การประชุมใหญ่สามัญ
คำสอนของพระเยซูคริสต์
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2023


14:7

คำสอนของพระเยซูคริสต์

เราได้รับพระคัมภีร์เพื่อชี้นำชีวิตเรา ข่าวสารของข้าพเจ้าวันนี้ประกอบด้วยข้อความที่เลือกสรรมาอันเป็นพระวจนะของพระผู้ช่วยให้รอด—สิ่งที่พระองค์ตรัส

เราเชื่อในพระคริสต์ ในฐานะสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เรานมัสการพระองค์และทำตามคำสอนของพระองค์ในพระคัมภีร์

ก่อนการตก พระบิดาบนสวรรค์ตรัสกับอาดัมและเอวาโดยตรง หลังจากนั้นพระบิดาทรงแนะนำพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดจากพระองค์ ว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา และประทานพระบัญชาให้เรา “ฟังพระองค์”1 จากพระบัญชานี้เราสรุปว่าบันทึกในพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระวจนะที่ “พระผู้เป็นเจ้า” หรือ “พระเจ้า” ตรัสแทบทุกครั้งมักจะเป็นพระวจนะของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าพระเยซูคริสต์ผู้คืนพระชนม์2

เราได้รับพระคัมภีร์เพื่อชี้นำชีวิตเรา ดังที่ศาสดาพยากรณ์นีไฟสอน เราควร “ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์; เพราะดูเถิด, พระวจนะของพระคริสต์จะบอกท่านทุกสิ่งที่ท่านควรทำ”3 พระคัมภีร์ส่วนใหญ่ที่เล่าเรื่องราวการปฏิบัติศาสนกิจขณะทรงเป็นมรรตัยของพระเยซูเป็นการพรรณนาสิ่งที่พระองค์ทรง ทำ ข่าวสารของข้าพเจ้าวันนี้ประกอบด้วยข้อความที่เลือกสรรมาอันเป็นพระวจนะของพระผู้ช่วยให้รอด—สิ่งที่พระองค์ ตรัส พระวจนะต่อไปนี้บันทึกอยู่ในพันธสัญญาใหม่ (รวมทั้งส่วนเพิ่มเติมที่ได้รับการดลใจของโจเซฟ สมิธ) และในพระคัมภีร์มอรมอน ข้อที่เลือกมาส่วนใหญ่เรียงลำดับตามที่พระผู้ช่วยให้รอดตรัส

“เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าใครไม่‍ได้เกิดจากน้ำและพระ‍วิญญาณ คน‍นั้นจะเข้าในแผ่น‍ดินของพระ‍เจ้าไม่‍ได้”4

“คนทั้งปวงที่หิวและกระหายความชอบธรรมย่อมเป็นสุข, เพราะพวกเขาจะอิ่มเอม ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์5

“คนที่สร้างสันติก็เป็นสุข เพราะว่าพระ‍เจ้าจะทรงเรียกเขา‍ทั้ง‍หลายว่าเป็นลูก”6

“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา’

“ส่วนเราบอกพวก‍ท่านว่า ใครมองผู้‍หญิงด้วยใจกำ‌หนัดในหญิงนั้น คนนั้นได้ล่วง‍ประ‌เวณีในใจของเขากับหญิงนั้นแล้ว”7

“ท่าน‍ทั้ง‍หลายได้‍ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘จงรักเพื่อนบ้านของท่าน และเกลียด‍ชังศัตรูของท่าน’

“แต่เราบอกพวก‍ท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน จงอวยพรคนที่แช่งด่าท่าน จงทำดีกับคนที่เกลียดชังท่าน และจงอธิษ‌ฐานเพื่อบรร‌ดาคนที่ใช้ท่านอย่างดูหมิ่น และข่ม‍เหงพวก‍ท่าน

“เพื่อว่าพวก‍ท่านจะเป็นบุตรของพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ เพราะว่าพระ‍องค์ทรงให้ดวง‍อา‌ทิตย์ของพระ‍องค์ขึ้นส่อง‍สว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน และให้ฝน‍ตกแก่คนชอบ‍ธรรมและคนอธรรม”8

“เพราะว่าถ้าพวกท่านให้อภัยการล่วงละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะทรงให้อภัยการล่วงละเมิดของพวกท่านด้วย

“แต่​ถ้า​พวก‍ท่าน​ไม่‍ให้​อภัย​การ​ล่วง‍ละ‌เมิด​ของ​เพื่อน​มนุษย์ พระ‍บิดา​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ทรง​ให้​อภัย​การ​ล่วง‍ละ‌เมิด​ของ​พวก‍ท่าน​เหมือน‍กัน”9

