บทที่ 12

ช่วยผู้คนเตรียมรับบัพติศมาและการยืนยัน

พิจารณาสิ่งนี้

• ฉันจะช่วยผู้คนเตรียมรับบัพติศมาและการยืนยันได้อย่างไร?

• ฉันจะดำเนินการสัมภาษณ์บัพติศมาอย่างไร?

• ฉันจะวางแผนและดำเนินพิธีบัพติศมาที่เชิดชูจิตวิญญาณอย่างไร?

• เหตุใดการกรอกและส่งแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยันจึงสำคัญ?

• ฉันจะสนับสนุนสมาชิกใหม่ได้อย่างไร?

บัพติศมาเป็นศาสนพิธีอันน่ายินดีแห่งความหวังที่นำเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าเข้ามาในชีวิตคนนั้น เดชานุภาพดังกล่าวผ่านมาทางการรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และจะดำเนินต่อไปเมื่อคนนั้นอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ในการรักษาพันธสัญญาบัพติศมา

จุดประสงค์ของการสอนของท่านคือช่วยผู้อื่นพัฒนาศรัทธาในพระเยซูคริสต์ กลับใจจากบาป และรับบัพติศมาด้วยความปรารถนาจะติดตามพระคริสต์อย่างจริงใจ ตามที่มอรมอนสอน “ผลแรกของการกลับใจคือบัพติศมา” (โมโรไน 8:25) เมื่อคนที่ท่านสอนรักษาคำมั่นสัญญาที่ท่านเชื้อเชิญให้พวกเขาทำ พวกเขาย่อมพร้อมทำและรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าและได้รับพรที่สัญญาไว้

บัพติศมาและการยืนยันไม่ใช่จุดหมายสุดท้าย แต่ศาสนพิธีเหล่านี้เป็นประตูให้ลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่เส้นทางพันธสัญญา เส้นทางนี้นำไปสู่ศาสนพิธี พันธสัญญา และพรอันน่ายินดีของพระวิหาร—และสู่ชีวิตนิรันดร์ในท้ายที่สุด (ดู 3 นีไฟ 11:20–40)

คุณสมบัติสำหรับบัพติศมาและการยืนยัน

พระผู้เป็นเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ลูกทุกคนมาหาพระองค์ผ่านบัพติศมาและการยืนยัน (ดู 2 นีไฟ 26:33; 3 นีไฟ 27:20) คุณสมบัติสำหรับบัพติศมาเหมือนกันทุกคน

จาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37:

• นอบน้อมถ่อมตนต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า

• ปรารถนาจะรับบัพติศมา

• ออกมาด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด

• กลับใจจากบาปทั้งหมดและสวดอ้อนวอนขอการให้อภัย

• เต็มใจรับพระนามของพระคริสต์

• มีความมุ่งมั่นรับใช้พระคริสต์จนกว่าชีวิตจะหาไม่

• แสดงให้เห็นโดยงานของท่านว่าท่านได้รับพระวิญญาณของพระคริสต์ไปสู่การปลดบาปของท่าน

จากฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง:

• ตอบคำถามสัมภาษณ์บัพติศมาอย่างเหมาะสม

• เรียนบทเรียนกับผู้สอนศาสครบทุกบท

• พบประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ ประธานสมาคมสงเคราะห์ และอธิการ

• เข้าร่วมการประชุมศีลระลึกหลายครั้ง

คุณสมบัติเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้กระบวนการเปลี่ยนใจเลื่อมใสทางวิญญาณ เมื่อผู้คนมีคุณสมบัติเหล่านี้ พวกเขาย่อมพร้อมรับศาสนพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของบัพติศมาและการยืนยัน

เมื่อคนนั้นกำหนดวันบัพติศมาแน่นอนแล้ว:

• ทบทวนบันทึกของเขาในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้สอนหลักคำสอนและพระบัญญัติที่จำเป็นแล้ว

• สร้างตารางเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นเพื่อเตรียมรับบัพติศมาและการยืนยัน ทบทวนตารางนี้กับคนนั้น

• ถ้าทำได้ ให้เชิญคนนั้นมาร่วมพิธีบัพติศมาก่อนบัพติศมาของตน

การศึกษาพระคัมภีร์

ศึกษาพระคัมภีร์ข้อต่อไปนี้ ท่านจะช่วยคนที่ท่านสอนเตรียมรับบัพติศมาและการยืนยันได้อย่างไร? บันทึกสิ่งที่ท่านกำลังเรียนรู้จากการศึกษาของท่าน

• กิจการ 2:37–39

• 2 นีไฟ 9:23; 31:4–13

• โมไซยาห์ 18:8–10, 13

• แอลมา 7:14–15

• 3 นีไฟ 27:13–22

• โมโรไน 6:1–4; 8:25–26

• หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37; 22

ช่วยผู้คนเตรียมรับการสัมภาษณ์บัพติศมา

การสัมภาษณ์บัพติศมาเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้แน่ใจว่าคนนั้นมีคุณสมบัติพร้อมรับบัพติศมา กำหนดการสัมภาษณ์บัพติศมาเมื่อบุคคลพร้อมเท่านั้น

ช่วยผู้คนเตรียมรับการสัมภาษณ์นี้เพื่อพวกเขาจะรู้สึกสบายใจ อธิบายว่าการสัมภาษณ์จะเป็นอย่างไร บอกว่าพวกเขาจะพบกับผู้สอนศาสนาอีกคนเหมือนท่าน

อธิบายจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ นี่เป็นโอกาสให้พวกเขาเป็นพยานว่าพวกเขาได้ “กลับใจอย่างแท้จริงจากบาปทั้งหมดของพวกเขา [และ] แสดงให้ประจักษ์อย่างแท้จริงด้วยงานของพวกเขาว่าพวกเขาได้รับส่วนหนึ่งของพระวิญญาณของพระคริสต์ไปสู่การปลดบาปของพวกเขา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37)

บอกคำถามที่ผู้สัมภาษณ์จะถาม (ดูด้านล่าง) นี่จะช่วยบุคคลเตรียมตอบคำถาม

ให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่ท่านสอนและพันธสัญญาที่เขาจะทำเมื่อรับบัพติศมา พันธสัญญานี้คือ:

• เต็มใจรับพระนามของพระเยซูคริสต์

• รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า

• รับใช้พระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่น

• อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ (ดู บทที่ 4)

แสดงประจักษ์พยานเกี่ยวกับพรอันสำคัญยิ่งที่มาจากการรับบัพติศมาและการยืนยัน และการรักษาพันธสัญญาบัพติศมา พรเหล่านี้รวมถึงการปลดบาปและของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย

การดำเนินการสัมภาษณ์บัพติศมา

แต่ละคนที่ปรารถนาจะรับบัพติศมาจะได้รับการสัมภาษณ์จากผู้นำฐานะปุโรหิตที่ได้รับมอบอำนาจ ในคณะเผยแผ่ บุคคลนี้คือหัวหน้าดิสตริกท์หรือหัวหน้าโซน เขาดำเนินการสัมภาษณ์:

• บุคคลอายุ 9 ขวบขึ้นไปผู้ไม่เคยรับบัพติศมาและการยืนยัน

• เด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไปที่บิดามารดาไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร

• เด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไปที่มีบิดาหรือมารดาจะรับบัพติศมาและการยืนยันด้วย

แนวทางสำหรับผู้สัมภาษณ์มีดังนี้

• จัดสัมภาษณ์ในสถานที่สะดวกสบายเป็นส่วนตัวซึ่งรู้สึกถึงพระวิญญาณได้

• เมื่อสัมภาษณ์เด็ก เยาวชน หรือผู้หญิง คู่ของคู่สัมภาษณ์ควรอยู่ใกล้ๆ ในห้องติดกัน ห้องโถง หรือทางเดิน หากต้องการผู้รับการสัมภาษณ์อาจเชิญผู้ใหญ่อีกคนให้อยู่ด้วยระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สอนศาสนาควรหลีกเลี่ยงทุกสภาวการณ์ที่อาจทำให้เข้าใจผิด

• เริ่มด้วยการสวดอ้อนวอน

• ช่วยให้คนนั้นรู้สึกสบายใจ

• ทำให้การสัมภาษณ์เป็นประสบการณ์ที่เชิดชูจิตวิญญาณ

• ให้แน่ใจว่าคนนั้นเข้าใจจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์

• ถามคำถามสัมภาษณ์บัพติศมาที่ระบุไว้ด้านล่าง ปรับคำถามตามอายุ วุฒิภาวะ และสภาวการณ์ของผู้รับการสัมภาษณ์เมื่อจำเป็น

• ตอบคำถามของคนนั้น

• ตรวจทานข้อมูลในแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยันเพื่อดูความถูกต้อง ถ้าคนนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองต้องเซ็นแบบฟอร์มก่อนบัพติศมา (ดูหมวด “บัพติศมาและการยืนยัน: คำถามและคำตอบ” ในบทนี้)

• เชิญแสดงประจักษ์พยานหรือบอกความรู้สึกของเขา

• แสดงความขอบคุณที่ท่านได้พบกับคนนั้น

คำถามสัมภาษณ์บัพติศมา

คำถามสัมภาษณ์บัพติศมามีดังนี้:

1. คุณเชื่อไหมว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดานิรันดร์ของเรา? คุณเชื่อไหมว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของโลก?

2. คุณเชื่อไหมว่าศาสนจักรและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้รับการฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ? คุณเชื่อไหมว่า [ประธานศาสนจักรคนปัจจุบัน] เป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า? นี่มีความหมายต่อคุณอย่างไร?

3. การกลับใจมีความหมายต่อคุณอย่างไร? คุณรู้สึกไหมว่าคุณได้กลับใจจากบาปในอดีตแล้ว?

4. คุณได้รับการสอนมาแล้วว่าการเป็นสมาชิกในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหมายรวมถึงการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระกิตติคุณ คุณเข้าใจมาตรฐานต่อไปนี้อย่างไร? คุณยินดีทำตามมาตรฐานเหล่านี้หรือไม่?

   • กฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศซึ่งห้ามความสัมพันธ์ทางเพศทุกอย่างนอกพันธะของการแต่งงานตามกฎหมายระหว่างชายหญิง

   • กฎส่วนสิบ

   • พระคำแห่งปัญญา

   • การรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงการรับส่วนศีลระลึกทุกสัปดาห์และการรับใช้ผู้อื่น

5. คุณเคยทำผิดอาญาร้ายแรงหรือไม่? หากเคย ขณะนี้คุณอยู่ระหว่างถูกภาคทัณฑ์หรือถูกคุมประพฤติหรือไม่?

6. คุณเคยมีส่วนในการทำแท้งหรือไม่? (ดู คู่มือทั่วไป, 38.6.1)

7. เมื่อคุณรับบัพติศมา คุณทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าว่าคุณเต็มใจรับพระนามของพระคริสต์ รับใช้ผู้อื่น ยืนเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ตลอดชีวิตคุณ คุณพร้อมทำพันธสัญญานี้และจะพยายามซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาหรือไม่?

ดูคำแนะนำใน คู่มือทั่วไป, 38.2.8.7 และ 38.2.8.8 ถ้าคนนั้นตอบคำถามข้อ 5 หรือ 6 ว่าเคย

ทำความคุ้นเคยกับนโยบายและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับบัพติศมาและการยืนยันใน คู่มือทั่วไป, 38.2.8 บางนโยบายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสภาวการณ์พิเศษที่ท่านอาจพบเจอ

หลังจากสัมภาษณ์ ผู้สอนศาสนาและผู้รับการสัมภาษณ์จะไปสมทบกับผู้สอนศาสนาคนอื่นๆ ถ้าคนนั้นพร้อมรับบัพติศมา ผู้สอนศาสนาอธิบายว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่พิธีบัพติศมา อธิบายด้วยว่าปกติการยืนยันจะเกิดขึ้นในการประชุมศีลระลึกของวอร์ดที่คนนั้นอยู่

เมื่อจำเป็นต้องเลื่อนบัพติศมา

บางครั้งจำเป็นต้องเลื่อนบัพติศมาเพราะมีความท้าทายในเรื่องประจักษ์พยานหรือความมีค่าควร เมื่อเป็นเช่นนี้ ให้แก้ไขสถานการณ์อย่างละมุนละม่อมและเป็นส่วนตัว ช่วยให้คนนั้นเข้าใจว่าจะเตรียมรับบัพติศมาในวันหน้าอย่างไร

ให้กำลังใจเขาและให้ความหวังในพระคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ ขอให้สมาชิกวอร์ดผูกมิตร สอนหลักธรรมเบื้องต้นของพระกิตติคุณต่อไปจนกว่าบุคคลจะพร้อมรับบัพติศมาและการยืนยัน รอจนถึงเวลานั้นแล้วค่อยกำหนดวันบัพติศมาวันใหม่

บัพติศมาและการยืนยัน: คำถามและคำตอบ

ฉันต้องได้รับอนุญาตก่อนให้บัพติศมาผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่? ศาสนจักรเป็นห่วงสวัสดิภาพของเด็กและความปรองดองในบ้านของพวกเขา ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่กฎหมายท้องที่กำหนดจะรับบัพติศมาได้เมื่อบรรลุเงื่อนไขทั้งสองข้อต่อไปนี้:

1. บิดาหรือมารดาที่ดูแลหรือผู้ปกครองตามกฎหมายให้อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร พวกเขาควรมีความเข้าใจทั่วไปในเรื่องหลักคำสอนที่ลูกๆ ของพวกเขาจะได้รับการสอนเมื่อเป็นสมาชิกของศาสนจักร และควรเต็มใจสนับสนุนลูกๆ ในการทำและรักษาพันธสัญญาบัพติศมาด้วย

2. ผู้ดำเนินการสัมภาษณ์มองออกว่าเด็กเข้าใจพันธสัญญาบัพติศมา เขาควรรู้สึกมั่นใจว่าเด็กจะพยายามรักษาพันธสัญญานี้โดยเชื่อฟังพระบัญญัติ รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมของศาสนจักร

ฉันจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสเพื่อให้บัพติศมาสามีหรือภรรยาหรือไม่? จำเป็น บุคคลที่แต่งงานแล้วต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อนจะรับบัพติศมา

ถ้าบิดาหรือมารดาในครอบครัวไม่พร้อมรับบัพติศมา ฉันควรให้บัพติศมาสมาชิกคนอื่นในครอบครัวหรือรอจนกว่าบิดาหรือมารดาพร้อม? ทางที่ดีคือให้สมาชิกครอบครัวรับบัพติศมาพร้อมกัน แต่ถ้าบางคนไม่พร้อม สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวอาจรับบัพติศมาได้ตราบใดที่ได้รับความยินยอมที่จำเป็น

ควรเลื่อนบัพติศมาของสมาชิกครอบครัวจนกว่าบิดาจะได้รับฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและประกอบพิธีบัพติศมาด้วยตนเองหรือไม่? ไม่ควร พี่น้องชายที่รับบัพติศมาใหม่จะไม่ได้รับฐานะปุโรหิตในวันที่พวกเขารับบัพติศมา พวกเขาต้องรับการสัมภาษณ์จากอธิการและให้สมาชิกวอร์ดสนับสนุนก่อน

ฉันจะสอนและให้บัพติศมาคนที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกศาสนจักรหรือถูกถอนสมาชิกภาพได้หรือไม่? ผู้ลาออกจากการเป็นสมาชิกศาสนจักรหรือถูกถอนสมาชิกภาพจะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกได้อีกครั้งโดยบัพติศมาและการยืนยัน ถ้าพวกเขาประสงค์จะรับการสอน ให้หารือกับผู้นำฐานะปุโรหิตระดับท้องที่และประธานคณะเผยแผ่ของท่านเกี่ยวกับบทบาทที่ท่านอาจจะมี

ในสเตค การกลับเข้ามาเป็นสมาชิกอีกครั้งโดยบัพติศมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอธิการหรือประธานสเตค ในคณะเผยแผ่ การกลับเข้ามาเป็นสมาชิกอีกครั้งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธานคณะเผยแผ่ ผู้นำเหล่านี้จะรับแนวทางจากฝ่ายประธานสูงสุดเมื่อจำเป็น ผู้สอนศาสนาไม่ดำเนินการสัมภาษณ์บัพติศมาเหล่านี้หรือไม่กรอกแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยัน แต่อาจได้รับเชิญให้เป็นผู้ให้บัพติศมา

อดีตสมาชิกของศาสนจักรที่เข้าร่วมศาสนจักรอีกครั้งไม่ถือเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใส ทว่าบางครั้งผู้สอนศาสนาจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พวกเขาได้รับพรของการเป็นสมาชิกศาสนจักรอีกครั้ง

จะเป็นอย่างไรหากคนนั้นมีวันบัพติศมากำหนดไว้แล้วแต่รักษาคำมั่นสัญญาไม่ครบ? รอนัดสัมภาษณ์บัพติศมาจนกว่าคนนั้นจะรักษาคำมั่นสัญญาและมีคุณสมบัติพร้อมรับบัพติศมา ดู “เมื่อจำเป็นต้องเลื่อนบัพติศมา” ในบทนี้

จะเป็นอย่างไรถ้าคู่ชายหญิงที่อยู่ด้วยกันต้องการรับบัพติศมา? คู่ชายหญิงที่อยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงานตามกฎหมายระหว่างชายหญิงจะรับบัพติศมาไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ นี่หมายถึงไม่อยู่ด้วยกันอีก—ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่างเพศหรือคู่เพศเดียวกัน—หรือหมายถึงชายและหญิงต้องแต่งงานกัน ทั้งนี้รวมถึงการใช้ศรัทธาไปสู่การกลับใจตามที่อธิบายไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37 การแต่งงานระหว่างชายและหญิงเป็นส่วนจำเป็นในแผนของพระผู้เป็นเจ้า

คำถามข้อ 5 และ 6 ในการสัมภาษณ์บัพติศมาถามว่าคนนั้นเคยทำผิดอาญาร้ายแรงหรือมีส่วนในการทำแท้งหรือไม่ ฉันควรทำอย่างไรถ้ามีคนตอบคำถามข้อใดข้อหนึ่งเหล่านี้ว่า “เคย”? ถ้าท่านทราบว่ามีสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งเหล่านี้ระหว่างการสัมภาษณ์บัพติศมา อย่าถามรายละเอียด อย่าสัญญาว่าคนนั้นจะได้รับอนุมัติให้รับบัพติศมา แต่แสดงความรักของท่านและอธิบายอย่างนุ่มนวลว่าคนที่มีวุฒิภาวะและประสบการณ์มากกว่าท่านจะพูดคุยกับคนนั้นและช่วยเหลือ

ส่งคำขอสัมภาษณ์บัพติศมาให้ประธานคณะเผยแผ่ของท่าน เขาหรือที่ปรึกษาคนหนึ่งของเขาจะพบกับคนนั้น ดู คู่มือทั่วไป, 38.2.8.7 และ 38.2.8.8

ฉันควรทำอย่างไรถ้ามีคนสร้างบันทึกสมาชิกภาพไว้แล้วก่อนฉันส่งแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยัน? ติดต่อประธานคณะเผยแผ่ของท่านเพื่อขอคำแนะนำ

การศึกษาส่วนตัว

คิดดูว่าท่านจะรู้สึกอย่างไรถ้าท่านรับการสัมภาษณ์ พิจารณาคำถามต่อไปนี้และบันทึกความประทับใจของท่าน

• การสัมภาษณ์อาจจะทำให้ท่านไม่ค่อยสบายใจได้อย่างไร? ผู้สัมภาษณ์จะทำหรือพูดอะไรได้บ้างเพื่อให้ท่านสบายใจ?

• ท่านอยากให้ผู้สัมภาษณ์ปฏิสัมพันธ์กับท่านอย่างไร?

• ท่านอยากให้ผู้สัมภาษณ์ตอบสนองอย่างไรถ้าท่านแสดงความสงสัยหรือความเข้าใจผิดหรือถ้าท่านสารภาพบาปร้ายแรง?

พิธีบัพติศมา

พิธีบัพติศมาและการยืนยันควรเป็นเหตุการณ์สำคัญทางวิญญาณสำหรับสมาชิกใหม่ ควรกำหนดพิธีบัพติศมาทันทีที่คนนั้นมีคุณสมบัติพร้อมรับบัพติศมา อธิบายว่าท่านวางแผนอย่างไรและเพราะเหตุใด พูดถึงชุดที่เหมาะสม และบอกด้วยว่าคนนั้นจะได้ชุดขาวไว้สวมตอนรับบัพติศมาอย่างไร

พิธีบัพติศมาสำหรับผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสวางแผนภายใต้การนำทางของฝ่ายอธิการ หัวหน้าเผยแผ่วอร์ด (ถ้าได้รับเรียก) หรือสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ผู้เป็นหัวหน้างานเผยแผ่ศาสนาจะวางแผนและดำเนินพิธีเหล่านี้ เขาประสานงานกับผู้สอนศาสนาเต็มเวลา พิธีบัพติศมาควรเรียบง่าย กระชับ และยกระดับจิตวิญญาณ

เชิญสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ และสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ (ถ้าเขาไม่ดำเนินพิธี) มาร่วมพิธีบัพติศมา เมื่อเหมาะสม ให้เชิญผู้นำองค์การคนอื่นๆ ผู้นำเยาวชน และบราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (ถ้ามอบหมาย) ทำงานกับผู้รับบัพติศมาเพื่อเชิญเพื่อนและญาติๆ มาร่วมพิธีบัพติศมาและการยืนยัน

ท่านอาจจะเชิญคนอื่นๆ ที่ท่านสอนมาร่วมด้วย ประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงพระวิญญาณและเรียนรู้พระกิตติคุณมากขึ้น หลังจากพิธี ให้ติดตามผลเพื่อพูดถึงประสบการณ์ของพวกเขาและเชื้อเชิญให้พวกเขาเรียน

พิธีบัพติศมามีองค์ประกอบดังนี้:

1. เพลงก่อนการประชุม

2. การกล่าวต้อนรับสั้นๆ จากผู้นำฐานะปุโรหิตที่ดำเนินพิธี (สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการจะเป็นประธานในพิธีหากทำได้)

3. เพลงสวดเปิดและผู้สวดอ้อนวอนเปิด

4. ข่าวสารสั้นๆ หนึ่งหรือสองคนเกี่ยวกับพระกิตติคุณ เช่น บัพติศมาและของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

5. เพลงพิเศษ

6. บัพติศมา

7. เวลาของความคารวะขณะผู้มีส่วนในพิธีบัพติศมาเปลี่ยนชุด (จะเล่นหรือร้องเพลงสวดหรือเพลงปฐมวัยในช่วงเวลานี้ หรือผู้สอนศาสนาจะนำเสนอพระกิตติคุณสั้นๆ ก็ได้)

8. การแสดงประจักษ์พยานโดยสมาชิกใหม่หากประสงค์

9. เพลงสวดปิดและผู้สวดอ้อนวอนปิด

10. เพลงหลังการประชุม

ถ้าท่านกำหนดให้บัพติศมาวันอาทิตย์ เลือกเวลาที่ไม่ตรงกับการประชุมวันอาทิตย์ปกติ

การยืนยัน

บุคคลรับศาสนพิธีแห่งการยืนยันหลังจากเขาได้รับบัพติศมา (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:41) ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ถือเป็นสมาชิกของศาสนจักรหลังจากศาสนพิธีแห่งบัพติศมาและการยืนยันเสร็จสมบูรณ์และลงบันทึกอย่างถูกต้อง

การยืนยันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอธิการ แต่เขาจะไม่ดำเนินการสัมภาษณ์แยกต่างหากสำหรับการยืนยัน

จงทำงานใกล้ชิดกับอธิการและหัวหน้าเผยแผ่วอร์ด (ถ้าได้รับเรียก) เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ได้รับการยืนยัน การยืนยันควรเกิดขึ้นทันทีที่เห็นสมควรหลังบัพติศมา ถ้าจะให้ดีคือวันอาทิตย์ถัดไป แต่อธิการอาจมีข้อยกเว้นให้ทำการยืนยันที่พิธีบัพติศมา (ดู คู่มือทั่วไป, 18.8)

ปกติผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสได้รับการยืนยันในการประชุมศีลระลึกในวอร์ดที่พวกเขาอยู่ ปกติอธิการจะเชิญเอ็ลเดอร์ผู้สอนศาสนาที่รับใช้วอร์ดให้ร่วมการยืนยัน ถ้าผู้สอนศาสนาทำการยืนยัน เขาต้องได้รับอนุมัติจากประธานคณะเผยแผ่เช่นกัน (ดู คู่มือทั่วไป, 18.8.1) สมาชิกในฝ่ายอธิการอย่างน้อยหนึ่งคนร่วมการยืนยัน

กรอกแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยัน

สิ่งสำคัญคือต้องสร้างบันทึกสมาชิกภาพทันทีหลังจากบุคคลได้รับบัพติศมาและการยืนยัน เกี่ยวกับบันทึกดังกล่าวในสมัยของโมโรไน เขาเขียนว่า “จึงนับ [พวกเขา] อยู่ในบรรดาผู้คนของศาสนจักรของพระคริสต์; และรับชื่อพวกเขาไว้, เพื่อพวกเขาจะได้รับการจดจำและบำรุงเลี้ยงด้วยพระวจนะอันประเสริฐของพระผู้เป็นเจ้า, เพื่อให้พวกเขาอยู่ในทางที่ถูกต้อง” (โมโรไน 6:4)

เมื่อท่านสอนคนที่กำลังเตรียมรับบัพติศมา ให้เริ่มกรอกแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยันในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเรา อธิบายว่าจะใช้แบบฟอร์มนี้สร้างบันทึกสมาชิกภาพ บันทึกนี้จะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับศาสนพิธีที่คนนั้นได้รับ เมื่อสมาชิกศาสนจักรย้าย บันทึกสมาชิกของพวกเขาจะถูกส่งต่อไปวอร์ดใหม่เพื่อผู้นำระดับท้องที่และสมาชิกจะสนับสนุนพวกเขาได้

ทันทีที่สมาชิกใหม่รับบัพติศมาและการยืนยัน ให้อัปเดตแบบฟอร์มด้วยข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละศาสนพิธี รวมถึงผู้ทำศาสนพิธีด้วย เมื่อกรอกแบบฟอร์มครบถ้วนแล้ว ให้บันทึกข้อมูลในแอปสั่งสอนกิตติคุณของเราและส่งให้พนักงานวอร์ดทางอิเล็กทรอนิกส์ พนักงานวอร์ดตรวจทานและสร้างบันทึกสมาชิกภาพทันทีที่ได้รับแบบฟอร์ม

หลังจากสร้างบันทึกสมาชิกภาพแล้ว พนักงานเตรียมใบสำคัญบัพติศมาและการยืนยัน อธิการเซ็นใบสำคัญนี้และมอบให้สมาชิก

ชื่อและเพศบนบันทึกสมาชิกภาพและใบสำคัญต้องตรงกับสูติบัตร ใบแจ้งเกิด หรือชื่อปัจจุบันตามกฎหมายของคนนั้น

การศึกษาส่วนตัวหรือกับคู่

ศึกษา โมไซยาห์ 6:1–3 และ แอลมา 6:1–4 ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเก็บบันทึกของบัพติศมาและการยืนยันให้ถูกต้อง?

หลังบัพติศมาและการยืนยัน

ยังคงปฏิบัติศาสนกิจต่อไป

ยังคงผูกมิตรและสนับสนุนสมาชิกใหม่ต่อไปหลังจากพวกเขารับบัพติศมาและการยืนยัน ช่วยให้พวกเขามาโบสถ์และสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิก อ่านพระคัมภีร์มอรมอนกับพวกเขา และช่วยพวกเขาแบ่งปันพระกิตติคุณกับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ แนะนำพวกเขาให้รู้จักจุลสาร เส้นทางพันธสัญญาของฉัน ใช้แอปสั่งสอนกิตติคุณของเราบันทึกความก้าวหน้าของพวกเขาต่อไป เช่น การเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกและบทเรียนที่พวกเขาได้รับ

หลังการยืนยัน ให้สอนบทเรียนผู้สอนศาสนาอีกครั้ง ท่านเป็นผู้นำในการสอน แต่จะประสานงานกับผู้นำวอร์ดเพื่อให้ผู้สอนศาสนาวอร์ดหรือสมาชิกคนอื่นๆ ร่วมสอน ขณะสอน จงกระตุ้นสมาชิกใหม่ให้รักษาคำมั่นสัญญาทั้งหมดในบทเรียน

ในการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์ ให้สนทนากันว่าสมาชิกจะสนับสนุนผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่และช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมแข็งขันในศาสนจักรได้อย่างไร วางแผนว่าใครจะแนะนำพวกเขาให้รู้จักผู้นำโควรัมหรือผู้นำองค์การ ประสานการมีส่วนร่วมของสมาชิกท่านอื่นเมื่อท่านสอนบทเรียนอีกครั้ง ขอให้มอบหมายบราเดอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจสำหรับผู้หญิง)

หลังจากยืนยันผู้ชาย เขามีสิทธิ์ได้รับฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนถ้าเขาจะอายุอย่างน้อย 12 ปีก่อนสิ้นปี การแต่งตั้งฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอธิการ (ดู คู่มือทั่วไป, 38.2.9.1)

เมื่อเหมาะสม ให้ติดต่อกับคนที่ท่านเคยสอนตลอดชีวิตท่าน สนับสนุนพวกเขาให้ได้รับพรทั้งหมดของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

“เมื่อเรามาด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด เราจะพบเสียงในพระเยซูคริสต์และอยู่ในอ้อมพระพาหุแห่งความปลอดภัยที่เข้าใจของพระองค์ ศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์มอบการเป็นส่วนหนึ่งในพันธสัญญาและ ‘พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า’ เพื่อชำระเจตนาภายในและการกระทำภายนอกให้บริสุทธิ์ [หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:20] ด้วยความการุณย์รักและความอดกลั้นของพระองค์ ศาสนจักรของพระองค์จึงกลายเป็นโรงเเรมของเรา” (เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง, “ที่ว่างในโรงแรม,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 27)

ช่วยให้สมาชิกใหม่มีส่วนในพรของพระวิหาร

สมาชิกใหม่ที่ถึงวัยเหมาะสมอาจได้รับใบรับรองพระวิหารที่อนุญาตให้พวกเขารับบัพติศมาแทนสมาชิกครอบครัวที่เสียชีวิตแล้ว (ดู คู่มือทั่วไป, 26.4.2) พวกเขารับใบรับรองนี้จากอธิการ กระตุ้นและช่วยให้สมาชิกใหม่ได้ใบรับรองพระวิหารทันทีที่สมควร ถ้าพระวิหารอยู่ใกล้ ท่านอาจจะให้คำเชื้อเชิญโดยระบุเวลาให้สมาชิกใหม่รับบัพติศมาแทนบรรพชนที่เสียชีวิตแล้ว

ในการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์ ให้วางแผนว่าใครจะแนะนำสมาชิกใหม่ให้รู้จักหัวหน้างานพระวิหารและประวัติครอบครัววอร์ด ผู้นำคนนี้จะช่วยพวกเขาเตรียมรับพรของพระวิหารโดยทำพันธสัญญาพระวิหารของตนเอง

จำสิ่งนี้

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้สนใจมีคุณสมบัติพร้อมรับบัพติศมาและการยืนยัน

• ช่วยให้ผู้จะรับบัพติศมาเตรียมรับการสัมภาษณ์บัพติศมา

• ช่วยทำให้พิธีบัพติศมาเชิดชูจิตวิญญาณ

• กรอกและส่งแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยัน

• สนับสนุนและสอนสมาชิกใหม่ต่อไปหลังบัพติศมา

---

แนวคิดสำหรับการศึกษาและการประยุกต์ใช้

การศึกษาส่วนตัว

• เขียนความท้าทายที่ผู้จะรับบัพติศมาอาจพบเจอ เหตุใดจึงสำคัญที่คนนั้นต้องรู้สึกถึงความรักและมิตรภาพของสมาชิกศาสนจักร?

• ศึกษา โมโรไน 6 และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:68–69 ท่านได้เรียนรู้อะไรจากข้อเหล่านี้เกี่ยวกับการช่วยผู้คนเตรียมรับบัพติศมาและการยืนยัน? เขียนสิ่งที่ท่านเรียนรู้ แบ่งปันความคิดของท่านกับคู่ในระหว่างศึกษากับคู่

การศึกษากับคู่และการสลับคู่

• ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์อธิบายสาเหตุที่มาตรฐานพระกิตติคุณสำคัญ สนทนาคำแนะนำต่อไปนี้ ท่านจะกระตุ้นผู้คนให้ปรารถนาจะทำตามมาตรฐานเหล่านี้ได้อย่างไร?

  “พระเจ้าทรงกำหนดมาตรฐานของพระองค์เพื่อจะทรงอวยพรเราได้ ลองนึกถึงพรเหล่านั้น: พระองค์ทรงสัญญากับคนที่ทำตามมาตรฐานว่าจะประทานความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงสัญญาจะประทานสันติสุขส่วนตัว ทรงสัญญาจะประทานโอกาสให้ได้รับศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ในพระนิเวศน์ของพระองค์ และทรงสัญญากับคนที่อดทนในการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ว่าพวกเขาจะมีชีวิตนิรันดร์ …

  “เพราะเรารักคนที่เรารับใช้ เราทุกคนจึงต้องการทำดีขึ้นในการยกลูกๆ ของพระบิดาบนสวรรค์ขึ้นสู่ความซื่อสัตย์และความบริสุทธิ์ที่พวกเขาจำเป็นต้องมีเพื่อได้รับพรทั้งหมดของพระเจ้า …

  “… ท่านเริ่มโดยยกมาตรฐานของพระเจ้าให้เห็นชัดเจนและไม่มีข้อแก้ตัว ยิ่งโลกเหินห่างและเยาะเย้ยมาตรฐานเหล่านั้นเพียงใด เรายิ่งต้องกล้าทำตามเพียงนั้น” (“Standards of Worthiness,” First Worldwide Leadership Training Meeting, Jan. 2003, 10–11)

• ทบทวนคำถามสัมภาษณ์บัพติศมา พิจารณาว่าท่านจะรับมือกับสถานการณ์ดังต่อไปนี้อย่างไร:

  • คนนั้นไม่ได้บอกท่านว่าเขาถูกคุมประพฤติเพราะทำผิดอาญา

  • คนนั้นไม่ได้รับคำตอบการสวดอ้อนวอนว่าโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์

  • คนนั้นสูบบุหรี่เมื่อสองวันก่อน

  • คนนั้นไม่แน่ใจว่าเธอเคยได้รับคำตอบการสวดอ้อนวอนของเธอ

  • ครอบครัวรู้สึกว่าเพื่อนๆ กดดันและไม่แน่ใจว่าตนพร้อมรับบัพติศมา

• ตรวจทานแบบฟอร์มบัพติศมาและการยืนยัน เหตุใดข้อมูลที่ท่านให้จึงควรถูกต้องครบถ้วน?

สภาดิสตริกท์ การประชุมโซน และสภาผู้นำคณะเผยแผ่

• ทบทวนความสำคัญของการสัมภาษณ์บัพติศมา สนทนาว่าผู้สอนศาสนาจะช่วยผู้คนเตรียมรับการสัมภาษณ์ได้อย่างไร?

• สนทนาวิธีใช้พิธีบัพติศมาและการยืนยันเป็นโอกาสในการหา

ผู้นำคณะเผยแผ่และที่ปรึกษาคณะเผยแผ่

• ทำงานกับผู้นำฐานะปุโรหิตระดับท้องที่และผู้นำองค์การเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขากำลังใช้รายงานความก้าวหน้าบนเส้นทางพันธสัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ

• สอนหัวหน้าดิสตริกท์ หัวหน้าโซน และหัวหน้าอบรมซิสเตอร์ให้รู้วิธีเตรียมคนให้พร้อมรับการสัมภาษณ์บัพติศมา เชื้อเชิญให้พวกเขาอบรมผู้สอนศาสนาคนอื่นเพื่อเตรียมคนให้พร้อมรับการสัมภาษณ์นี้

• สอนหัวหน้าดิสตริกท์และหัวหน้าโซนให้รู้วิธีดำเนินการสัมภาษณ์บัพติศมา

• สอนวิธีตอบสนองในการสัมภาษณ์บัพติศมาเมื่อคนนั้นเปิดเผยว่าเขาเคยทำบาปร้ายแรง

• เมื่อทำได้ให้เข้าร่วมพิธีบัพติศมาสำหรับสมาชิกใหม่ พูดคุยกับสมาชิกใหม่และเรียนรู้ประสบการณ์การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของพวกเขา แบ่งปันสิ่งที่ท่านเรียนรู้กับคู่และกับผู้สอนศาสนา