“บทที่ 11: ช่วยผู้คนทำและรักษาคำมั่นสัญญา” สั่งสอนกิตติคุณของเรา: คู่มือแนะแนวการแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (2023)
“บทที่ 11” สั่งสอนกิตติคุณของเรา
บทที่ 11
ช่วยผู้คนทำและรักษาคำมั่นสัญญา
การกลับใจ การให้คำมั่นสัญญา และการเปลี่ยนใจเลื่อมใส
ในฐานะผู้สอนศาสนาและสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ ท่านปรารถนาความรอดของจิตวิญญาณ (ดู โมไซยาห์ 28:3) พระผู้ช่วยให้รอดทรง “มีอานุภาพที่จะช่วยให้ [คนที่รักษาพันธสัญญา] รอด” ผ่านการรับศาสนพิธีฐานะปุโรหิตที่จำเป็น เริ่มตั้งแต่บัพติศมา (ดู 2 นีไฟ 31:19) การให้คำเชื้อเชิญและการช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญาจะเตรียมพวกเขาให้พร้อมรับบัพติศมา
ผู้คนได้รับความรอดภายใต้เงื่อนไขของการกลับใจ (ดู ฮีลามัน 5:11) การกลับใจคือการหันมาหาพระเยซูคริสต์อย่างเต็มตัวและจริงใจ การให้คำมั่นสัญญาเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ของการกลับใจ เมื่อท่านเชื้อเชิญให้ผู้คนทำคำมั่นสัญญาอันเป็นส่วนหนึ่งของการสอน ท่านกำลังเชื้อเชิญให้พวกเขากลับใจ
การให้คำมั่นสัญญาหมายถึงการเลือกแนวทางปฏิบัติและทำตามการเลือกนั้น การปฏิบัติตามความจริงของพระกิตติคุณอย่างสม่ำเสมอนำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใส
การเปลี่ยนใจเลื่อมใสคือการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ ใจ และชีวิตของคนนั้นมายอมรับและทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า คือการตัดสินใจอย่างมีสติที่จะเป็นสานุศิษย์ของพระคริสต์ การเปลี่ยนใจเลื่อมใสเกิดขึ้นเมื่อผู้คนใช้ศรัทธาในพระคริสต์ กลับใจจากบาป รับบัพติศมา รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระเจ้าและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่าการเกิดใหม่ทางวิญญาณ (ดู ยอห์น 3:3–5; โมไซยาห์ 27:25–26)
การชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสเกิดขึ้นได้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งนี้ในใจ (ดู โมไซยาห์ 5:2; แอลมา 5:12–14)
การเปลี่ยนใจเลื่อมใสเป็นกระบวนการ ไม่ใช่เหตุการณ์ การช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์อยู่ตรงกลางจุดประสงค์ผู้สอนศาสนาของท่าน เมื่อพระวิญญาณทรงนำ ท่านจะเชื้อเชิญให้ผู้คนทำคำมั่นสัญญาที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตทางวิญญาณและรู้สึกถึงอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิต จากนั้นท่านจะสนับสนุนผู้คนในการรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ท่านช่วยให้พวกเขาปฏิบัติด้วยศรัทธาจนถึงการเปลี่ยนแปลงอันยั่งยืน (ดู โมไซยาห์ 6:3)
คนที่รักษาคำมั่นสัญญาก่อนบัพติศมามีแนวโน้มจะทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์หลังจากนั้น เมื่อท่านสอนผู้คนให้รักษาคำมั่นสัญญา ท่านกำลังสอนพวกเขาให้รักษาพันธสัญญา การทำและรักษาพันธสัญญาเป็นส่วนจำเป็นของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์และแผนของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับลูกๆ ของพระองค์
บทนี้มีแนวทางสำหรับการให้คำเชื้อเชิญ การสัญญาพร การแบ่งปันประจักษ์พยานของท่าน และการช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญาเพื่อพวกเขาจะมาหาพระผู้ช่วยให้รอดและได้รับความรอด
ให้คำเชื้อเชิญ
ในฐานะตัวแทนของพระเยซูคริสต์ ท่านเชื้อเชิญผู้คนให้ติดตามพระองค์และรับปีติจากพระกิตติคุณของพระองค์ ท่านให้คำเชื้อเชิญที่เฉพาะเจาะจงให้พวกเขาทำสิ่งที่จะสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์ จากนั้นท่านสนับสนุนพวกเขาในการรักษาคำมั่นสัญญา
คำเชื้อเชิญและคำมั่นสัญญาสำคัญยิ่งด้วยเหตุผลต่อไปนี้:
-
คำเชื้อเชิญและคำมั่นสัญญาช่วยให้ผู้คนดำเนินชีวิตตามหลักธรรมที่เรียนรู้เพื่อพวกเขาจะรู้สึกถึงพยานยืนยันของพระวิญญาณ
-
การรักษาคำมั่นสัญญาเป็นหนึ่งวิธีที่ผู้คนแสดงการกลับใจ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37)
-
การกลับใจช่วยให้ผู้คนประสบสันติและปีติจากการให้อภัยของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะได้ความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าเพิ่มขึ้นด้วยเมื่อเกิดความท้าทาย
-
การรักษาคำมั่นสัญญาเตรียมผู้คนให้พร้อมทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์
-
ท่านสามารถแสดงความรักต่อผู้คนและแสดงศรัทธาในคำสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าโดยช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญาของพวกเขา
เชื้อเชิญตามที่พระวิญญาณทรงนำ
แสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณว่าจะให้คำเชื้อเชิญอะไรบ้างและจะให้เมื่อใด พิจารณาว่าคำสอนหรือหลักคำสอนใดจะช่วยให้คนนั้นยอมรับคำเชื้อเชิญของท่านถ้าเขาเข้าใจอย่างถูกต้อง คำเชื้อเชิญที่ถูกต้องถูกเวลาจะกระตุ้นเตือนผู้คนให้ทำสิ่งที่จะสร้างศรัทธาของพวกเขา การกระทำเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งในใจ (ดู โมไซยาห์ 5:2; แอลมา 5:12–14)
คำเชื้อเชิญที่ท่านให้อาจเล็กน้อย เช่น เชิญอ่านพระคัมภีร์หนึ่งบทหรือเชิญมาการประชุมศีลระลึก หรืออาจสำคัญเหมือนอย่างเช่น เชิญรับบัพติศมา คำเชื้อเชิญควรเหมาะกับจุดที่บุคคลอยู่ระหว่างการเดินทางทางวิญญาณของเขา
คำเชื้อเชิญที่พระวิญญาณทรงนำจะอาศัยกันช่วยให้คนนั้นก้าวหน้าทางวิญญาณ (ดู 2 นีไฟ 28:30; หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:12–13) ถามตัวท่านเองว่า “คนนั้นกำลังรักษาคำมั่นสัญญาอะไรบ้าง? เขาต้องทำอะไรต่อไปเพื่อก้าวหน้า?”
ฟังคนที่ท่านพูดคุยด้วยหรือสอน จากที่ท่านได้ยินและรู้สึก จงแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณเพื่อรู้ว่าคำเชื้อเชิญใดจะช่วยให้แต่ละคนก้าวหน้าสู่การทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์
หลักธรรมสำหรับการให้คำเชื้อเชิญ
การให้คำเชื้อเชิญเรียกร้องศรัทธาในพระคริสต์ จงมีศรัทธาว่าพระองค์จะทรงอวยพรผู้คนเมื่อพวกเขายอมรับและทำตามคำเชื้อเชิญของท่าน
ผู้คนมีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงเมื่อท่านเชื้อเชิญให้พวกเขาปฏิบัติตามความจริงของพระกิตติคุณและช่วยให้พวกเขาเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นพรแก่พวกเขาอย่างไร พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงถึงระดับที่พวกเขารู้สึกถึงพระวิญญาณและประสบปีติของการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
เมื่อใดก็ตามที่ท่านนัดหมายกับผู้คนทั้งแบบเจอตัวหรือทางออนไลน์ พึงพิจารณาว่าคำเชื้อเชิญใดจะช่วยพวกเขาเพิ่มพลังศรัทธาในพระคริสต์และรู้สึกถึงพระวิญญาณ บางครั้งคำเชื้อเชิญอาจเรียบง่าย เหมือนอย่างเช่น เชิญพบกับท่านอีกครั้งหรือเชิญมาร่วมกิจกรรมของศาสนจักร
ขณะที่ท่านเตรียมสอนบทเรียน พึงพิจารณาความต้องการและความก้าวหน้าของแต่ละคน พึงแน่ใจว่าแผนบทเรียนมีคำเชื้อเชิญหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นที่จะช่วยให้บุคคลก้าวหน้า
จงระวังอย่าให้คำเชื้อเชิญมากเกินไปในคราวเดียว คนนั้นต้องมีเวลาปฏิบัติ เติบโต และเรียนรู้จากคำเชื้อเชิญแต่ละอย่าง
จงกล้าเชิญแต่อย่าเจ้ากี้เจ้าการขณะเชื้อเชิญให้ผู้คนทำคำมั่นสัญญา (ดู แอลมา 38:12) เคารพสิทธิ์เสรีของผู้คน
เชื้อเชิญด้วยคำพูดที่อ่อนโยนและชัดเจน
บ่อยครั้งการเชื้อเชิญใช้รูปแบบของคำถามว่า “คุณจะ” ซึ่งต้องตอบรับหรือปฏิเสธ จงทำให้คำเชื้อเชิญของท่านอ่อนโยน เจาะจง และชัดเจน ควรเชื้อเชิญหรือนำผู้คนให้ทำคำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์
ถึงแม้ท่านจะให้คำเชื้อเชิญแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่พึงพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้:
-
การมาโบสถ์ให้คุณมีเวลาและสถานที่นมัสการพระผู้เป็นเจ้าและรู้สึกถึงพระวิญญาณ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่เกื้อกูลกันเมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อมาใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น คุณจะมาการประชุมศีลระลึกกับเราวันอาทิตย์นี้ไหม?
-
เราได้พูดถึงความสำคัญของการศึกษาพระคัมภีร์ไปแล้ว คุณจะอ่าน [ข้อที่กำหนด] ไหม? คุณจะจดความประทับใจหรือคำถามที่มีไหม? เราจะพูดคุยเกี่ยวกับความคิดของคุณเมื่อเจอกันคราวหน้า
-
เราพูดถึงพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดและพระบัญญัติของพระองค์มาตลอด คุณจะทำตามแบบอย่างของพระองค์โดยรับบัพติศมาเข้ามาในศาสนจักรและทำสัญญากับพระองค์ไหม? (ดู “การเชื้อเชิญให้รับบัพติศมาและการยืนยัน” ในบทที่ 3)
-
คุณแสดงความสนใจในการเชื่อมสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นในชีวิตคุณ คุณจะสวดอ้อนวอนด้วยศรัทธาในช่วงสองสามวันนี้เพื่อคุณจะประสบพรของการสวดอ้อนวอนไหม?
-
เรามีวีดิทัศน์ที่คิดว่าคุณจะได้ประโยชน์ เราจะเปิดให้คุณดูหรือส่งลิงก์ให้คุณได้ไหม? คุณจะดูไหม? เราขอตรวจสอบกับคุณพรุ่งนี้ได้ไหมเพื่อดูว่าคุณคิดอย่างไร?
จงแสวงหาการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะคิดหาวิธีที่เป็นธรรมชาติในการให้คำเชื้อเชิญที่อ่อนโยน เจาะจง และชัดเจน
สัญญาพรกับผู้คน
พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะอวยพรเราเมื่อเรารักษาพระบัญญัติ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 130:20–21) คนที่รักษาพระบัญญัติและยังคงซื่อสัตย์ “ได้รับพรในทุกสิ่ง” และจะ “พำนักอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าในสภาพแห่งความสุขอันไม่รู้จบ” (โมไซยาห์ 2:41)
เมื่อท่านเชื้อเชิญให้ผู้คนทำคำมั่นสัญญา จงสัญญาว่าพวกเขาจะได้รับพรเพราะรักษาคำมั่นสัญญา ท่านสามารถบอกชื่อพรมากมายเหล่านี้ได้โดยศึกษาพระคัมภีร์ คำสอนของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้าย และบทเรียนใน บทที่ 3 นึกถึงพรในชีวิตท่านเองด้วย ตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าจะสัญญาพรใดกับแต่ละคนขณะให้คำเชื้อเชิญ
เมื่อเชื้อเชิญให้คนๆ หนึ่งดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติ พึงสอนดังนี้:
-
การเชื่อฟังพระบัญญัติแสดงให้เห็นว่าเรารักพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ (ดู ยอห์น 14:15)
-
การเชื่อฟังพระบัญญัติแสดงให้พระผู้เป็นเจ้าเห็นว่าเราวางใจพระองค์ (ดู สุภาษิต 3:5–6)
-
พรของพระผู้เป็นเจ้าเป็นทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายโลก (ดู โมไซยาห์ 2:41)
-
พรยิ่งใหญ่ที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 14:7)
-
เมื่อเราสวดอ้อนวอนอย่างจริงใจและปฏิบัติด้วยศรัทธา พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยให้เราทำสำเร็จในสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาเราให้ทำ (ดู 1 นีไฟ 3:7)
-
พระผู้เป็นเจ้าทรงทำตามสัญญาว่าจะทรงอวยพรเราตามวิธีและจังหวะเวลาของพระองค์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:68)
ผู้คนมักเจอการต่อต้านในการรักษาพระบัญญัติ สนับสนุนคนที่ท่านสอน และรับรองกับพวกเขาว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงอวยพรเมื่อพวกเขามุ่งมั่นทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าการต่อต้านเป็นโอกาสให้เติบโตโดยเลือกทำตามพระคริสต์แม้เมื่อทำได้ยาก (ดู 2 นีไฟ 2:11, 13–16)
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์สอนว่า: “พรบางอย่างมาเร็ว บางอย่างมาช้า และบางอย่างไม่มาจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่สำหรับผู้ที่ยอมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พรจะมา” (“มหาปุโรหิตแห่งสิ่งประเสริฐซึ่งจะมาถึง,” เลียโฮนา, ม.ค. 2000, 45)
แบ่งปันประจักษ์พยานของท่าน
แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านทุกครั้งที่ให้คำเชื้อเชิญและสัญญาพร บอกว่าท่านได้รับพรอย่างไรเมื่อท่านดำเนินชีวิตตามหลักธรรมที่กำลังสอน แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่าหลักธรรมจะเป็นพรแก่ชีวิตบุคคลเมื่อเขาดำเนินชีวิตตามนั้น
ประจักษ์พยานที่จริงใจของท่านจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้คนรู้สึกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงยืนยันความจริง นี่จะกระตุ้นพวกเขาให้ยอมรับคำเชื้อเชิญที่ท่านจะให้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “แบ่งปันประจักษ์พยานของท่าน” ในบทที่ 10
ช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญา
เมื่อผู้คนยอมรับคำเชื้อเชิญให้ทำบางอย่าง จงติดตามผลเพื่อช่วยพวกเขารักษาคำมั่นสัญญา ท่านกำลังช่วยผู้คนพัฒนาศรัทธาในพระคริสต์ บทบาทของท่านคือช่วยพวกเขาเพิ่มพลังศรัทธาและความเด็ดเดี่ยวเพื่อก้าวหน้าสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสโดยสมบูรณ์ อย่าเพียงเชื้อเชิญให้ผู้คนเปลี่ยนแปลง แต่จงสนับสนุนพวกเขาในการทำเช่นนั้น
ผู้คนจะได้รับพยานจากพระวิญญาณเมื่อพวกเขาใช้ศรัทธาจนถึงการกลับใจโดยรักษาคำมั่นสัญญา บ่อยครั้งพยานนั้นไม่มา “จนหลังการทดลองศรัทธา [ของพวกเขา]” (อีเธอร์ 12:6) อย่าประหลาดใจเมื่อเกิดการต่อต้าน วางแผนว่าท่านจะช่วยให้พวกเขาผ่านการทดลองได้อย่างไรเพื่อพวกเขาจะได้รับพยานจากพระวิญญาณ สมาชิกท่านอื่นของศาสนจักรสามารถให้การสนับสนุนได้เช่นกัน
ผู้คนมักรู้สึกถึงอิทธิพลของพระวิญญาณเมื่อท่านอยู่กับพวกเขา เน้นความสำคัญของการสวดอ้อนวอน การอ่านพระคัมภีร์ และการทำตามคำเชื้อเชิญของท่านเพื่อพวกเขาจะมีความรู้สึกเหล่านี้เมื่ออยู่ตามลำพัง
การรักษาคำมั่นสัญญาเตรียมผู้คนให้พร้อมรับศาสนพิธีและพันธสัญญาตามเส้นทางของการเปลี่ยนใจเลื่อมใสชั่วชีวิต ความพยายามของท่านจะช่วยให้พวกเขาแสดงความปรารถนาจะติดตามพระเยซูคริสต์ให้ “ประจักษ์ด้วยงานของพวกเขา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37)
วางแผนติดต่อสั้นๆ ทุกวัน
การช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญาเริ่มขึ้นเมื่อท่านไปเยี่ยมและสอนพวกเขาครั้งแรก ขอให้พวกเขาบันทึกคำมั่นสัญญาของตนทางโทรศัพท์ ปฏิทิน หรือสิ่งที่ท่านฝากไว้กับพวกเขา
ถามว่าท่านหรือสมาชิกที่ร่วมสอนจะสามารถติดต่อกับพวกเขาสั้นๆ ทุกวันระหว่างนี้ก่อนจะถึงการเยี่ยมสอนคราวหน้าได้หรือไม่ อธิบายว่าจุดประสงค์ของการติดต่อเหล่านี้คือเพื่อสนับสนุนพวกเขา และอธิบายวิธีที่ท่านจะติดต่อ การติดต่อเหล่านี้เป็นหนึ่งวิธีในการประยุกต์ใช้หลักธรรมใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:106
กำหนดวิธีติดต่อที่จะเกิดประสิทธิผลสูงสุด เช่น ไปเยี่ยมสั้นๆ โทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือข้อความโซเชียลมีเดีย เทคโนโลยีเสนอตัวเลือกมากมายไว้ให้แจ้งเตือนและสนับสนุนเพิ่มเติม
กระตุ้นและช่วยเหลือผู้คนในการติดต่อประจำวันของท่าน
ให้บันทึกวิธีติดตามผลวันถัดไปลงในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราสำหรับทุกคำเชื้อเชิญที่ท่านให้ ขณะวางแผนวันถัดไป จงแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณขณะสนทนาวิธีช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญา
ติดต่อกับผู้คนทุกวันอย่างสร้างสรรค์และให้กำลังใจ สวดอ้อนวอนให้พวกเขา แสดงความรักและความเข้าใจขณะช่วยพวกเขารักษาคำมั่นสัญญา ตอบคำถามและช่วยพวกเขาเอาชนะความท้าทาย ถ้ามีเวลาให้อ่านพระคัมภีร์มอรมอนด้วยกัน แบ่งปันสื่อศาสนจักรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพลงที่ศาสนจักรจัดทำซึ่งอาจจะหนุนใจพวกเขา เคารพเวลาและความประสงค์ของพวกเขา
แนะนำพวกเขาให้รู้จักสมาชิกศาสนจักรท่านอื่น เมื่อเหมาะสม ให้ขอสมาชิกช่วยผู้คนรักษาคำมั่นสัญญา (ดู บทที่ 10)
ชมเชยคนที่พยายามรักษาคำมั่นสัญญา ช่วยให้พวกเขาเห็นว่าพระเจ้าพอพระทัยความพยายามของพวกเขา คนเหล่านี้กำลังเปลี่ยนชีวิต ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความอดทนมาก ช่วยให้พวกเขารับรู้พรที่ตนกำลังได้รับ แสดงความมั่นใจว่าพวกเขาประสบความสำเร็จได้แน่นอน
แสดงความรักด้วยถ้าพวกเขาไม่รักษาคำมั่นสัญญา ให้การสนับสนุนพวกเขาระหว่างติดต่อประจำวัน ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนยอมรับคำเชื้อเชิญให้อ่านบทหนึ่งในพระคัมภีร์มอรมอน แต่ยังไม่ได้อ่าน ท่านจะเสนอให้อ่านด้วยกัน ช่วยให้บุคคลค้นพบโดยประสบการณ์ว่าการรักษาคำมั่นสัญญาจะเป็นพรแก่ชีวิตเขาได้อย่างไร
อาจจะให้ผู้คนลองรักษาคำมั่นสัญญาหลายๆ ครั้ง และท่านอาจต้องไปเยี่ยมหลายครั้งเพื่อช่วยเหลือ สนทนาว่าพวกเขาจะเอาชนะความท้าทายในการรักษาคำมั่นสัญญาได้อย่างไร จงอดทนและสนับสนุน ไม่ใช่ตำหนิหรือตัดสิน
มีอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการติดต่อประจำวัน
เมื่อท่านติดตามผล จงขอให้พวกเขาแบ่งปันประสบการณ์ที่มีกับการรักษาคำมั่นสัญญา ถามว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรและรู้สึกอย่างไร นี่จะช่วยให้พวกเขารับรู้อิทธิพลของพระวิญญาณในชีวิตและช่วยพวกเขาบอกขั้นต่อไป
ขณะติดต่อพวกเขาในแต่ละวัน ส่วนสำคัญของจุดประสงค์ของท่านคือเชื้อเชิญอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตพวกเขา ช่วยให้พวกเขารับรู้ว่าจะรู้สึกถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างไรเมื่อท่านไม่อยู่ การติดต่อประจำวันควรเสริมสร้างความรู้สึกทางวิญญาณที่พวกเขารู้สึกตอนท่านสอนพวกเขา พวกเขาจะเปลี่ยนใจเลื่อมใสเมื่อรู้สึกถึงอำนาจและอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
แสดงความรัก
กระบวนการเปลี่ยนใจเลื่อมใสมีความรักเหมือนพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง (ดู 4 นีไฟ 1:15) แสวงหาของประทานแห่งจิตกุศล การแสดงความรักที่จริงใจจะช่วยให้ผู้คนรู้สึกถึงพระวิญญาณในชีวิต การแสดงความรักของท่านจะช่วยให้พวกเขายอมรับคำเชื้อเชิญและรักษาคำมั่นสัญญาที่นำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสเช่นกัน
เมื่อท่านรักและสอนผู้อื่น การเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระผู้ช่วยให้รอดของท่านเองจะลึกซึ้งขึ้น
การช่วยให้บุคคลอื่นเปลี่ยนใจเลื่อมใสเป็นงานศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะพบปีติอันยั่งยืนเมื่อท่านทุ่มเททำงานนี้และรับใช้ผู้อื่น (ดู มัทธิว 10:39; โมไซยาห์ 2:17; แอลมา 27:17–18; หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10–16)
พระเจ้าทรงปรารถนาให้ผู้คนมาและอยู่
งานสอนศาสนามีผลดีที่สุดเมื่อผู้คนทำและรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณและอยู่แข็งขันในศาสนจักรตลอดชีวิต ลำพังพวกเขาเข้ามาในศาสนจักรเท่านั้นไม่พอ พระเจ้าทรงปรารถนาให้พวกเขามาและอยู่ (ดู ยอห์น 15:16) นำการสอนและคำเชื้อเชิญทั้งหมดของท่านไปให้ถึงจุดหมายนั้น เพื่อรับพรทั้งหมดที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีให้ สมาชิกต้องดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณต่อไปโดยรักษาพระบัญญัติและพันธสัญญาที่ได้ทำไว้ขณะอยู่แข็งขันในศาสนจักร
นีไฟสอนว่า “หลังจากท่านเข้าไปในทางคับแคบและแคบนี้แล้ว, ข้าพเจ้าอยากถามว่าทำทุกอย่างแล้วหรือ? ดูเถิด, ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่าน, ไม่เลย; … ท่านต้องมุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, … และ [หากท่าน] อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้ว, ดูเถิด, พระบิดาตรัสดังนี้: เจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์” (2 นีไฟ 31:19–20)
จงพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยให้ผู้คนมีคุณสมบัติคู่ควรรับ“ชีวิตนิรันดร์, ซึ่งของประทานนี้สำคัญที่สุดในบรรดาของประทานทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 14:7)
แนวคิดสำหรับการศึกษาและการประยุกต์ใช้
การศึกษาส่วนตัว
-
ระบุพระบัญญัติข้อหนึ่งจาก บทที่ 4 หาและบันทึกพระคัมภีร์อ้างอิงและคำพูดอ้างอิงจากศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายที่พูดถึงพรที่สัญญาไว้เกี่ยวกับพระบัญญัติข้อนี้ นึกถึงพรที่ท่านได้รับเพราะเชื่อฟังพระบัญญัตินี้ และเขียนในสมุดบันทึกของท่าน
-
เมื่อท่านสื่อสารกับครอบครัวท่านหรือผู้อื่น ให้ถามว่าพวกเขาได้รับพรเพราะเชื่อฟังพระบัญญัติข้อนั้นๆ อย่างไร (ตัวอย่างเช่น การรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ เชื่อฟังกฎส่วนสิบ หรือรักษาพระบัญญัติที่ยากสำหรับบางคนที่ท่านสอน)
-
ตอบคำถามต่อไปนี้เพื่อช่วยท่านระบุด้านที่ท่านสามารถปรับปรุงได้เมื่อให้คำเชื้อเชิญ วางแผนปรับปรุง
-
ผู้คนรู้หรือไม่ว่าฉันรักพวกเขา?
-
ฉันมั่นใจหรือไม่ว่าพวกเขาจะได้รับพรจากการทำตามคำเชื้อเชิญของเรา?
-
ฉันให้เวลาและความสนใจตามสมควรในการติดต่อประจำวันกับผู้คนเพื่อช่วยพวกเขารักษาคำมั่นสัญญาหรือไม่?
-
แผนบทเรียนของเรามีคำเชื้อเชิญที่เจาะจงให้ปฏิบัติหรือไม่?
-
การศึกษากับคู่และการสลับคู่
-
ทบทวนคำเชื้อเชิญในบทเรียนผู้สอนศาสนาหนึ่งบท ตอบคำถามต่อไปนี้สำหรับคำเชื้อเชิญแต่ละอย่าง:
-
พระเจ้าทรงสัญญาพรอะไรบ้างกับคนที่รักษาคำมั่นสัญญานี้?
-
การเชื่อฟังหลักธรรมนี้จะช่วยผู้คนเพิ่มพูนศรัทธาและประจักษ์พยานของพวกเขาอย่างไร?
-
คำมั่นสัญญานี้จะช่วยให้ผู้คนกลับใจและไวต่อพระวิญญาณมากขึ้นอย่างไร?
-
-
จากเครื่องมือวางแผนของท่านให้สร้างรายชื่อคนที่ท่านเคยติดต่อในช่วงสองวันที่ผ่านมา รวมคนที่ท่านกำลังสอนและสมาชิกไว้ด้วย
-
เขียนคำเชื้อเชิญที่ท่านให้แต่ละคนและคำมั่นสัญญาที่พวกเขาทำ
-
พิจารณาว่าท่านได้ให้คำเชื้อเชิญอะไรอีกบ้าง
-
สนทนาว่าเหตุใดท่านจึงได้คำมั่นสัญญาจากบางคนแต่ไม่ได้จากอีกหลายคน
-
ท่านจะทำอะไรเพื่อติดตามผลคำเชื้อเชิญเหล่านี้?
-
สภาดิสตริกท์ การประชุมโซน และสภาผู้นำคณะเผยแผ่
-
สนทนาแนวคิดที่ได้ผลและสร้างสรรค์สำหรับการติดต่อประจำวันกับคนที่ท่านกำลังสอน ผู้สอนศาสนาเคยทำงานกับสมาชิกแล้วได้ผลอย่างไร? สื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อดิจิทัลอะไรเป็นประโยชน์บ้าง? ท่านจะทำอะไรได้บ้างเมื่อผู้คนไม่อยู่บ้านหรือมีงานยุ่งเกินกว่าจะเจอท่าน?
-
สนทนาวิธีที่ผู้สอนศาสนาสอนเรื่องพระบัญญัติใน บทที่ 4 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้นำคณะเผยแผ่และที่ปรึกษาคณะเผยแผ่
-
เมื่อทำได้ ให้ไปกับผู้สอนศาสนาเมื่อพวกเขาสอน ช่วยให้พวกเขาจดจ่อกับการช่วยผู้คนทำและรักษาคำมั่นสัญญา
-
กระตุ้นผู้นำฐานะปุโรหิตระดับวอร์ด ผู้นำองค์การ และสมาชิกให้ติดต่อกับคนที่ผู้สอนศาสนากำลังสอนทุกวัน—ถ้าพวกเขายอมให้ติดต่อ