“ถ้าพวก‍ท่านเป็นของโลก โลกก็ย่อมจะรักคนที่เป็นของโลกเอง แต่เพราะท่านไม่‍ได้เป็นของโลก คือเราเลือกท่านออกจากโลก เพราะเหตุ‍นี้โลกจึงเกลียด‍ชังท่าน”10

“ดังนั้น, อย่าแสวงหาสิ่งต่างๆ ของโลกนี้แต่เจ้าจงแสวงหาเพื่อสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าก่อน, และสถาปนาความชอบธรรมของพระองค์, และสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะมีเพิ่มเติมมาให้เจ้า”11

“จงปฏิ‌บัติต่อผู้อื่นอย่างที่พวก‍ท่านต้อง‍การให้พวก‍เขาปฏิ‌บัติต่อท่าน เพราะนี่คือธรรม‍บัญญัติและคำสั่ง‍สอนของบรร‌ดาผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ”12

“ท่าน‍ทั้ง‍หลายจงระวังพวกผู้‍เผย‍พระ‍วจนะเทียม‍เท็จที่มา‍หาท่านนุ่ง‍ห่มเหมือนแกะ แต่ภาย‍ในนั้นร้าย‍กาจเหมือนหมา‍ป่า

“พวก‍ท่านจะรู้‍จักพวก‍เขาได้ด้วยผลของพวก‍เขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้น‍ไม้มีหนามหรือ? และผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนามหรือ?

“ต้น‍ไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้น‍ไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว”13

“ไม่ใช่ทุก‍คนที่เรียกเราว่า ‘องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า’ จะได้เข้าในแผ่น‍ดินสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิ‌บัติตามพระ‍ทัยพระ‍บิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้”14

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก

“ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”15

“หากคนใดจะติดตามเรา, ให้เขาปฏิเสธตนเอง, และยกกางเขนของตนมาแบกไว้และตามเรามา.

“และบัดนี้ในการที่มนุษย์จะยกกางเขนของตนมาแบกไว้, หมายถึงการปฏิเสธตนเองจากความอาธรรม์ทั้งปวง, และตัณหาราคะทุกอย่างทางโลก, และรักษาบัญญัติของเรา”16

“ฉะนั้น, จงทิ้งโลก, และรักษาจิตวิญญาณของท่านให้รอด; เพราะมนุษย์จะได้ประโยชน์อะไรเล่า, หากเขาจะได้มาทั้งโลก, และสูญเสียจิตวิญญาณตนเอง? หรือมนุษย์จะเอาอะไรเล่าไปแลกกับจิตวิญญาณของตนเอง?”17

“ถ้าใครตั้งใจประพฤติตามพระประสงค์ของพระองค์ คนนั้นก็จะรู้ว่าคำสอนนี้มาจากพระเจ้าหรือว่าเราพูดตามใจชอบเอง”18

“เราบอกพวก‍ท่านว่า จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน

“เพราะ‍ว่าทุก‍คนที่ขอก็ได้ ทุก‍คนที่แสวง‍หาก็พบ และทุก‍คนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา”19

“แกะอื่นที่ไม่‍ได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะพวกนั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะพวกนั้นจะฟังเสียงของเราแล้วจะรวมเป็นฝูงเดียวและมีผู้‍เลี้ยงเพียงผู้‍เดียว”20

“พระ‍เยซูตรัสกับนางว่า ‘เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย คนที่วาง‍ใจในเราจะมีชีวิตอีก แม้‍ว่าเขาจะตายไป

“และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย”21

“[พระบัญญัติข้อสำคัญในธรรมบัญญัติคือสิ่งนี้:] จงรักองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน

“นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก

“ข้อที่สองก็เหมือนกันคือจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

“ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”22

“ใครที่มีบัญญัติของเราและประ‌พฤติตามบัญญัติเหล่า‍นั้น คนนั้นเป็นคนที่รักเรา และคนที่รักเรานั้นพระ‍บิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขาและจะสำแดงตัวให้ปรา‌กฏแก่เขา”23

“เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย”24

“บัญญัติของเราคือให้พวกท่านรักกันและกัน เหมือนอย่างที่เรารักท่าน”25

“จงดูที่มือและเท้าของเราว่าเป็นเราเอง จงคลำตัวเราดู เพราะ‍ว่าผีไม่‍มีเนื้อและกระ‌ดูกเหมือนอย่างที่พวก‍ท่านเห็นว่าเรามี”26

“เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์

“และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”27

หลังจากปฏิบัติศาสนกิจในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อคนชอบธรรมในทวีปอเมริกา ต่อไปนี้เป็นพระวจนะบางส่วนที่พระองค์ตรัสที่นั่น:

“ดูเถิด, เราคือพระเยซูคริสต์, พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า. เราสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก, และสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในนั้น. เราอยู่กับพระบิดานับจากกาลเริ่มต้น. เราอยู่ในพระบิดา, และพระบิดาในเรา; และในเราพระบิดาทรงแผ่รัศมีภาพพระนามของพระองค์”28

“เราเป็นแสงสว่างและชีวิตของโลก. เราคืออัลฟาและโอเมกา, ปฐมและอวสาน.

“และเจ้าจะไม่ถวายเครื่องบูชาด้วยการหลั่งเลือดอีกต่อไป; แท้จริงแล้ว, เครื่องพลีบูชาของเจ้าและเครื่องเผาบูชาของเจ้าจะยกเลิกไป, เพราะเราจะไม่รับเครื่องพลีบูชาของเจ้าและเครื่องเผาบูชาของเจ้า.

“และเจ้าจะถวายใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิดแก่เราเป็นเครื่องพลีบูชา. และผู้ใดที่มาหาเราด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด, เราจะให้บัพติศมาเขาด้วยไฟและด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ …

“ดูเถิด, เรามายังโลกเพื่อนำการไถ่มายังโลก, เพื่อช่วยให้โลกรอดจากบาป”29

“และเรากล่าวแก่เจ้าอีก, เจ้าต้องกลับใจ, และรับบัพติศมาในนามของเรา, และกลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ, มิฉะนั้นเจ้าไม่มีทางจะสืบทอดอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าเป็นมรดกได้เลย”30

“ฉะนั้นเราอยากให้เจ้า ดีพร้อม แม้ดังเรา, หรือพระบิดาของเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่ในสวรรค์ทรงดีพร้อม”31

“ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, เจ้าต้องเฝ้าดูและ สวดอ้อนวอน เสมอ, เกลือกมารจะล่อลวงเจ้า, และเขาจะนำเจ้าไปเป็นเชลย”32

“ฉะนั้นเจ้าต้องสวดอ้อนวอนถึงพระบิดาเสมอในนามของเรา”33

“ฉะนั้น, อะไรก็ตามที่เจ้าจะทำ, เจ้าจงทำในนามของเรา; ฉะนั้นเจ้าจงเรียกศาสนจักรตามนามของเรา”34

“ดูเถิดเราให้กิตติคุณของเราแก่เจ้า, และนี่คือกิตติคุณที่เราให้แก่เจ้า—ว่าเรามาในโลกเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาของเรา, เพราะพระบิดาของเราทรงส่งเรามา.

“และพระบิดาของเราทรงส่งเรามาเพื่อเราจะได้ถูกยกขึ้นบนกางเขน; และหลังจากที่เราถูกยกขึ้นบนกางเขนแล้ว, เพื่อเราจะดึงมนุษย์ทั้งปวงมาหาเรา, … เพื่อรับการพิพากษาตามงานของพวกเขา, ไม่ว่างานดีหรือไม่ว่างานชั่ว”35

“บัดนี้นี่คือบัญญัติ: จงกลับใจ, เจ้าทั้งหลายทั่วสุดแดนแผ่นดินโลก, และมาหาเราและรับบัพติศมาในนามของเรา, และเจ้าจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์, เพื่อเจ้าจะยืนอยู่โดยไม่มีมลทินต่อหน้าเราในวันสุดท้าย”36

เราเชื่อในพระคริสต์ ข้าพเจ้าขอสรุปด้วยสิ่งที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับวิธีที่เราควรรู้และทำตามคำสอนของพระองค์:

“แต่องค์‍ผู้‍ช่วยคือพระ‍วิญ‌ญาณ‍บริ‌สุทธิ์ซึ่งพระ‍บิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้นจะทรงสอนพวก‍ท่านทุก‍สิ่ง และจะทำ‍ให้ระลึก‍ถึงทุก‍สิ่งที่เรากล่าวกับท่านแล้ว”37

ข้าพเจ้ายืนยันความจริงของคำสอนเหล่านี้ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน