การประชุมใหญ่สามัญ
เดินตามพระเยซูคริสต์ด้วยย่างก้าวแห่งศรัทธา
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2022


13:21

เดินตามพระเยซูคริสต์ด้วยย่างก้าวแห่งศรัทธา

พระคริสต์ทรงพาเราผ่านพ้นช่วงเวลายากๆ ทุกวันนี้ได้ ทรงพาผู้บุกเบิกยุคแรกผ่านพ้นมาแล้ว และทรงทำเช่นนั้นกับเราแต่ละคนตอนนี้

ขอบคุณคณะนักร้องที่ร้องเพลง “ศรัทธาในทุกย่างก้าว” ทำนองและเนื้อร้องของเพลงนี้เขียนขึ้นในปี 1996 โดยบราเดอร์นิวเวลล์ เดย์ลีย์1เพื่อเตรียมฉลองครบรอบ 150 ปีการมาถึงหุบเขาซอลท์เลคของผู้บุกเบิกยุคแรก

ถึงแม้เพลงนี้จะเขียนขึ้นเพื่อเตรียมการฉลองคราวนั้น แต่ข่าวสารของเพลงใช้ได้กับคนทั้งโลก

ข้าพเจ้าชอบท่อนสร้อยของเพลงนี้มาโดยตลอด:

ด้วยศรัทธาในทุกย่างก้าว เราทำตามพระคริสต์เจ้า

และเราประสานเสียงเพลง [ด้วยความหวังผ่าน] ความรักบริสุทธิ์ของพระองค์2

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าเมื่อเราทำตามพระเยซูคริสต์ด้วยย่างก้าวแห่งศรัทธา ย่อมมีความหวัง มีความหวังในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ มีความหวังสำหรับทุกคนในชีวิตนี้ มีความหวังที่จะเอาชนะความผิดพลาด ความเศร้าโศก ความลำบาก ตลอดจนความทุกข์และปัญหาต่างๆ ของเรา มีความหวังในการกลับใจ การได้รับการอภัย และการให้อภัยผู้อื่น ข้าพเจ้าเป็นพยานว่ามีความหวังและสันติสุขในพระคริสต์ พระองค์ทรงพาเราผ่านพ้นช่วงเวลายากๆ ทุกวันนี้ได้ ทรงพาผู้บุกเบิกยุคแรกผ่านพ้นมาแล้ว และทรงทำเช่นนั้นกับเราแต่ละคนตอนนี้

ปีนี้ครบรอบ 175 ปีที่ผู้บุกเบิกยุคแรกมาถึงหุบเขาซอลท์เลค ซึ่งทำให้ข้าพเจ้านึกถึงบรรพชนของตนเอง บางคนเดินเท้าจากนอวูมาหุบเขาซอลท์เลค ข้าพเจ้ามีทวดที่เดินเท้าข้ามทุ่งราบในสมัยเยาว์วัย เฮนรีย์ บัลลาร์ดอายุ 20 ปี3 มาร์กาเร็ต แม็คนีลอายุ 13 ปี4 และโจเซฟ เอฟ. สมิธซึ่งต่อมากลายเป็นประธานศาสนจักรคนที่หกอายุเพียง 9 ขวบตอนมาถึงหุบเขาซอลท์เลค5

ท่านเหล่านั้นประสบความทุกข์ทุกรูปแบบระหว่างการเดินทาง เช่น อากาศหนาวเย็น ความเจ็บป่วย ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ตัวอย่างเช่น เมื่อเฮนรีย์ บัลลาร์ดเข้าสู่หุบเขาซอลท์เลค ท่านดีใจที่เห็น “แผ่นดินที่สัญญาไว้” แต่มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวว่าจะมีคนเห็นเพราะเสื้อผ้าที่ท่านใส่นั้นเก่าจนไม่สามารถปกปิดร่างกายได้ ท่านจึงซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไว้ทั้งวันจนกระทั่งมืด แล้วไปที่บ้านหลังหนึ่งและขอเสื้อผ้าเพื่อจะได้เดินทางต่อและค้นหาพ่อแม่ ท่านขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าที่ไปถึงบ้านในอนาคตอย่างปลอดภัย6

บรรดาทวดของข้าพเจ้าทำตามพระเยซูคริสต์ด้วยย่างก้าวแห่งศรัทธาตลอดการทดลองของพวกท่าน ข้าพเจ้าสำนึกคุณที่พวกท่านไม่เคยยอมแพ้ ย่างก้าวแห่งศรัทธาเหล่านั้นเป็นพรแก่ข้าพเจ้าและคนรุ่นต่อๆ มา ย่างก้าวแห่งศรัทธาของทุกท่านวันนี้จะเป็นพรแก่ลูกหลานของท่านเช่นกัน

คำว่า ผู้บุกเบิก ในภาษาอังกฤษเป็นทั้งคำนามและคำกริยา คำนามอาจหมายถึงบุคคลในกลุ่มแรกที่ไปสำรวจหรือตั้งอาณาเขตใหม่ คำกริยาหมายถึงเปิดทางหรือเตรียมทางให้ผู้อื่นเดินตาม7

เมื่อนึกถึงผู้บุกเบิกที่เตรียมทางให้ผู้อื่น ข้าพเจ้านึกถึงศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเป็นคนแรก โจเซฟเป็นผู้บุกเบิกเพราะย่างก้าวแห่งศรัทธานำท่านเข้าไปในป่าที่ท่านคุกเข่าสวดอ้อนวอนและเปิดทางให้เรามีความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ศรัทธาของโจเซฟที่จะ “ทูลขอจากพระผู้เป็นเจ้า”8ในเช้าฤดูใบไม้ผลิวันนั้นในปี 1820 เปิดทางให้การฟื้นฟูความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ซึ่งมีศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่ได้รับเรียกให้รับใช้บนแผ่นดินโลกอีกครั้ง9 ข้าพเจ้าทราบว่าโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าย่างก้าวอันเปี่ยมด้วยศรัทธานำท่านไปคุกเข่าเบื้องพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสต์

ย่างก้าวแห่งศรัทธาของศาสดาพยากรณ์โจเซฟเปิดทางให้ท่านเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการนำพระคัมภีร์มอรมอนออกมา ซึ่งเป็นพยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์และพระคุณแห่งการชดใช้ของพระองค์

โดยผ่านศรัทธาและความบากบั่นของโจเซฟ สมิธขณะเผชิญความยากลำบากและการต่อต้านอย่างไม่น่าเชื่อ ท่านจึงสามารถเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้าในการสถาปนาศาสนจักรของพระเยซูคริสต์บนแผ่นดินโลกอีกครั้ง

ระหว่างการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าพูดว่าการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาเป็นพรต่อข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าได้รับพรเมื่อสอนเรื่องแผนแห่งความรอดอันรุ่งโรจน์ของพระบิดาบนสวรรค์ นิมิตแรกของโจเซฟ สมิธ และการแปลพระคัมภีร์มอรมอนของท่าน คำสอนและหลักคำสอนที่ได้รับการฟื้นฟูเหล่านี้นำย่างก้าวแห่งศรัทธาของข้าพเจ้าในการสอนคนที่เต็มใจฟังข่าวสารเรื่องการฟื้นฟูพระกิตติคุณ

ปัจจุบันผู้สอนศาสนาของเราเป็นผู้บุกเบิกยุคใหม่เพราะแบ่งปันข่าวสารอันน่ายินดีนี้กับคนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้จึงเปิดทางให้ลูกๆ ของพระบิดาบนสวรรค์ได้มารู้จักพระองค์และพระบุตรพระองค์ พระเยซูคริสต์ การยอมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เปิดทางให้ทุกคนเตรียมรับและได้รับศาสนพิธีและพรของศาสนจักรและพระวิหาร

การประชุมใหญ่สามัญครั้งที่แล้ว ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันยืนยันอีกครั้ง “ว่าพระเจ้าทรงขอให้เยาวชนชายที่สามารถและมีค่าควรทุกคนเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่” และ “งานเผยแผ่เป็นโอกาสอันทรงพลังยิ่ง แต่ท่านเลือกได้” สำหรับ “พี่น้องสตรีที่สามารถและอายุน้อย”10

เยาวชนชายหญิงที่รัก ย่างก้าวแห่งศรัทธาของท่านจะช่วยให้ท่านทำตามพระดำรัสเชิญของพระเจ้าให้รับใช้งานเผยแผ่—เป็นผู้บุกเบิกยุคใหม่—โดยเปิดทางให้ลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าค้นพบและอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาซึ่งนำกลับไปยังที่ประทับอันเรืองโรจน์ของพระองค์

ประธานเนลสันเป็นผู้บุกเบิกในศาสนจักรมาโดยตลอด เมื่อเป็นอัครสาวก ท่านเดินทางไปเปิดหลายดินแดนเพื่อการสั่งสอนพระกิตติคุณ ไม่นานหลังจากเป็นศาสดาพยากรณ์และประธานศาสนจักร ท่านขอร้องให้เรา “เพิ่มพูนความสามารถทางวิญญาณ [ของเรา] เพื่อรับการเปิดเผย”11 ท่านสอนเราต่อไปให้เสริมสร้างประจักษ์พยานส่วนตัว ในการให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาว ท่านกล่าวว่า:

“ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านรับผิดชอบประจักษ์พยานของท่าน พยายามให้ได้มา รับผิดชอบ ดูแล บำรุงเลี้ยงให้เติบโต …

“[แล้ว] ดูปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิต”12

ท่านกำลังสอนวิธีที่เราจะพึ่งพาตนเองทางวิญญาณมากขึ้น ท่านกล่าวว่า “ในวันข้างหน้า เราจะรอดทางวิญญาณไม่ได้หากปราศจากอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีให้ตลอดเวลา ทั้งนำทาง ชี้ทาง และปลอบโยน”13

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกทุกวันนี้

พระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นผู้บุกเบิกสูงสุดในการเตรียมทาง อันที่จริงพระองค์ทรง เป็น “ทาง”14ให้แผนแห่งความรอดลุล่วงเพื่อที่เราจะได้กลับใจ และกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ผ่านศรัทธาในพระองค์

พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา”15 พระองค์ทรงสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เราขาดคนปลอบโยน จะเสด็จมาหาเราในการทดลองของเรา16 ทรงเชื้อเชิญให้เรา “มาหา [พระองค์] ด้วยความตั้งใจเด็ดเดี่ยว, และ [พระองค์] จะทรงรักษา [เรา]”17

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์คือพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา ผู้ทรงวิงวอนพระบิดาแทนเรา พระบิดาบนสวรรค์ทรงเปิดทางให้เรากลับไปหาพระองค์โดยทำตามพระบุตรที่รักของพระองค์พระเยซูคริสต์ด้วยศรัทธาในทุกย่างก้าว

ทวดของข้าพเจ้าและผู้บุกเบิกยุคแรกคนอื่นๆ ประสบอุปสรรคมากมายขณะมาที่หุบเขาซอลท์เลคด้วยเกวียน รถลาก และการเดินเท้า เราก็จะประสบความท้าทายในการเดินทางฟันฝ่าชีวิตเราเช่นกัน เราไม่ได้เข็นรถลากหรือขับรถม้ามีหลังคาขึ้นเขาสูงชันหรือลุยกองหิมะหนาๆ แต่เรากำลังพยายามเอาชนะการล่อลวงและความท้าทายทางวิญญาณในยุคสมัยของเรา เรามีหลายเส้นทางต้องเดิน มีหลายเนินเขา—และบางครั้งมีหลายภูเขา—ให้ปีน ถึงแม้การทดลองสมัยนี้ต่างจากสมัยผู้บุกเบิกยุคแรก แต่ก็ไม่ได้ท้าทายน้อยไปกว่ากัน

สำคัญที่ต้องเดินตามศาสดาพยากรณ์และให้เท้าของเราตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาด้วยความซื่อสัตย์เฉกเช่นผู้บุกเบิกยุคแรก

ขอให้เราทำตามพระเยซูคริสต์ด้วยศรัทธาในทุกย่างก้าว เราต้องรับใช้พระเจ้าและรับใช้กัน เราต้องเสริมสร้างตัวเราทางวิญญาณโดยรักษาและให้เกียรติพันธสัญญาของเรา เราไม่ควรสูญเสียสำนึกแห่งความเร่งด่วนในการรักษาพระบัญญัติ ซาตานพยายามบั่นทอนความมุ่งมั่นและความรักที่เรามีให้พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าพระเยซูคริสต์ โปรดจำไว้ว่าถ้าจะมีใครสักคนหลงทาง เราจะไม่มีวันหลงหายไปจากพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยพรของการกลับใจ เราสามารถหันมาหาพระองค์ พระองค์จะทรงช่วยให้เราเรียนรู้ เติบโต และเปลี่ยนแปลงเมื่อเราพากเพียรอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา

ขอให้เราเดินตามย่างพระบาทของพระเยซูคริสต์ และจดจ่ออยู่กับพระองค์ด้วยศรัทธาในทุกย่างก้าว โดยให้เท้าของเราตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา นี่คือคำสวดอ้อนวอนด้วยความถ่อมใจในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน