจริงเหล่านี้และความจริงอื่นๆ ผ่านศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ ความจริงเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจบทบาทของเราในครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้า เราจะขอสอนความจริงเหล่านี้เพิ่มเติมได้ไหม? คุณจะไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่โบสถ์ไหม?

การศึกษากับคู่

เตรียมข่าวสารหนึ่งนาทีโดยอิงกับบทเรียนหนึ่งบทใน บทที่ 3 ฝึกแบ่งปันข่าวสารนี้ให้กัน คิดวิธีที่ท่านจะแบ่งปันข่าวสารนี้ในสถานการณ์หาคน วางแผนแบ่งปันในสถานการณ์ที่เหมาะสมเพื่อเชื้อเชิญให้ผู้อื่นเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

ไม่มีความพยายามใดสูญเปล่า

เมื่อผู้คนเลือกไม่เรียนพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูเพิ่มเติม ความพยายามของท่านไม่สูญเปล่า บางทีท่านอาจปลูกเมล็ดพืชที่จะเติบโตในเวลาอื่นก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร การรับใช้และการแสดงความรักที่จริงใจของท่านจะเป็นพรทั้งแก่ท่านและพวกเขา

ถ้าผู้คนไม่พร้อมรับพระกิตติคุณ จงดูว่าท่านจะทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อยกระดับชีวิตพวกเขา ความสัมพันธ์ที่ท่านพัฒนายังคงมีความหมายและมีคุณค่า จงเป็นเพื่อนกันต่อไป

บางครั้งผู้คนต้องการเวลาพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่ขอจากพวกเขา จงช่วยให้พวกเขาได้รับข่าวสารผ่านอีเมลหรือเว็บไซต์ศาสนจักร ข่าวสารเหล่านี้อาจจะช่วยเตรียมผู้คนให้พร้อมรับคำเชื้อเชิญให้เรียนรู้เพิ่มเติมในอนาคต

เมื่อคนนั้นไม่ยอมรับพระกิตติคุณ เป็นธรรมดาที่ท่านจะผิดหวัง แต่เมื่อท่านหันมาหาพระเจ้าในเวลาเช่นนั้น พระองค์ทรงสัญญาไว้ว่า “เราจะเสริมกำลังเจ้า เราจะช่วยเจ้า เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา” (อิสยาห์ 41:10)

โดยผ่านศรัทธาในพระคริสต์ ท่านจะพบสันติและมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับความพยายามของท่าน มีวิสัยทัศน์ว่าท่านเป็นใครและเหตุใดจึงรับใช้พระเจ้าในฐานะผู้สอนศาสนา ศรัทธาจะช่วยให้ท่านมุ่งหน้าต่อไปในความปรารถนาอันชอบธรรม


แนวคิดสำหรับการศึกษาและการประยุกต์ใช้

การศึกษาส่วนตัว

  • อ่าน ยอห์น 15:12, ยอห์น 21:15–17, 1 เธสะโลนิกา 2 และ โมไซยาห์ 18:8–10 ท่านกำลังทำหน้าที่รับผิดชอบของท่านดีเพียงใดในการรักและรับใช้ผู้อื่น? ท่านจะปรับปรุงได้อย่างไร? เขียนคำตอบของท่านลงในสมุดบันทึกการศึกษา

  • อ่าน 3 นีไฟ 18:31–32, แอลมา 24:7–8 และ แอลมา 32:41 ข้อเหล่านี้สอนอะไรเกี่ยวกับการทำงานกับคนที่เคยเรียนมาก่อน? บันทึกสิ่งที่ท่านเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา แล้วสอนคู่ของท่าน

การศึกษากับคู่และการสลับคู่

  • วางแผนพบกับสมาชิกในเขตของท่าน หากจำเป็นให้ใช้แอปสั่งสอนกิตติคุณของเราค้นหาพวกเขา ถามคำถามทำนองนี้:

    • ท่านเตรียมรับพระกิตติคุณอย่างไร?

    • ท่านติดต่อศาสนจักรครั้งแรกเมื่อใดและอย่างไร?

    • อะไรกระตุ้นเตือนท่านให้พบกับผู้สอนศาสนา?

    • เราจะสนับสนุนความก้าวหน้าต่อเนื่องของท่านได้อย่างไร?

    จากการพบกันเหล่านี้ ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการหาคนที่ก้าวหน้าจนถึงบัพติศมา? วางแผนประยุกต์ใช้สิ่งที่ท่านเรียนรู้สัปดาห์นี้

  • ทบทวนแต่ละหัวข้อต่อไปนี้ ใช้บทเรียนใน บทที่ 3 เตรียมวิธีหาแบบง่ายๆ ฝึกสอนในขณะหา

    • รู้สึกต้องการทิศทางและจุดประสงค์ในชีวิตมากขึ้น

    • อยากรู้สึกใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น

    • ต้องการความช่วยเหลือในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ

สภาดิสตริกท์ การประชุมโซน และสภาผู้นำคณะเผยแผ่

  • อ่านและสนทนาหมวด “ขยายวิสัยทัศน์ของท่านในการวางแผนหาคน” ให้แต่ละคู่ทำการประเมินให้ครบถ้วน

    • สนทนาว่าแนวคิดเหล่านี้เคยช่วยผู้สอนศาสนาหาคนเรียนอย่างไร

    • เขียนแนวคิดอื่นสำหรับการหาคนเรียน เชิญผู้สอนศาสนาสาธิตแนวคิดของตน

    • เชิญผู้สอนศาสนาตั้งเป้าหมายส่วนตัวเพื่อปรับปรุงการพยายามหาคน

  • สร้างรายชื่อของการหาในหลายๆ โอกาส

    • มอบหมายให้ผู้สอนศาสนาคนละหนึ่งโอกาส ให้เวลาผู้สอนศาสนาคนละห้านาทีเตรียมสอนส่วนของบทเรียนในสถานการณ์ที่มอบหมาย

    • เน้นว่าต้องให้ข่าวสารมีความยาวเหมาะกับสภาวะแวดล้อม

    • เชิญผู้สอนศาสนาหลายๆ คนสอนบทเรียนที่พวกเขาวางแผนไว้ในสถานการณ์ที่มอบหมาย

  • เชิญผู้สอนศาสนาฝึกแบ่งปันข่าวสารพระกิตติคุณหนึ่งนาทีให้กัน ท่านอาจต้องการจัดสภาวะแวดล้อมในการหาให้หลากหลาย เช่น สอนในบ้านของสมาชิก สอนตรงบันได สอนริมทางเดิน หรือติดต่อรายชื่อแนะนำ ให้ผู้สอนศาสนาฝึกสอนในแต่ละสภาวะแวดล้อมเหล่านี้

ผู้นำคณะเผยแผ่และที่ปรึกษาคณะเผยแผ่

  • เป็นแบบอย่างของงานสอนศาสนาโดยสมาชิกในครอบครัวของท่าน แบ่งปันประสบการณ์ของท่านกับผู้สอนศาสนาและสมาชิก

  • หารือกับผู้นำฐานะปุโรหิตและผู้นำองค์การเกี่ยวกับวิธีที่ผู้สอนศาสนาจะหาคนเรียนได้ดีที่สุดในคณะเผยแผ่ของท่าน

  • จัดการให้ข้อคิดทางวิญญาณของผู้สอนศาสนาซึ่งท่านสามารถพูดกับคนในคณะเผยแผ่ของท่านที่เรียนอยู่ ประสานงานกับผู้นำฐานะปุโรหิตระดับท้องที่เพื่อให้สมาชิกพาเพื่อนๆ มา เชิญสมาชิกใหม่แบ่งปันประจักษ์พยานและเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของพวกเขาก่อนท่านพูด

  • ไปกับผู้สอนศาสนาเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยพวกเขาหาคนเรียน