การประชุมใหญ่สามัญ
ได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2022


10:54

ได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์

ความดีพร้อมของเราเป็นไปได้โดยผ่านพระคุณของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น

พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ ทรงมีพลังอำนาจที่จะช่วยให้เรารอดและเปลี่ยนแปลงเรา ทรงช่วยให้เราเป็นเหมือนพระองค์ทั้งสองได้

สองสามปีก่อน แอรันหลานชายคนหนึ่งของเราเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เขาเหนื่อยง่าย เนื้อตัวมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ และดูสุขภาพไม่ดี หลังการตรวจสอบทางการแพทย์ ผลวินิจฉัยออกมาว่าเขาเป็นโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อขั้นรุนแรง คือโรคที่ไขกระดูกหยุดผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด หากไม่รักษาให้หายขาด เลือดของเขาจะไม่สามารถแข็งตัวอย่างถูกต้องหรือต้านการติดเชื้อไม่ได้ ดังนั้นการหกล้ม การบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้โดยเร็ว

ช่วงเวลาหนึ่ง แอรันต้องรับการถ่ายเลือดและเกล็ดเลือดเป็นประจำเพื่อให้พ้นอันตราย แพทย์อธิบายว่าการปลูกถ่ายไขกระดูกคือวิธีเดียวที่จะรักษาโรคนี้ได้ และโอกาสสำเร็จสูงสุดคือต้องมีพี่น้องคนใดคนหนึ่งเป็นผู้บริจาค ถ้ามีพี่น้องคนใดคนหนึ่งมีไขกระดูกเหมาะสมกับเขา ผลการปลูกถ่ายจะช่วยชีวิตเขาได้ หลังการทดสอบน้องชายสี่คน พบว่าคนเดียวที่ถือว่าเหมาะสมกับเขาที่สุดคือ แม็กซ์เวลล์

แม้ได้ผู้บริจาคที่เหมาะสมแล้ว การปลูกถ่ายไขกระดูกก็ยังเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากขั้นตอนที่ซับซ้อน ขั้นตอนดังกล่าวจะต้องใช้เคมีบำบัดผสานกับการฉายรังสีทำลายไขกระดูกของแอรันเสียก่อนแล้วจึงรับเซลล์ต้นกำเนิดจากไขกระดูกของแม็กซ์เวลล์น้องชายของเขา จากน้้น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงของแอรัน เขาจำเป็นต้องถูกกักตัวในโรงพยาบาลหลายสัปดาห์ แล้วมากักตัวต่อที่บ้านอีกหลายเดือนพร้อมด้วยมาตรการ ความเข้มงวด และการรับยาในการดูแลเป็นพิเศษ

ผลลัพธ์ที่เราคาดหวังจากการปลูกถ่ายคือให้ร่างกายของแอรันไม่ปฏิเสธเซลล์ของผู้บริจาค และเซลล์ของแม็กซ์เวลล์จะค่อยๆ ผลิตเซลล์ของเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวรวมทั้งเกล็ดเลือดที่จำเป็นในร่างกายของแอรัน การปลูกถ่ายจากผู้บริจาคที่ประสบความสำเร็จทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสรีรวิทยาอย่างแท้จริง ที่น่าทึ่งคือ แพทย์คนหนึ่งอธิบายว่าถ้าแอรันไปก่ออาชญากรรมและมีเลือดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจอาจมาจับแม็กซ์เวลล์น้องชายของเขาแทน ทั้งนี้เพราะเลือดของแอรันเกิดจากเซลล์ของแม็กซ์เวลล์ที่ปลูกถ่ายให้และมีดีเอ็นเอของแม็กซ์เวลล์ และเรื่องนี้จะมีผลไปตลอดชีวิตของเขา

การที่แอรันได้รับการช่วยให้รอดโดยเลือดของน้องชายกระตุ้นให้เกิดความคิดมากมายเกี่ยวกับพระโลหิตแห่งการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และผลของการชดใช้ที่มีต่อเรา วันนี้ข้าพเจ้าขอมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงถาวรที่ให้ชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเรายอมให้พระเจ้าทรงทำปาฏิหาริย์ในเรา1

แอรันไม่มีพลังอำนาจในตัวเองที่จะเอาชนะโรคร้าย ร่างกายของเขาไม่อาจสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าเขาจะทำอะไรด้วยตนเอง เขาก็ไม่อาจรักษาไขกระดูกของตนเองให้หายดี แอรันไม่อาจรักษาตนเองได้ฉันใด เราก็ช่วยตนเองให้รอดไม่ได้ฉันนั้น ไม่ว่าเราจะมีความสามารถ มีการศึกษา ฉลาด หรือแข็งแรงเพียงใด เราก็ไม่สามารถชำระตนเองจากบาป เปลี่ยนร่างกายไปสู่สถานะอมตะ หรือทำให้ตนเองสูงส่งได้ แต่จะเป็นไปได้โดยผ่านทางพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์และการชดใช้อันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์เท่านั้น “ไม่มีทางอื่นใดประทานไว้ภายใต้ฟ้าสวรรค์ซึ่งโดยทางนั้นมนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอดได้ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า.”2 พระโลหิตแห่งการชดใช้ของพระองค์คือสิ่งที่ชำระล้างเราให้สะอาดบริสุทธิ์3

แม้แอรันจะไม่อาจรักษาตนเอง แต่เพื่อให้การปลูกถ่ายได้ผล เขาจำเป็นต้องเต็มใจทำตามที่แพทย์บอก—แม้ในเรื่องท้าทายที่ยากมาก แม้เราไม่อาจช่วยตนเองให้รอดได้ แต่เมื่อเรายอมต่อพระประสงค์ของพระเจ้าและรักษาพันธสัญญาของเรา หนทางย่อมเปิดให้เราได้รับการไถ่4 เช่นเดียวกับขั้นตอนอันน่าทึ่งของการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอเซลล์เม็ดเลือดของแอรัน เราก็สามารถให้ใจเราได้รับการเปลี่ยนแปลงได้5 มีรูปลักษณ์ของพระองค์ในสีหน้าของเรา6 และกลายเป็นคนใหม่ในพระคริสต์7

แอลมาเตือนผู้คนแห่งเซราเฮ็มลาให้นึกถึงคนรุ่นก่อนที่เปลี่ยนใจเลื่อมใส เมื่อกล่าวถึงบิดาของตน แอลมาอธิบายว่า “และตามศรัทธาของท่านมีการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งเกิดขึ้นในใจท่าน”8 แล้วถามว่า “ท่านประสบกับการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งในใจท่านแล้วหรือ?”9 ผู้คนไม่ได้เปลี่ยนใจของตนเอง พระเจ้าทรงทำการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แอลมาชัดเจนมากในเรื่องนี้ เขากล่าวว่า “ดูเถิด, พระองค์ทรงเปลี่ยนใจพวกเขา”10 พวกเขา “จึงนอบน้อมถ่อมตนและมอบความไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าองค์จริงและทรงพระชนม์อยู่ … [และ] ซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ … [และ] ได้รับการช่วยให้รอด”11 ผู้คนเต็มใจที่จะเปิดใจและใช้ศรัทธา จากนั้นพระเจ้าทรงเปลี่ยนใจพวกเขา ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งอะไรเช่นนี้! ลองนึกถึงความแตกต่างในชีวิตชายที่ชื่อแอลมาสองคนนี้ทั้งก่อนและหลังจากที่ใจของพวกเขาได้รับการเปลี่ยน12

เราเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าและมีจุดหมายอันสูงส่ง เราสามารถเปลี่ยนเป็นเหมือนพระองค์และมี “ความสมบูรณ์แห่งปีติ”13ได้ ในทางตรงกันข้าม ซาตานจะทำให้เราเศร้าหมองเหมือนตัวเขา14 เราสามารถเลือกได้ว่าจะติดตามผู้ใด15 เมื่อเราติดตามซาตาน เรามอบพลังอำนาจให้เขา16 เมื่อเราติดตามพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ประทานพลังอำนาจให้เรา

พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่าเรา “ควรดีพร้อม”17 สิ่งนี้อาจดูน่าหวั่นใจ ข้าพเจ้าเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความบกพร่องส่วนตัวและตระหนักด้วยความเจ็บปวดถึงระยะห่างระหว่างข้าพเจ้ากับความดีพร้อม เราอาจมีแนวโน้มที่จะคิดว่าต้องทำตัวเราเองให้ดีพร้อม แต่เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ทำตามหนังสือพัฒนาตนเองทุกเล่มในโลกก็ยังไม่อาจทำให้เกิดขึ้นได้ มีทางเดียวและพระนามเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความดีพร้อม เราได้รับการทำให้ “ดีพร้อมโดยผ่านพระเยซู คนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่, ผู้ทรงทำให้เกิดการชดใช้ที่สมบูรณ์นี้โดยผ่านการหลั่งพระโลหิตของพระองค์เอง”18 ความดีพร้อมของเราเป็นไปได้โดยผ่านพระคุณของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น

ท่านนึกออกหรือไม่ว่าแอรันหลานชายตัวน้อยของเราจะรู้สึกเกินกำลังเพียงใดเมื่อคิดเอาเองว่าจะต้องเข้าใจและปฏิบัติตามขั้นตอนทางการแพทย์ทั้งหมดที่ติดมากับการปลูกถ่ายนั้น? เราไม่ควรคิดเอาเองว่าเราต้องทำสิ่งที่มีแต่พระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้นที่ทรงทำได้ในกระบวนการอันน่าอัศจรรย์แห่งความดีพร้อมของเรา

เมื่อโมโรไนจบบันทึก ท่านสอนว่า: “แท้จริงแล้ว, จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ … และปฏิเสธตนจากความไม่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทุกอย่าง และรักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกำลังของท่าน, เมื่อนั้นพระคุณของพระองค์จึงเพียงพอสำหรับท่าน, เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์”19 ช่างเป็นความจริงที่ปลอบโยนอันทรงพลังยิ่ง! พระคุณของพระองค์เพียงพอสำหรับข้าพเจ้า พระคุณของพระองค์เพียงพอสำหรับท่าน พระคุณของพระองค์เพียงพอสำหรับทุกคนที่ “เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก”20

เช่นเดียวกับการรักษาทางการแพทย์ของแอรัน มีความไม่แน่นอนบางอย่างในผลลัพธ์เสมอ อันที่จริง แอรันจำเป็นต้องปลูกถ่ายครั้งที่สองเมื่อครั้งแรกมีภาวะแทรกซ้อน ยังดีที่เราไม่ต้องสงสัยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่กับการเปลี่ยนแปลงทางวิญญาณของใจ เมื่อเราดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ “โดยวางใจอย่างเต็มที่ในคุณงามความดีของพระองค์ผู้ทรงอานุภาพที่จะช่วยให้รอด”21 มีหลักประกัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเราจะได้รับการชำระให้สะอาดโดยพระโลหิตของพระผู้ช่วยให้รอดและได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ในที่สุด พระองค์ทรงเป็น “พระผู้เป็นเจ้าแห่งความจริง, และตรัสเท็จ [ไม่ได้]”22

ไม่มีข้อสงสัยว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ใช้เวลาและจะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์จนกระทั่งหลังจากชีวิตนี้ แต่คำสัญญานั้นแน่นอน เมื่อสัมฤทธิผลตามคำสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าดูเหมือนจะอยู่ห่างไกล เรายังคงน้อมรับสัญญาเหล่านั้น โดยรู้ว่าสัญญาเหล่านั้นจะเกิดสัมฤทธิผล23

การเปลี่ยนแปลงดุจปาฏิหาริย์ในสุขภาพของแอรันนำปีติยิ่งใหญ่มาสู่ครอบครัวเรา ลองนึกภาพปีติยิ่งใหญ่ในสวรรค์เมื่อการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งเกิดขึ้นในจิตวิญญาณเรา

พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ทรงรักเราและทรงพระกรุณาประทานข้อเสนอที่จะเปลี่ยนเราและทำให้เราดีพร้อม ทั้งสองพระองค์ทรงต้องการทำสิ่งนี้ นี่คือศูนย์กลางของงานและรัศมีภาพของพระองค์24 ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีพลังอำนาจที่จะทำสิ่งนี้ขณะเรามาหาพระองค์ในศรัทธา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน