การประชุมใหญ่สามัญ
พี่น้องสตรีในไซอัน
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2020


12:53

พี่น้องสตรีในไซอัน

ท่านจะเป็นกองกำลังสำคัญในการรวบรวมอิสราเอลและในการสร้างชาวไซอัน

พี่น้องสตรีที่รัก ข้าพเจ้าได้รับพรให้พูดในช่วงเวลาวิเศษสุดนี้ในประวัติศาสตร์ของโลก ทุกวันเราเข้าใกล้เวลาอันรุ่งโรจน์มากขึ้นเมื่อพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ จะเสด็จมาแผ่นดินโลกอีกครั้ง เรารู้บางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์น่ากลัวที่จะเกิดขึ้นก่อนการเสด็จมาของพระองค์ แต่ใจเราท่วมท้นด้วยปีติและความมั่นใจที่รู้ว่าสัญญาอันรุ่งโรจน์จะเกิดสัมฤทธิผลก่อนพระองค์เสด็จกลับมา

ในฐานะธิดาที่รักของพระบิดาบนสวรรค์ และในฐานะธิดาของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ในอาณาจักรของพระองค์1 ท่านจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในเวลาสำคัญข้างหน้า เรารู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาหาผู้คนที่ทรงรวบรวมและเตรียมไว้ให้มีชีวิตเช่นผู้คนในเมืองของเอโนค คนที่นั่นเป็นหนึ่งเดียวกันในศรัทธาในพระเยซูคริสต์และกลายเป็นคนบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์จนพระองค์ทรงรับขึ้นสู่สวรรค์

ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายของพระเจ้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผู้คนของเอโนคและอะไรจะเกิดขึ้นในสมัยการประทานสุดท้าย นี้ ของความสมบูรณ์แห่งเวลา:

“และวันนั้นจะมาถึงเมื่อแผ่นดินโลกจะพักผ่อน, แต่ก่อนวันนั้นฟ้าสวรรค์จะถูกทำให้มืด, และม่านแห่งความมืดจะคลุมผืนแผ่นดิน; และฟ้าสวรรค์จะสั่นสะเทือน, และผืนแผ่นดินด้วย; และความยากลำบากใหญ่หลวงจะมีอยู่ในบรรดาลูกหลานมนุษย์, แต่ผู้คนของเรา เราจะปกปักรักษาไว้;

“และเราจะส่งความชอบธรรมลงมาจากสวรรค์; และเราจะส่งความจริง ออกมาจากแผ่นดินโลก, เพื่อแสดงประจักษ์พยานถึงพระองค์เดียวที่ถือกำเนิดของเรา; การฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์จากบรรดาคนตาย; แท้จริงแล้ว, และการฟื้นคืนชีวิตของมนุษย์ทั้งปวงด้วย; และเราจะทำให้ความชอบธรรมและความจริงถั่งท้นแผ่นดินโลกดังด้วยน้ำท่วม, เพื่อรวบรวมผู้ที่เราเลือกไว้ออกมาจากสี่เสี้ยวของแผ่นดินโลก, มายังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเราจะเตรียมไว้, นครศักดิ์สิทธิ์, เพื่อผู้คนของเราจะคาดเอวพวกเขาไว้, และเฝ้ารอเวลาแห่ง การมาของเรา; เพราะพลับพลาของเราจะอยู่ ที่นั่น และจะเรียกนครนั้นว่าไซอัน, เยรูซาเล็มใหม่.

“และพระเจ้าตรัสกับเอโนค: จากนั้นเจ้ากับเมืองของเจ้าทั้งเมืองจะพบพวกเขาที่นั่น, และเราทั้งหลายจะรับพวกเขาไว้ในอกของเรา, และพวกเขาจะเห็นพวกเรา; และพวกเราจะกอดคอพวกเขา, และพวกเขาจะกอดคอพวกเรา, และเราจะจุมพิตกัน;

“และเรือนพำนักของเราจะอยู่ ที่นั่น, และมันจะเป็นไซอัน, ซึ่งจะแยกออกมาจากงานสร้างทั้งปวงซึ่งเรารังสรรค์ไว้; และเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหนึ่งพันปีแผ่นดินโลกจะพักผ่อน”2

พี่น้องสตรีทั้งหลาย บุตรสาวของท่าน หลานสาวของท่าน และสตรีที่ท่านบำรุงเลี้ยงจะอยู่ใจกลางการสร้างสังคมนั้นของคนที่จะร่วมสมาคมกับพระผู้ช่วยให้รอด ท่านจะเป็นกองกำลังสำคัญในการรวบรวมอิสราเอลและในการสร้างชาวไซอันผู้จะอยู่อย่างสันติในเยรูซาเล็มใหม่

พระเจ้าทรงทำสัญญากับท่านผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ ในยุคแรกของสมาคมสงเคราะห์ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธบอกพี่น้องสตรีว่า “หากท่านจะดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน คงจะห้ามเหล่าเทพเป็น สหาย ของท่านไม่ได้”3

ศักยภาพอันน่าอัศจรรย์นั้นอยู่ในตัวท่าน และทรงกำลังเตรียมท่านให้พร้อมรับพรนั้น

ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าวว่า:

“พี่น้องสตรี … ไม่ได้ครองอันดับสองในแผนของพระบิดาเพื่อความผาสุกและความสุขนิรันดร์ของบุตรธิดาพระองค์ ท่านเป็นส่วนจำเป็นอย่างยิ่งของแผนนั้น

“หากไม่มีท่าน แผนจะบังเกิดผลไม่ได้ หากไม่มีท่าน โปรแกรมทั้งหมดจะล้มเหลว …

“แต่ละท่านเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ได้รับการประสาทพรด้วยสิทธิกำเนิดอันสูงส่ง”4

ศาสดาพยากรณ์คนปัจจุบันของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายบทบาทของท่านในการเตรียมรับการเสด็จมาของพระผู้ช่วยให้รอดดังนี้:

“คงเป็นไปไม่ได้ที่จะวัดอิทธิพลที่สตรี … มี ไม่เฉพาะต่อครอบครัวเท่านั้นแต่ต่อศาสนจักรของพระเจ้าด้วย ในฐานะภรรยา มารดา และคุณย่าคุณยาย ในฐานะพี่สาวน้องสาว และคุณป้าคุณน้า ในฐานะครูและผู้นำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะแบบอย่างอันเยี่ยมยอดและผู้อุทิศตนปกป้องศรัทธา

“สิ่งนี้เป็นจริงในทุกสมัยการประทานพระกิตติคุณตั้งแต่สมัยอาดัมและเอวา กระนั้นสตรีในสมัยการประทาน นี้ ยังแตกต่างจากสตรีในสมัย อื่นๆ เนื่องจากสมัยการประทานนี้แตกต่างจากสมัยการประทานอื่นๆ ความแตกต่างนี้นำมาซึ่งสิทธิพิเศษและความรับผิดชอบ”5

สมัยการประทานนี้แตกต่างเพราะพระเจ้าจะทรงนำเราให้พร้อมที่จะเป็นเหมือนเมืองของเอโนค พระองค์ทรงอธิบายผ่านอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ว่าการเปลี่ยนเป็นชาวไซอันจะเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง

เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีสอนว่า:

“[ช่วงเวลาของเอโนค] เป็นช่วงเวลาของความชั่วร้าย ช่วงเวลาของความมืดและการกบฏ ช่วงเวลาของสงครามและความอ้างว้าง ช่วงเวลาที่นำไปสู่การชำระแผ่นดินโลกด้วยน้ำ

“แต่เอโนคเป็นคนซื่อสัตย์ ท่าน ‘เห็นพระเจ้า’ และพูดกับพระเจ้า ‘ตรงหน้า’ ดังคนคนหนึ่งพูดกับอีกคนหนึ่ง (โมเสส 7:4) พระเจ้าทรงส่งท่านมาป่าวร้องการกลับใจต่อโลก และทรงมอบหมายให้ท่าน ‘ให้บัพติศมาในพระนามของพระบิดา, และของพระบุตร, ซึ่งทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความจริง, และของพระวิญญาณบริสุทธิ์, ซึ่งรับสั่งคำพยานถึงพระบิดาและพระบุตร’ (โมเสส 7:11) เอโนคทำพันธสัญญาและรวมกลุ่มผู้เชื่อที่แท้จริงทั้งหมดนั้นซึ่ง กลายเป็น คนซื่อสัตย์จน ‘พระเจ้าเสด็จมาและทรงพำนักกับผู้คนของพระองค์, และพวกเขาดำรงอยู่ในความชอบธรรม’ และได้รับพรจากเบื้องบน ‘และพระเจ้าทรงเรียกผู้คนของพระองค์ว่าไซอัน, เพราะพวกเขามีจิตใจเดียวและความคิดเดียว, และดำรงอยู่ในความชอบธรรม; และไม่มีคนจนในบรรดาพวกเขา.’ (โมเสส 7:18) …

“หลังจากพระเจ้าทรงเรียกผู้คนของพระองค์ว่าไซอันแล้ว พระคัมภีร์กล่าวว่า เอโนค ‘สร้างนครหนึ่งที่เรียกว่านครแห่งความบริสุทธิ์, แม้ไซอัน’ ‘พระองค์ทรงรับ [ไซอัน] ขึ้นสู่สวรรค์’ ที่ซึ่ง ‘พระผู้เป็นเจ้าทรงรับขึ้นไปไว้ในพระอุระของพระองค์เอง; และนับแต่นั้นมามีการกล่าวกันว่า, ไซอันหลบหนีไปแล้ว’ (โมเสส 7:19, 21, 69) …

“ไซอันเดียวกันนี้ซึ่งพระองค์ทรงรับขึ้นสู่สวรรค์จะกลับมา … เมื่อพระเจ้าทรงนำไซอันมาอีก และผู้อยู่อาศัยในนั้นจะร่วมกับเยรูซาเล็มใหม่ ซึ่งจะได้รับการสถาปนาในเวลานั้น”6

ถ้าอดีตคืออารัมภบท ณ เวลาของการเสด็จมาของพระผู้ช่วยให้รอด ธิดาผู้มุ่งมั่นทำตามพันธสัญญาที่ทำไว้กับพระผู้เป็นเจ้าจะมีเกินครึ่งของคนที่พร้อมต้อนรับพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมา แต่ไม่ว่าจำนวนเท่าใด ผลงานที่ท่านช่วยสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในบรรดาผู้คนที่พร้อมรับไซอันนั้นจะเกินกว่าครึ่งอยู่มาก

ข้าพเจ้าจะบอกว่าเหตุใดข้าพเจ้าจึงเชื่อเช่นนั้น พระคัมภีร์มอรมอนให้เรื่องราวของชาวไซอัน ท่านจำได้ว่าหลังจากพระผู้ช่วยให้รอดทรงสอน รัก และประทานพรพวกเขา “ไม่มีความขัดแย้งในแผ่นดิน, เพราะความรักของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งสถิตอยู่ในใจผู้คน”7

ประสบการณ์สอนข้าพเจ้าว่าธิดาของพระบิดาบนสวรรค์มีของประทานให้บรรเทาความขัดแย้งและส่งเสริมความชอบธรรมด้วยความรักที่พวกเธอมีต่อพระผู้เป็นเจ้าและด้วยความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าที่พวกเธอช่วยให้เกิดขึ้นในหมู่คนที่พวกเธอรับใช้

ข้าพเจ้าเห็นความรักนั้นในวัยเยาว์เมื่อสาขาเล็กๆ ของเราประชุมกันในบ้านวัยเด็กของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากับพี่ชายเป็นผู้ดำรงฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนเพียงสองคน คุณพ่อเป็นผู้ดำรงฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคเพียงคนเดียว ประธานสมาคมสงเคราะห์สาขาเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสที่สามีเธอไม่มีความสุขกับการรับใช้ของเธอในศาสนจักร สมาชิกทั้งหมดเป็นสตรีสูงวัยที่ไม่มีผู้ดำรงฐานะปุโรหิตในบ้าน ข้าพเจ้าเห็นคุณแม่และพี่น้องสตรีรัก หนุนใจ และดูแลกันไม่ขาด ข้าพเจ้าตระหนักตอนนี้ว่าข้าพเจ้าได้เห็นแวบแรกของไซอันในตอนนั้น

ข้าพเจ้ายังคงเรียนรู้อิทธิพลของสตรีที่ซื่อสัตย์ต่อไปในสาขาเล็กๆ แห่งหนึ่งของศาสนจักรในแอลบูเคอร์คี นิวเม็กซิโก ข้าพเจ้าเห็นภรรยาของประธานสาขา ภรรยาของประธานท้องถิ่น และประธานสมาคมสงเคราะห์ทำให้ใจของผู้มาใหม่และผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสทุกคนอบอุ่น วันอาทิตย์ที่ข้าพเจ้าออกจากแอลบูเคอร์คี หลังจากเฝ้าสังเกตอิทธิพลของพี่น้องสตรีที่นั่นสองปี มีการจัดตั้งสเตคแรกที่นั่น เวลานี้พระเจ้าทรงวางพระวิหารไว้ที่นั่นแล้ว

ข้าพเจ้าย้ายต่อไปบอสตันซึ่งข้าพเจ้ารับใช้ในฝ่ายประธานท้องถิ่นที่ดูแลสาขาเล็กๆ ที่กระจายไปทั่วสองรัฐ มีความขัดแย้งมากกว่าหนึ่งครั้งที่ยุติลงด้วยสตรีผู้มีความรักและการให้อภัยมาช่วยทำให้ใจคนอ่อนลง วันอาทิตย์ที่ข้าพเจ้าออกจากบอสตัน สมาชิกท่านหนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดจัดตั้งสเตคแรกในแมสซาชูเซตส์ ตอนนี้มีพระวิหารที่นั่น ใกล้กับที่ประธานท้องถิ่นเคยอยู่ เขากลับมาแข็งขันในศาสนจักรและต่อมาได้รับเรียกให้รับใช้เป็นประธานสเตคแล้วเป็นประธานคณะเผยแผ่ด้วยอิทธิพลจากภรรยาที่รักและซื่อสัตย์

พี่น้องสตรี ท่านได้รับพรของการเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้าที่มีของประทานพิเศษ ท่านนำความสามารถทางวิญญาณติดตัวมาในชีวิตมรรตัยด้วยเพื่อบำรุงเลี้ยงผู้อื่นและยกพวกเขาขึ้นสู่ความรักและความบริสุทธิ์อันจะทำให้พวกเขาคู่ควรอยู่ด้วยกันในสังคมไซอัน ไม่ใช่เหตุบังเอิญที่สมาคมสงเคราะห์ องค์การแรกของศาสนจักรสำหรับธิดาของพระบิดาบนสวรรค์โดยเฉพาะ จะมีคติพจน์ว่า “จิตกุศลไม่มีวันสูญสิ้น”

จิตกุศลคือความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์ และคือศรัทธาในพระองค์และผลที่สมบูรณ์ของการชดใช้อันไม่มีขอบเขตซึ่งจะทำให้ท่านกับคนที่ท่านรักและรับใช้มีคุณสมบัติคู่ควรรับของประทานอันสูงส่งเพื่ออาศัยอยู่ในสังคมนั้นของไซอันที่สัญญาไว้และตั้งตารอมานาน ที่นั่นท่านจะเป็นพี่น้องสตรีในไซอัน ได้รับความรักจากพระเจ้าและคนที่ท่านเป็นพรให้

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าท่านเป็นพลเมืองในอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก ท่านเป็นธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักท่าน ผู้ทรงส่งท่านมาในโลกพร้อมของประทานอันหาใดเทียบได้ที่ท่านสัญญาจะใช้เป็นพรแก่ผู้อื่น ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าพระเจ้าจะทรงจูงมือท่านผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทรงไปเบื้องหน้าท่านขณะท่านช่วยพระองค์เตรียมผู้คนของพระองค์ให้เป็นไซอันที่สัญญาไว้ ข้าพเจ้าเป็นพยานในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน